The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 266 ฉันจะเสียใจยังไม่ทันเลย
ตอนที่ 266 ฉันจะเสียใจยังไม่ทันเลย
นาราที่ไม่ได้เจอไลลา รู้สึกจิตใจไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไหร่ เธอได้ขับรถอย่างเรื่อยเฉื่อย
ขับไปได้ไม่นาน ก็มีรถคันหนึ่งมาขวางรถเธอไว้
นาราที่รู้สึกรำคาญ คิดว่าเขมินท์จะมาหาเรื่องเธออีกแล้ว แต่ครั้งนี้เธอคิดผิด
คนที่มาขวางเธอไว้นั้นเป็น คณพศที่ได้รับข้อความจากมิรา
ขณะนั้นที่คณพศกำลังประชุมอยู่ เขาได้รับข้อความที่ส่งมาจากมิรา เขาได้ทิ้งทุกคนไว้ในห้องประชุม
รีบขับรถออกไปหานารา กลัวว่านาราจะเป็นอะไร
“นารา เธอเป็นอะไร? เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? คนที่สะกดรอยตามเธอละ?”
เห็นใบหน้าที่ตกใจของคณพศ ทำให้นารารู้สึกขำและหัวเราะออกมา
คนที่เลือดเย็นอย่างคณพศ ก็มีคาวที่ตัวเองลุกลี้ลุกลนได้
แต่มันก็อบอุ่นนะ
“อ่อ ฉันแค่เจอเขมินท์ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขมินท์ได้ไปแล้ว”
คณพศที่ได้ฟังนาราอธิบาย ก็ยังไม่ได้วางใจเท่าไหร่” เขมินท์ เขาสะกดรอยตามเธอทำไม?
แล้วนารา เขมินท์ได้ทำอะไรเธอหรือเปล่า? มาให้ฉันดู”
คณพศดึงตัวนาราไป เขาได้เช็คตัวนาราตั้งแต่หัวจดเท้า คณพศยังไม่วางใจ นารา ยังมีที่ที่ฉันไม่เห็นอีกมั้ย
รีบบอกฉัน ตอนนี้ฉันร้อนใจมาก
นาราได้ทนไม่ได้ที่จะหัวเราะ ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากพูด” มิราทำสายตามองบนไปที่คณพศ
คุณพ่อ แถวนี้ยังมีลูกของใครบางคน และยังไม่ได้ถูกพูดและถามไถ่ถึงเลย!”
คณพศได้โบกมือ “ลูกไปไหนก็ไป คุณแม่ต้องสำคัญที่สุดสิ!”
มิราที่เสียใจได้กระดกปากขึ้น มิราได้ไปสาปแช่ง คณพศอยู่ข้างๆ
นาราเห็นมือของคณพศที่อยู่ไม่นิ่งและเกือบจะล้วงเข้าไปในเสื้อเธออยู่แล้วนั้น
นาราได้รีบจับมือของคณพศ “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ แต่ตอนนี้ฉันจะโดนนายลวนลาม”
“นารา? นี้จะเรียกว่าลวนลามได้ไง? ฉันเป็นห่วงเธอมากนะคณพศได้แสดง !” ใบหน้าที่น้อยใจ
คณพศไม่ยอมห่างนาราไปไหน “นารา เธอไม่ได้ถูกเขมินท์ทำร้าย ฉันก็สบายใจแล้ว”
นารารู้ดีว่าฝีมือทางการทะเลาะวิวาทของเธอนั้น ด้อยกว่าคณพศ เธอเลยไม่อยากที่จะไปทะเลาะกับเขา
นาราพูดอย่างน้อยใจว่า “ฉันไม่ได้ถูกทำร้าย เขมินท์แค่มาทะเลาะกับฉัน แล้วเขาก็จากไป”
คณพศไม่ยอมปล่อยมือที่จับตัวที่อ่อนนุ่มของนาราอยู่ “นารา เขมินท์มาทะเลาะกับเธอใช่มั้ย?
เขมินท์เป็นผู้หญิงที่บ้าจริงๆ”
นาราก็ได้ส่ายหัว “เหมือนเขามาเพราะเรื่องของพิมมี่ ตอนนี้อาการของพิมมี่ไม่ดีเท่าไหร่”
“นั้นเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับ เขาทำตัวเขาเอง ก็ต้องเจอแบบนี้ ฮึ่ม!” คณพศได้ยอมรับอย่างเปิดเผยว่า” ใช่
ลูกน้องฉันเป็นคนลักพาตัวพิมมี่ แล้วเอาไปขายที่บ่อนพนันใต้ดิน เห็นเธอชอบแย่งผู้ชายกับคนอื่น ฉันก็เลยให้พิมมี่ท์ได้ลิ้มรสของผู้ชายที่หลากหลาย “
คณพศได้พูดประโยคอันน่ากลัวนี้ออกมาด้วยใบหน้าที่นิ่ง ในใจของนารารู้สึกหนาวเย็น ถ้าเกิดวันไหนฉันทะเลาะกับนาย นายไม่ทำแบบเดียวกันกับที่ทำกับพิมมี่หรอ?”
คณพศเริ่มรนแล้ว คณพศรีบเอามือไปปิดปากของนาราไว้ “เธอย่าพูดแบบนี้ ฉันจะทำกับเธออย่างนั้นได้อย่างไร?”
เธอเป็นชีวิตของฉันนะ ถ้าไม่มีเธอ ฉันจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร ฉันไม่ยอมให้เธอคิดแบบนี้แน่
นาราได้เหวี่ยงมือของคณพศออกไป “ไอคนปากหวาน ฉันคิดไม่ออกเลยว่านายจะเป็นผู้นำของพนักงานในบริษัทได้อย่างไร?”
