The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 375 คุณแม่ไปตั้งนาน ยังไม่กลับมาเลย
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 375 คุณแม่ไปตั้งนาน ยังไม่กลับมาเลย
ตอนที่ 375 คุณแม่ไปตั้งนาน ยังไม่กลับมาเลย
เธอเปิดประตูออกช้าๆ ในใจก็คิดว่าจะเผชิญหน้ากับเคนโด้อย่างไรดี จริงๆ แล้วเมื่อวานตอนที่คณพศมาหาเธอ มีอยู่วูบหนึ่งที่เธอรู้สึกลังเลใจว่าจะกลับไปกับเขาดีไหม
เธอเดินลงบันไดมาอย่างช้าๆ มองไปรอบๆ บ้าน ก็พบว่าเคนโด้ไม่อยู่
ในบ้านว่างเปล่า มีแค่อาหารเช้าที่เตรียมไว้แล้วในห้องครัว จานที่จัดวางอย่างประณีตมีไข่ดาวหอมฉุยกับแฮมแผ่น ข้างๆ มีขนมปังวางไว้ 2-3 แผ่น และข้างจานมีมิลค์เชควางไว้ 1 แก้ว อาหารส่งกลิ่นหอมฟุ้งเรียกน้ำย่อย
เธอรู้สึกลำบากใจ ค่อยๆ เดินตรงไปยังอาหารเช้าที่เคนโด้เตรียมไว้ บนฝาแก้วมิลค์เชคมีกระดาษโน้ตแปะไว้ ‘ผมไปบริษัท ไม่ต้องคิดเรื่องไร้สาระ กินอาหารเช้าและดูแลตัวเองด้วย’
มองลายมือที่คุ้นเคยบนกระดาษโน้ต ทำให้นารากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เขามักจะดูแลเธอเสมอ แล้วจะไม่ให้เธอรู้ลำบากใจได้อย่างไรล่ะ?
“ติ๊งต่อง!”
นาราเช็ดน้ำตากำลังจะนั่งลงทานอาหารเช้า เสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้น
เธอมองไปยังประตูอย่างสงสัย หมุนตัวเดินออกไป “มาแล้วค่ะ ใครคะ?”
ไม่มีเสียงตอบจากหน้าประตูแต่เสียงออดยังคงดังอยู่
นาราเปิดประตูด้วยความสงสัย ร่างเล็กโผเข้ากอดเธอเหมือนตัวโคอาล่า เสียงเล็กอ่อนหวานพูดออกมา “คุณแม่!”
ที่แท้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มิราคนที่ยชญ์ใช้เวลาทั้งคืนเพื่อไปรับมา
มิรากอดนาราเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เงยหน้าเล็กใสที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมามองนารา “คุณแม่ ผมคิดถึงคุณแม่มากๆ เลย ฮือ ฮือ แม่ไม่ต้องการมิราแล้วใช่ไหมครับ? ทำไมมาตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับไป?”
ขณะนั้นหัวใจของนาราแทบสลาย ดวงตาของเธอมีคราบน้ำตา ไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าเธอจากลูกชายของตัวเองมาปีกว่าแล้ว!
เห็นมิราสูงขึ้นจากตอนก่อนที่เธอจะจากมา หัวใจของเธอราวกับจะแตกสลาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นใบหน้าเล็กใสที่กำลังฟ้องใส่เธออยู่ตอนนี้ เพียงครู่หนึ่งเธอปล่อยโฮร้องไห้ออกมาเพราะความรู้สึกผิด “มิรา แม่ขอโทษ แม่ไม่ได้ไม่ต้องการหนูเลย!”
