The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 374 slowออกโรงอีกครั้ง
ตอนที่ 374 slowออกโรงอีกครั้ง
สีหน้าของนาราในขณะนี้ซีดขาวเหมือนกระดาษ แต่เพื่อทำให้คณพศกลับไป เธอตัดสินใจเล่นตามน้ำไป “ใช่ค่ะ ประธานคณพศ ดึกขนาดนี้แล้ว เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่มีความสัมพันธ์ใดกับคุณอีกแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นคู่หมั้นของเคนโด้ อีกไม่นาน เราก็จะจัดงานแต่งกันแล้ว”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้!” คณพศเซถอยหลังไป ยชญ์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรกรับเขาเอาไว้
ยชญ์ที่มีอารมณ์รุนแรงมาแต่ไหนแต่ไร เขาประคองร่างซวนเซของคณพศเอาไว้ และด่าทอนารา “นารา ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้? เธอรู้ไหมปีที่ผ่านมานี้ คณพศเขาลำบากแค่ไหนในการตามหาเธอ ทำไมเธอถึงไปรักกับคนอื่นแบบนี้?”
นาราก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ ซ่อนน้ำตาที่คลออยู่นัยน์ตา
คณพศหันไปหายชญ์แล้วส่ายหัว เสียงหายใจเข้าออกของเขายังไม่สม่ำเสมอเพราะความเจ็บปวดใจเมื่อครู่ “อย่า อย่าใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับภรรยาของฉัน ฉันไม่อนุญาต”
“แต่ว่าคณพศ พวกเขา…” ยชญ์ยังไม่ทันจะพูดสิ่งที่คิดก็ถูกคณพศห้ามเอาไว้ก่อน “ยชญ์ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเราสามคน นายอย่ามายุ่งเลย”
ในเมื่อคณพศพูดแบบนี้แล้ว ยชญ์จึงไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก จริงๆ แล้วก็เป็นปัญหาของพวกเขาสามคน คนอื่นไม่ควรพูดอะไรมากมาย
คณพศหยุดคำถามซักไซ้ของยชญ์ไว้ เขามองนาราด้วยแววตาเป็นประกาย พูดออกไปอย่างใจสลาย “นารา ไม่ว่าเธอจะยอมรับหรือไม่ ทั้งชีวิตนี้เธอคือภรรยาของฉัน ก่อนหน้านี้เราแยกทางกันเพราะความเข้าใจผิด ตอนนี้ฉันหาเธอเจอแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้เธอหนีไปจากฉันอีก”
คำพูดของคณพศทำให้นาราน้ำตาเอ่อล้นที่ดวงตา แต่เธอไม่สามารถกลับไปกับคณพศแบบนี้ได้ ไม่ใช่แค่คำสาบานที่โดนบังคับนั่น แต่เพื่อเคนโด้ที่ทุ่มเทเพื่อเธออย่างเงียบๆ มาตลอดหลายปีด้วย
เธอตอบตกลงเคนโด้แล้ว จะจากไปแบบไม่สนใจอะไรเลยได้อย่างไร เธอเห็นแก่ตัวแบบนี้ไม่ได้
ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธคณพศออกไปด้วยเสียงเย็นชา “ระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรเข้าใจผิด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมามันเป็นอดีตไปแล้ว ประธานคณพศ เราต่างก็โตกันแล้ว สามารถรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำได้แล้ว ในเมื่อเราแยกทางกันแล้ว ได้โปรดอย่ามายุ่งเกี่ยวกันแบบนี้อีกเลยค่ะ”
ตัวของคณพศเซเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าการที่เข้าพยายามตามหาเธอทุกวิถีทาง ในสายตาของนาราคือการสร้างความวุ่นวายให้เธอ
“นารา คุณคิดจริงๆ ใช่ไหม ว่าผมคือคนที่กวนใจคุณ” เสียงของคณพศต่ำจนแหบพร่าเต็มไปด้วยความผิดหวังและเจ็บปวด “ที่แท้คุณก็มองผมแบบนี้นี่เอง แต่นารา ทั้งชีวิตของผมไม่สามารถทิ้งคุณไปได้ คุณจะแต่งงานกับคนอื่น อย่าหวังเลย”
ได้ฟังคำรักที่น่าหลงใหลของคณพศ ในใจของนาราเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบไม่มีที่สิ้นสุด
เธอมองคณพศด้วยดวงตาพร่าเลือนไปด้วยน้ำตา ส่ายหัวเบาๆ “ประธานคณพศ เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันเหนื่อยแล้ว ต้องการพักผ่อน ลาก่อนค่ะ”
พูดพลางนาราใช้แรงทั้งหมดที่เธอมีพยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเอง แล้วเดินกลับเข้าไป
คณพศกำลังจะก้าวตามเธอไป แต่ถูกเคนโด้รั้งไว้เสียก่อน “พี่ชาย นี่ก็ดึกมากแล้ว อีกทั้งพวกเราจะพักผ่อนแล้วด้วย คุณเข้าไปตอนนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสมสักเท่าไร”
เคนโด้ตั้งใจพูดให้คลุมเครือเพราะเขาอยากให้คณพศเข้าใจผิด จนยอมแพ้กลับไป
คณพศเชื่อแล้วจริงๆ เขาโกรธจนกำเสื้อคลุมของเคนโด้ แล้วพูดอย่างเยือกเย็น “เคนโด้ ฉันจะเตือนนายไว้นะ ถ้านายแตะต้องตัวเธอแม้แต่น้อย ฉันจะทำให้นายเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้อย่างแน่นอน!”
