The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 127 เขาค่อยๆลุกขึ้นจากวีลแชร์
บทที่ 127 เขาค่อยๆลุกขึ้นจากวีลแชร์
“พวกโง่สองคนนั้นน่ะ ทำอะไรเหมือนเด็ก ที่จะทำเป็นโอนขึ้น ก็เพื่อที่จะไม่ให้พวกมันโกรธ ถ้ารู้ที่อยู่ของนาราเมื่อไหร่ ค่อยฆ่าพวกมันให้ตาย”
“โอเค เข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันไปติดต่อบอดี้การ์ด ให้พวกเขาไปกับนาย”
ในขณะนั้น พอเห็นวิษณุส์โดนจับ คุณพศก็ยิ้มออกมาอย่างมีสเน่ห์ชั่วร้าย
“คนอย่างนาย อยากจะมาสู้กับฉัน รนหาที่ตายแท้ๆ!” เขาเข็นวีลแชร์ไปตรงหน้าของวิษณุส์ที่กำลังบูดเบี้ยวด้วยความโมโห “รู้มั้ยว่าหมูมันตายยังไง? โง่ตายไง! แกมันโง่! โง่กว่าหมูอีก!”
วิษณุส์กัดฟันกรอดมองหน้าผู้ชายตรงหน้าด้วยความโกรธ เขาแทบทนไม่ไหวที่อยากจะสับเขาเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้น
“นาราไม่ต้องกลัว ฉันมาช่วยเธอแล้ว” คุณพศรีบตรงไปที่ห้องนึงของโรงงานเก่าแห่งนี้
ตอนที่เขาผลักประตูเก่าๆเข้าไปนั้น กลับไม่ใช่ใบหน้าของนารา แต่เป็นพิมมี่
พิมมี่เห็นว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่วิษณุส์แต่เป็นคุณพศ เธอก็รู้สึกช็อค”
ซวยแล้ว วิษณุส์ที่ขี้ขลาดตาขาวแพ้แล้วหรอเนี่ย
คุณพศมองผู้หญิงโง่ๆที่อยู่ตรงหน้าของเขา ดวงตาสีดำขลับเปล่งประกายความมืดมัว
“นาราล่ะ อยู่ไหน?” คุณพศมองหน้าเธอ สายตาดูรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
“อ๋อ อยู่ด้านหลังฉันน่ะ” พิมมี่ตอบพร้อมยิ้มอย่างเยือกเย็น ถึงแม้ว่าจะแพ้แล้ว แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยผู้หญิงชั้นต่ำอย่างนาราไปหรอก!
คุณพศมองไปที่ทางด้านหลังของเธอ ก็เห็นนาราถูกแขวนอยู่บนแท่งเหล็กสูงตรงหลังคา เธอหลับตา ใบหน้าซีดเซียว ดูเหมือนว่ายังสลบอยู่
“นารา!” คุณพศตะโกนเรียกเธอ
พอได้ยินเสียงเรียก นาราก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา พอเห็นผู้ชายคนนั้นบนวีลแชร์ เธอก็ค่อยๆยิ้มออกมา
เขามาแล้ว ดีจังเลย
“คุณพศ….” เธออ้าปากแล้วพูดชื่อคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ
“เป็นไง? คนพิการอย่างนาย มีความสามารถที่จะพาเธอลงมามั้ยล่ะ นายเคยทำแบบนั้นกับฉันนี่ ครั้งนี้ฉันจะให้นาราได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอย่างที่ฉันเคยเจอ!” พิมมี่ตะโกนด้วยความกลัว
เธอจับเชือกในมือแน่น แค่เธอดึง นาราก็จะตกลงมาทันที ไม่ตายก็พิการ
ทีนี้ทั้งสองคนก็จะได้พิการเหมือนกันไง เข้ากันดีเลย!
ท่าทางของเธอตอนนี้คุณพศดูออกหมดแล้ว เขารู้ว่าเธอกำลังพูดจริง เพราะว่าเธอเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตมาก
แต่ว่าการกระทำของเธอนี้ทำให้คุณพศโกรธได้สำเร็จ คุณพศจ้องหน้าเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยประกายอยากฆ่าคน
เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนจากวีลแชร์…..
“นาย…..งนายยืนขึ้นได้ด้วยหรอ?” พิมมี่จ้องเขา ฉากนี้เป็นฉากที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็น
ผู้ชายคนนี้ลุกขึ้นแล้วค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปหาพิมมี่ เขาเหมือนเป็นเทพเจ้าจากสวรรค์ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
พิมมี่ช็อคไปแล้ว เธอลืมเรื่องที่ต้องทำร้ายนาราไปซะสนิท เธอได้แต่ยืนอึ้งมองผู้ชายคนนั้นที่กำลังเดินเข้ามา เขาเย็นชาราวกับปีศาจที่มาจากนรก แต่ก็ทำให้คนหลงใหลจนมือไม้อ่อน…..
ในขณะเดียวกันคนที่รู้สึกช็อคเหมือนกันก็คือนารา
เธอมองผู้ชายคนนั้นที่ลุกขึ้นจากวีลแชร์แล้วก็ช็อคจนลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย
เขาลุกขึ้นจริงๆ เขาลุกขึ้นได้จริงๆ เธอค่อยๆยิ้มออกมา
ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นได้แล้ว!
