The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 243 เฝ้าตอนฉันนอนหน่อยได้มั้ย
ตอนที่ 243 เฝ้าตอนฉันนอนหน่อยได้มั้ย
ถ้าเกิดว่าเธอไม่ไปกับคณพศในวันหมั้นหมายนั้นล่ะก็ พี่ลั่วก็จะไม่มีทางเป็นแบบนี้!
เธอถอนหายใจแล้วพูดออกมาเบาๆว่า “พี่ลั่ว ฉันผิดเอง ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะฉันที่ทิ้งพี่ไปในพิธีหมั้น พี่ก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้”
“แค่กๆ…” เคลลี่ลั่วไอออกมาสองสามทีและโบกมือเพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าไม่ให้นาราคิดแบบนั้น “ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกหวาน มันเป็นเพราะฉันเอง เพราะฉันกลัวว่าเธอจะไม่กลับมาอีก ก็เลยรู้สึกว่าอยู่ต่อไปก็ไม่มีความหมาย เธอก็รู้นิ ถ้าเกิดไม่มีเธอแล้ว อะไรก็ไม่มีความหมายสำหรับฉันอีกต่อไป”
“พี่ลั่ว ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว ตอนนี้พี่ต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดี ตอนนี้หิวมั้ย? เดี๋ยวฉันจะให้โลลิต้าทำอะไรให้พี่กิน”
พอพูดจบนาราก็เดินออกไปนอกห้อง แล้วสั่งให้โลลิต้าทำเมนูที่ดีต่อสุขภาพเข้ามาให้
ผ่านไปไม่นาน โลลิต้าก็กลับมาด้วยโจ๊กที่เต็มไปด้วยสารอาหาร
นาราค่อยๆประคองให้ลั่วลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง แล้วก็เอาหมอนรองหลังของเขาไว้ “พี่ลั่ว ต้องกินโจ๊กเข้าไปเยอะๆ เพื่อให้กระเพาะแข็งแล้ว รอซักพักแล้วก็กินยา ร่างกายจะได้หายไวๆ”
เคลลี่ลั่วลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง แล้วจ้องหน้าเด็กผู้หญิงตรงหน้า เขากินโจ๊กตามคำสั่งของนาราอย่างไม่ขัดขืน
แต่เพราะว่าเขาป่วยมานาน ร่างกายเลยอ่อนแอมาก ขนาดกินไปตั้งนานยังพึ่งหมดไปแค่ครึ่งถ้วย
“แค่กๆ หวาน ฉันอิ่มแล้ว” เคลลี่ลั่วไอสองสามที แล้วก็วางถ้วยกลับลงไปที่โต๊ะตรงหน้าเขา
นารามองโจ๊กที่เหลืออยู่อีกครึ่งด้วย ก็เลยรู้ว่าเคลลี่ลั่วร่างกายเขาเริ่มแย่แล้วจริงๆ
แต่ว่าในเมื่อเธอกลับมาแล้ว ก็ต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี
หลังจากเคลลี่ลั่วกินข้าวเสร็จ นาราก็รออีกซักพัก ถึงจะวางใจให้เขางีบไปแป๊ปนึง
ตอนนี้อาการของลั่วไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย หลับตาได้แป๊ปเดียวเขาก็เริ่มฝันแล้ว เขานอนยิ้มอยู่แบบนั้น ราวกับว่ากำลังมีความสุขที่นารากลับมาหาเขาอีกครั้ง
นารานั่งอยู่ข้างๆเขาแล้วมองเวลา เธอรอให้ลั่วนอนจนครับหนึ่งชั่วโมงก็ปลุกเขาขึ้นมา แล้วก็ก็เรียกให้โลลิต้าเอายามาให้เขากิน
ลั่วขมวดคิ้วยังไม่เต็มใจ ใครก็ไม่รู้หรอกว่า ท่านดยุคผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขากลัวการกินยา
แต่ว่านาราก็ไม่ยอมเหมือนกัน เธอบอกว่าถ้าลั่วไม่ยอมกินยาเธอจะไป ลั่วก็เลยยอมกินยาลงไปอย่างโดยดี
แน่นอนว่า ตอนที่กินยานั้นสีหน้าของเขาดูรังเกียจมาก แทบอยากจะโยนยาทั้งหมดในมือทิ้งซะ
พอเป็นแบบนี้ นาราก็คอยเฝ้าดูแลเขาอยู่แบบนั้น โดยไม่รู้สึกตัว ฟ้าก็มืดซะแล้ว
ลั่วหลับไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ หลับๆตื่นๆ ตอนที่เขาตื่นมาอีกครั้งแล้วเห็นว่านารากำลังนั่งสัปหงกด้วยความเหนื่อยล้า เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบแห้งว่า “หวาน ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เธอไม่ต้องอยู่เฝ้าฉันหรอก รีบไปพักผ่อนเถอะ”
นาราส่ายหน้า “แต่ว่าพี่ยังมีไข้อยู่เลย โลลิต้าบอกว่าคืนนี้สำคัญที่สุด ถ้าเกิดว่าไข้ลดก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าไม่ลดก็ถือว่าอันตรายมาก”
“โลลิต้า โลลิต้า อะไรก็โลลิต้าไปหมด สงสัยฉันจะให้เงินเดือนเธอมาเกินไป เลยมัวแต่เอาเวลามาพูดจาไร้สาระอยู่ได้!” ลั่วโกรธอย่างเห็นได้ชัด “วันนี้เธอนั่งอยู่ตรงนี้มาทั้งวันแล้ว ฉันปวดใจมาก จะมาให้เธอคอยปรนนิบัติฉันได้ยังไง? แค่กๆ แค่กๆๆๆ…..”