เคนโด้มองคณพศอย่างไม่เกรงกลัว “พี่ชาย แน่ใจเหรอว่าคุณยังมีสิทธิ์นั้น นาราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีกแล้ว”
“ไม่เชื่อนายก็ลองดู!” คณพศพูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลัง
เคนโด้ปิดประตูลง เขามองไปยังนาราที่หายลับไปตรงมุมบันได เขารู้ว่าคืนนี้เธอต้องนอนไม่หลับแน่นอน
เฮ้ออออ!
เคนโด้ถอนหายใจยาว จำใจเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง เจอเรื่องอะไรก็ต้องเผชิญหน้ากันทั้งนั้น อีกทั้งเขาก็ไม่อยากไปซ้ำเติม ให้เธอใจเย็นลง ให้นาราอยู่กับตัวเองสักพัก
นารากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาข้างหน้าต่างบนห้อง วันนี้เขาได้เจอคณพศทำให้นึกย้อนไปถึงวันเก่าๆ เห็นสภาพของเขาที่เจ็บปวดเหมือนตอนที่เขาเคยโดนสารเสพติดค่อยๆ กัดกร่อนทีละเล็กทีละน้อย ใจของเธอเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก
เธอเข้าใจดีว่าเธอต้องบังคับให้คณพศจากเธอไป แต่ทำไมเมื่อเธอเห็นสายตาที่แสนปวดร้าวของเขา ใจของเธอถึงเจ็บปวดแบบนี้นะ เธอควรจะทำอย่างไรดี?
ขณะเดียวกัน ข้างล่างอะพาร์ตเมนต์ของพวกเขา คณพศยังยืนทื่ออยู่ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองแสงไฟที่สว่างอยู่ตรงห้องของนารา แววตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์และลุ่มหลง
ยชญ์ถูจมูกไปมา เขายืนอยู่ข้างหลังคณพศ รู้สึกได้ว่าวันนี้พวกเขาต้องระงับอารมณ์จนแทบบ้า อีกทั้งเห็นใบหน้ากระยิ้มกระย่องของเคนโด้แล้วอยากจะซัดหน้าไอ้คนอวดดีที่มาคั่นกลางระหว่างนาราและคณพศให้ตายๆ ไปเสียจริง
แต่คณพศบอกว่าไม่ให้เขาเข้าไปยุ่ง เขาได้แต่ยืนมองแบบสะกดกลั้นอารมณ์โดยไม่สามารถทำอะไรได้
ยชญ์ยืนเป็นเพื่อนคณพศอยู่ข้างล่างอะพาร์ตเมนต์ของนาราอย่างเงียบๆ อยู่พักใหญ่ จนถึงดึกดื่นค่ำมืด
คณพศมองเห็นเงาของนาราหายไปจากหน้าต่าง จึงหันไปสั่งยชญ์ “ยชญ์นายรีบกลับไปเมืองธิตกล ไปพามิรามาที่นี่”
ยชญ์พยักหน้าหงึกๆ ดูเหมือนว่าคณพศจะหงายการ์ดความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวแล้วล่ะ!
ก็อย่างว่า ความสัมพันธ์แม่ลูก เขาไม่เชื่อว่าถ้ามิราออกโรงด้วยตัวเอง นาราจะยังดื้อรั้นไม่ยอมกลับไปกับคณพศอีก
“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ยชญ์พูดพลางก็เดินไปข้างหน้า แต่เขาเดินได้สองก้าวก็ต้องหยุดลง เขาหันไปถามคณพศอย่างสงสัย “แล้วนายล่ะ?”
“ฉันจะเฝ้าอยู่ที่นี่ กว่าจะหาเธอเจอมันไม่ง่ายเลย ฉันกลัวว่าพอเราไปแล้วเธอจะหายไปอีกครั้ง” คณพศพูดพลางโบกมือไปมา “รีบไปเถอะ ฉันว่ามิราก็ต้องคิดถึงแม่เขามากๆ”
ยชญ์เดินฉับๆ ออกไป เงาของยชญ์หายลับไปจากมุมถนน คณพศนึกขำขึ้นมา ช่างน่ารันทดใจจริงๆ
ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่ในสายตาของนาราเขากลายเป็นสิ่งที่มีหรือไม่มีก็ได้ ครั้งก่อนที่พาเธอกลับไปได้ก็เพราะเอาลูกชายมาเป็นข้ออ้าง ครั้งนี้ก็ใช้วิธีเดิมอีก ไม่มีอะไรน่าเศร้าไปกว่านี้อีกแล้ว
แต่ในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ แค่เกลี้ยกล่อมให้นารากลับบ้านได้ก็พอแล้ว ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใดเขาก็ยอมทำทั้งนั้น
ค่ำคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นนาราและเคนโด้ที่อยู่ข้างบนห้อง หรือว่าจะเป็นคณพศที่ยืนพิงเสาไฟถนนอยู่ข้างล่างด้วยความอ้างว้างเดียวดาย คืนนี้มันช่างเป็นค่ำคืนที่ยากจะหลับลงและทุกข์ระทมเสียจริง
บนท้องฟ้ามีกลุ่มดาวที่กะพริบระยิบระยับอยู่มากมาย เปรียบเหมือนความรู้สึกของพวกเขาแต่ละคน สับสนและวุ่นวายไปหมด
ปัญหาของนาราทำให้เธอนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน จนกระทั่งเกือบเช้าเธอถึงจะตื่นขึ้นมาอย่างมึนๆ