The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 455 ขุนตัวเองให้อ้วนขาวเพื่อแต่งงานถึงจะดี
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 455 ขุนตัวเองให้อ้วนขาวเพื่อแต่งงานถึงจะดี
บทที่ 455 ขุนตัวเองให้อ้วนขาวเพื่อแต่งงานถึงจะดี
เธอรู้ว่าช่วงนี้เคนโด้อารมณ์ไม่ดีมาโดยตลอด ทานน้อยเป็นพิเศษ เธอก็รู้สึกเสียใจมากที่นาราสูญเสียลูกสาวไป แต่เธอไม่มีอะไรที่ช่วยได้เลย ได้แต่ทำอาหารให้ดีที่สุด ให้เคนโด้ทานอาหารได้มากขึ้น
ผ่านไปไม่นานมาก พริมก็ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยด้วยความคล่องแคล่วว่องไว
เธอนำอาหารไปวางบนโต๊ะ แล้วหันหลังขึ้นไปชั้นบน เตรียมให้เคนโด้ได้ทาน
เคนโด้กำลังยุ่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ พริมที่ผลักประตูเข้ามาเขาไม่ได้ยินเสียงเลย
“คุณชาย ทานอาหารได้แล้วค่ะ” พริมเอ่ยถ้อยคำออกมาอย่างขี้ขลาด
เคนโด้ไม่ได้ยกศีรษะ “ได้ เดี๋ยวผมจะลงไปทีหลัง”
พริมยืนอยู่ตรงปากประตูไม่ได้ลงไป เธอพิงกรอบประตู มองไปยังร่างของเคนโด้ที่ยุ่งอยู่กับคอมพิวเตอร์ รู้สึกว่าด้านหลังของเขาดูดีมากจริงๆ
กระทั่งเคนโด้เสร็จสิ้น ทันทีที่หันมองกลับไปก็เห็นว่ายังคงยืนอยู่ตรงประตูเช่นเดิม ดวงตาของเธอเป็นประกายสดใส มันดูเหมือนมีดวงดาวซ่อนอยู่ภายใน
“พริม? ทำไมคุณไม่ลงไปทานก่อน” เคนโด้ถามอย่างค่อนข้างแปลกใจ
ทันใดนั้นพริมก็หน้าแดงขึ้นมาฉับพลัน เอานิ้วมือตัวเองเขี่ยเล่นไปมา “เอ่อ…ฉันอยาก…ฉันอยากรอคุณชายลงไปทานด้วยกันค่ะ”
มองดูพริมที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองเหมือนดอกไม้ตูม จู่ๆ เคนโด้ก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองอ่อนนุ่มลงมากในทันใด ทำไมเขาถึงไม่รู้มาก่อนว่าพริมน่ามองและเรียบร้อยขนาดนี้
“โอเค งั้นเราลงไปทานด้วยกัน” เคนโด้พูดจบก็ลุกขึ้นยืน ตามพริมลงไปชั้นล่างด้วยกัน
พริมเดินนำหน้า หางม้าข้างหลังของเธอสะบัดไปมาตามรูปร่างการเดินลงข้างล่าง นอกจากดูสวยงามแล้วยังดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา
เคนโด้ที่เดินอยู่ข้างหลังมองดูร่างเพรียวสวยของพริม ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อธิบายได้ การเพิ่งผ่านวัยยี่สิบเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของวัยรุ่นมากแค่ไหน ก็เหมือนตนเมื่อก่อน มุ่งหน้าตรงไปอย่างกล้าหาญไม่เกรงกลัว
สองคนคนหนึ่งเดินหน้าคนหนึ่งตามหลังลงไปชั้นล่าง นั่งตรงข้ามกันที่โต๊ะ
