The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 173 พิมมี่ใส่ร้ายอีกครั้ง
บทที่ 173 พิมมี่ใส่ร้ายอีกครั้ง
เพื่อที่จะให้นาราหลับสบาย คุณพศเลยย้ายมานอนที่ห้องอ่านหนังสือ
นารายิ้มแห้งๆ เธอเอามือลูบท้องของตัวเอง พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดในใจ บอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง
ตอนที่นาราตั้งท้องได้แปดเดือน เรื่องทั้งหมดก็มาเกิดขึ้นที่เดือนที่มิถุนาที่เลวร้ายเดือนนี้
เหมือนเป็นโชคชะตาที่ทำให้เธอกับคุณพศต้องจากกัน…
แน่นอน เป็นการจากกันตลอดชีวิต!
ณ ปู่ชิงคลับ ห้องวีไอพีที่ได้มีการซ่อนกล้องเอาไว้ พิมมี่กับวิษณุส์อยู่ด้วยกันด้านใน ทั้งสองเหมือนกับคนเมายา ทำอะไรกันอยู่ในนั้น
“วิษณุส์ นายเยี่ยมไปเลย…..”
“ที่รัก ฉันยังเยี่ยมกว่านี้ได้อีกนะ..” วิษณุส์ตอบเสียงหอบ ความคิดทั้งหมดของเขาวุ่นอยู่กับการจัดการพิมมี่ที่นอนอยู่ใต้ร่างกายของเขาในตอนนี้
“ที่รัก สบายมั้ย หรือว่าเราเปลี่ยนท่ากันดี?”
“เกลียด…นายนี่เลวจริงๆ….”
พิมมี่ทำท่าทีเหนียมอาย เธอแอบหันไปมองกล้องที่เธอแอบติดตั้งไว้ในห้องนี้ แล้วก็ฉีกยิ้มออกมา
เธอไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อที่จะเร้าวิษณุส์หรอกนะ ถ้าเกิดว่าจะทำเรื่องแบบนี้แล้ว ทำที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ
แต่ว่าที่เธอเลือกที่นี่ในวันนี้ ก็เพราะว่าเธอจงใจจะถ่ายวิดีโอสิ่งที่เธอทำกับวิษณุส์ไว้
แล้วก็เบลอหน้าเขาไว้ แล้วก็ส่งไปให้นารา…
ได้ยินมาว่ายัยนั่นท้องตั้งหลายเดือนแล้ว ก็ต้องยั่วยุอะไรซักหน่อยถึงจะถูกต้องสิ
ให้ยัยนั่นโกรธจนโดดลงทะเลไปเลยได้ยิ่งดี ถ้าเกิดว่าเธอคลอดลูกออกมาจริงๆ ก็จะไม่ยอมจากไปแล้วล่ะสิ
วิษณุส์ที่กำลังทำอย่างขยันขันแข็งเห็นว่าพิมมี่จิตใจเลื่อนลอย ก็จับหน้าให้เธอหันมา แล้วก็กัดลงไปที่ริมฝีปากของเธอ “คิดอะไรอยู่? ตั้งใจหน่อย”
วิษณุส์บ้าคลั่งจะตาย จูบเธอไม่กี่ทีก็ทำให้ปากพิมมี่เลือดไหลออกมา แต่ก็ยังไม่มีความคิดที่จะหยุด เขาทำรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ย่ำยีพิมมี่ตามอำเภอใจ “ที่รัก ทำไมฉันไม่รู้สึกพอซักทีนะ”
พิมมี่ทำเป็นเอามือเกาะไหล่วิษณุส์ด้วยท่าทีบอบบาง เธอรู้ดีว่าวิษณุส์เป็นคนบ้าคลั่งเมื่ออยู่บนเตียง เขาชอบแบบฮาร์ดคอร์
แม้แต่สวรรค์ก็รู้ว่าเพื่อที่จำกำจัดวิษณุส์ไป เธอต้องพยายามมากแค่ไหน!
นารา ทางที่ดีเธอควรไปตายซะ อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคุณพศอีก ยกตำแหน่งภรรยาท่านประธานคืนมาให้ฉันซะ!
