The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 360 มิราปลุกแม่
ตอนที่ 360 มิราปลุกแม่
ยชญ์ทำอะไรเร็วมาก ไม่นานก็ยกเลิกสัญญาทุกอย่างกับบริษัทTMและฟ้องร้องบริษัทTMในข้อหาหลอกลวงปกปิดบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ทำให้บริษัทมีการเสียหายสาหัส รวมไปถึงผู้บงการเรื่องนี้ วิลเลียมกับเจมม่า ก็ถูกฟ้องร้องเช่นเดียวกัน
ผู้พิพากษาประกาศในวันนั้นทันทีว่าการหลอกลวงของบริษัทTMเป็นเรื่องจริง ตัดสินบริษัทตระกูลปัญญาพนต์เป็นผู้ครอบครองBYLเพียงผู้เดียว ไม่ว่าจะการค้าหรือบุคคลใดก็ไม่สามารถที่จะครอบครองเป็นของตนเองได้ วิลเลียมกับเจมม่า ถูกระวางโทษปรับเงินและทำประโยชน์ให้กับสาธารณะเป็นเวลาสองปี
คณพศไม่มีความสนใจกับการตัดสิน เขาเอาภาพทุกภาพที่นาราออกแบบเก็บอย่างเรียบร้อยไว้ในโต๊ะทำงานของเขา
ถึงแม้เขาจะไม่มีความกล้าที่จะไปเปิดดูแล้ว แต่ลอยน้ำตาที่อยู่ในนั้นบ่งบอกว่าเขาเป็นคนเลือดเย็นขนาดไหนตลอดเวลา
เพื่อที่จะหาเบาะแสของนารา คณพศให้คนไปสืบหาทั่วโรมัน ข่าวที่ได้มามีแต่ข่าวที่นาราเคยอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง เป็นเวลาหนึ่งปี
ในวันนี้เขาสั่งให้คนถอยออกไปหมด แม้กระทั่งยชญ์ก็ไม่ให้ตามหลัง ไปที่บ้านหลังนั้นคนเดียว
แต่ในบ้านไม่มีใครอยู่แล้วทั้งนั้น แต่อุปกรณ์วาดภาพและต้นไม้ที่นาราเคยปลูกยังอยู่ ตอนนี้กำลังเจริญเติบโตได้ดีมีดอกไม้สีแดงบานออก
คณพศ เดินอยู่ในบ้านช้าๆ เดินรับรู้ความรู้สึกที่ภรรยาตัวเองยังอยู่
หายใจเข้าลึกและหลับตาเขาเหมือนจะเห็นภรรยาของตัวเองนั่งอยู่ที่ไม้ตั้งวาดรูป ซึมเศร้าแล้ววาดภาพทีละนิดๆ และสิ่งที่หยดลงพื้นก็คือน้ำตาของภรรยา
คณพศ มีน้ำตาคลอเบ้า เขาจากนอกบ้านเดินเข้าไปในบ้าน ดันประตูออกกลิ่นแมกโนเลียพุ่งเข้ามาในจมูก
กลิ่นอ่อนๆ ทำให้ใจนิ่ง คณพศทนไม่ไหวเอามือกอดตัวเอง เหมือนเขาทำแบบนี้แล้วได้กอดภรรยาของตัวเองไว้ในอ้อมกอด
แต่การรอคอยเป็นสิ่งที่ยาวนาน คณพศ จำเป็นจะต้องกลับมาในโลกความจริง ในบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความเหงา เขาบอกกับตัวเองว่าภรรยาไปจากที่นี่นานแล้ว
เขาเดินอยู่ในห้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า มองดูการใช้ชีวิตของภรรยา ห้องครัวของเธอ ห้องนอนของเธอ รวมไปถึงห้องอาบน้ำ……
ห้องที่ว่างเปล่าแต่มีวี่แววขอภรรยาเต็มไปหมด แต่กลับไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของเธอต้องขึ้น
คณพศ นอนอยู่บนเตียงที่นารานอนอย่างเงียบๆ เหมือนกับว่าตอนนี้เธออยู่เคียงข้างของเขา เขาพูดพึมพำว่า “นาราถ้าเธออยากจะลงโทษฉันก็พอแล้วนะ ตอนนี้ฉันมีบาดแผลเต็มไปหมดแล้ว เธออย่าโหดร้ายกับฉันขนาดนี้ได้ไหม? เธอกลับมาเร็วเได้ไหม? ไม่มีเธอแล้วฉันจะใช้ชีวิตยังไง!”
คณพศอยู่ในบ้านที่นาราเคยอยู่สามวันสามคืน ไม่กินไม่ดื่มสักอย่าง
ตอนที่ ยชญ์หาเจอ เขาผอมจนไม่เหมือนคนแล้ว
ยชญ์ โกรธจนจะเป็นบ้า “คณพศ นายดูสิว่าตอนนี้นายเป็นหน้าตายังไง?! ก็แค่เรื่องนิดเดียวก็ทำให้นายเป็นแบบนี้ได้! นายควรจะตั้งสติแล้วไปหาพี่สะใภ้ไม่ใช่หรอ? ยังมีมิราที่รอให้นายไปดูแลนะ! นาย……!”
