The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - อนที่70 เธออยากจะไปจากเขา ไม่มีทาง
บทที่70 เธออยากจะไปจากเขา ไม่มีทาง
หากว่าเธอจะไปจากเขา เพียงเพราะเคนโด้หรือผู้ชายคนอื่น เขาคณพศจะไม่ยอมเป็นแน่
แรงของคณพศ ถือว่าดีเลยทีเดียว
แม้ว่าขาของเขาจะดูไร้สมรรถภาพจริงๆ แต่ทุกครั้เขากลับทำให้นาราแทบไม่มีแรงเลย
ดังนั้นในตอนที่คณพศจบฉากรักนี้นั้น นั้นทำให้นาราไม่มีแรงจะพูดอะไรอีก
ทำได้เพียงหันหน้าไปอีกด้านแล้วแกล้งนอน แต่สติของเธอยังมีอยู่
“
“ที่รัก” คณพศที่ได้ระบายมันออกมาแล้วนั้น แม้ในใจของเขาจะยังโกรธนาราอยู่
แต่เมื่อเห็นเธอนอนหลับแล้วนั้น ขนตายาวยังเปียก ใบหน้ายังคงชุ้มอยู่ ต่อให้คณพศ
จะโกรธขนาดไหน เขาก็ไม่ใจดำกับเธอ
ดังนั้นหลังจากที่ลงมาจากตัวเธอ คณพศก็คิดว่าหากเธอยังไม่หลับ ก็จะคุยเรื่องนี้กับเธอให้ชัดเจน
ถึงเขาจะอธิบายชัดเจนกับเธอแล้ว เขาก็ไม่ยอมให้เธอจากไปไหนอยู่ดี
เขาดูเหมือนจะชอบนารา ไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อน
ดังนั้นต่อให้นาราจะเกลียดเขาขนาดไหน เธออยากจะไปจากเขา ไม่มีทาง
เพียงแค่นาราได้ยินที่เขาเรียกเธอ เพียงแต่เธอไม่อยากสนใจเขา
ตัวเล็กนอนขดตัวใต้ผ้าห่ม ปากก็ปิดสนิทไม่พูดจา
“หืม” พอรู้ว่านารายังไม่นอนนั้นคณพศเห็นเธอไม่สนใจเขา ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
แล้วใช้มือดึงเตียง แล้วนั่งลงที่รถวิวแชร์
แล้วเปิดผ้าห่มที่คุมนาราที่ไม่ใส่เสื้อผ้า อุ้มเธอไปที่ห้องน้ำ
ตรงเข้าไปในอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำให้เต็มอ่างแล้ววางนาราลงไป และตัวเขาเองก็ค่อยๆลงไป
จนพวกเขาสองคนอาบน้ำเสร็จ คณพศก็อุ้มนารากลับมาที่เตียง แล้วกอดนาราจนหลับไปด้วยกัน
นาราที่เหนื่อยจนไม่ไหว โดนคณพศทำตั้งนาน เธอก็หลับไปในทันที
วันที่สอง ในขณะที่รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายปวดหนัก นาราที่ยังนอนไม่เต็มพอ
แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาที่หน้าต่าง กระทบที่ใบหน้าของนารา เป็นดังเสียงนาฬิกาปลุกให้เธอตื่น แต่เธอกลับลืมตาไม่ไหว
“คลืน” ในขณะที่นาราลืมตาไม่ไหวนั้น มือเล็กก็จับผ้าม่าน
ก็โดนคนเปิดออก
ตามมาด้วยเสียงเก้าอี้วิวแชร์ ดังมาจนถึงเตียงของเธอ
ตามมาด้วยเสียงอ่อนนุ่มของคณพศ “ตื่น คุณนอนนานเกินไปแล้วนะ”
ทั้งๆที่รู้ว่าคืนนั้นนาราเหนื่อยจนไม่ไหว คณพศเองก็ไม่อยากจะปลุกเธอแต่เช้า
แต่พอนึกถึง เมื่อคืนที่เธอกล้าต่อปากต่อคำกับเขา ทั้งยังพูดอีกว่าจะไม่แต่งงานกับเขา
แม้จะผ่านไปแล้วทั้งคืน แต่ในใจของคณพศก็ค่อยๆหายไปบ้างแล้ว
แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าหินก้อนใหญ่ติดอยู่ในหน้าอกของเขา และอยากจะอธิบายกับเธอให้ชัดเจน
“อืม” ในเมื่อโดนปลุกแบบนี้ นาราที่คิดว่าใครกับนะช่างใช้วิธีนี้ปลุกเธอ
แต่ว่าเมื่อเธอได้ยินเสียงคณพศ ที่นั่งรถเข็นอยู่ข้างๆเตียงของเธอ การสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาว หล่ออย่างไม่มีที่ติ
