The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 39 ที่รัก...ห้ามทิ้งฉันไป
บทที่ 39 ที่รัก…ห้ามทิ้งฉันไป
เมื่อกลับถึงบ้าน ฟ้าใกล้สว่างเต็มที ลุงบีมเห็นคณพศเดินเข้ามาในห้องก็รีบลุกขึ้น “คุณชาย ต้องการทานอะไรหรือเปล่าครับ?”
เขาไม่ได้นอนมาทั้งคืน รู้สึกเหนื่อยล้ามาก แต่เขาก็ไม่อยากกินอะไร “แจ้งหมอศุกลด้วยนะ ฉันกับคุณนายน้อยจะไปหาเพื่อตรวจขา บอกรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับคุณนายน้อยให้หมอทราบ อย่าลืมอธิบายให้ชัดเจน”
“ครับ คุณชาย”
คณพศเข้าไปในห้องนอน เห็นหญิงสาวยังคงหลับฝันดีอยู่ เขาถอดเสื้อแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง เขาสวมกอดหญิงสาวไว้ที่อกแล้วหลับตานอน
วันที่สอง นาราลืมตาตื่นขึ้นเห็นตัวเองนอนอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ใบหน้าจึงร้อนเผ่า
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอแยกกันกับเขาไม่ใช่หรือ? หรือชายคนนี้รอจนเธอหลับแล้วแอบมานอนบนเตียงกับเธอ
เธอยิ้มแบบเขินอาย ค่อยๆ เอามือของเขาออก ลุกขึ้นแล้วเดินไปห้องอาบน้ำ
ชายหนุ่มยังคงหลับต่อไป แต่รู้สึกว่าความอ่อนโยนที่อ้อมอกหายไป จึงใช้แขนตัวเองกวาดไปรอบๆ เตียง แต่ก็พบความว่างเปล่า ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย “ที่รัก……” เสียงที่น่าเบื่อดังขึ้น
นารารีบออกจากห้องอาบน้ำ เข้าไปที่ข้างๆ หูของเขา พูดว่า “คุณนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ ฉันจะไปเตรียมอาหารเช้า”
ชายหนุ่มได้ยินว่าเธอจะไปเตรียมอาหารเช้า จึงทำปากมุบมิบ “ก็ได้”
หลังจากที่รอชายหนุ่มหลับไป นาราเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปที่ชั้นล่าง ลุงบีมกำลังเตรียมอาหารเช้า เมื่อเห็นนาราลงมา จึงรีบมาทักทาย “คุณนายน้อย ทำไมถึงตื่นเช้าจังครับ ลุงจะทำอาหารเช้าเดี๋ยวนี้ครับ”
นาราเดินเข้าไป “วันนี้ให้ฉันทำเถอะ ลุงไปซื้อผักสดกับผลไม้กลับมาบ้านนะ”
ลุงบีมพยักหน้าตอบรับ “ครับ”
นาราทำโจ๊กพร้อมไข่เจียว มีแซนวิสและขนมปังปิ้ง แล้วก็ผักจานเล็ก อยู่บ้านตระกูลวรชัยลภัสเธอทำอาหารเองบ่อยๆ ก่อนเรียนมหาวิทยาลัย งานที่คนรับใช้ทำเธอก็ทำมาหมดแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จในการทำอาหารเช้านี้
เมื่อลุงบีมซื้อของกลับมา นาราทำอาหารเสร็จแล้ว เตรียมจะขึ้นไปเรียกคณพศให้มารับประทานอาหารเช้า ลุงบีมเห็นอาหารเช้าที่เธอทำ ตะลึงจนเกือบทำของตก “คุณนายน้อย คุณทำอาหารได้มากขนาดนี้เลยหรือครับ ถ้าคุณชายมาเห็นคงรู้สึกดีใจมาก”
“จริงรึคะ? พวกนี้เป็นอาหารพื้นๆ ธรรมดาทั้งนั้นคะ” นาราพูดไปหัวเราะไป “นึกไม่ถึงว่าคุณหนูตระกูลวรชัยลภัสจะทำอาหารพวกนี้ได้ ไม่ง่ายเลยนะครับ” ในความคิดของเขาคุณหนูใหญ่ตระกูลวรชัยลภัสนิ้วมือคงไม่เคยได้สัมผัสแม้กระทั่งน้ำเย็นๆ ในฤดูใบไม้ผลิเป็นแน่ “คุณชายนัดคุณหมอศุกลไว้ 9 โมงเช้า จะไปตรวจขา ตอนนี้ก็ 8 โมงแล้ว คุณชายคงจะตื่นแล้ว เดี๋ยวลุงไปเรียกคุณชายเองดีกว่า” ลุงบีมยิ้มพร้อมที่จะขึ้นข้างบน
นาราเดินเข้ามา “ฉันไปเรียกเขาเอง ลุงไปจัดโต๊ะอาหารเถอะ”
“ครับ”
นาราเปิดประตูเบาๆ เห็นชายหนุ่มกำลังหลับสบาย ทำไมเขานอนนานจัง หรือว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน? เธอเดินตรงไปที่หมอนของเขา จ้องมองใบหน้าที่หลับอยู่ ลมหายใจสม่ำเสมอ ขนตายาวงอนพอๆ กับผู้หญิง ริมฝีปากอวบอิ่ม แต่ใบหน้าดูหมองคล้ำ เหมือนคนนอนดึก
ในฝันของคณพศรู้สึกเหมือนมีคนมาหายใจรดที่ใบหน้าของเขา มีกลิ่นเหมือนที่เขาคุ้นเคย หอมมาก เขาค่อยๆ ลืมตา ก็เห็นใบหน้าเรียวเล็กงดงามของหญิงสาวที่อยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงเล็กน้อย ดวงตาของเธอช่างใสบริสุทธิ์
เมื่อเห็นเขาลืมตาตื่นขึ้น สีหน้าของเธอจึงดูตกใจ
“คุณคณพศ ตื่นแล้วหรือคะ?” รีบลุกมาทานข้าวเช้าเถอะคะ เดี๋ยวจะได้ไปพบหมอของคุณ” เธอรีบลุกขึ้นในทันที แต่กลับถูกชายหนุ่มดึงข้อมือไว้ลากเธอขึ้นมาไว้บนเตียง
“คุณคณพศ…..” เธอคิดจะพูดว่าให้อาบน้ำกินข้าว แต่กลับถูกชายหนุ่มจุมพิตที่ริมฝีปากของเธอ นานพอดูกว่าที่ชายหนุ่มจะปล่อยเธอ “ที่รัก ถ้าฉันไม่อาบน้ำ เธอจะทิ้งฉันไปไหม?” เขาพูดเสียงค่อยมากจนแทบไม่ได้ยิน
“……….” เขาจูบเธอเป็นนานสองนาน เพิ่งจะมาถามคำถามแบบนี้
นาราเป้ปาก “ทิ้งซิ!”