“แต่คุณแม่มาตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับไปสักที คุณแม่มิราคิดถึงคุณแม่มากๆ เลยครับ คิดถึงจนฝันเห็นคุณแม่เลย ตอนที่คุณแม่มา คุณแม่บอกว่าจะรีบกลับมา คุณพ่อบอกว่าหาคุณแม่ไม่เจอ มิราเสียใจมากเลยครับ”
มิราพูดพลางแววตาทุกข์ระทมอย่างน่าสงสาร “เมื่อ 2-3 วันก่อน ผมฝันเห็นคุณแม่ แต่ทุกครั้งที่ผมจะเข้าไปกอดคุณแม่ คุณแม่ก็หายไปเหมือนภาพลวงตา ฮือ ฮือ คุณแม่บอกผมทีว่าผมไม่ได้ฝันไป บอกผมทีว่านี่คือแม่จริงๆ”
คำพูดของมิราเหมือนมีดทื่อๆ ค่อยๆ เชือดลงไปที่หัวใจเธออย่างช้าๆ เจ็บปวดเหลือเกิน
ปีกว่ามานี้ เธอพยายามเก็บงำความรู้สึกทุกข์ทรมานที่คิดถึงลูกชาย ทุกนาที ทุกวินาทีเธอกังวลเหลือเกินว่ามิราจะคิดถึงเธอหรือเปล่า
เมื่อได้เห็นมิราที่คิดถึงเธอด้วยตาของตัวเอง ได้ยินเสียงร้องไห้ของมิราด้วยหูของตัวเอง ใจของเธอแหลกเป็นผุยผง ความเจ็บปวดความโมโหเอ่อล้นอยู่ในใจ
“โอ๋ๆ มิราเด็กดี แม่อยู่นี่ นี่แม่เอง มิราไม่ร้องไห้นะ แม่ขอโทษ” นารากอดมิราเอาไว้แน่น ใช้มือลูบบนศีรษะของเด็กน้อย แม่ลูกร้องไห้กอดกันกลม
ขณะนั้นคณพศก็เดินเข้ามา เรียกนาราด้วยเสียงทุ้ม “นารา”
ร่างกายของเธอแข็งทื่อ เธอแค่คิดเรื่องที่ได้เจอมิรา ดีใจจนร้องไห้ออกมา เธอลืมคณพศไปเลย
ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่ความคิดของคณพศ มิราจะมาที่นี่ได้ยังไงกัน?
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามิรา เธอก็เกรงใจไม่กล้าไล่คณพศออกไป จึงทำเป็นไม่ได้ยิน
“ลูกรัก ไหนบอกแม่สิว่าหิวหรือยัง? พอดีเลยในบ้านมีอาหารเช้าอยู่” นาราอุ้มมิราเดินกลับไปยังห้องครัวแล้วชี้ไปที่อาหารที่เคนโด้เตรียมไว้ให้เธอแล้วถามมิรา
มิราพยักหน้าหงึกๆ มือยังกอดนาราไว้ไม่ยอมปล่อย “คุณแม่ ผมเพิ่งนั่งเครื่องบินมาถึง หิวจังเลยครับ”
“งั้นหนูรอแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวแม่แบ่งอาหารเช้าให้” นาราพูดพลางตักอาหารเช้าในจานแบ่งให้มิรา
แน่นอนว่าตั้งแต่ที่มิราเข้ามาจนถึงตอนนี้เธอยังทำเป็นไม่สนใจคณพศ
คณพศคือใครกัน?
