The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 379 มิราหายตัวไป
ตอนที่ 379 มิราหายตัวไป
ในตอนนี้ผิวกายที่เคยเนียนใสของนาราเปลี่ยนเป็นสีชมพูเพราะรอยรัก เธอโกรธมาก สุดท้ายแล้วคนไร้ยางอายอย่างคณพศก็ทำสำเร็จ
แต่ในใจของเธอมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาน หวานปานน้ำผึ้ง
ในเวลานั้นเมื่อเห็นเขาทำสำเร็จแล้ว เธอเอามือผลักเขาออก “คณพศ คุณอยู่ห่างๆ จากฉันเลยนะ ให้ดี รีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”
คนที่สนองความพอใจสำเร็จไหนเลยจะฟังยอมฟัง เขาใช้มือตวัดตัวนาราขึ้นมาบนร่างของเขา มองแก้มของนาราที่เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่าพออกพอใจแล้วพูดออกไป “นารา ผมว่าของผมยังไม่ตายด้านนะ ผมคิดถึงคุณอีกแล้วอะ คุณไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ ทำยังไงดีล่ะ?”
นาราขบฟันกรอด ไอ้ผู้ชายคนนี้สมควรตายจริงๆ เขาไม่พูดเธอก็รู้สึกได้แล้ว เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเป็นบ้าอะไร เมื่อกี้เพิ่งทำไปหยกๆ ยังจะมีแรงทำอะไรอีก
แต่ครั้งนี้ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนาราจะไม่ยอมให้เขาทำสำเร็จ เธอยื่นมือไปบิดเนื้อตรงอกคณพศ “คุณนี่หน้าไม่อายจริงๆ ปล่อยฉันเร็วๆ มิรายังนอนอยู่ที่โซฟานะ ถ้าเคนโด้กลับมาตอนนี้ ฉันต้องเป็นคนที่อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีไม่ใช่หรือไง?”
คณพศพูดอย่างเกินจริงแล้วชี้ไปที่หัวนมของตัวเอง “นารา เธอหยิกอะไรดูให้ดีก่อน ทำไมต้องมาหยิกตรงนี้ตลอดเลย อย่ามาแหย่ผู้ชายแบบนี้นะ”
พูดพลางคณพศก็ประคองเอวของนาราอย่างหน้าไม่อาย กะว่าจะทำอีกครั้งหนึ่ง
นาราใช้แรงดันเขาออก ในที่สุดเธอก็เป็นอิสระจากเงื้อมมือของเขา
เธออายจนทนไม่ไหว ก้มลงไปเก็บเสื้อผ้าที่กระจายเต็มพื้นแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ “คณพศ คุณรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเลยนะ อย่าทำให้ฉันขายหน้า!”
พูดพลางปิดประตูห้องน้ำเสียงดังปัง
ส่วนคนที่ได้คลายความคิดถึงของตัวเอง นอนอารมณ์ดีอยู่บนเตียงฮำเพลงไปกระดิกนิ้วเท้าไป
เหอะ ภรรยาของเขามักจะปากไม่ตรงกับใจ ปากบอกไม่แต่ร่างกายกลับยอมซะงั้น
แต่ไม่ว่ายังไง เขาชอบ!
ในขณะที่นาราเร่งรีบอย่างไม่คิดชีวิต คณพศจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยด้วยความอ้อยอิ่ง จากนั้นจึงเดินตามเธอออกจากห้องไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
พวกเขาทั้งสองคนลงมาก็เกือบเที่ยงแล้ว มิราที่นอนอยู่บนโซฟาตื่นขึ้นมาพอดี
เขาลืมตาด้วยความงัวเงีย ถามนาราที่เดินเข้ามาหา “คุณแม่ นี่กี่โมงแล้ว?”
นาราหันไปดูเวลา พบว่าเธอถูกคณพศหมกมุ่นอยู่กับเรื่องพรรค์นั้นอยู่บนห้องตั้งหลายชั่วโมง นี่ก็เกือบเที่ยงแล้ว
ต้องโทษคนโลภมากอย่างคณพศ เธอคิดในใจแล้วหันไปถลึงตาดุใส่คณพศ
แต่ตอนนี้คณพศอารมณ์ดีอย่างมาก เขายอมให้นาราถลึงตาใส่ ทั้งยังมองไปยังครอบครัวของเขาที่อยู่ในห้องด้วยความรัก เขาหลับตาลงและยิ้มอย่างมีความสุข
นาราเห็นคณพศยิ้มแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทันใดนั้นเธอก็ขนลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัว เธอแน่ใจแล้วว่าคณพศบ้าไปแล้วจริงๆ
“คุณแม่ ผมรู้สึกเหมือนจะหิวนิดหน่อย” มิราที่เพิ่งตื่นท้องร้องดังโครกคราก
เธอหลุดออกจากภวังค์ ก้มลงไปอุ้มมิราขึ้นมา “ลูกหิวแล้วเหรอ อยากกินอะไรล่ะ แม่พาไปกินอาหารยุโรปดีไหม?”
