The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 421 ฉันเป็นลูกผู้ชายรึเปล่าเมียฉันรู้ก็พอแล้ว
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 421 ฉันเป็นลูกผู้ชายรึเปล่าเมียฉันรู้ก็พอแล้ว
ตอนที่ 421 ฉันเป็นลูกผู้ชายรึเปล่าเมียฉันรู้ก็พอแล้ว
แต่กลับถูกคณพศกวาดกลับมา “ไอ้เวร! นายทำอะไรอยู่ นายอยู่กับเธอทุกวัน แล้วยังจะปล่อยให้เธอโดนอันธพาลทำร้ายจนเกือบถูกบีบคอตายอีกเรอะ! นายยังเป็นลูกผู้ชายอยู่อีกรึเปล่า? อยากจะให้นารามีความสุขงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ! ถ้าหากฉันอยู่ที่ฮาวายล่ะก็ นาราก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก!”
คณพศพูดจบก็วางสาย ปล่อยให้เคนโด้ถือโทรศัพท์ด้วยความงุนงง
คณพศรีบให้คนเตรียมเฮลิคอปเตอร์กลับไปฮาวายทันทีในชั่วข้ามคืน
เมื่อเครื่องของคณพศมาถึงฮาวายก็เป็นเวลาสายของวันถัดมาแล้ว
เขาวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ของเคนโด้ไวปานสายลม มุ่งไปยังชั้นบนอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดประตูห้องนอน เห็นหญิงสาวที่กำลังให้น้ำเกลือหลับอยู่บนเตียง
“นารา!”เขาร้องเรียกเสียงดัง เป็นห่วงมาทั้งคืน วิ่งวุ่นอยู่ทั้งคืน ชั่วขณะที่ได้เจอเธอ หัวใจถึงได้กลับมาอยู่กับตัวเขา
เขาค่อยๆ เดินเข้าไป เห็นใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอบวมเป่ง และลอคอก็เปลี่ยนเป็นสีช้ำ
เขาเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกเข็มทิ่มแทง เขาเดินเข้าไปกอดเธอไว้อย่างเบามือ “ที่รัก ขอโทษนะ เป็นเพราะผมเอง!” ดวงตาของเขาเอ่อคลอด้วยน้ำตา ชั่วเวลานั้นเขาขอบคุณพระเจ้า ที่เธอไม่เป็นไร
ถ้าหากเธอเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะให้อภัยตัวเองได้ยังไง
“อย่าแตะต้องเธอ เธอกำลังให้น้ำเกลืออยู่ หลอดลมของเธอเสียหาย ถ้ารักษาไม่ทันเวลาก็จะอักเสบได้” เคนโด้เดินเข้ามาจากข้างนอก
คณพศรีบวางนาราลง แล้วกุมมือของเธอเอาไว้ ขณะที่นารายังคงหลับใหลไม่รู้สึกตัว
“ทำไมไม่ส่งเธอไปโรงพยาบาล?”เขาไม่หวังจะให้นารานอนอยู่บนเตียงของเคนโด้เลยจริงๆ แต่สถานการณ์ร้ายแรงในตอนนี้ เขาจึงไม่ใส่ใจกับเคนโด้นัก
ในขณะนั้นเอง นาราก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งที่เธอเห็นตรงหน้านั้นคือใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังเป็นกังวลของคณพศ เธอยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนพูดขึ้น “ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง…”
แต่ลำคอของเธอเจ็บมาก จนถึงกับเปล่งเสียงไม่ออก
“ไม่ต้องพูดแล้ว นารา เสียงเธอแย่มาก ในช่วงหลายวันนี้อย่าพูดอะไรเลย เพื่อหลีกเลี่ยงอาการอักเสบ”เคนโด้พูด
คณพศมองนาราที่พูดไม่ได้ เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่อาจทนไหว “ที่รัก ไม่ต้องพูดนะ เป็นเพราะผมเอง จากนี้ไปผมจะไม่กลับไปเมืองธิตกลอีกแล้ว ผมขอโทษนะ”
นารายิ้มบางๆ อย่างขมขื่น แต่เคนโด้กลับแค่นเสียงอย่างเย็นชา แล้วเดินออกไป
เมื่อนาราให้น้ำเกลือเสร็จแล้วก็ถูกคณพศอุ้มกลับบ้านไป ดูแลด้วยตัวเอง เคนโด้นึกอยากจะก้าวไปขวางข้างหน้า แต่เมื่อเห็นนารากอดคอของคณพศไว้แน่นแบบนั้นแล้ว เขาก็ได้แต่อดกลั้นเอาไว้แล้วให้พวกเขาเดินจากไป
คณพศไม่ได้ไปบริษัท ดูแลนาราอย่างเอาใจใส่ทุกวัน วันนี้นาราได้รับการตรวจจากแพทย์แล้ว ในที่สุดก็สามารถพูดได้
“ยังดีที่พูดได้นะ ไม่อย่างนั้นกลายเป็นใบ้คงอึดอัดแย่”นาราพูดกลั้วหัวเราะ
คณพศสวมกอดเธอไว้ “ถึงจะเป็นใบ้ ก็เป็นคนใบ้ของผม ที่รัก ครั้งนี้ทำเอาผมกลัวแทบแย่แหนะ!”
