The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 303 กษาปณ์ลาจากโลก คณพศปกคลุมด้วยบาดแผล
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 303 กษาปณ์ลาจากโลก คณพศปกคลุมด้วยบาดแผล
ตอนที่ 303 กษาปณ์ลาโลก คณพศปกคลุมด้วยบาดแผล
ศุกลนำทีมแพทย์ช่วยเหลืออยู่เป็นเวลานาน แต่สุดท้ายก็ไม่อาจยื้อชีวิตกษาปณ์ไว้ได้ เขาหลุบลาลงอย่างเสียใจ พูดกับนาราว่า “ขออภัยอย่างยิ่ง นายท่านหัวใจล้มเหลว ท่านไปแล้ว เตรียมการเรื่องพิธีศพเถอะครับ”
นาราก้าวเซถอยหลังไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ เห็นแค่แพทย์ผู้ช่วยที่คลุมร่างของกษาปณ์บนเตียงด้วยผืนผ้าขาวบริสุทธิ์
เห็นกษาปณ์ที่โมโหเดือดดาลจะเอาไม้เท้าตีเธอเมื่อไม่นานมานี้จากไปแบบนี้แล้ว น้ำตานาราก็ไหลออกมา จะทำยังไง! ชีวิตคนเรามันเปราะบางเช่นนี้ อีกทั้งคณพศที่ถูกโซ่อยู่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาไม่รู้ว่าคุณปู่ที่รักเขาที่สุดนั้นจากเขาไปแล้ว แต่เขาก็ยังนอนหลับตาอยู่บนเตียง
สถานการณ์ของเขาเลวร้ายลงเรื่อยๆ น่ากลัวว่า….
ไม่!
ไม่ได้นะ!
นาราผุดความคิดน่ากลัวนิดๆ ขึ้นมาในใจ แล้วรีบส่ายหัวสลัดมันออก เธอต้องถูกการตายของกษาปณ์รบกวนจิตใจแน่ ทึกทักไปแบบนั้นได้ยังไงกัน!
คณพศจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน ต้องไม่เป็นไร!
“คุณผู้หญิง งานศพของนายท่าน จะทำยังไงครับ?”คำถามเสียงเบาของศุกลปลุกนาราขึ้นมาจากภวังค์ ยังไงก็อยู่ในฐานะอดีตประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ การเสียชีวิตของกษาปณ์จะต้องทำให้เมืองธิตกลตกใจไม่น้อยแน่
นาราจึงดึงสติกลับมาได้ พูดกับศุกล “ตอนนี้คณพศป่วยเป็นแบบนี้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน คุณโทรหาวิษณุส์เถอะ ถือโอกาสให้มุขพลกับรัมพรกลับมาด้วย”
“ครับ”ศุกลพยักหน้า ต่อสายถึงวิษณุส์ ดูเหมือนว่าในตอนนี้ คงจะทำได้เพียงเท่านี้
ตอนที่วิษณุส์รับสายของศุกล ก็กำลังเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ตัวใหม่ในห้องทำงานของตัวเองพอดี บทเพลงไพเราะดังเสนาะในหู สบายอารมณ์สุดจะบรรยาย
สำหรับการจากไปอย่างกะทันหันของกษาปณ์นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวังเลย แม้กษาปณ์จะมักจะลำเอียงให้คณพศมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อได้ยินข่าวการเสียชีวิตของเขา ก็ยังคงหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเศร้า
แต่ไม่นานมันก็โล่งใจขึ้นมา คุณปู่ตายแล้ว เจ้าขยะคณพศก็กลายเป็นสภาพนั้นไปอีก หึหึ ตระกูลปัญญาพนต์ทั้งหมด ในที่สุดก็ตกเป็นของเขา วิษณุส์คนนี้แล้ว!
ทันใดนั้นวิษณุส์ก็อยากจะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น ฟ้าเข้าข้างเขาจริงๆ ! ไม่มีตอนไหนจะสมบูรณ์แบบเท่าตอนนี้อีกแล้ว!
