The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 158 ขอฉันกอดหน่อยฉันคิดถึงเธอ
บทที่ 158 ขอฉันกอดหน่อยฉันคิดถึงเธอ
นาราจับมือของพิมมี่ไว้ “อย่าคิดว่าเธอจะมาตบฉันตามอำเภอใจได้เหมือนเมื่อก่อนนะ บุญคุณของครอบครัวของเธอ ฉันชดใช้ไปหมดแล้ว ทีนี้ไสหัวออกไปได้แล้ว!”
พิมมี่พยายามขัดขืน เธอต้องออกแรงเยอะมาก กว่าจะสะบัดมือจากนาราออกมาได้
พอเห็นข้อมือของตัวเองที่แดงเถือก ก็จ้องหน้านาราด้วยความโมโห เธอกลัวว่านายอังกฤษคนนั้นจะกลับมาจับตัวเธออีก เธอเลยรีบเดินออกจากคฤหาสน์ทันที เธอกัดฟันแล้วพูดว่า “นารา รอดูเถอะ! ฉันจะทำให้เธอเหมือนตายทั้งเป็น!”
พิมมี่เดินออกมาจากคฤหาสน์ด้วยความโมโห เดินออกมาได้ไม่นาน ก็ชนเข้ากับคนๆนึง
พอเธอเงยหน้าขึ้นมอง ก็คือคนอังกฤษคนนั้นอีกแล้ว
เขาไปแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมกลับมาอีกล่ะ?
เคลลี่ลั่วมองหน้าพิมมี่ “ทำไมเธอยังไม่ไปอีกล่ะ? ฉันสืบมาแล้วว่าเธอคือพี่สาวของหวาน แต่ได้ยินมาว่าเธอคอยรังแกหวานมาตั้งแต่เด็ก แถมยังแย่งจี้หยกมาจากเธออีก นี่มันเรื่องอะไรกันงั้นหรอ?”
ดวงตาสีน้ำตาลของเคลลี่ลั่วดูเยือกเย็นมาก เหมือนคนละคนกับที่เจอเธอบนถนนเมื่อกี้นี้
“เปล่านะ….ฉันไม่ได้รังแกเธอ แล้วก็ไม่ได้แย่งจี้หยกไปจากเธอด้วย เธอเป็นคนมอบให้ฉันเอง” พิมมี่รู้ว่านายคนอังกฤษคนนี้เก่งกาจมาก
เพราะว่าเมื่อกี้เธอออกไปแล้ว แต่ยังโดนพวกชายชุดดำจับกลับมาอีก เธอรู้สึกว่านายเคลลี่ลั่วคนนี้ยังน่ากลัวกว่าคุณพศซะอีก
“ไม่ก็ดีแล้ว ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ยอมให้เธอมารังแกหวานอีก” เคลลี่ลั่วชี้หน้าเธอ
พิมมี่ไม่อยากจะพูดจากับเขาให้มากความอีกต่อไป เธอหันหลังเตรียมจะเดินไป แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เดินกลับมา
เธอยิ้มให้เคลลี่ลั่ว “คุณเคลลี่ หวานของคุณตอนนี้เธอแต่งงานแล้วนะ แล้วคุณจะพาเธอไปได้ยังไงล่ะ? ตอนนี้สามีของเธอเหมือนเป็นนายหัวของเมืองธิตกลนี้ด้วยสิ คุณสู้เขาไม่ได้หรอก”
พอพูดจบก็หัวเราะเสียงดัง แล้วก็เดินจากไป
พอเคลลี่ลั่วได้ยินที่เธอพูดก็รู้สึกอยากฆ่าคน
เธอแต่งงานแล้วจริงๆงั้นหรอ? ที่แท้เขาก็มาช้าไปก้าวนึง
เด็กผู้หญิงของเขา เขาต้องพาเธอกลับไปให้ได้ ไม่ว่าเธอจะแต่งหรือยังไม่แต่งงาน เขาก็จะพาเธอกลับไป!
นารากลับมาที่ห้องเมื่อส่งแขกทุกคนกลับไปแล้ว เธอนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง
ที่แท้ที่เธอฝันถึงมาสิบกว่าปีก็ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความทรงจำของเธอนั่นเอง
แต่ว่านอกจากฝันนั้นแล้ว เธอก็ไม่มีความทรงจำอื่นอีก
หรือว่าความทรงจำตอนเธอห้าขวบ มีคนลบมันไปแล้วงั้นหรอ?
