The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 174 วิดีโอสังหาร
บทที่ 174 วิดีโอสังหาร
พอพูดจบพิมมี่ก็หยิบกล้องที่แอบอัดวิดีโอไว้ขึ้นมา แล้วกดเพลย์โดยที่ไม่ได้อายอะไรทั้งนั้น
ทันใดนั้น ก็มีเสียงร้องของผู้ชายและผู้หญิงลอดออกมาจากในห้องนั้น เจ้าของร้านหน้าแดงด้วยอารมณ์เร่าร้อน
ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ตาเบลอไปล่ะก็ ผู้หญิงที่อยู่ในวิดีโอเมื่อกี้ ก็คือผู้หญิงสุดสวยที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ใช่มั้ย?
แต่ว่าพวกเขาเป็นนักสืบเอกชน ได้เจอเรื่องอะไรมาแบบนี้ก็เยอะแล้ว ดังนั้นก็แค่หน้าแดงเล็กน้อย ไม่นานเขาก็เอ่ยปากถามพิมมี่อย่างใจเย็น “คุณอยากให้เปลี่ยนเป็นหน้าใครหรอครับ?”
พิมมี่หยิบรูปคุณพศออกมา แล้วก็พูดจาเหยียดหยัน “เปลี่ยนเป็นคนนี้ จำไว้ ต้องทำให้เนียน อย่าให้ใครจับได้เด็ดขาด!”
พอเจ้าของร้านเห็นหน้าผู้ชายในรูป ก็ช็อคทันที! เขารู้สึกลังเลนิดหน่อยก่อนจะถามว่า “คุณผู้หญิง คุณจะให้เปลี่ยนเป็นหน้าคนนี้จริงๆหรอครับ?”
ผู้ชายในรูปนั้นก็คือประธานคนใหม่ของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ภาพถ่ายของเขาได้ขึ้นสำนักข่าวทั่วไปหมด ถ้าเกิดว่าเป็นคนเมืองธิตกลแล้ว ไม่มีวันไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร
แถมได้ยินมาว่าเขาเป็นคนเด็ดขาดมาก ถ้าใครกล้ายั่วยุเขาแม้แต่นิดเดียว ต้องตายเรียบ
ดังนั้น เพื่อที่จะรักษาหน้าที่การงานของตัวเองในเมืองธิตกลไว้ เจ้าของร้านเลยปฏิเสธพิมมี่อย่างไม่ลังเล “ขอโทษด้วยนะครับคุณผู้หญิง งานนี้พวกเราไม่สามารถทำได้จริงๆ”
“ทำไม?” พิมมี่ไม่เข้าใจ “เงินมาจ่ออยู่ที่หน้าแล้วยังจะไม่เอาอีกหรอ? นายโง่รึเปล่าเนี่ย?”
“เหอะๆ” เจ้าของร้านเสแสร้งหัวเราะออกมา “ก็เพราะว่าไม่ได้โง่ก็เลยไม่ยอมรับทำตามที่คุณบอก ถ้าเกิดว่าพวกเราไปทำอะไรขัดใจท่านประธานขึ้นมา เกรงว่าจะไม่มีที่ยืนในเมืองธิตกลนี้อีกต่อไป”
พิมมี่ก็เข้าใจในทันที ที่แท้เจ้าของร้านคนนี้ก็รู้จักคุณพศดี เลยกลัวว่าจะไปทำให้เขาไม่พอใจเข้า
เธออยากจะเดินไปหาร้านอื่น แต่พอคิดไปคืดมาก็ยอมแพ้
ช่างเถอะ ถ้าเกิดว่าคนพวกนี้กลัวคุณพศ ต่อให้ไปร้านไหนผลลัพธ์ก็คงเหมือนกัน
“ฮ่าๆ ดูนายกลัวจนเหงื่อออกไปหมด ฉันกับคุณพศเป็นเพื่อนเก่า ก็เลยทำคลิปนี้ขึ้นมาเพื่อจะหยอกล้อเขานิดหน่อยแค่นั้นเอง วางใจเถอะ ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง ยังไงฉันก็ไม่มีวันบอกว่าพวกนายเป็นคนช่วยฉันทำหรอก อีกอย่างเรื่องราคานายเรียกมาได้เลย ขอแค่ทำให้ฉันพอใจฉันยอมจ่าย”
คำพูดของพิมมี่ทำให้เจ้าของร้านตาลุกวาว ที่พวกเขาสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมาก็เพื่อหาเงิน ถ้าเกิดว่างานมันไม่อันตราย แถมยังได้เงินก้อนโต ใครจะโง่ปฏิเสธกันล่ะ!
