The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 27 ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ
ตอนที่ 27 ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ
คนใช้รีบก้มหน้าลง “แต่นายน้อยไม่ได้นั่งรถเข็น เดี๋ยวตื่นมาแล้วจะไม่มีรถเข็น”
ลุงบีมขมวดคิ้ว “ไปทำงานไป”
หลังจากที่คนใช้เดินจากไป ลุงบีมรีบเอารถเข็นของคณพศเข้าไปไว้ในห้องนอนของนารา แต่พอเขาเห็นทั้งสองที่นอนอยู่บนเตียง เขาเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขารีบเอารถเข็นวางเอาไว้แล้วเดินออกมาเบาๆ
ผ่านไปสักพัก นาราลืมตาขึ้นมา หล่อนมองเห็นใบหน้าที่หล่อเหลา หล่อนสะดุ้งนิดหน่อย เมื่อคิดถึงคำพูดของเขาเมื่อคืน “จากนี้ไปพวกเราจะต้องนอนห้องเดียวกัน”
หล่อนหูร้อนขึ้นมาทันที เงยหน้ามองดูเขาที่กำลังหลับอยู่ ปกติเขาตื่นเช้าไม่ใช่หรอ ทำไมจนป่านนี้แล้วยังไม่ตื่นอีก หล่อนมองดูผิวของเขา ใบหน้าที่หล่อดูดีกำลังหลับตาอยู่ ขนตายาวงอน โอ้โห ผู้ชายคนนี้ดูแล้วสวยกว่าผู้หญิงอีกนะเนี่ย
ริมฝีปากของเขาบางมาก มีคนบอกว่าผู้ชายที่ริมฝีปากบางจะเป็นคนที่ไร้ความรู้สึก หรือเขาจะเป็นแบบนั้นนะ เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้ที่หล่อนยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็แอบจูบหล่อน หูของหล่อนก็ร้อนขึ้นมาทันที หล่อนจับมือเขาออกเบาๆคิดจะขยับตัวออกมา
มือใหญ่หนาโอบเอวหล่อนเอาไว้แน่นขึ้น “ที่รักแอบดูฉันตั้งนานคิดว่าอย่างไรบ้าง”
นารารีบถอยออก “ฉันไม่ได้แอบมองฉันแค่อยากลุกแล้ว”
เขาใช้มือโอบแล้วดันตัวขึ้นมาทับตัวหล่อนเอาไว้
นาราตกใจ “คุณคณพศคุณจะทำอะไร” เขาทำไม ขาของเขาไร้ความรู้สึกไม่ใช่หรอ
“แอบดูฉันแล้วจะยังคิดหนีอีก เธอว่าฉันจะทำอะไร คุณภรรยาที่รัก” เขาพูดหยอกแล้วจ้องหล่อน
หา เขาคิดจะทำอะไร
“ฉัน ฉันไม่ใช่คุณภรรยาที่รักของคุณนะ คุณออกไปนะฉันยังไม่ทันตั้งตัวอะไรเลย” หน้าหล่อนแดงราวกับลูกแอปเปิล ใช้แรงทั้งหมดผลักตัวเขาออก
“ไม่ใช่ภรรยาของฉันงั้นเธอคือใคร” เขาจ้องเธอตาเขม็ง นาราสะดุ้งรีบเงยหน้าขึ้นมองดูเขา สีหน้าเขาดูเย็นชา
“ยังจะต้องเตรียมอะไรอีก เธอคือภรรยาของฉัน เรื่องที่ต้องทำหลังแต่งงานพวกเรายังไม่ได้ทำนะ”
นาราตื่นเต้นจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว เรื่องในคืนนั้นหล่อนยังไม่ทันได้สืบให้แน่ชัดเลย ผู้ชายคนนี้จะทำเรื่องนั้นกับหล่อนจริงหรอ