“ดีเลยครับ ดีเลยครับ แค่ได้อยู่กับคุณแม่ กินอะไรก็ได้ครับ” มิราดีใจจนกระโดดโลดเต้น
มิราไม่ลืมจะนึกถึงพ่อของตัวเอง “คุณแม่ ต้องพาคุณพ่อไปกินข้าวด้วยกันนะ พวกเราสามคนไปด้วยกัน มันดีมากเลย”
ไหนเลยเธอจะไม่รู้ความคิดของลูกชาย เธอไม่ได้พูดจาแทงใจดำใส่เขา พยักหน้าและพาเขาออกไปด้วยกัน
แน่นอน คนที่ตามมาข้างหลังคือคณพศที่มีความสุขยิ้มจนปากฉีกถึงหู
ครอบครัวเขาเลือกร้านอาหารยุโรปร้านหนึ่ง เมื่อจัดแจงเสร็จจึงนั่งลง
“นารา คุณอยากกินอะไร?” คณพศดีดนิ้ว บริกรที่สวมชุดและผูกโบรีบเดินมาหาเขาทันที
นาราไม่สนใจคณพศ หันไปพูดเสียงอ่อนโยนกับมิรา “ลูกอยากกินอะไรคะ?”
มิรามองดูเมนูอาหาร ทันใดนั้นเขาก็ค่อยๆ เอียงตัวไปกระซิบข้างหูนาราด้วยเสียงเบา “คุณแม่ ผมอยากไปห้องน้ำ”
“โอเค งั้นแม่พาไป” นาราลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร พามิราเดินไปยังห้องน้ำในร้านอาหาร ส่วนคณพศก็นั่งรอให้พวกเขากลับมา
เวลาเที่ยงแบบนี้ คนมาใช้บริการร้านอาหารแห่งนี้ค่อนข้างเยอะ
นาราไม่ค่อยวางใจสักเท่าไร เธอส่งมิราตรงหน้าห้องน้ำชาย จากนั้นก็ยืนรอเขาอยู่ตรงด้านนอกห้องน้ำ
ผ่านไปสักพัก คนที่เดินออกมาจากห้องน้ำเหมือนจะเป็นพนักงานทำความสะอาด เขาเข็นรถขยะขนาดใหญ่ผ่านหน้านาราไป แถมยังใช้ภาษาจีนพูดกับเธอ “ขอทางหน่อยครับ”
นาราถอยหลังหลบให้ทันที เธอคิดในใจว่าตัวเธอเองเป็นลูกครึ่ง พนักงานทำความสะอาดคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเธอเป็นคนจีน?
นาราไม่ได้เอาเรื่องนี้มาคิดอะไร เธอยังคงยืนรออยู่นอกห้องน้ำต่อไป
แต่ว่ารอมานานแล้ว คนที่เดินเข้า-ออกห้องน้ำก็มากหน้าหลายตา ทว่านารายังไม่เห็นมิราเดินออกมาเลย
“มิรา มิรา”
นาราตะโกนเรียกมิรา 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา
ทันใดนั้นเธอก็เกิดความกังวลใจขึ้นมา พอดีกับที่มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะเดินออกมาจากห้องน้ำ นารารั้งตัวเขาไว้ พูดอย่างอ้อนวอน “คุณคะ ช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหมคะ พอดีว่าลูกชายของฉันเข้าไปในห้องน้ำตั้งนานแล้วยังไม่ออกมาเลย รบกวนคุณช่วยเขาไปเรียกเขาให้หน่อยได้ไหมคะ?”
ผู้ชายคนนั้นพยักหน้า หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องน้ำ
เขาเข้าไปได้ครู่หนึ่งก็เดินออกมา พูดด้วยท่าทางสงสัย “คือว่าคุณครับ ในห้องน้ำไม่มีเด็กเลยนะครับ”
นาราพลันตกใจหน้าซีด “คุณแน่ใจแล้วนะคะว่าข้างในห้องน้ำไม่มีเด็กอยู่?”
ผู้ชายคนนั้นส่ายหัว “คุณครับ อันที่จริงแล้ว นอกจากผมแล้วก็ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวผมยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำให้ แล้วคุณเข้าไปหาดู”
“งั้นขอบคุณ คุณมากนะคะ” ในใจของนารากังวลเป็นอย่างมาก ไม่สนความต่างระหว่างหญิงชาย เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำผู้ชาย
แต่ก็เหมือนกับผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำพูด ในห้องน้ำว่างเปล่า ไม่มีร่องรอยของมิราแม้แต่นิดเดียว
นาราวิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยความตื่นตระหนก จนลืมขอบคุณผู้ชายคนนั้น เธอวิ่งพรวดพราดไปหาคณพศ
เธอวิ่งมาหยุดข้างคณพศ ยังไม่ได้ทันพูดอะไรน้ำตาก็ไหลออกมา “คณพศ มิรา มิราหายไปแล้ว”
คณพศตกใจยืนขึ้น “อะไรนะ!”
“ฉะ ฉันพาเขาไปห้องน้ำเมื่อกี้ ฉันรอเขาอยู่นอกห้องน้ำ รอตั้งนานเขาก็ยังไม่ออกมา ละ…แล้วฉันก็เรียกคนให้ช่วยเข้าไปดู แต่ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำเลย คณพศ มิราหายไปโดยไม่มีสาเหตุ ต้องโทษฉัน โทษฉันทั้งหมดเลย” นาราโทษตัวเองไม่หยุด น้ำเสียงสับสนไปหมด
คณพศก็ตกใจจนหน้าซีด แต่เขาไม่ได้ตกใจจนขาดสติแบบนารา