The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 154 ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องอยู่ข้างฉันตลอดชีวิต
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 154 ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องอยู่ข้างฉันตลอดชีวิต
บทที่ 154 ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องอยู่ข้างฉันตลอดชีวิต
พอเขาเปิดประตูห้องอ่านหนังสือเข้าไป ก็เห็นผู้หญิงคนนี้นั่งเช็ดน้ำตาอยู่ตรงโต๊ะ
เธอยังเสียใจอยู่!
ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น แต่สุดท้ายก็แอบกลับมาร้องไห้คนเดียวที่บ้าน
เขาเดินเข้าไป แล้วดึงเธอมากอดไว้ นารารู้สึกตกใจ และรีบเงยหน้ามองเขา ผู้ชายคนนี้เมื่อเห็นใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา ก็รู้สึกปวดใจจนถึงขีดสุด
เขาไม่ยอมปล่อยเธอ แล้วดึงเธอมานั่งที่ตัก “นารา บอกฉันมาเถอะ ฉันมีอะไรตรงไหนที่ผิดไป ทำให้เธอต้องเสียใจ ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองโอเคมั้ย?”
นาราได้ยินเขาพูดดังนั้น ก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม เธอมองหน้าเขา สายตาไม่มีความอ่อนโยนเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป “คุณพศ เราเลิกกันเถอะ! ปล่อยฉันไป คุณ….”
“ไม่มีวัน!” ประโยคหลังยังไม่ทันจะพูดจบ ก็โดนผู้ชายคนนี้ขัดขึ้นมาซะก่อน
เขาก็มีณัจยาอยู่แล้ว แล้วจะมาขังเธอไว้ข้างกายเขาอีกทำไม! นารามองหน้าผู้ชายตรงหน้าก็รู้สึกปวดหัวใจราวกับเลือดกำลังออก
“อย่าแม้แต่จะคิด ทั้งชีวิตนี้ฉันไม่มีวันยอมปล่อยเธอไปเด็ดขาด! เธอเลิกคิดเรื่องนั้นไปได้เลย แล้วก็ยอมเป็นเมียฉันดีๆดีกว่า!”
คุณพศอุ้มผู้หญิงตรงหน้าขึ้นมาและพาไปที่ห้องอาบน้ำ แล้วก็เปิดฝักบัว
นารารีบลุกขึ้น “ฉันอาบเอง คุณออกไปเถอะ”
“เดี๋ยวฉันอาบให้” พอเห็นผู้หญิงตรงหน้าพยายามแอบ เขาก็พูดออกมาว่า “มีตรงไหนของร่างกายเธอที่ฉันยังไม่เคยเห็นบ้าง จะซ่อนทำไมล่ะ!ฎ
“……”นาราแทบทนไม่ไหวที่จะเตะผู้ชายคนนี้ออกไป เธอไม่ได้หน้าหนาแบบเขานะ
พอนึกถึงเรื่องณัจยาขึ้นมา มันเหมือนมีหนามที่มองไม่เห็นระหว่างเธอกับเขา แค่โดนเขาแตะตัวนิดหน่อย เธอก็รู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง
พอเห็นว่าใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้าเริ่มแดง คุณพศก็พูดออกมา “โอเค งั้นฉันออกไปก่อน เธอค่อยๆอาบไปแล้วกัน”
พอพูดจบเขาก็เดินออกไป ในที่สุดนาราก็วางใจ เธอเดินไปล็อคประตูห้องน้ำ แล้วก็ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ
คุณพศที่เดินออกมาจากห้องอาบน้ำก็เดินไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงอย่างไม่สบายใจ ปล่อยให้ตัวเองเคลิบเคลิ้มไปในควันไฟ
ทำไมนาราถึงได้ผิดปกติไป ถึงแม้ว่าจะเห็นรอยลิปสติกบนหน้าอกของเขาวันนั้นก็ไม่น่าจะต้องเย็นชากับเขาขนาดนี้นี่ ยังไงเขาก็ยังไม่เคยแตะต้องตัวณัจยาเลยด้วยซ้ำ
หลายปีก่อนนั้น ณัจยาเคยเป็นคนสำคัญในใจเขาก็จริง แต่ว่าพอมาเจอกันอีกครั้ง ใจเขาก็ไม่ได้เต้นแรงอีกแล้ว เพราะว่าตอนนี้ในใจเขามีแค่นาราเท่านั้น
นาราอาบน้ำเสร็จแล้วก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ำออกมา พอเห็นแผ่นหลังของเงาสูงที่ยืนอยู่ตรงระเบียง เธอก็เริ่มแสบจมูกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเตรียมจะเดินออกไปข้างนอก
“นารา!” คุณพศหันหน้ามา แล้วค่อยๆเดินมาหยุดอยู่ตรงข้างเธอ “จะไปไหน?”