“ตกลง!”
ทันทีที่พูดสองคำนี้จบ เจ้าของร้านก็คัดลองไฟล์พิมมี่ลงคอมพ์ ละเลงนิ้วลงบนคีย์บอร์ดด้วยความว่องไว ไม่นานก็ทำตามคำขอของพิมมี่สำเร็จ
แล้วก็ลบเสียงพูดของทั้งสองคนออก แล้วก็เปลี่ยนเสียงให้พิมมี่เรียกชื่อคุณพศแทน!
หลังจากพิมมี่เห็นวิดีโอ ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ถือว่าร้านนี้ฝีมือดีจริงๆ ตัดต่อออกมาเนียนจนเธอเองยังดูไม่ออก เธอยังคิดว่าเธอมีอะไรกับคุณพศจริงๆเลย
หึหึ นารา รอของขวัญชิ้นเยี่ยมที่ฉันจะส่งให้เธอแล้วกัน!
เกาะฟ้า
นารากำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงเงียบๆ ดวงตามองไปที่ทะเล รู้สึกเหมือนคลื่นซัดเข้ามาที่หัวใจ ทำยังไงก็ไม่ยอมสงบลง
พระอาทิตย์ค่อยๆตกลงอยู่ตรงขอบทะเล ดูเงียบเหงาเหลือเกิน
นาราก้มหน้าลงแล้วเอามือลูบท้องอย่านุ่มนวล รู้สึกได้ถึงชีวิตน้อยๆที่อยู่ด้านใน
“ลูกรัก เดี๋ยวอีกสองเดือนลูกก็ได้ออกมาแล้ว แม่แทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว ลูกจะเหมือนแม่มากกว่า หรือเหมือนพ่อมากกว่ากันนะ”
นาราพูดอยู่คนเดียว ทันใดนั้นก็คิดถึงคุณพศขึ้นมา
เขาไม่ได้พูดดีๆกับเธอนานแล้ว ทั้งคฤหาสน์นี้มีแต่เธอกับป้าอ้าย ลุงบีม และคนใช้อีกไม่กี่คน
แม้แต่เคนโด้ที่ทะเลาะกับคุณพศวันนั้นก็ไม่เคยโผล่มาอีกเลย เดาว่าน่าจะโดนขึ้นบัญชีดำคนที่ห้ามเข้าเกาะฟ้า
แต่พอนึกถึงคุณพศ ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพบาดตาบาดใจของเขากับณัจยา
ในใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นอีกครั้ง
แต่ทำไม เมื่อไม่ได้เจอเขา ใจของเธอยังรู้สึกหดหู่ขนาดนี้อยู่อีกล่ะ?