แต่งานเฉพาะก็ยังต้องทำ วิษณุส์รีบให้คนแจ้งกับพ่อแม่ที่อยู่ยุโรป จากนั้นจึงจัดคนไปนำร่างของกษาปณ์กลับมาจากโรงพยาบาล แล้วจัดงานศพให้เขาอย่างยิ่งใหญ่ พิธีทั้งหมดดำเนินไปอย่างรวดเร็วและนอบน้อม
ในตอนที่มุขพลและรัมพรกลับมา วิษณุส์ก็ได้ฝังศพกษาปณ์เรียบร้อยแล้ว
มุขพลและรัมพรต่อว่าวิษณุส์ยกใหญ่ว่าอกตัญญู ที่เขาทำให้ปู่โมโหจนขาดใจตาย
และเย้ยหยันถากถางนารา
นารากัดฟันทน เธอไม่แคร์พ่อแม่พันนั้น แต่ปวดร้าวแทนคณพศ นี่มันพ่อแม่แบบไหนกัน ลูกชายตัวเองเป็นถึงขนาดนี้พวกเขายังจะมาด่าทอกันอีก!
จากการเสียชีวิตของกษาปณ์ ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ก็ตกลง ชาวเมืองธิตกลที่เดิมเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมกับบริษัทตระกูลปัญญาต์พลันตื่นตระหนกขึ้นมา ต่างเทขายหุ้นในมือไปด้วยความหวั่นกลัว
สำหรับเรื่องพวกนี้ ไม่ได้อยู่ในสายตาของคณพศเลย เขารู้สึกว่านี่เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดจากการผลัดเปลี่ยนใหม่ของตำแหน่งประธาน แค่ให้เวลาเขาสักหน่อย จะต้องทำให้สถานการณ์ที่เสียเปรียบนี้พลิกกลับมาเป็นผลกำไรได้ในไม่ช้าแน่
ในขณะเดียวกัน นารากำลังนอนกระสับกระส่ายอยู่ในโรงพยาบาลเอกชน เธอไม่ได้ออกไปจากประตูโรงพยาบาลนานมากแล้ว เพราะบาดแผลบนตัวคณพศนั้นลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ใกล้จะถึงจุดที่จะเน่าเต็มที
ทุกๆ วันนาราจะช่วยคณพศล้างแผลพุพองเหล่านั้นด้วยความรักและเอาใจใส่ เธอไม่รังเกียจกลิ่นเหม็นพวกนั้น ในใจแทบอยากจะรับความเจ็บปวดนั้นไว้แทนคณพศ
แต่อาการอยากยาของคณพศนับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เขากินอะไรไม่ลงทั้งนั้น แม้แต่น้ำก็ดื่มคำคายคำ ดำรงอยู่ได้ด้วยการฉีดสารอาหารละลาย ร่างกายที่ผอมหนังหุ้มกระดูกนั้นไม่ต้องพูดถึง ราวกับเป็นคนละคนกับรูปลักษณ์หล่อเหลาอย่างเมื่อก่อน
วันนี้ ขณะนารากำลังช่วยคณพศล้างแผลด้วยความระมัดระวัง เธอขยับอย่างระวังและรอบคอบ กลัวว่าจะทำให้คณพศเจ็บ แต่ถึงอย่างนั้น คณพศก็ยังตื่นขึ้นมา
มองนาราที่ผอมแห้งราวไม่ใช่คนปกติไปแล้ว คณพศเจ็บปวดรวดร้าว เขาเอ่ยเสียงกระซิบอย่างขุ่นมัว “ที่รัก คุณไปเถอะ ไปจากผม ไปจากที่นี่ อย่ามาสนใจคนสภาพใกล้ตายอย่างผมเลย”
อ่างใส่น้ำในมือของนาราหล่นลงกับพื้นดัง“เคร้ง” เธอไม่นึกว่าคณพศจะตื่นมาตอนนี้ ยิ่งไม่นึกว่าเขาจะถึงกับพูดแบบนี้!
ทำไมต้องพูดว่าตายด้วย?