เคนโด้ก้มหน้าทานอาหารไปสักพัก พบว่าพริมทานอาหารอย่างค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย จึงถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมไม่ทานอาหารล่ะ”
“คะ? ไม่นะคะ ฉันกำลังทานอยู่ค่ะ” พริมรีบก้มหน้าลง ยังคิดว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวเองแอบมองเคนโด้จะถูกเขาจับได้
เคนโด้เอาตะเกียบคีบอาหารให้พริม “ทานเยอะๆ หน่อย คุณผอมเกินไปแล้ว ต้องขุนตัวเองให้อ้วนขาวเพื่อแต่งงานถึงจะดี”
พริมหน้าแดงอีกครั้ง ก้มหน้าทานอาหารที่เคนโด้คีบให้ สิ่งที่คิดอยู่ในใจก็คือ อาหารนี้ใช้ตะเกียบของตัวเองคีบให้เธอ เช่นนั้นเท่ากับว่าพวกเขาจูบทางอ้อมใช่หรือไม่
เคนโด้ไม่รู้เลยว่าพริมคิดอะไรอยู่ เขารีบทานให้เสร็จ ลุกขึ้นเดินออกไปจากโต๊ะ เดินไปถึงหน้าบันไดแล้วหยุด “อ้อ จริงสิ เดี๋ยวรบกวนคุณชงกาแฟไปให้ผมหน่อยนะ”
พริมพยักหน้าเบาๆ “โอเคค่ะคุณชาย เดี๋ยวฉันชงกาแฟไปให้ค่ะ”
“จำไว้นะ ไม่ต้องใส่น้ำตาล นมข้นหวานก็ไม่ต้อง” เคนโด้สั่งสิ่งเหล่านี้เสร็จแล้ว ก็รีบเดินขึ้นบันไดไป
พริมจัดเก็บทำความสะอาดจานชามอย่างขยันขันแข็ง ก่อนจะไปชงกาแฟให้เคนโด้
เพราะเคนโด้เคยชินการดื่มกาแฟบดสด พริมนำเอาเครื่องบดมือและเมล็ดกาแฟออกมา เตรียมเริ่มบดผงกาแฟ
ก่อนหน้านี้พริมก็เคยดื่มกาแฟสำเร็จรูป แต่แบบบดสดแบบนี้ เมื่อเธอมาที่นี่ ถึงได้รู้ว่ากาแฟดั้งเดิมยังใช้การต้ม
และตอนนี้พริมยังจำได้ตอนที่เคนโด้ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการบดผงกาแฟแก่เธอ เธออ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่ามันเป็นเพียงการดื่มกาแฟหนึ่งแก้วเท่านั้น
ไม่อยากเชื่อว่าผงกาแฟล้วนมีห้าระดับทั้งหยาบ ผงปานกลาง ละเอียดปานกลาง ละเอียด และละเอียดมาก
หลังจากตอนนั้นเคนโด้ยังพูดถึงข้อควรระวังเกี่ยวกับวิธีการทำผงกาแฟชนิดต่างๆ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ยากที่จะจำ พริมรู้สึกเหมือนไก่คุยกับเป็ด
ดังนั้น เธอจำสามขั้นตอนสั้นๆ ในการชงกาแฟได้อย่างถ่องแท้
ขั้นตอนแรก นำเมล็ดกาแฟออกมา
ขั้นตอนที่สอง บดเมล็ดกาแฟเป็นผง
ขั้นตอนที่สาม เอากาแฟบดไปต้ม
และวันนี้ เธอก็ปฏิบัติตามสามขั้นตอนข้างต้นนั่น
เธอหยิบเอาเหล่าเมล็ดกาแฟออกมา ใช้เครื่องบดกาแฟมือไปสักพัก รู้สึกว่าเมล็ดที่บดออกมาแล้วเหมือนกับน้ำตาลทรายขาว ไตร่ตรองจนดีแล้ว ก็เติมน้ำลงในหม้อต้มกาแฟ ปิดฝา จากนั้นเทผงกาแฟบดครึ่งกล่องเล็กลงไป ปิดกระดาษกรอง หลังจากใส่หม้อกาแฟ ตั้งไฟโดยใช้ไฟเล็กน้อยในการต้ม
ผ่านไปยี่สิบกว่านาที กลิ่นหอมของกาเฟเอ่อล้นออกมา
พริมสูดดมอย่างจริงจัง มักจะรู้สึกว่ากลิ่นหอมมีรสขมเล็กน้อย
