The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 128 ขาของเขาหายดีตั้งนานแล้วแต่ว่าเขากลับหลอกฉัน
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 128 ขาของเขาหายดีตั้งนานแล้วแต่ว่าเขากลับหลอกฉัน
บทที่ 128 ขาของเขาหายดีตั้งนานแล้วแต่ว่าเขากลับหลอกฉัน
“พอแล้ว! ตอนนั้นฉันคงมีแรงมาคอยดูว่านายเดินหรือนายนั่งวีลแชร์หรอกนะ! ถึงนายจะเดินจริงๆ! ฉันก็ไม่อยากจะเห็น!” นาราใช้แรงทั้งหมดที่มีตะโกนออกมา แล้วก็เอาหัวพิงหมอนไว้ ในใจรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก
ขาเขาหายดีนานแล้ว มีแต่เธอที่มัวแต่โง่อยู่คนเดียว วันๆเอาแต่นวดให้เขา เอาแต่กลัวว่าถ้านั่งตักเขานานจะทำให้ขาเขาไม่มีแรง
การเป็นห่วงเขาทั้งวันทั้งคืนของเธอกลับกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับเขา โง่ไม่โง่ล่ะ!
คุณพศไม่รู้จะทำตัวยังไงดี ตอนนั้นเธอเหนื่อยจนไม่ทันรู้สึกว่าเขาอุ้มเธอพาเดินไปห้องอาบน้ำ ฎนารา ฉันขอโทษ เรื่องนี้ก็ต้องโทษเธอด้วยรู้มั้ย เพราะเธอชอบพูดทุกครั้งว่าถ้าขาฉันหายดีเธอก็จะไป แล้วใครจะกล้าหายดีกันล่ะ? ถ้าขาฉันหายดีแล้วเธอทิ้งฉันไปจะทำยังไง? ตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้ว เธอไปไหนไม่ได้แล้ว ฉันก็เลยเตรียมจะบอกเธอแล้ว นาราให้อภัยฉันได้มั้ย? หืม?”
นาราไม่สนใจเขา เธอหลับตาลงไม่ยอมมองหน้าเขา ใบหน้าซีดเซียว เขายื่นมือไปจับที่หน้าผากเย็นๆของเธอ
แล้วก็รู้สึกตกใจ ทำไมถึงได้เย็นขนาดนี้?
คุณพศรีบไปเรียกหมอมา แล้วก็บอกไลลาด้วย ที่จริงนอกจากเขาแล้ว ไลลาก็คือคนเดียวที่ดีกับเธอ
“ดูแลเธอดีๆหน่อยนะ ตอนนี้ร่างกายเธออ่อนแอมาก แถมฉันยังไปโกหกเธออีก ตอนนี้เธอเลยโกรธมาก ไม่อยากเห็นหน้าฉัน เดี๋ยวฉันรอให้เธอมีแรงกลับมาด่าฉันแล้วฉันค่อยกลับมา ไลลาเธอต้องรายงานฉันให้ตรงเวลานะ!” คุณพศเน้นยำกับไลลาทีละคำๆ
ไลลารับฟังอย่างระมัดระวัง เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
แปลกจัง คุณพศก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ แถมไม่ได้โกรธอะไรด้วย แต่ทำไมเธอถึงกลัวเขาขนาดนี้
เธอมองหน้าผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า แล้วก็รีบพยักหน้าทันที แล้วก็รีบเข้าไปดูแลนารา
เฮ้อ เหนื่อยแล้วนเนอะนารา ดูไม่ได้เป็นคนใจกล้าอะไร แต่ทำไมทนเขาได้นานขนาดนี้เนี่ย ไลลาแอบคิดอยู่ในใจ ผู้ชายวีลแชร์คนนั้นเย็นชามาก เขาหลอกนาราว่าขายังไม่หายดี ทั้งๆที่มันหายดีนานแล้ว
ไลลาเปิดประตูออก เห็นนารานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยจ้องเพดานอยู่เงียบๆ
“นารา ฟื้นแล้วหรอ!” ไลลาตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
“อืม เธอเองหรอ” พอเห็นว่าคนที่เข้ามาคือไลลาที่กระโดดโลดเต้นเข้ามา ไม่รู้ว่าในใจของนาราคิดอะไรอยู่ เหมือนกับ…..ผิดหวัง?