คณพศคือนักธุรกิจใหญ่ที่มีอำนาจ เจอกลอุบายหลอกลวงกันไปมาจนชิน การที่นาราทำเป็นไม่สนใจเขาในตอนนี้ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อความรู้สึกของเขาเลยสักนิด ในทางกลับกันเขายังนั่งด้วยท่าทางพออกพอใจอยู่ที่โต๊ะอาหาร
เขาเห็นว่าบนโต๊ะมีมิลค์เชคเพียงแก้วเดียว มีขนมปังอยู่ 2-3 แผ่น ในจานมีไข่ดาวและแฮม เขาสูดหายใจลึก “อ่า หอมจัง”
นาราดึงจานมาวางหน้าตัวเองและมิรา สีหน้าไม่แสดงอาการอะไร “นี่เคนโด้ทำ ฉันคิดว่าคงจะไม่ถูกปากประธานคณพศ”
ถ้านาราไม่พูดว่าเคนโด้เป็นคนทำอาหารเช้านี่ยังจะดีเสียกว่า เธอพูดแบบนี้ ทำให้คณพศเปลี่ยนคำพูดเมื่อครู่โดยฉับพลัน “โธ่ ตอนเช้ากินไข่ดาวมันไม่ดีต่อกระเพาะนะ แถมยังมีแฮมแผ่นเลี่ยนๆ นี่อีก”
“ประธานคณพศ ฉันก็ไม่ได้จะให้คุณกินหรอกค่ะ ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด” นาราคร้านจะสนใจเขา ตัดแบ่งไข่ดาวใส่จานเล็กให้มิรา
คณพศโดนนาราแขวะเข้าให้ เขากลับไม่โกรธแถมยิ้มอีกต่างหาก “แต่ผมไม่เลือกกิน ภรรยากับลูกกินอะไรผมก็กินอันนั้น”
นารากลอกตามองบน ตัดสินใจที่จะไม่สนใจคนหน้าไม่อายอย่างคณพศ เธอตักแบ่งอาหารให้มิราต่อไป จากนั้นก็นำไปให้ลูกชายอย่างระมัดระวัง “ระวังร้อนนะ”
มิราเป็นเด็กที่รู้ความ เด็กน้อยมีความรู้สึกไวรู้ว่าพ่อกับแม่กำลังงอนกัน
อีกทั้งระหว่างทางมาที่นี่ ลุงยชญ์บอกแผนการที่เขาต้องทำ แถมยังบอกว่าถ้าช่วยคุณพ่อไม่ได้ ไม่แน่ต่อไปอาจจะไม่ได้ใช้นามสกุลคุณพ่ออีก ต้องไปใช้นามสกุลคนอื่นแทน
เขาชอบนามสกุลคุณพ่อมากๆ ตอนนี้ยังไม่อยากเปลี่ยนไปใช้นามสกุลอื่น
ดังนั้น เพื่อนามสกุลของเขา ยิ่งไปกว่านั้นคือเพื่อคุณพ่อจะได้พาคุณแม่กลับบ้านอย่างราบรื่น เขาจำเป็นต้องช่วยคุณพ่ออย่างเต็มที่ถึงจะถูกต้อง
มิราหันไปหาคณพศแล้วแอบกะพริบตาให้เขา จากนั้นจึงดันจานของตัวเองไปให้คณพศ ตั้งใจกระแอมแล้วหันไปทางนารา “คุณแม่ ตอนที่มาเมื่อกี้คุณพ่อบอกว่าหิวจนปวดท้องไปหมดแล้ว คุณครูบอกว่าการเสียสละรู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่นเป็นการแสดงความนอบน้อมถ่อมตนอย่างมาก ผมยังไม่หิว ให้คุณพ่อกินก่อนได้ไหมครับ? ”
คณพศหยักหน้าขึ้นลงเหมือนไก่จิกข้าวเปลือก เลี้ยงมาตั้งนานใช้การได้ก็วันนี้ล่ะไอ้เจ้าลูกชาย
เห็นสายตาใสซื่อของมิรา นาราพยักหน้าอย่างจนปัญญา ช่างเถอะ ก็แค่ให้เขากิน
แต่อาหารเช้านี่น้อยไป ถ้าให้คณพศทานแล้วเธอกับมิราจะทานอะไรล่ะ?
นาราคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงลุกขึ้นไปเปิดเตาเตรียมทำอาหารเช้า
มิรานั่งเรียบร้อยอยู่หน้าโต๊ะอาหาร ใช้ช่วงที่นาราไม่ได้สนใจ หันไปถลึงตาใส่คณพศ มิราใช้นิ้วชี้ไปที่แม่ของตัวเองแล้วส่งสายตาเป็นสัญญาณให้พ่อ ‘รีบไปช่วยแม่สิ เจ้าทึ่ม’