The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 260 ที่รักไปห้องนอนเถอะ
ตอนที่ 260 ที่รักไปห้องนอนเถอะ
เมื่ออยู่ต่อหน้าสัญญาหนี้ที่มีลายเซ็นของพิมมี่แล้ว เขมินท์ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องยอมประนีประนอม
การจัดการของคาสิโนนี้อำมหิตมาก ขนาดคนมีเงินยังไม่กล้าทำอะไรพวกเขา นอกจากจะยอมรับแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นอีกรึไง?
จากนั้นหลังจากพาพิมมี่จะชอกช้ำกลับมาได้แล้ว เขมินท์ก็ไม่อาจฝืนกลั้นน้ำตาแห่งความปวดร้าวไว้ได้อีก
พิมมี่ถูกเธอเลี่ยงมาตั้งแต่เล็ก ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลย ใครจะรู้ว่าจะต้องรับชะตาอัปยศ กลายเป็นของเล่นของชายโสโครกคนนั้น
เมื่อมองพิมมี่ที่มีความผิดปกติทางจิตใจอย่างเห็นได้ชัด เขมินท์ก็ร่ำไห้อย่างเจ็บปวด ทำได้เพียงเชิญจิตแพทย์ชั้นนำมาให้คำปรึกษาที่บ้านเป็นกันส่วนตัวเท่านั้น
ช่วงเวลานั้น ทุกวันเมื่อถึงตอนเย็น พิมมี่จะกุมหัวร้องไห้ หดตัวอยู่ในมุมเอาแต่พูดวนไปมา “ ไม่นะ ไม่เอา “
เมื่อเห็นภาพนั้นหัวใจของเขมินท์ก็แตกสลาย นี่คือลูกที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย นารานังสารเลวนั่น ถึงกับทำให้ลูกสาวของเธอต้องเป็นแบบนี้ มโนธรรมมันเน่าเฟะไปแล้วสินะ!
รู้อย่างนี้เธอจะหย่าก็บุรินทร์ไปตั้งแต่ตอนนี้แล้ว และจะไม่ยอมให้นังเด็กนั่นเหยียบเข้ามาได้แน่!
ทุกครั้งที่เขมินท์เห็นลูกสาวของตัวเอง ก็ต้องด่าว่านาราอยู่ในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะนาราตกทะเลตายไปแล้วเธอก็ยังอยากจะลากศพนังนั่นออกมาจากหลุมมาเฆี่ยนซะ
วันนี้เขมินท์กำลังขับรถไปซื้อยาให้กับพิมมี่ ตอนที่รอไฟแดง เธอก็หันไปเห็นเด็กชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่กำลังเกาะหน้าต่างรถโดยบังเอิญ
ขณะเขมินท์รอไฟแดงอย่างเบื่อหน่ายจึงมองเด็กชายน้อยอย่างสนใจ แต่กลับทำให้เธอเจอคนที่ไม่เคยคิดแม้แต่จะฝันเห็น
นารา!
เขมินท์ไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ไม่ผิดแน่ คนที่นั่งอยู่ในรถ ไม่ใช่นาราแล้วจะเป็นใคร?
หากเธอเข้าใจผิดเรื่องที่นังเด็กนั่นตายล่ะก็ งั้นเธอก็พุ่งชนได้จริงๆ แล้ว!
นอกจากนี้ข้างๆ นาราก็คือคณพศ เขมินท์รู้ ตัวเธอไม่จำคนผิดแน่
ดูเหมือนว่าตอนนั้นนาราจะยังไม่ตายและถูกคณพศซ่อนเอาไว้ ขนาดลูกของพวกเขายังโตมาขนาดนี้แล้ว
ใบหน้าของเขมินท์บิดเบี้ยวไปด้วยความเกลียดชัง พวกเขาล้ำเส้นกันเกินไปแล้ว เธอมองไปที่นารา ต้องได้คณพศคุ้มกะลาหัวอยู่แล้ว งั้นลูกสาวของเธอล่ะ? ทำไมต้องได้รับการปฏิบัติที่ไร้ความยุติธรรมแบบนี้?
ในใจเขมินท์สาปแช่งให้นาราไม่ได้ตายดี ขณะขับรถตามหลังพวกเขาไปเงียบๆ
ความเคียดแค้นคับแน่นอยู่ในใจของเธอ แทบอยากจะขับรถไปชนนาราที่นั่งอยู่ในรถนั่นให้ตายไปซะ
แต่เมื่อเธอคิดอย่างรอบคอบก็ถอยกลับมา
ไม่ ชีวิตของเธอมีค่ามากกว่านาราหลายเท่านัก เธอมีร้อยพันวิธีที่จะฆ่านังแพศยานั่นได้ อย่าเอาตัวเองไปแลกดีกว่า
นารา ล้างคอรอไว้เถอะ ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่ง ฉันจะให้เธอได้ลิ้มรสชาติของการตกนรก!
หลังจากเขมินท์สาปแช่งนาราในใจแล้ว จึงขับรถเปลี่ยนไปเลนอื่น
ส่วนคนขับรถของคณพศนั้นเห็นอยู่แล้วว่ามีรถคันหนึ่งตามตัวเองมาตลอด ขณะกำลังชั่งใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับคณพศดีหรือไม่ รถคันนั้นขับเปลี่ยนไปใช้ถนนอีกสายหนึ่งแล้ว
หรือแค่ใช้เส้นทางเดียวกันงั้นเหรอ?