ตอนนี้เขาแม้แต่อธิบายยังไม่อยากจะอธิบายเลย ก็ใช่สิ สำหรับเขาแล้วเธอก็ไม่ใช่คนสำคัญอะไร ถึงได้หลอกเธอมานานขนาดนี้! คิดไปคิดมา นาราก็ยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆ
“วันนั้นที่ฉันโดนลักพาตัว เธอคงตกใจแย่เลยล่ะสิ” นาราถามออกมา
ไลลานั่งลงที่ข้างเตียงผู้ป่วยแล้วมองนารา
“อืม! ฉันล่ะตกใจแทบแย่! ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าตายแล้ว เธอต้องตายแล้วแน่ๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพศจะไปช่วยเธอกลับมาได้ นารา ตอนนี้เธอดีขึ้นรึยัง? ฉันเกือบนึกว่าจะไม่ได้เจอเธอแล้วซะอีก” พูดไปพูดมาไลลาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาอีกแล้ว
“พอแล้วๆ ตอนนี้ฉันก็กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วไม่ใช่รึไง” นาราพููดไปพลางยืนมือไปปลอบไลลา
“เธอคงลำบากไม่น้อยเลยสินะ ดูจากอารมณ์ร้ายๆของพี่สาวเธอแล้วแค่นั้นก็มากพอแล้ว แถมยังต้องมาเจอคนใจดำอำมหิตอย่างวิษณุส์อีก…นาราเธอโทษฉันเถอะ ฉันไม่ได้ดูแลเธอให้ดี…พวกนั้นทำอะไรเธอรึเปล่า?” ยัยคนนี้ร้องไห้อีกแล้ว
นาราตบหลังเธอเบาๆ “ไม่มี ฉันสบายดี เธอไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ฉันแค่โกรธ ที่คุณพศเขา…เขาหายดีแล้ว แต่หลอกฉันมาตั้งนาน” พอพูดออกมาก็เริ่มโกรธขึ้นมาอีกแล้ว
“ใช่ ทำไมคุณวีลแชร์คนนั้นถึงได้ร้ายขนาดนี้ ตัวเองเดินได้ ยังมาหลอกว่าพิการอีก ไม่น่าให้อภัยเลย ทิ้งเขาไว้คนเดียวซักกพักนึงเลยนะ” ไลลาแกล้งทำเป็นโกรธ
“คิก” นาราหัวเราะออกมา พอเธอได้ยินไลลาเรียกคุณพศว่าคุณวีลแชร์เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ทั้งสองคนนั่งคุยนั่งหัวเราะอยู่ในห้องักผู้ป่วย และคุณพศที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้อง พอได้ยินเสียงหัวเราะลอดออกมา เขาก็ยิ้มได้
เมียเขาใจดีขนาดนี้ จะไม่ให้อภัยเขาได้ยังไง
ในขณะเดียวกัน ที่ฝรั่งเศษ
ตรัญนั่งถือแก้วไวน์อยู่ตรงฟลอร์เต้นรำ แสงสลัวสะท้อนให้เห็นการเต้นของชายหญิงในฟลอร์นี้ ตรัญรู้สึกเหมือนว่าจะเข้ากับบรรยากาศที่นี่ไม่ได้เท่าไหร่นัก
แต่ว่าเขาไม่กล้ากลับคฤหาสน์ พอเธอเห็นผู้หญิงคนนั้น ก็เริ่มคิดว่า….