แม้เขาจะทรยศเธอ
แต่ใจของเธอก็ยังลืมเขาไม่ได้งั้นหรอ? ความจริงที่เธอมาอยู่ที่นี่กับลูกก็ให้ลืมความเศร้าโศกทั้งหมดไป แต่ว่าเธอก็ยังคงลืมเขาไม่ได้เหมือนเดิม
ดูเหมือนว่าเธอคงจะกู่ไม่กลับแล้ว
นาราถอนหายใจ ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าลูกน้อยเตะท้องเธอเบาๆ เธอก็ยิ้มแล้วก็ก้มหน้าลงไป “เจ้าเด็กน้อย ลูกแทบรอไม่ไหวที่จะออกมาเจอโลกข้างนอกแล้วล่ะสิ? แต่ว่าไม่ได้นะ แม่ยังอุ้มท้องลูกไม่ครบเก้าเดือนเลย ลูกต้องอดทนรอนะ อีกเดือนกว่า ลูกก็ได้ออกมาดูโลกที่น่าอัศจรรย์ใบนี้แล้ว”
นาราเอามือลูบบนท้องเบาๆ แล้วปล่อยให้เจ้าตัวเล็กซุกซนอยู่ในท้อง หัวใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหอมหวาน
ถ้าเกิดว่าไม่ไปนั่งคิดเรื่องคุณพศกับณัจยา เธอก็คงจะมีความสุขไม่น้อยเลย
เพราะว่าชีวิตน้อยๆนี้คือความหวังหนึ่งเดียวของเธอ บางทีถ้าเกิดว่ามีเขาแล้วชีวิตเธออาจจะกลับมามีความหวังอีกครั้งก็ได้
“กริ๊งกริ๊ง”
เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือ นาราหันไปมองโทรศัพท์ของตัวเองที่ถูกทิ้งไว้บนโต๊ะ แล้วก็เดินไปช้าๆ
พอท้องแล้วก็ทำอะไรไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เธอเดินช้าลงมาก นารารู้สึกว่าตัวเองที่กำลังลากท้องใหญ่ๆเหมือนกับเต่าที่กำลังคลานอยู่ เดินได้สองก้าวก็หายใจไปสองทีแล้ว
กว่าจะเดินมาถึงโต๊ะไม่ง่ายเลย เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ แล้วก็เดินไปที่ระเบียงอีกครั้ง
หลายวันมานี้เธอเอาแต่อยู่ที่ระเบียง ราวกับว่ามันเป็นที่พักพิงสำหรับเธอ มีแต่ตรงระเบียงเท่านั้นที่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
เธอไปยืนอยู่ตรงระเบียงอีกครั้ง นารามองดูโทรศัพท์ของตัวเองอย่างตั้งใจ คนที่ส่งข้อความนี้มาคือพิมมี่ เป็นไฟล์วิดีโอ
จิตใต้สำนึกของนาราสั่งให้เธอลบวิดีโอนี้ ยังไงพิมมี่ก็ไม่เคยหวังดีกับเธออยู่แล้ว เธอไม่มีวันส่งอะไรดีๆมาให้หรอก
พอคิดแบบนี้แล้ว เธอก็กดลบวิดีโอนั้นทันทีอย่างไม่ลังเล
พอโทรศัท์เด้งข้อความขึ้นมาว่าต้องการลบวิดีโอนี้หรือไม่?
นาราที่กำลังจะกดปุ่มยืนยัน ก็มีคนเปิดประตูห้องเข้ามา ป้าอ้ายถือของหวานเข้ามาให้ “คุณผู้หญิง ป้าทำซุปมาให้ มันเป็นยาชูกำลังได้ดีเลย คุณต้องดื่มให้หมดนะคะ”
“หืม?” นาราหันหน้าไปมอง แล้วก็ขอบคุณป้าอ้ายอย่างมีมารยาท “ขอบคุณนะคะป้าอ้าย ป้าวางไว้บนโต๊ะเลย เดี๋ยวนาราไปกิน”
“ไม่ได้นะคะ ป้าจะรอให้คุณผู้หญิงดื่มหมดถึงจะไป ไม่ยังงั้นถ้ามันเย็นแล้วจะไม่อร่อย ดูสิว่าตอนนี้คุณผอมจนขนาดไหนแล้ว? เชื่อป้าอ้ายเถอะนะ กินของบำรุงร่างกายให้เยอะหน่อย แบบนี้จะได้ดีต่อทั้งตัวคุณและเด็กน้อย คุณจะคลอดอยู่แล้ว ยังขาดแคลนสารอาหารอยู่เยอะเลย