The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 385 เคนโด้โดนยิง
ตอนที่ 385 เคนโด้โดนยิง
วิษณุส์แหงนหน้าหัวเราะขณะถือรีโมทควบคุมไว้ในมือ “เห็นรึยัง? คณพศ นายคิดว่าฉันจะหุนหันเหมือนเมื่อก่อนอีกงั้นเหรอ? จะบอกให้ มีระเบิดอยู่ทั่วเรือ! แค่ฉันกดสวิตช์ พวกเราก็จะตายไปพร้อมกัน!”
เหงื่อเย็นไหลลงจากขมับของคณพศ เขารู้ว่าครั้งนี้ตัวเองจะแพ้แล้วจริงๆ เพราะเขาไม่อาจโหดเหี้ยมได้อย่างวิษณุส์
เขาไม่กลัวตาย แต่ว่า เขาไม่สามารถมองเมียและลูกของตัวเองตายไปกับเขาได้!
“นายแค่เกลียดฉัน ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ฉันกับนายเรามาจบเรื่องนี้กัน” ไม่ทันคิดอะไร คณพศก็ทิ้งปืนในมือ แล้วเดินเข้าหาวิษณุส์
“ฮ่าๆๆๆ! คณพศ นายทำตัวหยิ่งผยองอยู่ตลอดเลยไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมีวันนี้ได้ล่ะเนี่ย? ฮ่าๆๆ” วิษณุส์รีบเข้าไปหยิบปืนพกขึ้นมาตามคาด เดินวนรอบตัวคณพศสองรอบ แล้วเตะที่ข้อพับขาของเขา “คุกเข่าให้ฉันซะ!”
ความเจ็บปวดทิ่มแทงใจ คณพศคุกเข่าลงกับพื้น เขาอับอายจนอยากจะลุกขึ้น แต่เมื่อเห็นมิราที่ถูกมัดเอาไว้ เขาก็กัดฟันทน
เท้าของวิษณุส์เหยียบลงบนหลังของเขาอย่างแรง ก่อนหัวเราะลั่นอย่างเย้ยหยัน “ฮ่าๆๆ! คณพศ ทำไมนายคุกเข่าลงจริงๆ ซะล่ะ? โอยโถโถ อยากให้คุณปู่มาเห็นจัง เขาคงปวดแย่แน่เลย!”
พูดจบ แววตาของวิษณุส์ก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาอีกครั้ง “ไอ้แก่สมควรตายนั่น มันเอาแต่ลำเอียงให้นายตลอด อะไรก็คิดถึงแค่นาย แล้วฉันล่ะ? ฉันเป็นพี่ชายของนายแท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้รับความรักเลย! ตั้งแต่เด็กจนโต ก็ถูกเขาบังคับให้เป็นเงาของนายมาตลอด เพราะอะไร?! ฉันอยากทำให้ทุกคนได้รับรู้ ว่าไอ้คนจอมเย่อหยิ่งอย่างคณพศ ก็ต้องมาคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน!”
วิษณุส์พูดอย่างตื่นเต้น ใช้ปืนจ่อที่หัวของคณพศ “เลียรองเท้าฉันให้สะอาด ไม่แน่ว่าถ้าฉันอารมณ์ดี อาจจะปล่อยผู้หญิงกับลูกของนายก็ได้ จากนั้นค่อยเก็บศพนาย!”
สองกำปั้นของคณพศกำแน่น ความโกรธมหึมาปะทุอยู่ภายในอกเขา ขณะที่เขาเตรียมจะสู้กับวิษณุส์ให้ตายเป็นอาหารปลาไปด้วยกัน หางตาก็เหลือบเห็นเคนโด้จากอีกด้านหนึ่งที่ไปถึงตัวของมิรา และกำลังช่วยเขาแก้เชือกด้วยความระมัดระวัง
เพื่อที่จะถ่วงเวลาให้เคนโด้มากขึ้น คณพศระงับความโกรธที่พลุ่งพล่านในใจ พยายามหว่านล้อมวิษณุส์ “ถึงฉันจะคุกเข่าต่อหน้าแล้วมันจะยังไงล่ะ? นายคิดว่าจะเอาชนะฉันได้แล้วจริงๆ เหรอ?”