“ไปนอนห้องนอนแขก” นาราตอบนิ่งๆ
“เธอยังไม่ได้กินข้าว เดี๋ยวฉันไปทำให้กิน”
“ไม่ต้อง ฉันไม่หิว”
“โอเค ไม่กินก็ได้ แต่ว่าฉันไม่ให้เธอไปนอนห้องนอนแขก เธอต้องนอนที่นี่” เขาดึงเธอมากอดไว้เบาๆ กลิ่นสบู่อ่อนๆจากตัวเธอทำให้เขารู้สึกคุ้นเคย
“นารา มีอะไรก็พูดออกมาเถอะ คืนนั้นที่เธอไปฝรั่งเศส ฉันเมา ก็เลยเต้นกับณัจยานิดหน่อย เพราะว่าวันนั้นเธอไม่ยอมไป ฉันก็เลยโกรธ แต่หลังจากนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเอารอยลิปสติกมาติดที่อกเสื้อฉันได้ยังไง ฉันไม่ได้แตะต้องตัวเธอเลยนะ นารา ฉันขอโทษ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ติดต่อกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว เธอไม่โกรธฉันแล้วได้มั้ย?”
ผู้ชายคนนี้เย่อหยิ่งขนาดไหน ไม่มีใครรู้หรอก แต่ว่าการที่เขาพยายามอดทนค่อยๆอธิบายอะไรแบบนี้ไม่ได้มีให้เห็นกันง่ายๆ แต่นั่นก็เพราะว่าคนๆนั้นคือนารา คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา
นาราเงยหน้ามองเขาเงียบๆ แค่นั้นจริงๆหรอ? แล้วเรื่องที่เขาทั้งกอดทั้งจูบกับณัจยาตอนที่เธอไปฝรั่งเศส แถมเธอยังใส่เสื้อผ้าเขาออกมาจากห้องทำงานเขาอีก มันมาได้ยังไงกันล่ะ
เธอมองหน้าผู้ชายตรงหน้า ดวงตาของเขาราวกับทะเลสาบลึก เหงาและเศร้า
ในตอนนั้น นาราอยากจะโผเข้ากอดแล้วซุกหน้าที่อกเขาแล้วร้องไห้ แล้วถามว่าทำไมเขาถึงทำกับเธอแบบนี้ ถ้าเกิดว่าไม่รักเธอแล้วก็ให้ปล่อยเธอไปซะ
แต่อนึกถึงตอนที่เขากับณัจยาอยู่ด้วยกัน แถมยังคำพูดที่ณัจยาพูดกับเธอวันนี้ ก็เหมือนกับว่าหัวใจของเธอได้ตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง
“คุณพศ ฉันรู้ว่าณัจยาสำคัญต่อคุณมาก ยังไงเธอก็อยู่กับคุณในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต แต่เรื่องที่พวกเราเจอกันมันเป็นแค่เรื่องผิดพลาด”
“ฉันเคยบอกคุณแล้วไง ถ้าเกิดว่าคุณเจอผู้หญิงที่คุณรักเมื่อไหร่ ฉันก็จะยอมจากมา ตอนนี้คุณควรไปสงบสติอารมณ์และคิดดูดีๆ ว่าแท้จริงแล้วคุณต้องการใครกันแน่?” นี่เป็นครั้งแรกที่นาราพูดออกมาเยอะขนาดนี้
ดวงตาสีฟ้าของเธอ บางทีถ้านี่คือการพนัน เธออาจจะแพ้โดยสิ้นเชิง
“เธอพูดอะไรน่ะ นารา คนที่ฉันรักมากที่สุดก็คือเธอ ยัยบื้อ ณัจยาแค่เข้ามาอยู่ในช่วงชีวิตนึงของฉันเท่านั้น ก็เหมือนกับเคนโด้ที่เข้ามาอยู่ในชีวิตเธอแค่ช่วงนึงไง แต่พวกเขาก็ผ่านไปแล้ว”
“นารา ฉันไม่ยอมให้เธอจากไปไหน ฉันเคยบอกแล้วว่าเธอต้องอยู่ข้างฉันตลอดไป” พอเขาพูดจบก็อุ้มเธอไปที่เตียง
นารารีบขัดขืน “คุณพศ อย่าบังคับฉันนะ! วันนี้ฉันจะนอนห้องนอนแขก”