พิมมี่คิดอยู่ในใจพักนึง แต่เพื่อไม่ให้วิษณุส์จับได้ เธอจึงเด้งเอวตอบรับเขาอย่างกระตือรือร้น
เสียงลมหายใจที่เราร้อนดังออกมาจากในห้องอยู่ซักพัก กว่าจะเงียบลง
วิษณุส์ใส่กางเกงอย่างพอใจ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความต้องการจ้องมองไปที่หน้าอกสีขาวของเธอ “ฉันว่า ที่นี่ยั่วอารมณ์ได้มากกว่าห้องเพรสซิเดนสูทอีกนะ คนอย่างเธอนี่หาได้ยากจริงๆนะ คิดถึงที่ดีๆแบบนี้ได้ด้วย”
พิมมี่ทำท่าทีแสร้งเขินตอบรับที่วิษณุส์ชมเธอ “ที่ไหนกันล่ะ? ฉันก็แค่พยายามทำให้นายรู้สึกสดชื่นขึ้นไม่ใช่หรอ? อย่ามาพูดแบบนี้นะ เหมือนกับว่าฉันมีประสบการณ์มากยังไงยังงั้นแหละ”
พอวิษณุส์ใส่เสื้อผ้าเสร็จ ก็ไม่รู้สึกสนใจในตัวเธออีกต่อไป “มีประสบการณ์มากหรือไม่มาก ตัวเธอเองก็คงรู้ดีอยู่แล้ว ยังไงเธอก็ไม่ได้ซิงอยู่แล้ว”
พิมมี่ที่พึ่งใส่เสื้อผ้าเสร็จ พอได้ยินวิษณุส์พูดดังนั้น ก็โกรธจนตัวสั่น
ทำไมเธอถึงไม่เคยนึกเลยว่า วิษณุส์ประเมินค่าเธอแค่นี้!
“วิษณุส์ ไอ้เลว!” พิมมี่คว้าถุงน่องของเธอขึ้นมาและปาไปที่วิษณุส์
วิษณุส์ปัดถุงน่องออก แล้วก็หายใจเข้าลึกๆ “แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรที่รับไม่ได้นิ ฉันเป็นคนเลง ส่วนเธอก็เป็นกากี เหมือนเราสองคนเกิดมาคู่กันเลยว่ามั้ย”
พิมมี่โมโหจนตัวสั่น ไอ้ชั่ววิษณุส์ มันกล้าด่าว่าเธอเป็นกากีงั้นหรอ!
มันต่างหากที่เป็นวิษณุส์ เป็นกันทั้งครอบครัวนั่นแหละ!
“ไปไกลๆ นี่มันจะมากเกินไปแล้ว!” พิมมี่ก้มลงหยิบกระเป๋าถือของเธอ แล้วก็หยิบกล้องจิ๋วที่ได้ซ่อนไว้ “วิษณุส์ แกมันเลว!”
พอพูดจบ พิมมี่ก็รีบสวมรองเท้าส้นสูง แล้วก็เดินออกจากห้องไป
เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ส่งวิดีโอนี้ไปให้นารา เธอเสแสร้งทำเป็นโกรธ เพื่อที่จะหาเรื่องออกมาจากที่นั่นต่างหาก
วิษณุส์ไม่ได้โกรธอะไรแถมยังหหัวเราะออกมา เขาจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่อย่างไม่รู้สึกรู้สา แล้วก็เดินออกจากห้องมา
ประสบการณ์ครั้งนี้ไม่เลวเลย ดูเหมือนว่าคราวหน้าเขาควรจะเกลี้ยกล่อมให้พิมมี่ออกมาทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะบ่อยๆ จะได้รู้สึกตื่นเต้นขึ้น
เรื่องที่เมื่อกี้พิมมี่โกรธจนเดินออกจากห้องไป วิษณุส์ไม่ได้ใส่ใจเลยซักนิด
เขารู้สึกพิมมี่ดี ถ้าเธอโกรธ ก็แค่พาเธอไปชอปปิ้ง ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เธอเชื่อฟังได้ทันที
ผู้หญิงน่ะนะ ก็เป็นแค่เพื่อนร่วมเตียงเท่านั้นแหละ ถ้าชอบก็แค่นอนกับเธอบ่อยๆ ถ้าไม่ชอบก็นอนกับเธอแค่ไม่กี่ครั้งก็พอ ถ้าดูจากตอนนี้ล่ะก็ เขาก็ดูชอบพิมมี่อยู่พอตัวเลยนะ
ส่วนอีกฝั่งนึง พิมมี่ที่เสแสร้งทำเป็นโกรธแล้วเดินออกจากปู่ชิงคลับมา ก็รีบไปที่บริษัทนักสืบเอกชนทันที
เด็กสาวที่แผนกต้อนรับเมื่อเห็นพิมมี่ที่สวมใส่ชุดทีสวยงามและละเอียดอ่อน ก็ไม่กล้าที่จะเดินเข้ามา “สวัสดีค่ะ ต้องการรับบริการแบบไหนดีคะ?”