“ฉันเคยบอกแล้ว ถ้าแตะต้องผู้หญิงของฉัน โทษก็คือตาย”
คุณพศเดินเข้าไปใกล้พิมมี่ที่กำลังช็อคอยู่ แล้วก็กระชากผมของเธอ แล้วก็โยนเธอลงพื้น
“เธอควรจะดีใจที่เธอเกิดมาเป็นผู้หญิง ฉันจะไว้ชีวิตเธอ” คุณพศจับเชือกไว้ แล้วค่อยๆดึงนาราลงมา
พอนาราลงมาถึงข้างล่าง เขาก็รีบดึงผู้หญิงคนนั้นมากอดไว้ เหมือนได้กอดโลกทั้งใบของเขา
ฟ้ารู้ว่าเขากลัวแค่ไหนว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวแล้วนะนารา ฉันอยู่ตรงนี้”
แต่ว่าคนที่อยู่ในอ้อมอกเขาไม่ได้ยินอะไรแล้ว หลังจากผ่านชั่วโมงแห่งการทารุณและทรมาน และขาดน้ำ แถมยังเห็นเขายืนขึ้นได้อีก ราคาทนไม่ไหว สลบไปอีกรอบ
คุณพศรู้สึกเจ็บปวดจนหายใจไม่ออก “นารา นารา ฉันขอโทษ…..” เขาอุ้มเธอเดินออกมาข้างนอก
ณ โรงพยาบาล
นาราหมดสติไปสองวันแล้ว ในตอนนี้คุณพศก็เฝ้าเธอเตียงผู้ป่วยไม่ยอมไปไหน และไม่ได้ดื่มน้ำเลยซักหยด
“คุณพศ……” ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย อยู่ดีๆก็พูดออกมาสองคำ
พอได้ยินดังนั้นคุณพศก็รีบลืมตาที่แดงก่ำ แล้วก็รีบกุมมือเธอไว้
“ฉันอยู่ ฉันอยู่นี่ที่รัก”
“….น้ำ……น้ำ….”
คุณพศรีบวิ่งไปเอาน้ำมาให้เธอ แล้วก็ค่อยๆป้อนเธออย่างระมัดระวัง
สองวันแล้ว ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว
เธอลืมตาอย่างเต็มที่ มองดูผู้ชายคนนี้ที่วิ่งไปวิ่งมา แล้วเธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข….
“นารา เธอฟื้นแล้ว” คุณพศเอ่ยด้วยเสียงแหบ เธอมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายตรงหน้า รู้สึกวิตกกังวลและประหลาดใจ
“ฉัน…” นารารู้สึกเหมือนในลำคอกำลังถูกไฟเผา ปวดหัวมากเหมือนจะระเบิดออกมา ข้อมือก็ปวด
เธอพยายามนึกย้อนกลับไปวันที่เธอเป็นลม มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เธอจำได้แค่ว่าถูกวิษณุส์จับแขวนบนเหล็กสูง ตรงนั้นหนาวมาก พิมมี่ก็อยู่ตรงนั้นเหมือนกัน หลังจากนั้นเธอก็เห็นคุณพศ แล้วเขาก็ลุกขึ้นจากวีลแชร์
ลุกขึ้นงั้นหรอ? ไม่ผิดแน่! เขาลุกขึ้นจริงๆ!
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้…เขาไม่ได้…พิการหรอกหรอ?
หรือว่า เขาหลอกฉันมาโดยตลอด?
นาราพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดที่ปวดหัวจนแทบจะระเบิดออกมา แล้วก็มองไปที่ผู้ชายตรงหน้าอย่างสำรวจ
“เป็นอะไรไปหรอนารา? หิวมั้ย เธอไม่ได้กินอะไรตั้งหลายวัน เดี๋ยวฉันให้ลุงบีมทำอะไรมาให้กิน เธออยากกินอะไร? หืมนารา?”
คุณพศพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก เขาไม่ทันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มองเขายืนขึ้นด้วยสายตาปีติยินดีขนาดไหน
“คุณพศ……” นาราจ้องไปที่ผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“อะไรหรอ? เธอมีอะไรที่อยากกินมั้ย? บอกฉันสิ เดี๋ยวฉันจะให้ลุงบีมทำให้”
พอเห็นท่าทีเฉยเมยของคุณพศก็ทำให้นารารู้สึกเซ็ง คนเลว! ที่แท้ก็ยืนขึ้นได้แล้ว ยังจะมาหลอกเธออีก….
“ขาของคุณน่ะ คุณไม่ได้สนใจซักนิดนึงเลยหรอ?” นารามองเขาด้วยความโกรธ แล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
คุณพศถึงพึ่งรู้ตัว สีหน้าของเธอดูไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เขารีบเดินเข้าไปกุมมือของเธอไว้
“นารา เธอฟังฉันก่อนนะ ฉันก็ลำบากใจเหมือนกัน…”
“ลำบากใจ? ลำบากใจอะไร?” นาราตัดบทคุณพศอย่างไร้เยื่อใย เสียงของเธอแหบแห้งเล็กน้อย แต่ก็ฟังดูเหมือนคนไม่ได้รับความยุติธรรม
“นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงขนาดนั้น จะมาพูดอะไรว่าลำบากใจ อีกอย่าง ทำไมนายถึงต้องปิดบังฉันด้วย? หรือว่านายคิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันไม่สามารถบอกกันได้? อยู๋กันมานานขนาดนี้นายมองฉันเป็นตัวอะไรกันแน่!” นารารู้สึกว่าเธอโดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
พอเห็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่นาราตะคอกใส่เขา น้ำตาไหลออกมาราวกับเม็ดไข่มุก คุณพศก็รู้สึกตกใจ
“นารา ขอโทษ..ฉัน…ฉันไม่ได้อยากปิดบังเธอจริงๆนะ…ฉันอยากจะบอกเธอตั้งหลายครั้งแล้ว ตั้งหลายครั้งที่ฉันอุ้มเธอไปอาบน้ำหลังจากทำกิจกรรมกันเสร็จ เธอไม่รู้สึกตัวเลยหรอ….”