แต่คุณชายบอกว่าไม่ใส่น้ำตาลหรือนมข้น เธอต้องเทกาแฟลงในแก้วอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็นำขึ้นไปส่งให้เคนโด้ที่ชั้นบน
“คุณชายคะ กาแฟของคุณค่ะ” พริมบอกเสียงเล็ก
เคนโด้พยักหน้า “อ้อ โอเค ขอบคุณ วางไว้ข้างๆ ก่อนเถอะ”
พริมวางกาแฟลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็อดทนยืนรออยู่ข้างๆ เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอชงกาแฟ จึงรอความเห็นของเคนโด้ ดูว่ามีอะไรต้องปรับปรุงในครั้งต่อไป
เคนโด้ยุ่งจนเสร็จแล้ว เขาก็ยืดตัวออกกว้างบิดขี้เกียจ จากนั้นก็หยิบเอากาแฟใกล้มือขึ้นมาจิบไปหนึ่งอึก
พริมมองไปยังเคนโด้อย่างค่อนข้างประหม่า รอคำติชมจากเขา
แต่เคนโด้แค่ขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร เขาวางแก้วกาแฟลง หันหน้าไปมองพริมที่ยืนอยู่ข้างๆ เงียบอยู่สักพัก ก่อนจะพูดว่า “เอ่อ พริม ครั้งต่อไปที่คุณชงกาแฟ รักษาอุณหภูมิของน้ำระหว่าง 92 ถึง 96 องศานะ แบบนี้จะทำให้รสชาติดีกว่า”
พริมเครียดขึ้นมาทันใด “คุณชาย มันแย่ใช่ไหมคะ”
เคนโด้ถอนหายใจเงียบๆ เมื่อครู่เขาลืมบอกพริม ว่าชงพวกกาแฟสำเร็จรูปก็พอ เพราะเขาดื่มกาแฟบดสดเพื่ออรรถรสเท่านั้น
โดยทั่วไปมือใหม่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิและปริมาณของผงกาแฟได้ มันจึงง่ายที่จะชงออกมาเป็นน้ำรสขมที่มีกลิ่นไหม้
ก็เหมือนตอนนี้ที่เขาดื่มแก้วนี้ เอ่อ มันยากที่จะกลืนลงไป
แต่เคนโด้ไม่ได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นสุภาพบุรุษที่สุภาพ ไม่อยากทำให้พริมอายที่ไม่รู้วิธีชงกาแฟ เพียงบอกประเด็นหลักของการชงกาแฟอย่างสละสลวยเท่านั้น
“เปล่า คุณชงได้ดีมาก แต่ถ้าคุณสามารถให้ความสนใจมากขึ้นในอนาคต มันจะดีกว่าที่คุณทำตอนนี้” เคนโด้ชมพริมอย่างรอบคอบไม่มีช่องโหว่
พริมดวงตาเบิกกว้างเป็นประกาย “แต่คุณชายไม่ได้ดื่มกาแฟที่พริมชงให้จนหมด ฉันรู้ว่าที่ฉันชงมันยากจะดื่ม”
มุมปากของเคนโด้กระตุก ยกแก้วกาแฟข้างๆ ขึ้น ราวกับคนแข็งแรงข้อมือหัก ลมหายใจที่เด็ดเดี่ยวเบาลง
รสขมพุ่งจากลำคอของเคนโด้เข้าสู่กระเพาะอาหาร ความฝาดเฝื่อนเกินบรรยายนั่น ทำให้เคนโด้แอบสาบาน ว่าคราวหน้าเขาจะไม่ปล่อยให้พริมชงกาแฟให้เขาอีก
พริมเห็นเคนโด้ดื่มกาแฟของเธอในหนึ่งลมหายใจ ในใจไม่ต้องพูดเลยว่ามีความสุขแค่ไหน
เธอยิ้มอย่างสดใส เอียงศีรษะมองไปยังเคนโด้ “คุณชาย หรือไม่งั้นให้ฉันช่วยชงให้คุณอีกแก้วไหมคะ”
เคนโด้โบกมืออย่างหวาดกลัว “ไม่ต้องแล้ว จริงๆ นะ ผมดื่มพอแล้ว”