ความรู้สึกของเธอ ก็ตื่นขึ้นมาในทันที
แน่นอนว่ารวมถึงเรื่องเมื่อคืนด้วย ในตอนที่คณพศกำลังระบายอยู่นั้นพูดกับเธอด้วยคำเช่นนั้น
ดังนั้นนาราที่ตอนแรกไม่ถือว่าอารมณ์ไม่ดี ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นอ่อนแอ
เธอไม่คือว่าเรื่องเมื่อคืนคือเธอผิด
คณพศมีอำนาจที่จะชอบผู้หญิงคนไหนก็ได้ เธอเองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง หรือควรจะเลือกมาอยู่ข้างๆคณพศ เธอผิดหรือเปล่า
ดังนั้นเธอคิดถึงสิ่งเหล่านี้ นาราที่อารมณ์ไม่ดีก็ไม่พูดอะไรมาก ได้แค่ใส่เสื้อผ้าและหวีผมง่ายๆแล้วลงชั้นล่างไป
คณพศที่เห็นนาราตื่นเช้ามาที่ไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นรอนาราเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็ลงลิฟต์ไป
รอนาราแต่งตัวเสร็จ คณพศก็นั่งอยู่ที่โต๊ะและเริ่มทานอาหารเช้า
นารานั้งลงที่โต๊ะ ในใจก็คิด “นี้มันกี่โมงแล้ว คณพศยังไม่ไปบริษัทอยู่หรือ หรือเพราะเรื่องเมื่อคืนทำให้เขาโกรธ เลยตั้งใจจะมาแก้แค้นเธอต่อหรอ”
ในขณะที่นาราคิดอย่างนี้
อีกด้านที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่ ก็พูดขึ้นว่า
“วันนี้ผมไปทำงานครึ่งวัน เที่ยงๆก็กลับมาแล้ว คุณเตรียมตัวนะ ตอนบ่ายนวดให้ผม”
ตอนแรกคณพศคิด รอให้ตัวเองจัดการกับเรื่องของวิษณุส์เสร็จเมื่อไร
หลังจากนั้นเขาก็จะมีเวลาพอที่จะอยู่กับเธอ ทำทุกสิ่งที่เธออยากจะทำ
เพียงแต่ในเวลานี้สถานการณ์เช่นนี้ คณพศคิดว่า แผนของเขาไม่สามารถดำเนินต่อได้แล้ว
ต่อหน้าเขา ศัตรูของเขา ไม่ได้มีแค่วิษณุส์คนเดียว
ยังมีทั้งนาราและเคคนโด้ที่พร้อมจะสวมเขาให้เขา
นึกไม่ถึงว่าคนที่ยุ่งทั้งวันอย่างคณพศจะมีเวลาว่างครึ่งวัน นั้นทำให้นาราตกใจและอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
“ทำไม มีอะไรรึเปล่า เมื่อวานคุณไม่ใช่พูดว่า เตรียมการนวดแบบใหม่รอผมหรอ หรือว่าเมื่อวานคุณโกหกผม” เห็นนาราที่มองเขาแบบนั้น คณพศเองก็เงยหน้ามาสบตากับเธอ
ในใจชัดเจนอยู่แล้ว ว่าวันทั้งวันของนาราว่าหมดไปกับการอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้อ่านและวิจัยเกี่ยวกับการนวดให้เขา
แต่ปากก็เหมือนกำลังสงสัยนารา
ในใจกลับคิดว่า “นารา เด็กเมื่อวานซืน ยิ่งนานวันยิ่งหน้าไม่อาย เรื่องเมื่อวานแท้ๆ ทั้งๆที่เธอผิด วันนี้ตื่นมายังกล้าที่จะไม่สนใจเขา หากไม่ใช่เพราะเขารักเธอ จะคิดเรื่องไร้ประโยชน์เช่นนี้ได้อย่างไร”
นึกไม่ถึงว่าพอเช้ามา จะได้ยินสิ่งที่คณพศพูดขึ้นมา
ในช่วงนี้ คณพศที่ดีกับเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอีกครั้ง
เธอวางมีดในมือลงและพูดออกมาอย่างน้อยใจว่า “ฉันจะไปกล้าโกหกอะไรคุณชายสามของตระกูลปัญญาพนต์หละ งั้นวันนี้ฮันจะรอครับใช้คุณที่นี้”
น้ำเสียงของนาราไม่ค่อยดี แต่คณพศก็ไม่จุกจิกกับเธอ
ทำเป็นไม่เห็น ความไม่มีความสุขและเศร้าในสายตาของเธอ
และทานอาหารต่อจนหมด และให้ลุงบีมเข็ยรถเข็นของเขา คณพศก็ไปทำงานแล้ว
หลังจากที่รอคณพศไปทำงาน นาราก็ไม่ทานอะไรต่อได้แค่หันตัวแล้วขึ้นข้างบนไป