“ผัวะ!”
การตอบสนองต่อคณพศนั้นคือวิษณุส์ที่โมโหอย่างบ้าคลั่ง เขาใช้ปืนพกฟาดหน้าผากของคณพศอย่างแรง เมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากหัวของคณพศอย่างที่ต้องการ ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “คณพศ นายใกล้จะตายอยู่แล้วนี่? ทำไมฉันจะชนะนายไม่ได้ล่ะ?!”
หัวของคณพศวิงเวียนไปชั่วขณะ สายเลือดอุ่นไหลผ่านหน้าผากของเขา ย้อมขนตาของเขาแล้วหยดลงพื้น
“คณพศ!” นาราตะโกนอย่างปวดร้าว “วิษณุส์ นายทำแบบนั้นแล้วจะได้อะไรขึ้นมา?!”
ตอนที่ปืนพกของวิษณุส์ชนเข้ากับหน้าผากของคณพศ หัวใจของเธอเองก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เช่นกัน สลัดตัวออกจากการยับยั้งของยชญ์โดยสัญชาตญาณ อยากจะรีบเข้าไปช่วยคณพศให้เร็วที่สุด
แต่กลับถูกรั้งไว้โดยยชญ์ที่กอดเอวเธอไว้แน่น “น้องสะใภ้ เธอไปไม่ได้นะ! ตรงนั้นมีระเบิดนะ!”
“ปล่อยฉัน ฉันต้องไปช่วยเขา! ฉันต้องไปช่วยเขานะ!” นาราต้องการจะหลุดออกจากการจับยึดของยชญ์ แต่กลับพบว่าต่อให้ใช้กำลังทั้งหมดก็ไม่สามารถทำลายได้เลย
เธอร้องไห้ลั่นอย่างสิ้นหวัง หันมาทุบตีหน้าอกของยชญ์ “ปล่อยฉันนะ ให้ฉันไปช่วยเขา! ปล่อยฉัน!”
“น้องสะใภ้ ฉันรับผิดชอบหน้าที่ในความปลอดภัยของเธอ แบบนี้ชายสามถึงจะได้ไม่ต้องมีห่วง” ยชญ์ต้านการทุบตีของนารา อย่างไม่ไหวติง
“มีห่วง? มีห่วงอะไร? ทำไมคุณถึงต้องพูดแบบนี้?! เขาต้องไม่เป็นไรแน่ เขาจะต้องกลับมา คุณกลับคำพูดเมื่อกี้ซะ กลับคำซะ!” นาราตะโกนไปยังดาดฟ้าอย่างหลุดการควบคุม “วิษณุส์ นายห้ามฆ่าเขา รีบปล่อยเขาซะ!”
แต่ตำแหน่งดาดฟ้าที่พวกเขาอยู่นั้นไกลเกินไป เพียงแค่เห็นสถานการณ์ของอีกฝั่ง แต่เสียงนั้นได้ถูกคลื่นลมทะเลกลบไปหมด
นี่มันอะไรกัน? คณพศยกมุมปากเล็กน้อย ขอแค่มิราของเขาได้รับการช่วยเหลือก็พอแล้ว เพราะเขาเห็นเคนโด้ได้คลายเชือกที่พันรอบตัวของมิราแล้ว และกำลังอุ้มเขาเตรียมจะหนีไป
“ยิ้มอะไรของนาย? หา?! นายใกล้จะตายอยู่แล้ว ยังจะมายิ้มอะไรอีก!?” เมื่อวิษณุส์เห็นรอยยิ้มของคณพศ ก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก
เขาเตะคณพศอย่างแรง จนกระทั่งคณพศแผ่ราบลงบนพื้นดาดฟ้า แล้วจึงหันมองไปทางที่ที่มัดมิราไว้อย่างภูมิใจ “วันนี้ ฉันจะส่งพวกแกพ่อลูก…..”