“เฮ้ยๆ นารา พนักงานในบริษัทนั้น ฉันไม่ต้องไปนำพวกเขาหลอก ปกติพวกเขาก็ตั้งใจทำงานอยู่แล้ว
หรือว่านาราของฉันเป็นห่วงฉัน” รู้ว่าฉันเหนื่อย คณพศได้ยิ้มอย่างมีความสุข
นาราก็ได้มองไปที่คณพศด้วยสายตาที่มองบน “ใช่ นายคงเหนื่อยแหละ ฉันเห็นนายเข้าบริษัทนับครั้งได้เลย”
มันแน่นอนอยู่แล้ว “ใช้สมองในการทำงานย่อมเหนื่อยกว่าใช่แรงในการทำงาน”. คณพศขมตัวเองไม่หยุด
ไม่ได้สนใจนาราและมิราที่มองเขาด้วยความเหยียดหยาม
ช่างมันเถอะ “เธอพูดถูกหมด นายเป็นคนที่ลำบากที่สุดในโลกแบบนี้พอใจหรือยัง” นาราก็ได้ถอนหายใจและพูดว่า
“นายทำแบบนี้กับพิมมี่ท์มันเกินไปหรือเปล่า? เพราะอย่างไรก็ตามเธอก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนะ”
“พิมมี่เป็นผู้หญิงที่หน้าซื่อหลังหลอกที่สุดที่ฉันเคยเจอมา” คณพศไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มาก” ถ้าเขาคิดว่าตัวเองมีความแค้นที่ถูกใส่ร้าย จะทวงความยุติธรรมก็ให้มาทวงกับฉันได้ แต่ถ้าเธอยังมีความคิดที่จะทำร้ายคนในครอบครัวฉัน ฉันจะทำให้พวกเขาหายไปจากโลกนี้ไป!”
นารารู้ว่าใบหน้าที่โหดเหี้ยมของคณพศในตอนนี้ คือใบหน้าที่คณพศโกรธถึงขีดสุดแล้ว นาราก็เลยเปลี่ยนหัวเรื่อง
“เออ ถ้าเธอมีเวลาว่างช่วยไปสืบให้หน่อย ว่าไลลาเขาเป็นอะไร?”
“ไลลา ไลลาเป็นอะไรหรอ?” คณพศรู้สึกสงสัยและมึนงง
นาราได้ตีไปที่คณพศหนึ่งที” ไลลาได้ไปประเทศอังกฤษกับฉันเมื่อไม่นานนี้เอง และเธอได้ทิ้งข้อความใส่กระดาษไว้
และได้หายตัวไปเลย แต่วันนี้ฉันได้ไปที่บ้านของไลลา แม่เธอบอกว่าเธอไปเที่ยวต่างประเทศยังไม่กลับมา
ฉันรู้สึกไม่สบายใจเลย”
คณพศได้คิดอยู่สักพัก “อ่อ ทำไมหรอ ไลลาได้หายตัวไปหรอ?”
“ฉันไม่แน่ใจ ฉันไม่กล้าเล่ารายละเอียดให้กับแม่ของนาราฟัง กลัวแม่ของไลลาจะเป็นห่วง
ฉันเลยอยากให้นายช่วยส่งคนไปสืบเรื่องนี้ให้หน่อย”
คณพศเมื่อได้ยินนาราพูดประโยคนี้ออกมา เขาก็ดีใจมาก นี้หมายความว่านาราได้เชื่อใจในตัวเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว
ไม่มีเรื่องอะไรจะทำให้คณพศดีใจไปมากกว่านี้ได้
“ได้เลย อะไรที่เธอต้องการฉันจะทำให้ ฉันจะส่งคนไปสืบที่ประเทศอังกฤษเดี๋ยวนี้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศอังกฤษกันแน่”
เมื่อคณพศพูดจบ เขาก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถึอส่งข้อความไปให้กับลูกน้องเขาในประเทศอังกฤษ
ให้ไปเช็คว่าไลลามีประวัติการเข้าออกประเทศอังกฤษมั้ย
“นารา เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ลูกน้องคนฉันทำงานได้ดีมาก อีกไม่นานพวกเขาก็จะตอบกลับมา”
นาราก็ได้แค่พยักหน้า” ก็ดี หวังว่าจะไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับไลลานะ”
“ตอนนี้ก็ได้เวลากินข้าวเที่ยงแล้ว เดียวฉันจะพาเธอไปกินข้าวเที่ยงนะดีมั้ย? เพื่อเธอจะได้คลายเครียด” คณพศดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ คณพศได้ทิ้งรถของตัวเองไว้ข้าง และขับรถของนาราพาพวกเขาไปกินข้าวเที่ยง
ถึงคณพศจะส่งคนไปสืบที่ประเทศอังกฤษแล้ว แต่นาราก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าผลมันจะเป็นอย่างไร
เธอได้กินอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
คณพศเห็นใบหน้าที่โศกเศร้าของนาราแล้วเธอก็ได้ใช้มือหยิกไปที่หน้าของนารา “เออ เธอไม่ต้องไปกังวลแล้ว
ไลลาเขาดูเป็นคนฉลาดนะ เขาไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”
“ตอนนี้ก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น” นาราได้พยักหน้าอย่างหมดหนทาง งั้นเราก็ได้แค่รอฟังข่าวจากประเทศอังกฤษนั่นแหละ