พิมมี่มองเด็กสาวที่แผนกต้อนรับ “หาโปรแกรมเมอร์เก่งๆให้ฉันหน่อย ฉันต้องการให้ทำเกี่ยวกับวิดีโอ ต้องการชนิดที่ไม่สามารถจับผิดได้เลย พวกเธอมีคนแบบนั้นมั้ย?”
เมื่อเห็นว่ามีลูกค้ารายใหญ่เข้ามา เด็กสาวที่แผนกต้อนรับก็พูดอย่างขยันขันแข็ง “งั้นคุณผู้หญิงสุดสวยมาถูกที่แล้วค่ะ พวกเรามีผู้เชี่ยวชาญอยู่ที่นี่ ขอแค่คุณต้องการ ก็ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ แต่ว่า…”
“ค่าบริการแพงมากใช่มั้ย?” พิมมี่เบะปากอย่างดูถูก “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เรียกคนที่ค่าตัวแพงที่สุดของเธอมา ฉันต้องการบริการที่ดีที่สุดจากเขา”
พอเห็นท่าทีเย่อหยิ่งของพิมมี่ เธอก็เลยเรียกเจ้าของมา เธอรู้สึกว่าลูกค้าวางมาดแบบนี้เธอน่าจะเอาไม่อยู่
เจ้าของที่นี่เป็นคนที่ฉลาดที่สุด รูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ พอเขาเห็นพิมมี่ที่ยืนเย่อหยิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เขารีบวิ่งเข้าไปหาเธอ “ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงต้องการรับบริการเรื่องไหนดีครับ”
พิมมี่ขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ “สรุปพวกคุณเป็นมืออาชีพกันจริงมั้ยเนี่ย? ถ้าไม่ได้ฉันจะเปลี่ยนร้าน! เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก พูดเป็นอยู่แค่ประโยคเดียว ไม่เป็นมืออาชีพเลย!”
ปกติก็ต้องเจอลูกค้าที่จู้จี้เรื่องมากแบบนี้อยู่แล้ว เจ้าของร้านฉีกยิ้มด้วยความคุ้นเคย “คุณผู้หญิงอย่าโมโหไปเลยนะครับ ตามผมมา”
เขานำพิมมี่ไปที่ห้องเดี่ยว แล้วก็ปิดประตูลงอย่างกระตือรือร้น “คุณผู้หญิง เชิญูดสิ่งที่คุณต้องการมาได้เลยครับ ขอแค่คุณพร้อมจ่าย ไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้”
“งั้นหรอ?” พิมมี่เบะอย่างไม่เชื่อเท่าไหร่ อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกเหมือนเธอมาผิดที่ “ถ้าเกิดว่าฉันอยากให้นายฆ่าคนๆนึงล่ะ?”
รอยยิ้มบนหน้าเขาแข็งทื่อทันที “คุณผู้หญิง ถึงแม้ว่าพวกเราจะเป็นธุรกิจสีเทา แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย!”
บรรยากาศภายในห้องเงียบลงทันที พิมมี่มองหน้าเจ้าของร้าน และก็ยิ้มออกมาอย่างโอ้อวด “ฮ่าๆๆๆ เมื่อกี้ฉันหยอกเล่นเฉยๆ เรื่องที่ฉันต้องการมันง่ายมาก แค่เปลี่ยนหน้าของผู้ชายในวิดีโอนี้ให้เป็นอีกคนก็พอ