วิษณุส์ยังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นว่าที่ที่ควรจะมัดมิราไว้นั้นว่างเปล่า เขารีบทิ้งคณพศ แล้วรีบก้าวขาวิ่งไปทางนั้น วิ่งไปไม่กี่ก้าว ก็เห็นเคนโด้ที่กำลังนอนหมอบกับพื้นดาดฟ้า ส่วนมิรานั้นกำลังถูกเขาหย่อนลงจากเรือ
“แม่งเอ้ย! รนหาที่นะมึง!” วิษณุส์เดือดดาล
เคนโด้ไม่สนอะไรทั้งนั้น เขาต้องการแค่วางมิราลงพื้นอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว เขาจับมือมิราไว้แน่น จนเมื่อแน่ใจว่าเขาลงถึงชั้นล่างของเรือเรียบร้อยแล้วจึงปล่อยมืออย่างวางใจ
เมื่อวิษณุส์เห็นว่ามิราที่จับมาเป็นตัวประกันถูกปล่อยหนีไปแล้ว ก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที เขายกปืนพกขึ้นมาอย่างไม่ลังเล แล้วยิงไปยังมิราที่ชั้นล่างอย่าโกรธแค้น “ตายซะเถอะ!”
มิราที่บอบบางจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ที่ไหน เขาหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง ได้แต่มองไปยังปากกระบอกปืน ลืมแม้แต่การวิ่งหนี
“อย่า——!” นาราตะโกนอย่างตื่นตระหนกมาในระยะไกล หัวใจของเธอบีบรัด น้ำตาไหลทะลักออกมา “อย่ายิง!”
ชั่วขณะนั้นพลังของผู้เป็นแม่ปะทุขึ้นมา นาราสลัดออกจากการเกาะกุมของยชญ์ แล้ววิ่งไปหามิราที่ชั้นล่างของเรืออย่างไม่คิดชีวิต “รีบวิ่ง! มิรา วิ่งเร็ว!”
อย่างไรก็ตาม วิษณุส์ที่อยู่บนดาดฟ้าเรือคงไม่ยอมให้โอกาสจะวิ่งหนี เขายกยิ้มหยัน สีหน้าของเขาทั้งโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ก่อนจะเหนี่ยวไกไปยังมิรา!
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั้นเอง เคนโด้ก็เข้ากอดขาของวิษณุส์เอาไว้ แล้วดันไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง เป็นผลให้จุดศูนย์ถ่วงไปเสถียร แล้วล้มลงบนดาดฟ้า
แต่กระสุนที่เขาเหนี่ยวไกนั้นก็พุ่งออกมาแล้ว แต่มันไม่ได้ยิงไปยังมิรา แต่เบี่ยงไปโดนดาดฟ้าของเรือ ส่งเสียงทื่อๆ ออกมา
นารารุดไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต ในเวลานี้เธอมีกำลังเต็มเปี่ยม เธอมุ่งไปยังชั้นล่างของเรือด้วยความเร็วเหลือเชื่อ แล้วกอดมิราเอาไว้ “มิรา พวกแม่มาแล้วนะ! ไม่ต้องกลัวนะ!”
บนดาดฟ้า ขณะวิษณุส์และเคนโด้กำลังยื้อยุดกันอย่างสุดกำลัง คณพศก็ได้เข้ามาจากด้านข้าง แล้วตามหารีโมท
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนาราซีดเผือด มองไปยังดาดฟ้าด้วยใจสั่นกลัว กังวลใครจะเป็นคนที่ถูกยิง
แต่ครั้งนี้เทพเจ้าแห่งโชคไม่เหลียวแลพวกเขาอีกต่อไป ปากกระบอกปืนเย็นสัมผัสแผ่นอกของเคนโด้ เจาะทะลุเสื้อเชิ้ตขาว ไม่นานเลือดสีแดงฉานก็ไหลทะลักออกมา