หรือว่าแม่?
ทำไมแม่ถึงลบความทรงจำของเธอ ทำไมแม่ถึงไม่ต้องการเธอ?
หลังจากแม่มอบเธอให้บุรินทร์ก็ไม่มาถามไถ่อะไรอีก ทำไมแม่ถึงทำแบบนี้?
เธอนั่งเศร้าซึมอยู่ที่ระเบียง จ้องมองพระอาทิตย์สีเพลิง
ในโลกนี้ไม่มีใครรักเธอ มีแต่คนทอดทิ้งเธอ
เธอหลับตาลงด้วยหัวใจที่ขมขื่น
หลังจากผ่านไปสองวัน คุณพศก็กลับมาที่เมืองธิตกล พอลงจากเครื่องปุ๊ปเขาก็รีบกลับคฤหาสน์ทันที
วันนั้นที่ได้รับสายจากลุงบีม หัวใจเขาร้อนรนเหมือนโดนไฟเผา ที่แท้ก็มีคนมาเบี่ยงเบนความสนใจของนาราไป
ได้ เขาก็อยากเห็นเหมือนกันว่าคนๆนั้นคือใคร มารนหาที่ตายถึงเมืองธิตกล
แม้แต่บริษัทเขาก็ไม่ไป ตรงเข้าบ้านทันที
พอลุงบีมเห็นรถโรลส์รอยซ์สีดำแล่นเข้ามา ก็รู้ว่าคุณชายกลับมาแล้ว
เขารีบเดินเข้าไปหา “คุณชาย กลับมาแล้วหรอครับ”
“นาราล่ะ?” คุณพศใบหน้าเศร้าหมอง
“คุณผู้หญิงอยู่ในห้องอ่านหนังสือ ตั้งแต่วันที่หนุ่มอังกฤษคนนั้นมา คุณผู้หญิงเหมือนจะเศร้าเสียใจมาก หลายวันไม่ยอมออกไปไหน ได้แต่อยู่ในบ้าน” ลุงบีมรายงานสถานการณ์
คุณพศรีบเดินขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน ด้านในไม่มีใคร
เขาก็เลยเดินไปที่ห้องอ่านหนังสือ ก็เห็นร่างผอมบางที่นั่งอยู่ที่ระเบียง ผมยาวประบ่า กำลังวาดภาพอยู่
เธอกำลังตั้งใจมาก แม้แต่ผู้ชายเดินเข้ามาใกล้เธอจากทางด้านหลัง เธอก็ไม่ได้ยิน
เธอกำลังวาดภาพความฝันของเธอ : ข้อแรกคือห้องเรียนที่กว้างขวาง มีเด็กๆเยอะแยะมากมาย ทุกคนมีท่าทีหวาดกลัว แล้วก็น้ากุหลาบที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น……
คุณพศขมวดคิ้วแน่น เธอกำลังวาดอะไรอยู่? การเข่นฆ่างั้นหรอ?
ในที่สุดนาราก็วาดรูปนี้เสร็จ เธอถอนหายใจออกมาแล้วยืนขึ้น
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ด้านหลังของเธอ พอเธอหันหน้าไปเห็นคนด้านหลัง เธอก็รู้สึกตกใจ
“คุณ….กลับมาแล้วหรอ” แววตาของเธอไม่ได้มีความแปลกใจหรือดีใจ
คุณพศเป็นแค่คนแปลกหน้าที่เธอรู้สึกกลัวเท่านั้น!
ที่แท้ตอนนี้ในใจเธอก็มองเขาเป็นแบบนั้นไปแล้วงั้นหรอ
“นารา วาดอะไรหรอ?” เขาพยายามกดความโกรธของตัวเองไว้
เขากลับมาแล้ว เธอควรจะเข้ามากอดแล้วบอกว่าคิดถึงเขาไม่ใช่หรอ?
