The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 312 เผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 312 เผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย
ตอนที่ 312 เผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย
คณพศยังคงพยายามลุกขึ้นนั่ง “ไม่ได้ ฉันต้องกลับไป ยังไงฉันก็ต้องไปหานาราเพื่อคุยกับเธอ ที่เธอพูดแบบนั้นกับมิรา แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่!”
หมอศุกลรีบไปยืนข้างยชญ์และพูดห้ามคณพศ “คุณคณพศ ตอนนี้คุณกำลังรักษาร่างกาย แม้แต่เทวดาก็ไม่สามารถทำให้ร่างกายคุณฟื้นตัวได้เร็วขนาดนั้น ดังนั้นคุณนอนลงไปเถอะ เรื่องคุณนาราผมกับยชญ์จะจัดการให้ คุณนาราเป็นคนดี ต้องไม่มีเรื่องอะไรแน่นอน”
“คณพศ นายเชื่อฟังหมอเถอะ มีพวกเราอยู่ ฉันจะรีบไปหานารา ไม่แน่มิราอาจจะพูดเล่นก็ได้ นาราอาจจะไปซื้อของใช้ให้นายก็ได้” ยชญ์กลัวว่าคณพศจะไปตามหานารา จึงรีบพูดปลอบใจเขา
คณพศส่ายศีรษะ “ไม่จริง เมื่อคืนนาราอยู่กับฉันทั้งคืน นัยน์ตาของเธอซ่อนสิ่งที่ฉันไม่รู้ไว้มากมาย ตอนนี้ฉันรู้แล้ว นาราต้องมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดออกมาได้แน่นอน”
คณพศฉุกคิดขึ้นได้ จึงหันไปถามหมอศุกล “ใช่สิ หมอพูดว่าเมษาเคยมาที่นี่หรอ”
“ใช่ครับ คุณคณพศ วันนี้ตอนผมเข้ามาที่นี่ ผมเห็นเมษายืนอยู่ในห้องนี้ ผมไม่รู้ว่าเธอมาได้อย่างไร เธอเอายารักษามาให้ผม ผมเลยรีบเอายาไปทดสอบว่าจริงหรือปลอม พอผมกลับมาเธอก็หายไปแล้ว” หมอศุกลพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรู้สึกผิด “ทั้งหมดเป็นความประมาทของผมเองครับ ผมน่าจะจับเธอเอาไว้ ไม่น่าปล่อยเธอไปเลย ผมนี่โง่จริงๆ”
ความสงสัยเกิดขึ้นในใจของคณพศ เมษาใช้ความกล้าอย่างมากเพื่อที่จะวางยาเขา แต่ตอนนี้กลับหายารักษามาช่วยเขา เรื่องนี้มันไม่ปกติแน่ๆ
“ยชญ์ ประคองฉันหน่อย ฉันต้องกลับไปที่บ้าน เดี๋ยวนี้ จะเสียเวลาไม่ได้อีกแล้ว” คณพศพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หมอศุกลรู้สึกลำบากใจ “คุณคณพศ คุณเพิ่งจะรับการรักษาได้ไม่นาน ร่างกายยังไม่ฟื้นตัว เกรงว่าจะขยับตัวมากไม่ได้ครับ”
“ใช่ นายเพิ่งโดนทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด” นายควรพักผ่อนให้มากๆ นายอยากจัดการอะไรสั่งพวกเรามาได้เลย” ยชญ์พยายามพูดห้ามคณพศเพราะรู้สึกว่าความคิดของคณพศไม่ดีนัก
ด้วยนิสัยของคณพศที่เป็นคนเฉียบขาดมีไหวพริบ คำแนะนำของยชญ์และหมอศุกลทำให้เขาขมวดคิ้ว “ไม่ได้ การที่เมษามาที่นี่เธอต้องบีบบังคับภรรยาฉันเป็นแน่ ตอนนี้ภรรยาของฉันหายไป จะให้ฉันนิ่งนอนใจได้อย่างไร ไม่ว่ายังไง ฉันจะต้องกลับไปที่บ้าน อีกทั้งนานแล้วที่ฉันไม่ได้เจอมิรา”
คณพศพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ยชญ์และหมอศุกลก็ไม่รู้จะห้ามเขาได้อย่างไร จึงไปนำรถเข็นมาให้คณพศและประคองเขานั่งลงบนรถเข็น จากนั้นจึงขับรถไปหามิรา
ระหว่างทาง คิ้วของคณพศขมวดอยู่ตลอดเวลาบวกกับสีหน้าซีดของเขาที่ป่วยจากการโดนวางยา มองดูแล้วช่างทุกข์ระทมเหลือเกิน
ในใจของคณพศเต็มไปด้วยความกังวล เขาเป็นห่วงนารามาก ตลอดเวลาที่เขาป่วยเธอดูแลเขาไม่ห่าง แต่ตอนนี้เธอกลับหายไป การที่เมษาส่งยารักษามาให้ เพราะนาราต้องไปตอบตกลงทำตามเงื่อนไขของเมษาแน่นอน
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเงื่อนไขของเมษาคืออะไร แต่ในใจของคณพศกลับวุ่นวายไปหมดแล้ว เขาเป็นคนที่ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ไม่กลัวตาย ไม่กลัวเจ็บ แต่สิ่งเดียวที่เขากลัวคือ เขากลัวเสียเธอไป !