หล่อนใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีเงยหน้าสบตาเขา “คุณคณพศถึงฉันจะแต่งงานกับคุณแล้วแต่ก็ต้องรอให้ทั้งสองเตรียมพร้อมก่อนคุณทำแบบนี้กับฉันในขณะที่ฉันยังไม่พร้อมมันมีผลต่อจิตใจของฉันนะคะ”
คณพศมองดูหล่อนที่อยู่ข้างล่างเขา มีผลกระทบหรอ หล่อนบอกว่าเรื่องในคืนนั้นมีผลกระทบต่อจิตใจของหล่อน มือทั้งสองข้างของเขาดันตัวเองจนไปนั่งอยู่บนรถเข็นแล้วออกจากห้องนอนของหล่อนไป
นารามองดูรถเข็นออกไปลับตา หล่อนวิ่งเข้าห้องอาบน้ำไป ในใจเต้นแรง ผู้ชายคนนี้หาเรื่องหล่อนทุกวัน ไม่ให้เขาทำเขาก็โกรธอีก เห้อ
นาราใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วลงมาข้างล่างเห็นเขานั่งอยู่บนโซฟาอย่างสง่างาม บนโซฟายังมีคนอีกคนนั่งอยู่ด้วย อายุราวๆสี่สิบกว่าใบหน้ายิ้มแย้ม
เห็นหล่อนเดินลงมาก็รีบลุกขึ้น “คุณนายน้อยสามสวัสดีครับ ผมลุงไผ่ พ่อบ้านของตระกูลปัญญาพนต์คุณกษาปณ์ให้ผมมารับคุณกับนายน้อยกลับบ้าน เตรียมงานเลี้ยงฉลองอายุครบแปดสิบปีของท่านครับ”
นาราพยักหน้าแล้วรีบหันไปมองคณพศ แต่เขาไม่แม้แต่จะมองหล่อน เขาก้มหน้าดูไอแพค ไม่ว่าจะยังไงผู้ใหญ่ก็ส่งคนมารับแล้ว หล่อนคงจะบอกว่าไม่ไปไม่ได้ แบบนี้คนจะว่าให้ได้ว่าตระกูลวรชัยลภัสไม่สั่งสอน
“จะไปเมื่อไหร่คะ” หล่อนถามคณพศ
เขาก้มหน้าดูแต่ไอแพค “คุณกลับไปก่อน ตอนเย็นพวกเราจะกลับไปกินข้าวด้วย” คำพูดนี้เขาพูดกับลุงไผ่
“ได้ครับนายน้อย งั้นผมขอตัวกลับก่อน” เขาพยักหน้าให้นาราแล้วเดินออกจากห้องรับแขกไป
นารามองดูผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟา “ต้องกลับไปจริงๆหรอคะ”
เขาวางไอแพคลงแล้วตบไปที่โซฟาข้างๆตัวเขา “เธอเก็บของเลยเดี๋ยวตอนเย็นพวกเราจะกลับบ้านปัญญาพนต์กัน พวกเราจะไปอยู่ที่นั่นสามวัน เอาของใช้ที่จำเป็นไป ที่นั่นฉันมีเสื้อผ้าอยู่แล้ว เอาแค่ของเธอไปก็พอ”
นารานั่งลงข้างๆตัวเขา “กลับไปฉลองวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของคุณปู่ ฉันไม่ไปได้ไหม”
“ไม่ไปไม่ได้ เธอกลัวอะไร เธอเป็นภรรยาของฉันแค่อยู่ข้างๆฉันก็พอแล้ว” เขามองดูหล่อนที่กำลังหลบสายตาเขา เขายิ้มขึ้นที่มุมปาก
“ได้เดี๋ยวฉันขอเก็บของก่อน” ไม่ช้าก็เร็วเรื่องนี้ก็ต้องถูกเปิดเผย หล่อนไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้หล่อนรู้ว่าครั้งนี้พอไปถึงบ้านปัญญาพนต์เขาก็คงรู้เรื่องที่หล่อนไม่ใช่พี่สาว