นาราเห็นคณพศที่มาดูแลเธอหลายวันมานี้ ผมเผ้าหนวดเครารุงรัง ซีดเซียวไปมากอย่างเห็นได้ชัด
เธอซุกตัวในอ้อมกอดของเขา “ที่รัก ครั้งนี้ถ้าไม่ได้เคนโด้ คุณก็อาจจะไม่ได้เจอฉันแล้ว คนร้ายคนนั้นเป็นคนบ้า เขายังหวังจะฆ่าผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้เลยด้วยซ้ำ!”
คณพศฟังคำพูดของเธอ ในใจยิ่งเพิ่มความปวดร้าวเข้าไปอีก ในตอนที่เธอตกอยู่ในอันตรายมากที่สุดเขากลับไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ แต่กลับเป็นเคนโด้
“ขอโทษนะที่รัก เพราะผมไม่ดีเอง เพราะผมไม่ปกป้องคุณให้ดี”เขาจับไหล่ของเธอขยับออก แล้วมองดูดวงหน้าเล็กแสนปราณีตนั้น
เขาจูบเบาๆ บนขนตายาวของเธอ
นาราหลับตาลง “มันไม่ได้เป็นเพราะคุณ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าอันธพาลนั่นจะทำร้ายฉัน จริงไหม”
คณพศจูบจมูกของเธออย่างรู้สึกผิด ริมฝีปาก ไล่ไปจนถึงลำคอ
เขาจูบที่ลำคอที่ยังมีร่องรอยหลงเหลือนั้นอย่างแผ่วเบา ในใจเจ็บมากจนไม่อาจมากไปกว่านี้
เพียงไม่นานคณพศก็เริ่มมีการตอบสนอง ช่วงที่ดูแลนารา เพราะเธอสุขภาพไม่ดี คณพศจึงได้แต่อดกลั้นเอาไว้ไม่กล้าทำ
“ที่รัก ผมต้องการคุณ….ได้ไหม? ผมจะทำเบาๆ”
“…..”
เอ่ยจบไม่ทันได้รอนาราตอบตกลงก็อุ้มเธอไปยังเตียงในห้องนอน ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของเธอออกช้าๆ แล้วจูบลงบนผิวขาวผ่องของเธออย่างอ่อนโยน
ไม่นานร่างกายของนาราก็อ่อนยวบ คณพศครอบครองเธอโดยที่ยังคงความนุ่มนวลเอาไว้….
เขาขยับอย่างนุ่มนวล จนทำให้นาราเคลิบเคลิ้ม… คณพศนั้นมีความสุขอย่างมาก
ชั่วเวลานั้นเขาถึงได้สบายใจ เพราะเธอยังคงเป็นของเขา เป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!