เธอไม่ยอมให้เขาตายเด็ดขาด!
นารากำมือแน่น กัดริมฝีปากอย่างแรงเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา “พูดแบบนั้นได้ยังไง? คณพศ คุณจะไม่ตาย และก็จะตายไม่ได้ด้วย! คุณตายแล้ว ฉันกับลูกจะทำยังไง? คุณเคยบอกว่าจะมีน้องสาวอีกคนให้มิราไม่ใช่เหรอ! คุณจะคืนคำได้ยังไง! ทำไมไม่รับผิดชอบคำพูด!”
คณพศได้ยินคำต่อว่าของนารา น้ำตาสองสายก็ไหลลงมา เขาเค้นพลัง แล้วจึงพูดต่อ “ที่รัก ขอโทษนะ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ผมคงต้องผิดคำกับคุณแล้ว ร่างกายของตัวเองผมรู้ดี ร่างกายนี้รับภาระหนักมากแล้ว ไม่ช้า ผมคงต้องจากไป แต่ผมไม่อยากให้คุณมาเห็นสภาพที่น่าสมเพชแบบนี้ของผม ถึงผมจะตายไปแล้ว ก็ยังหวังว่าในใจของคุณจะยังมีคณพศที่ดูดีที่สุดตลอดไป ไม่ใช่คณพศที่น่าเวทนาเหมือนกับซากแมลง ที่รัก คุณสัญญากับผมสิ ไปจากผม ให้ผมตายไปอย่างเงียบๆ ให้ศักดิ์ศรีครั้งสุดท้ายกับผม””
น้ำตาของนาราร่วงหล่นราวกับหยาดฝน ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเจ็บปวด แต่เธอไม่ปวดร้าวเท่ากับวันนี้มาก่อน คำพูดของคณพศในวันนี้เหมือนมีดคมที่เสียดแทงทรวงอก ปักลงบนอกเธอซ้ำแล้วซ้ำแล้ว คมมีดโชกเลือด กรีดหั่นหัวใจในทุกประโยค!
เขาพูดแบบนั้นออกมาอย่างใจเย็นขนาดนั้นได้ยังไง! ยอมแพ้กับตัวเขาเองแบบนั้นได้ยังไง?!
ไม่! เธอไม่ยอม! ไม่ยอมเด็ดขาด!
“คณพศ ฉันจะบอกให้ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปเป็นยังไง คุณก็ไปจากฉันไม่ได้ คุณจะทิ้งฉันกับมิราไปไม่ได้! คณพศ ในตอนที่ฉันยังไม่หมดหวังในตัวคุณ คุณก็ห้ามยอมแพ้กับตัวเองเด็ดขาด! ตอนนี้ฉันจะไปหาศุกล ให้เขาคิดวิธีรักษาคุณ คุณห้ามท้อแท้ ห้ามหมดหวังนะ!”
นาราร้องไห้ไปพูดคำพูดพวกนั้นไป แล้วจึงหมุนตัววิ่งออกจากห้องผู้ป่วย เธอต้องไปหาศุกล ขอให้เขาช่วยคณพศ!
นาราโซซัดโซเซมาถึงห้องวิจัย ศุกลกับอาจารย์ของเขากำลังทดลองยาที่จะใช้รักษาพิษในตัวของคณพศไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
พวกเขาล้มเหลวไปเท่าไหร่แล้ว แต่กลับยังไม่พบยารักษาที่ถูกต้องเลย ร่างกายที่แย่ลงเรื่อยๆ ของคณพศ ยิ่งทำให้ความกดดันในใจของพวกเขายิ่งหนักขึ้น
“ศุกล พวกคุณยังไม่ได้ยารักษาอีกเหรอ? ฉันขอร้อง เอาชีวิตของฉันไปเปลี่ยนให้เขา เอาเลือดของฉันไปให้เขา! ฉันขอเพียงแค่ให้เขามีชีวิตรอดก็พอ!”นาราพูดไม่เป็นภาษา หวาดกลัวที่จะเจอกับการส่ายหน้าและถอนใจของศุกล