เพราะโกรธเกินไปไป ยชญ์กระชากคณพศที่อยู่บนเตียง กำลังจะปลุกให้เขาตื่น ถึงจะพบว่าร่างกายของเขาร้อนเหมือนไฟ “แม่จ้าวนี่เป็นไข้หรอ! พระเจ้าช่วยทำไม่ใช่เพราะฉันมาที่นี่นายจะตายที่นี่เลยใช่ไหม?! ทำไมนายขี้ขลาดแบบนี้!”
ถึงแม้จะโกรธ ยชญ์ก็ทนเห็นคณพศไม่สบายแบบนี้ไม่ได้ เข้าไปดึงตัวคณพศที่ส่งใหญ่ขึ้น อุ้มออกจากบ้านและเอาเขาเข้าไปไว้ในรถ จากนั้นพาเขาไปจัดที่ที่ทำให้เขาเสียใจ
ในตอนที่คณพศกำลังผอมแห้งเพราะนารา นารากำลังต่อสู้กับความตาย ทุกวันนี้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนร่างกายก็ต้องกินแต่อาหารเหลวที่ส่งเข้าไปในร่างกาย
ในห้องนอกจากเสียงอุปกรณ์ดังแล้วยังมีเสียงของเคนโด้ที่พูดไม่หยุด
“นารา ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงของฉัน วันนี้เธอสบายดีไหม? ดีขึ้นบ้างไหม? จะต้องหายไวๆ นะ”
“นารา เธอคือผู้หญิงที่เข้มแข็ง ฉันเชื่อว่าเธอจะเดินออกจากฝันร้ายตัวเองได้ ยังมีชีวิตที่เหลือที่ดีมากมายรอเธออยู่,”
“นารา เธอจะต้องเข้มแข็งไว้ วันนี้ฉันแอบเอาต้นกระบองเพชรมาไว้ที่หน้าห้องเธอ อยากให้เธอมีชีวิตเหมือนต้นกระบองเพชรที่ไม่ยอมแพ้”
“นารา ฉันเอาต้นกระบองเพชรมาให้เธอวันละหนึ่งต้น นี้เป็นต้นที่23แล้ว เธอจะลืมตาออกไปดูเมื่อไหร่?”
“นารา วันนี้คือตอนที่59แล้ว นางพยาบาลแจ้งมาแล้วว่าถ้าฉันยังไม่เอาไป ก็จะเอาไปทิ้งที่ถังขยะ”
“นารา ผู้อำหน่วยการโรงพยาบาลตกลงให้ฉันเอาต้นกระบองเพชรไว้หน้าห้องแล้ว ตอนนี้คือต้นที่97แล้วนะ ฉันรอเธอฟื้นมานะ รีบฟื้นมานารา!”
“นารา นี่คือต้นที่ 199 แล้ว เด็กผู้หญิงที่ขายต้นกระบองเพชรคิดว่าฉันชอบเธอก็เลยไปซื้อต้นทุกวัน ฮ่าๆ เธอว่าตลกไหม? นาราฉันรอเธอฟื้นอยู่ สู้ๆ นะ!”
นารา นอนอยู่บนเตียง เสียงภายนอกเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอ เธอเหมือนกำลังเดินอยู่ในถนนที่เต็มไปด้วยหมอกควัน
ถนนเส้นนั้นชื้น ไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีคน แม้กระทั่งเสียงก็ไม่มี
นารา วนเวียนอยู่ที่นี่หลายวันแล้ว ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน ด้านหน้าด้านหลังก็ยังคงเป็นหมอกควันเหมือนเดิม
เธอไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ได้ยังไง เธอลืมกระทั่งชื่อของตัวเอง
ใช่สิเธอคือใคร? มาจากไหน?
นาราพยายามคิด แต่สมองก็ยังของโล่งเหมือนเดิม เธอก็เลยก้มหน้าลง เธอคิดไม่ออก คิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น
ในวันนี้เธอยืนอยู่กลางหมอกควันเหมือนเดิม แต่กลับพบว่ามีเงาวิ่งผ่านตรงหน้าเธอ
เธอไม่คิดอะไรและรีบวิ่งตามไป
เธอถูกขังอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว ยากที่จะได้เห็นเงาวิ่งผ่าน จำเป็นที่จะต้องถามให้รู้เรื่อง
นาราวิ่งตามเงานั้นจนหายใจแทบจะไม่ทัน แต่สุดท้ายก็จับได้ นั่นคือเด็กตัวน้อยคนหนึ่ง
นี่คือเด็กผู้ชายที่น่ารักมาก เส้นผมนุ่มๆ ตาสีฟ้าอ่อน กำลังยิ้มมาทางเธออย่างมีความสุข
“เธอคือใคร? ฉันคือใคร? ที่นี่คือที่ไหน?”
นารา ถามออกไปยังไม่รู้เรื่อง เด็กน้อยทำแต่ส่ายหัว เขาเข้าใกล้นารา มือเล็กๆ เข้าไปอยู่ในกำมือของเธอและเรียกเบาว่า “แม่”
คำเรียกนี้เหมือนเป็นฟ้าผ่าที่ผ่าลงกลางหัวของนารา ความทรงจำพุ่งเข้ามาในสมองเธอทั้งหมด ชีวิตที่ยากลำบากของเธออยู่ในพริบตา
ตกเหวทะเล คลอดลูก แก้พิษ หนี..