พอเขาได้ยินคำพูดของเธอ ก็รู้สึกประหลาดใจ เขามองแววตาที่เย็นชาของเธอ เธอพยายามหลีกเลี่ยงเขาราวกับว่ากำลังหลีกเลี่ยงงูยังไงยังงั้น
เขารู้สึกเหมือนเลือดไหลออกมาทั้งร่างกาย เขาค่อยๆปล่อยเธอ นาราก็รีบเดินออกจากห้องนอนไปที่ห้องนอนแขกแล้วล็อคประตูทันที แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างอดไม่ได้………
ผ่านไปไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถ คุณพศออกไปแล้ว
คืนที่เงียบสงัด เสียงร้องไห้ที่ไม่มีใครได้ยิน ล้วนมาจากความเศร้าเสียใจของนารา
ณ ปู่ชิงคลับ คุณพศดื่มหมดไปหลายแก้ว ตอนทีเด่นภูมิมาถึง ก็เห็นเหล้าวางอยู่บนโต๊ะหลายขวดแล้ว
คุณพศแววตาแดงก่ำ มองหน้าเขาอย่างเย็นชา จนเด่นภูมิรู้สึกเสียวสันหลัง
“เป็นอะไรอีกล่ะ? พี่สะใภ้ตัวน้อยกลับมาแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมนายยังเหมือนคนจะเป็นจะตายอยู่อีก” เด่นภูมิเห็นว่าผู้ชายคนนี้ดื่มไปขนาดนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน คนที่สูงส่งอย่างคุณพศหายไปแล้ว ตอนนี้กลายเป็นผู้ชายที่โดนผู้หญิงเล่นงานจนไม่เหลือสภาพ
ยัยพี่สะใภ้ตัวน้อยนี่เก่งจริงๆ ทำให้ภูเขาน้ำแข็งละลายได้ แถมยังเล่นเขาซะเละเทะเลย! ฮ่าๆๆๆ! เด่นภูมิอยากจะหัวเราะออกมาจริงๆ
คุณพศมองหน้าผู้ชายตรงหน้าที่ยืนยิ้มอยู่ ก็หยิบเหล้าขึ้นมา “ดื่ม!”
เด่นภูมิ,“……”
ผู้ชายคนนี้กำลังอยากจะให้เขาเมาเหมือนตัวเองใช่มั้ย
“นายอย่ารนหาที่ตายได้มั้ย ครั้งที่แล้วก็เมา จนเกือบจะโดนณัจยาคาบไปกินแล้ว ยังจะกล้าดื่มอีก” เด่นภูมิแย่งขวดเหล้ากลับมา
ตอนเขาไม่พูดก็ยังดีอยู่หรอก แต่พอพูดก็ทำให้คุณพศรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “คืนนั้นนายก็รู้อยู่ว่าฉันเมา ยังจะปล่อยให้ณัจยาเข้ามาใกล้ฉันอีก แถมยังฝากรอยลิปสติกไว้บนตัวฉัน นายทำอะไรของนาย!” ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะวันนั้น นาราคงไม่เย็นชากับเขาขนาดนี้ เพราะเรื่องวันนั้น เธอก็เลยเข้าใจเขาผิด
“พระเจ้าช่วย วันนั้นนายอยากจะไปเต้นกับณัจยาเอง พอเต้นเสร็จก็เข้าห้องพักวีไอพีไปกับเธอ ตอนที่ฉันเข้าไปเธอก็นั่งบนตักนายแล้ว ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะฉัน นายคงโดนณัจยาคาบไปกินแล้ว ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เล่นๆเลยนะ” เด่นภูมิพูดออกมาอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“มีเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ? ไม่มีทาง ณัจยาไม่ได้กล้าขนาดนั้น!” ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าจริงๆ ที่แท้เขาจำเรื่องอะไรไม่ได้เลย ไม่น่าล่ะนาราถึงได้โกรธจนไม่สนใจเขาขนาดนี้