หล่อนไม่แม้แต่จะกินข้าวก็เดินกลับขึ้นไปชั้นบน สายตาคู่นั้นจ้องมองตามหลังไป นาราฉันให้โอกาสเธออีกครั้งถ้าหากเธอบอกความจริงกับฉัน ฉันจะหาวิธีช่วยไม่ให้เธอถูกคุณปู่ลงโทษ
แต่หล่อนกลับเดินตรงขึ้นไปข้างบน คณพศได้แต่มองตามหล่อนเดินเข้าไปในลิฟต์
นาราขึ้นไปถึงชั้นบนหล่อนอยู่ที่ระเบียง มองดูทะเลที่สงบตรงหน้า เรื่องที่ควรมาก็คงต้องมา หนีไม่พ้นงั้นก็เผชิญหน้ากับมันเถอะ
หล่อนเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็น
ห้าโมงเย็นคณพศเปิดประตูห้องนอนของนารา หมุนรถเข็นเข้ามา “ทำไมให้เธอไปเจอคุณปู่ เธอกลัวขนาดนั้นเลย แอบอยู่คนเดียวทั้งวัน ยังจะคิดแอบไปถึงเมื่อไหร่ ได้เวลาออกเดินทางแล้วคุณภรรยา
“……” หล่อนไม่ได้แอบสักหน่อย แล้วก็ที่เขาเรียกคุณภรรยาจะอ้วก
บนชายหาดข้างนอกลุงบีมเตรียมรถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นาราเข็นรถเข็นมาหยุดอยู่ข้างๆรถ คนใช้ยกกระเป๋าเดินทางเข้าไปไว้ในรถ
ลุงบีมพยุงคณพศเข้าไปนั่งในรถ รถแล่นออกจากชายหาด
นารานั่งอยู่ข้างหลัง วินาทีที่รถแล่นออกมานั้นใจของหล่อนก็เต้นไม่เป็นจังหวะ
คณพศมองดูหล่อนที่กำลังตื่นเต้น เขาจึงเปรยขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัวมีฉันอยู่ เธอแค่ยืนอยู่ข้างๆฉันก็พอแล้วเข้าใจไหม”
นารามองดูเขาสายตาของเขาดูอบอุ่นมาก หล่อนไม่รู้ว่าที่เขาทำดีให้หล่อนคือแกล้งทำหรือดีจริงๆ
แต่ ณ เวลานี้หล่อนต้องพึ่งเขา หล่อนจ้องสบตาเขาแล้วพยักหน้า
คณพศยื่นมือมากุมมือหล่อนเอาไว้ ถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกกระจกรถ
มือของเขาทั้งใหญ่และอบอุ่น เขาใช้นิ้วลูบที่ฝ่ามือของหล่อนเบาๆ นาราหูแดงขึ้นมาทันที
คณพศเล่นมือของเล่นแบบนี้มาตลอดทางจนมาถึงบ้านปัญญาพนต์ที่บ้านหลังนี้ก็ยังคงเหมือนคราวที่แล้วมีคนใช้มายืนรอเป็นแถว ลุงบีมขับรถมาจอดไว้ที่สนามหญ้าอันกว้างใหญ่ คนใช้รีบเอารถเข็นเข้ามารับ
คณพสมองดูนาราที่กำลังตื่นเต้นเขาจับมือหล่อนเอาไว้แน่น “ไม่ต้องกลัวมีฉันอยู่”
ณ เวลานั้นนารารู้สึกได้ว่าเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าหล่อนไม่ใช่พิมมี่ สายตาของเขาไม่ได้โกหกและประชดหล่อน
เวลานี้ก็มีคนใช้มาเปิดประตูรถ แล้วทำความเคารพนารา “คุณนายน้อยสามเชิญค่ะ