จนเมื่อทั้งแค่แต่งตัวเดินลงมา คนรับใช้ก็ได้ทำอาหารเย็นและนำออกมาที่ห้องรับแขกเรียบร้อยแล้ว ในตอนนั้นประตูคฤหาสน์ก็ส่งเสียงเคาะ คณพศลุกขึ้นไปเปิดประตู
เคนโด้ก้าวเข้ามา แล้วเดินตรงไปยังนาราโดยไม่มองคณพศเลยแม้แต่น้อย
“นารา ดีขึ้นแล้วเหรอ? พูดได้แล้วรึยัง?”เขามองนาราอย่างเป็นกังวล
นาราลุกขึ้นยิ้มในทันที “เคนโด้ ฉันพูดได้แล้ว ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้นายฉันคงจะถูกคนร้ายนั้นบีบคอตายไปแล้ว”
“การปกป้องเธอเป็นหน้าที่ของฉัน ไม่ต้องขอบคุณหรอก”คำพูดของเคนโด้ทำให้คณพศไม่พอใจนัก ราวกับว่าเขาคือคนที่ปกป้องนารา แต่ในคราวนี้ก็ต้องขอบคุณเขา
“บุญคุณครั้งนี้ฉันจะจำไว้ เคนโด้ ถ้าวันไหนนายมีความจำเป็นอะไร ฉันคณพศจะตอบแทนนายอย่างแน่นอน”เขาคิดแต่ว่าเคนโด้อย่าคิดว่าช่วยนาราแค่ครั้งเดียว เขาคิดแต่ว่าเคนโด้อย่าคิดว่าช่วยนาราแค่ครั้งเดียว แล้วจะได้นาราของเขาไปเชียว
ก็คือไม่ยอมนั่นเอง
เคนโด้มองคณพศ ก่อนหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “ฉันจำได้ว่าใครสักคนเคยพูดไว้ ว่าขอแค่ให้ฉันมีชีวิตรอดกลับมา ก็จะให้โอกาสฉันมาแข่งกัน ฉันก็รอดกลับมาด้วยคำพูดนี้แหละ!”
คำพูดของเขาทำเอานาราและคณพศอึ้งไปพร้อมๆ กัน “ความทรงจำนายกลับมาแล้วเหรอ?”
“ฮึ!”เคนโด้แค่นเสียง
นารายินดีอย่างมาก คว้าแขนของเคนโด้มาจับไว้ “เคนโด้ ดีจังเลย ในที่สุดความทรงจำของนายก็กลับมา”
เคนโด้มองดวงตาเปล่งประกายแวววาวของหญิงสาว เขายกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าเล็กของเธอ นี่คือผู้หญิงที่เขาตกหลุมรัก
มือของเขายังไม่ทันแตะ คนที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกคณพศดึงออกไป เขามองมาอย่างเย็นชา แล้วกอดนาราเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น
“เคนโด้ ในเมื่อความทรงจำของนายกลับมาแล้ว ก็ยิ่งอย่าคิดจะแย่งนาราของฉัน ก็จริงที่ฉันพูดไปแบบนั้น ตอนนั้นก็เพื่อกระตุ้นให้นายมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย นาราชาตินี้ต้องเป็นของฉันคนเดียว ฉันให้โอกาสนายไม่ได้หรอก!”คณพศเอ่ยเสียงดัง
“นายกลืนน้ำลายตัวเอง ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่อีกรึเปล่า?” เคนโด้ชี้หน้าคณพศ
“ฉันเป็นผู้ชายหรือไม่ เมียฉันรู้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกนาย!”คณพศอุ้มนารามานั่งลงที่โต๊ะอาหาร
นารามองทั้งสองที่เริ่มทะเลาะกันอีกแล้ว หมดคำพูดเลยจริงๆ
เธอรีบเรียกเคนโด้ “เคนโด้ กินข้าวกัน”
เคนโด้นั่งลงข้างนาราทันที
“…….”คณพศแทบจะถีบส่งเจ้าหมอนี่ออกไป
เห็นนาราตักอาหารให้เคนโด้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาก็รู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมา!
เขาไม่มีวันให้โอกาสหมอนี่มาแข่งขันอะไรทั้งนั้น
กินอาหารเย็นผ่านไปแล้ว เคนโด้ก็ผลักตัวออกมา
เขาเดินไปตามถนนคนเดียว มองดูดวงดาวบนฟ้า
ถอนหายใจออกมา นารา ขอให้เธอมีความสุข