คณพศเห็นสายตาของนาราที่เต็มไปด้วยความพอใจ จึงก้มลงจูบอีกครั้ง “ไม่สน ยังไงเธอก็เป็นเมียฉัน ทิ้งฉันไปไม่ได้หรอก”
“………..” เธอมีสิทธิ์ทิ้งเขาไปได้ด้วยหรือ?
“……รีบมากินข้าวเร็ว เดี๋ยวจะเย็นซะหมด ต้องไปหาหมออีกนะ”
เห็นเธอผลักเขาด้วยแรงที่มี เขาจึงปล่อยเธอ “ก็ได้ ที่รัก พวกเราไปกินข้าวกัน” เขากระโดดขึ้นรถวีลแชร์ที่อยู่ข้างเตียงอย่างเบาๆ
เมื่อคณพศลงมาจากชั้นบน เห็นอาหารเช้าบนโต๊ะถึงกับตะลึง
“เธอเป็นคนทำทั้งหมดนี่เลยรึ?”
“แน่นอน” จากนั้นก็หยิบแซนวิส ถือตะเกียบคีบผัก “อร่อยมาก นึกไม่ถึงว่าเธอจะทำอาหารพวกนี้”
“อาหารพวกนี้เรื่องเล็ก คุณชอบก็ดีแล้ว” นารารู้สึกภูมิใจ
ชายหนุ่มมองเห็นท่าทางภูมิใจของหญิงสาว จึงแอบยิ้มเล็กน้อยจนเห็นฟันขาวๆ
อาหารเช้ามื้อนั้น คณพศกินจนอิ่มแปล้
ลุงบีมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นคณพศดูมีความสุข ในที่สุดใจที่แข็งเป็นหินก็แตกสลายลงได้
หลังจากกินอาหารเสร็จคณพศกับนาราก็ไปพบศาสตราจารย์ศุกล
นี่คือคุณหมออายุประมาณ 40 กว่าๆ ตอนที่เขาเห็นคณพศนั่งรถวีลแชร์มาพร้อมกับนาราซึ่งเข็นรถอยู่ด้านหลังก็ส่งยิ้มในทันที แต่พอเห็นคณพศส่งสายตาเตือน เขาก็หยุดยิ้มทันที “คณพศมาแล้วรึ?”
“อืม วันนี้มาตรวจเช็คสภาพขา เพื่อดูว่าเมื่อไรจะลุกเดินได้” คณพศพูดด้วยสีหน้ายังเหมือนเดิม
หมอศุกลรับช่วงต่อจากนารา เข็นรถวีลแชร์เข้าไปในห้องตรวจ ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ออกมา
นารารีบก้าวเท้าเข้าไปหา “หมอศุกลคะ ขาของเขาเป็นยังไงบ้างคะ?” หมอศุกลพูดแบบยิ้มๆ “ขอเพียงเขามีความสุขใจ ไม่เครียด หมั่นออกกำลังสม่ำเสมอ หมอคิดว่าอีกไม่นานก็คงยืนได้”
“จริงรึเปล่าคะ?” นาราดีใจจนลืมตัว จับมือของหมอโดยไม่รู้ตัว “เขาจะกลับมายืนได้เร็วๆ นี้ ใช่ไหมคะ?”
หมอศุกลนึกขึ้นมาได้ว่าเดือนหน้าคณพศต้องกลับไปทำงานที่บริษัท จึงพยักหน้ารับ “คุณนายน้อย ไม่ต้องรีบร้อน อันที่จริงขาของเขาดีขึ้นมากแล้ว ขอเพียงเขารู้สึกอยากยืน ก็จะยืนได้โดยเร็ว”
เขาส่งยิ้มพร้อมมองหญิงสาวที่สวยใสเหมือนน้ำบริสุทธิ์ ในใจก็คิดว่าคณพศนายช่างโชคดีจริงๆ
คณพศจ้องมองหญิงสาวที่จับมือหมอไม่ยอมปล่อย ขมวดคิ้ว “เออะเออะ ที่รัก พวกเราไปกันเถอะ กลับไปออกกำลังต่อ”
“โอเคคะ” นาราเข็นรถวีลแชร์ออกจากโรงพยาบาลท่ามกลางสายตาที่มีรอยยิ้มของหมอศุกล