“ไม่มีอะไร ก็แค่วาดไปเรื่อย” เธอเก็บชัดวางรูป แล้วก็เดินผ่านเขาไป ผมยาวสะบัดไปโดนหน้าของเขา ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นหอมๆของแชมพู
เขาหลับตาลง รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เขาหันไปจับข้อมือของเธอไว้
นาราค่อยๆหันหน้ามา พอเห็นสีหน้าเจ็บปวดของผู้ชายคนนั้น ก็รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มอยู่ที่หัวใจ
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ทั้งสองคนทะเลาะเรื่องเลิกกัน ก็ไม่ได้เข้าใกล้กันอีกเลย ครั้งนี้ที่คุณพศไปทำงานต่างที่ ทุกครั้งที่เธอตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วเจอเตียงที่ว่างเปล่าเธอก็รู้สึกคิดถึงเขา
แต่ว่าผู้ชายคนนี้ก็กำลังคลุมเครือกับณัจยาอยู่ เธอไม่สามารถอยู่ข้างเขาต่อไปได้
คุณพศดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมอก เขากอดแน่นด้วยความคิดถึง เมียของเขา หลายวันมานี้ไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงเธอเลย
ได้แต่หวังว่าจะทำงานเสร็จเร็วๆแล้วจะได้กลับมาหาเธอ พอได้รับโทรศัพท์จากลุงบีม เขาก็แทบทนไม่ไหวที่จะบินกลับมาทันที แต่ว่าโปรเจคนี้มันสำคัญมากจริงๆ
เพราะฉะนั้นหลังจากจัดการเสร็จแล้วเขาก็รีบกลับมา ในที่สุดก็ได้กอดเธอแล้ว เขาหลับตาลง แล้วก็สูดดมกลิ่นหอมของร่างกายเธอ
นารารีบผลักเขาออก แค่เธอนึกถึงตอนที่ณัจยาใส่เสื้อผ้าเขาและเดินออกมาจากห้องทำงานของเขา เธอก็รู้สึกเหมือนโดนเข็มทิ่มที่หัวใจ
“นารา ขอฉันกอดหน่อย ฉันคิดถึงเธอมาก” คุณพศกอดเธอแน่นกว่าเดิม
“คุณพศ……..ปล่อยฉันนะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
นาราแค่อยากหลุดออกจากอ้อมอกของเขา ไม่อยากให้เขากอด กลัวว่าเธอจะติดใจ แล้วสูญเสียการควบคุมตัวเองไป
พอคุณพศได้ยินว่าเธอมีเรื่องอยากคุยกับเขา ก็รู้สึกประหลาดใจ หรือเธอจะพูดเรื่องเลิกอีก
ที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นาราถึงอยากจะเลิกกับเขา แต่ยังไงเขาก็ไม่เลิก ไม่มีวันเลิก
เขากอดเธอไว้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เธอละลายหายไปได้ เขาสามารถควบคุมโลกใบนี้ได้ แต่ว่าควบคุมจิตใจของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลย
หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาขัดขืนมากเกินไปแล้ว ความอดทนของเขาขาดผลอยเขา เขาจับใบหน้าของเธอ แล้วจูบลงไปที่ริมฝีปาก
เขาดูดกลืนความหวานจากปากเธออย่างบ้าคลั่ง!
เขาพยายามเปิดปากของเธอออก เขาดูดลิ้นของเธออย่างแรง แทบอยากจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
นารารู้สึกชาที่ลิ้น ร่างกายถูกล็อคไว้อย่างแน่นหนาไม่สามารถขยับไปไหนได้
ตอนที่นารากำลังจะขาดอากาศหายใจตาย ผู้ชายตรงหน้าถึงยอมปล่อยเธอ
เขามองใบหน้าแดงๆของเธอ “นารา……ฉันรักเธอ อย่าดื้อเลยนะ ไว้ถ้าฉันเคลียร์งานในมือเสร็จ พวกเราไปฮันนีมูนกันเถอะ เป็นเด็กดีนะ~” คุณพศกระซิบข้างหูเธอด้วยเสียงสั่นเครือ
นารารู้สึกแข็งทื่อไปทั้งตัว เธอได้สติกลับมา แล้วก็เงยหน้ามองผู้ชายตรงหน้า ดวงตาที่น่าหลงใหลของเขาทำให้ใจเธอสั่นเทา
“แล้วณัจยาล่ะ? คุณพศ คุณอย่ามาเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้นะ คุณจะบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับณัจยาเลยงั้นหรอ? ฉันเคยบอกแล้วไงว่า ถ้าคุณเจอคนที่คุณชอบ ฉันก็จะไป