คนขับส่ายหน้า แล้วขับรถต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ
ไม่นานรถก็ขับมาถึงบ้านของตระกูลปัญญาพนต์ คนขับจอดรถ คณพศผลักประตูเดินออกไปก่อนช่วยเปิดประตูให้นารา “ ที่รัก เชิญ “
นาราอุ้มมิราลงมาจากรถ ยืนบนลานใหญ่ของตระกูลปัญญาพนต์อีกครั้ง เธอพลันรู้สึกเหมือนรอดชีวิตมาจากภัยพิบัติ
“ ที่รัก เราไปกันเถอะ”คณพศพูดมือข้างหนึ่งจูงมือนาราและอีกข้างก็อุ้มมิราเอาไว้แล้วเดินไป
ทั้งสามเดินข้ามสนามกว้างไปอย่างรวดเร็ว มาถึงหน้าอาคารหรูหรา
หญิงรับใช้คนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูนานแล้ว เพื่อรอต้อนรับนาราและคณพศอย่างนอบน้อม
“ สวัสดีค่ะคุณชาย คุณหญิง “
“ อืม ดีมาก ไปเถอะ “ คณพศโบกมือให้คนใช้แยกย้ายไปได้จากนั้นจึงจูงมือนาราเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่
ทันทีที่เข้าไปในห้องเสียงทุ้มหนาก็ดังออกมา “ ชายสาม ในที่สุดเธอก็กลับมาดูคนแก่ใกล้ลงโลงอย่างฉันแล้วเหรอ? “
คณพศเงยขึ้นมอง ทันใดนั้นก็พบว่าเป็นกษาปณ์นั่นเอง
นาราเห็นกษาปณ์อยู่แล้ว แต่เธอที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ไม่เจอกันไม่กี่ปี กษาปณ์ดูแก่ลงไปขนาดนี้ได้ยังไง? เหมือนกับว่าแก่ลงไปมากเลย
สำหรับกษาปณ์ที่ไม่ต้องการจะเจอตัวเธอ ในใจนารารู้สึกไม่สบายใจนิดๆ กังวลว่ากษาปณ์จะพูดอะไรไม่ดีออกมา
คณพศรับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของนารา เขาจึงบีบมือเธอเพื่อบอกว่าไม่ต้องห่วง
“ คุณปู่ มาได้ยังไงครับ? “ คณพศถามอย่างประหลาดใจ เรื่องที่เขากลับมาก็ไม่ได้บอกคนอื่นสักหน่อย
“ ฮึ “ แม้ว่ากษาปณ์จะแก่แล้ว ถึงคณพศเมินเฉยต่ออำนาจของเขา แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ดูแลตระกูลปัญญาพนต์มาหลายสิบปี เป็นธรรมชาติที่จะดูน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย
“ ชายสาม นึกว่าเธอไม่บอกว่าจะกลับแล้วฉันจะไม่รู้จริงๆ เหรอ? หลายปีมานี้เธอเอาเหลนชายของฉันไปซ่อนไว้ ไม่พามาให้เจอเลยสักนิด ใจร้ายจริงๆ เลยนะ ปู่แก่แล้ว ยังขยับได้อีกนานเท่าไหร่กัน? เธอใจร้ายขนาดนี้ได้ยังไง? ทำไมไม่ให้ฉันอยู่กับเขานานอีกสักหน่อยล่ะ? “
กษาปณ์นั้นดูเหมือนจะหนักแน่น แท้จริงแล้วน้ำเสียงนั้นกลับแฝงความตัดพ้อ เขาแก่แล้ว คงจัดการเรื่องของวัยรุ่นมากไม่ได้หรอก อีกอย่างคณพศก็ไม่ยอมให้เขาทำด้วย
เอาเถอะ งั้นก็ไม่สนแล้ว
แต่ทำไมถึงกับไม่ให้เจอแม้แต่หน้าเหลนล่ะ?
หลายปีนี้ เขาเอาแต่คิดถึงหลายชายของตัวเองทุกวัน แต่กลับทำอะไรไม่ได้
เจ้าคณพศ ไม่แค่เอาเหลนชายเขาไปอยู่ต่างประเทศ ยังสั่งผู้อำนวยการสนามบินเมืองธิตกลไม่ให้เขาออกนอกประเทศได้
จากนั้น ผู้อำนวยการสนามบินก็กลายมาเป็นแขกประจำของบ้านเขา และโดนเขาด่าซะเสียคนอยู่บ่อยๆ
กษาปณ์เอาความโมโหทั้งหมดโยนใส่หัวผู้อำนวยการสนามบิน และเมื่อวานนี้ ผู้อำนวยการนั่นก็หลุดปากออกมาว่าคณพศจะกลับมาพร้อมกับมิราและนารา
กษาปณ์ที่รู้ว่าหลานตัวเองจะพาเหลนกลับมาก็ตื่นเต้นจนหลับไม่ลง เขามาถึงที่นี่ก่อนฟ้าจะสางซะอีก เพียงเพื่อจะมานั่งรอคณพศพาเหลนของเขากลับมา
ส่วนนารานั้นเขาได้ยินมาแล้วว่าตอนนั้นเธอยังไม่ตาย
ตอนที่ได้ยินว่านารายังไม่ตาย กษาปณ์ก็ผ่อนความรู้สึกผิดไปได้ส่วนหนึ่ง เขารู้ว่าตัวเองจะยุ่งมากเรื่องอีกไม่ได้ เพราะเจ้าคณพศคงจะกลายเป็นปีศาจที่ปกป้องเมียตัวเองโดยไม่สนว่าเขาจะเป็นถึงปู่ของตัวเองแล้วล่ะ
ในเมื่อเป็นอย่างนั้น กษาปณ์จึงยอมถอยออกมา เขาแค่อยากอยู่กับเหลนของตัวเอง คณพศชอบนารา งั้นก็ปล่อยพวกเขาไปหวานแหววกันเถอะ
โลกของคนหนุ่มสาว คนแก่หงำเหงือกอย่างเขานับวันก็ยิ่งไม่เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