“พี่ลั่ว อย่าเป็นแบบนี้สิ ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย ก็แค่ช่วยส่งน้ำส่งข้าวให้พี่แค่นั้นเอง สิ่งที่ฉันทำยังเทียบไม่ได้กับสิ่งที่พี่ทำให้ฉันเมื่อก่อนนั้นเลย” นาราช่วยลูบหลังให้ลั่ว เป็นสัญญาณบอกว่าให้เขาไม่ต้องคิดมาก
“พี่ลั่ว พี่ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แค่เชื่อฟังฉันแล้วกินยา พอถึงเวลาที่ไข้พี่ลดแล้ว ฉันก็จะไปพักผ่อน”
พอเห็นว่านารายังคงดึงดันอยู่แบบนี้ลั่วก็เลยยอมแพ้ไม่เถียงต่อ ได้แต่เชื่อฟังนารา อยากจะให้ไข้ของตัวเองลดลงไวๆ
ยังไงหวานของเขาก็กลับมาแล้ว เขาต้องดูแลรักษาร่างกายตัวเองให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมให้ได้ จะได้มีแรงมาปกป้องหวานได้
ตอนกลางดึก นาราที่อดทนมาทั้งวันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอฟุบหลับลงไปข้างเตียงของลั่ว
ลั่วตื่นขึ้นมากลางดึก พอเห็นนาราที่นอนฟุบหลับอยู่ข้างเตียงก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
เขาเอามือลูบผมเธอเบาๆ มันมีความสุขจนเขาไม่อยากจะถอนมือออก
หวานของเขาเป็นคนที่จิตใจดีและมีน้ำใจเสมอมา เขาไม่เคยมองเธอผิดเลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าต้องทำยังไงก็ตาม เขาก็จะทำให้หวานของเขาอยู่ที่นี่กับเขาให้ได้ ยังไงก็จะไม่มีวันยอมให้คณพศแย่งไปได้อีก!
ลั่วที่มองนาราหลับอยู่ซักพัก ก็พยายามบังคับร่างกายที่อ่อนแอของตัวเองให้ลุกขึ้น เขาอยากจะอุ้มนาราขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ
นอนฟุบหลับอยู่แบบนั้นน่าจะปวดหลังน่าดู เขาไม่อยากให้หวานของเขาต้องมาลำบาก
แต่ว่า ร่างกายของเขากลับไม่ให้ความร่วมมือ
แต่ว่าลั่วประเมินแรงกายตัวเองต่ำไป ตอนนี้กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายของเขาไม่เหลือแรงอยู่แม้แต่น้อย ตอนพยายามจะลุกขึ้น เขาก็ล้มลงที่พื้นทันที
“ฟุ่บ!”
เสียงตกเตียงของลั่วปลุกนาราให้ตื่นขึ้นมา เธอลืมตาขึ้นมาแล้วก็ตกใจที่เห็นว่าลั่วตกลงไปอยู่ที่พื้น “พี่ลั่ว เป็นอะไรไปเนี่ย?”
ลั่วรู้สึกอายจนหน้าร้อนไปหมด ขายขี้หน้าจริงๆ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ทั้งร่างกายของเขาตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออยู่เลย
แต่เพื่อที่จะรักษาหน้าตาไว้ เขาก็ไม่พูดหรอกนะว่าเขาตกลงมาน่ะ เขาตอบอย่างอ้ำๆอึ้งๆว่า “อ้อ ถ้าฉันบอกว่าฉันอยากจะนอนพื้นเพราะว่าพื้นมันเย็นดี เธอจะเชื่อมั้ย?”
กลางดึกแบบนี้ นาราหัวเราะจนน้ำตาไหลเพราะคำพูดพวกนั้น
เธอเช็ดน้ำตาของตัวเอง แล้วก็รีบเข้าไปพยุงลั่วที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมา
ถึงแม้ว่าลั่วจะผอมลงไปเยอะ แต่ว่าร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาเมื่อเทียบกับนาราแล้ว ยังถือว่าเธอต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากกว่าจะพาเขากลับขึ้นเตียงได้
หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ล้มลงบนเตียงด้วยกัน
นาราล้มทับลั่วทั้งตัว เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนและรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ว่า ลั่วกอดเอวของนาราไว้แน่น แล้วขอร้องเธอออกมาว่า “หวาน นอนข้างฉันแล้วเฝ้าฉันหลับได้มั้ย?”
ตอนนั้นนาราอยากจะปฏิเสธ แต่ว่าเห็นท่าทีที่เจ็บปวดของลั่วแล้ว เธอก็พูดไม่ออก
“ฉัน…”
“หวาน ก็แค่นอนอยู่ข้างๆฉันเอง เธอดูสิ ตอนนี้ฉันอ่อนแอขนาดนี้ ก็เลยอยากให้เธอนอนเป็นเพื่อนฉันซักหน่อย ได้มั้ย?”
พอเห็นสายตาวิงวอนของลั่วแล้ว นาราก็ปฏิเสธไม่ออก ได้แต่นอนข้างๆเขาอย่างเชื่อฟัง
โชคดีที่เตียงนี้ค่อนข้างใหญ่ เธอเลยพยายามนอนให้ห่างเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้