เหอะๆ เธอเป็นคู่หมั้นของเขา แล้วยังไงล่ะ? แต่ว่าเขาไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว
ทำไมเขาถึงอยากจูบเธอทุกที…ทำไมเธอถึงได้…มีอิทธิพลต่อความรู้สึกเขามากขนาดนี้ หรือว่าเพราะเขาโสดมานาน? ตรัญเหม่อลอย ก็เลยไม่ทันรู้สึกว่ามีผู้หญิงคนนึงเข้ามาใกล้เขา
“เฮ่ มาคนเดียวหรอ อยากจะมาเต้นด้วยกันมั้ยคะ?” หน้าตาเธอก็สวยไม่เบา กระโปรงสั้นแสดงให้เห็นรูปร่างที่สง่างามของเธอ ริมฝีปากสีแดงสดที่ดูเซ็กซี่เมื่อสะท้อนกับแสงในนี้ ลมหายใจที่ทำให้คนหยุดตัวเองไม่ได้
ตรัญขมวดคิ้วแน่นด้วยความรังเกียจ
“ไปไกลๆ” ตรัญโน้มตัวลงมาแล้วพูดสั้นๆ
“ไอ้บ้า!” ผู้หญิคนนั้นล้มเหลวคร้ังยิ่งใหญ่ เดินจากไปด้วยความเกลียดชัง
เหมือนว่า…ไม่ใช่แบบนี้นี่ นอกจากมีความรู้สึกแบบนั้นกับเธอแล้ว เขาก็ไม่สนใจคนอื่นอีก ใบหน้าของผิงผิงปรากฏขึ้นอีกครั้งในหัวของเขา
โรงเรียนที่ฝรั่งเศษ
“เฮ้! ผิงผิง!”
“อาจารย์ธาม? อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“อืม เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย ปวดหัวรึเปล่า?” ธามยิ้มอย่างมีไมตรีจิต เพราะว่าเมื่อคืนทั้งสองคนไปดื่มเหล้าที่ร้านอาหารจีนด้วยกัน แล้วผิงก็มองธามเป็นตรัญ ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เขาก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
“เมื่อคืนก็…” ผิงผิงที่พึ่งนึกเรื่องเมื่อคืนออกก็หน้าแดงขึ้นมาทันทีด้วยความอาย เมื่อกี้เธอเกือบจะพูดคำว่า “ดี”ออกมาแล้ว แต่มันก็ติดอยู่ในลำคอ
“เป็นอะไรไป เธออยู่ที่นั่นไม่สบายหรอ? หน้าแดงขนาดนี้ ไม่สบายรึเปล่า?” ธามพูดไปพลางเอามือมาแตะที่หน้าผากของผิงผิง เธอหัวเราะด้วยความเก้อเขินแล้วก็หลบมือเขา
ธามยิ่งรู้สึกเก้อเขินมากกว่าเดิม แล้วก็เก็บมือของตัวเอง
“อืม…หนูไปเรียนก่อนนะคะ ไว้เจอกันค่ะอาจารย์” ผิงผิงรีบวิ่งไปที่ห้องเรียน
ธามได้แต่มองแผ่นหลังของเธอจากไปอยู่แบบนั้น
เขาทำอะไรผิดไปรึเปล่านะ….ธามหัวเราะแล้วก็ส่ายหัวออกมา
หลังจากวิ่งหนีมาได้ผิงผิงก็เอาหลังพิงผนังกำแพงไว้ หัวใจเต้นเร็วมาก
ตั้งแต่ที่ตรัญจูบเธอวันนั้น เธอก็นั่งคิดทุกวันว่าไอ้เลวนั่นหลอกแต๊ะอั๋งเธอแล้วก็หายตัวไป
แต่ว่าทำไมถึงเผลอนึกถึงเขาตลอดเลย…ไม่ควรเป็นแบบนี้สิ
ผิงผิงเข้าเรียนด้วยจิตใจที่ฟุ้งซ่าน เธอไม่เคยอยากกลับบ้านเหมือนตอนนี้มาก่อนเลย
ในที่สุดก็ถึงบ้านแล้ว
ผิงผิงมองหาร่าคนตัวสูงที่คุ้นเคยรอบๆบ้านอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ เขาไม่ได้กลับมาหลายวันแล้วนะ ช่างเถอะ เลิกคิด
ผิงผิงเถียงกับตัวเองอยู่ในใจ ไอ้เลวนั่นไม่ได้อยู่เธอก็ควรจะดีใจไม่ใช่หรอ…แต่ทำไมในใจถึงกลับรู้สึกเหมือนว่าขาดอะไรไป
หลายวันมานี้เขาไม่ได้กลับมา ทำเหมือนว่าเธอเป็นแค่อากาศ
นี่คิดอะไรกันเนี่ย เธอหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น พอเธอกินข้าวที่เมลี่ทำเสร็จก็มานั่งวาดรูป
ฝนตกอีกแล้ว หวังว่าวันนี้จะไม่มีฟ้าร้องอีกนะ ขอร้องล่ะ ผิงผิงกระซิบกับสายฝน