“ยชญ์ ขับให้เร็วกว่านี้หน่อยได้ไหม!” เขาเร่ง รู้สึกว่ารถเคลื่อนตัวช้าเหลือเกิน
ยชญ์ที่รับหน้าที่ขับรถถึงกับพูดไม่ออก นี่รถเฟอร์รารี่ตัวใหม่ล่าสุดนะ ตอนนี้ความเร็วก็ 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วนะ นี่ยังถือว่าช้าอีกหรอ
แต่ยชญ์ก็เข้าใจจิตใจที่ว้าวุ่นของคณพศ เขาเหยียบคันเร่งจนมิด เสียงพุ่งตัวของรถเฟอร์รารี่ตัวใหม่ปราดเปรียวราวกับเสียงกระสุน รถมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของคณพศ
ไม่นานพวกเขาก็ถึงคฤหาสน์ ยชญ์และหมอศุกลพาคณพศออกมาจากรถ จากนั้นจึงเข็นเขาเข้าไปในคฤหาสน์
คณพศนั่งอยู่บนรถเข็น มองดูดอกไม้กระดาษสีขาวที่แขวนอยู่บนประตูคฤหาสน์ สีหน้าแสดงอาการไม่พอใจ จึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมเอาสิ่งอัปมงคลมาแขวนไว้หน้าประตูบ้านแบบนี้”
ยชญ์กับหมอศุกลมองหน้าสลับกันไปมา ใช้สายตาที่รู้ซึ่งกันและกัน ไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องที่กษาปณ์เสียชีวิตกับคณพศดีไหม
“ทำไมไม่พูด! ” เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่ยอมพูด น้ำเสียงของคณพศก็ยิ่งเย็นชาเข้าไปอีก “พูดสิ ทำไมถึงต้องเอาดอกไม้กระดาษมาแขวนไว้หน้าประตู!”
แม้น้ำเสียงและใบหน้าของคณพศจะเย็นชา แต่ในใจของเขากลับกังวลว่าสิ่งที่เขาคาดเดาจะเกิดขึ้นจริงๆ
ยชญ์และหมอศุกลกระอักกระอ่วนไม่รู้จะพูดออกมายังไง ป้าอ้ายเดินออกมาจากห้องในคฤหาสน์ เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น น้ำตาพลันไหลออกมา “คุณชาย คุณชายกลับมาแล้ว พระคุ้มครองให้คุณชายของบ้านเรากลับมาอย่างปลอดภัย”
คณพศเห็นน้ำตาแห่งความดีใจอาบแก้มของป้าอ้าย เขาจึงถามป้าอ้ายไปตรงๆ “ป้าอ้าย ทำไมถึงแขวนดอกไม้กระดาษไว้บนประตู”
รอยยิ้มของป้าอ้ายยังอยู่บนใบหน้า ป้าอ้ายประหลาดใจ “คุณชาย ไม่รู้หรอคะว่าคุณท่านกษาปณ์เสียชีวิตแล้ว ตอนที่คุณท่านกษาปณ์เสียชีวิตไม่ได้วางไว้ที่คฤหาสน์ตระกูลปัญญาพนต์ คุณวิษณุส์บอกว่าคุณชายโกรธคุณท่าน จึงให้จัดงานศพง่ายๆ ที่คฤหาสน์”
คำพูดของป้าอ้ายเหมือนฟ้าผ่าลงที่ตัวคณพศ ถึงแม้เขาจะคาดเดาสิ่งที่น่ากลัวเหล่านี้ไว้ แต่ในใจของเขาก็แอบหวังถึงเรื่องดีๆเอาไว้ คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่เขาคาดเดาไว้จะเกิดขึ้นจริงๆ
คณพศเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง ร่างกายของเขาสั่นเทา เขาต้องเก็บอาการเจ็บปวดเอาไว้ภายใน เสียงของเขาพลันแหบพร่า “ผมเป็นคนทำให้คุณปู่ตาย คนที่สมควรตายจริงๆ คือผม!”
เขาจับที่วางแขนของรถเข็นไว้แน่น ค่อยๆ เงยหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ตอนที่คุณปู่จากไป ท่านจากไปอย่างสงบใช่ไหม”
คณพศหันไปหาหมอศุกลที่ยืนอยู่ข้างเขา “หมอ คุณเป็นหมอของตระกูลเรา ตอนนี้ผมอยากให้คุณพูดความจริง ตอนที่คุณปู่จากไป ท่านจากไปอย่างสงบใช่ไหม เพราะโรคอะไรทำให้คุณปู่ต้องจากไป”
หมอศุกลลังเลเล็กน้อยและถอนหายใจออกมา “คุณคณพศ วันนั้นที่คุณวิษณุส์พี่ชายของคุณพาคุณปู่มาโรงพยาบาล ท่านเห็นคุณที่โดนล่ามโซ่และบ้าคลั่งเพราะผลข้างเคียงจากการโดนวางยา ทำให้คุณปู่โกรธจนโรคหัวใจกำเริบครับ”
“ผมนึกแล้วว่าต้องเป็นเพราะผม…” คณพศก้มหัวลงอย่างรู้สึกผิด โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจำสภาพตอนบ้าคลั่งเพราะผลข้างเคียงจากการโดนวางยางได้รางๆ คิดไม่ถึงว่าคุณปู่จะโกรธจนทำให้โรคหัวใจกำเริบ เขาทำให้คุณปู่ผิดหวังในตัวเขา