The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 49 ฉันอนุญาตให้เธอตกหลุมรักฉัน
บทที่ 49 ฉันอนุญาตให้เธอตกหลุมรักฉัน
คณพศขึ้นลิฟต์ลงไปชั้นหนึ่ง เมื่อประตูลิฟต์เปิดลุงบีมก็รีบเดินไปหาทันทีและเข็นรถเข็นไปที่ลานจอดรถ
เมื่อรถเข็นของคณพศผ่านประตูไป เมื่อตรงไปที่ลานจอดรถ มีผู้หญิงยืนอยู่ข้างๆเสาหิน เธอจ้องมองผู้ชายในรถเข็น เขาหล่อและมีเสน่ห์มากกว่าในรูป
เขาใส่สูทสีดำ ขาเรียววางอยู่บนที่วางเท้าของรถเข็น ดวงตาสีดำเข้มบนใบหน้าที่หล่อเหลา แสดงความเฉยเมยไม่แยแสอย่างล้ำลึก
เขาแผ่รังสีที่ไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้ แต่ผู้คนกลับอดไม่ได้ที่จะอยากเข้าหาเขา
ถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่ในรถเข็น ยังดูเป็นคนที่ทรงอำนาจน่าเกรงขาม
เขาค่อยๆเข้าไปในรถยนต์โรลส์รอยซ์ ลุงบีมปิดประตูรถให้เขา จากนั้นรถก็ค่อยๆเคลื่อนออกไปช้าๆ
พิมมี่ออกมาทันทีและโบกรถตามหลังรถของคณพศไป
ลุงบีมมองรถข้างหลังที่ติดตามมาอย่างใกล้ชิดจึงเพิ่มความระมัดระวังทันที
“คุณชายครับ มีคนสะกดรอยตาม”
คณพศพูดอย่างเกียจคร้านขณะหลับตา “ให้ตามไป ไม่เป็นไร ตรงกลับบ้านเลย”
รถตรงเข้าสู่บริเวณเจหงส์ พิมมี่ลงจากรถแล้วเดินไปตรงผู้รักษาความปลอดภัย
เมื่อรถของคณพศเคลื่อนตัวเข้าไปในพื้นที่เจหงส์ช้าๆ พิมมี่กำลังจะตามเข้าไปก็ถูกผู้รักษาความปลอดภัยหยุดเอาไว้ “คุณผู้หญิง ที่นี่เป็นที่พักส่วนตัว คุณเข้าไปไม่ได้”
พิมมี่จ้องมองผู้รักษาความปลอดภัยอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ฉันมากับท่านประธานคณพศ”
“เป็นไปไม่ได้ รถของท่านประธานเพิ่งเข้าไปข้างใน ถ้าคุณรู้จักเขาทำไมคุณไม่นั่งรถมากับเขา ขอโทษ คุณเข้าไปไม่ได้” ผู้รักษาความปลอดภัยขวางเธอ
พิมมี่เริ่มใจร้อน เธอตะโกนใส่ผู้รักษาความปลอดภัย “เปิดตาสุนัขของแก ฉันเป็นภรรยาของคุณคณพศ!”
ผู้รักษาความปลอดภัยอึ้งไปเล็กน้อย “คุณจะเป็นภรรยาของคุณชายสามได้ยังไง ภรรยาของเขาอยู่ในบ้านโน่น พวกเราเคยเจอกันมาก่อนแล้ว”
พิมมี่พูดไม่ออก เธอยืนอยู่ที่ประตูเห็นรถของคณพศจอดหน้าคฤหาสน์ ประตูรถเปิดออก ก่อนที่เขาจะลงจากรถมีผู้หญิงคนหนึ่งเข็นรถเข็นเข้าไป แล้วพาเขาขึ้นรถเข็น
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่นารา คณพศนั่งอยู่ในรถเข็นและจับมือของนารา ยิ้มบางและพูดกับเธอ ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข
เธอเฝ้าดูคนสองคนเดินเข้าไปในประตูคฤหาสน์ หัวใจเหมือนมีดที่มองไม่เห็นกำลังตัดเนื้อของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นมีความสามารถจริงๆ ให้คณพศอ่อนโยนกับเธออย่างคาดไม่ถึง เธอไม่เคยเห็นรอยยิ้มของคณพศในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเลยสักครั้ง มันกลับกลายเป็นว่ารอยยิ้มของเขานั้นมีไว้เพื่อน้องสาวคนนี้ของเธอเท่านั้น
ดีมาก นังสารเลว เธอให้เธอแต่งงานเข้ามา คิดไม่ถึงว่าจะยั่วยวนคณพศได้ ความสุขมากมายขนาดนี้ควรเป็นของเธอต่างหาก
ดวงตาของนาราสว่างวาบขึ้น นารา ผู้ชายคนนี้เป็นของพิมมี่ เธอจะต้องรีบคืนกลับมาให้โดยเร็วที่สุด!
พิมมี่หันหลังออกจากเจหงส์ไป แล้วนั่งแท็กซี่ตรงกลับไปที่บ้านตระกูลวรชัยลภัส
คณพศกลับไปถึงบ้าน นาราได้เตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว “หิวแล้วใช่ไหมค่ะ รีบทานเถอะ ทานเสร็จแล้วฉันจะช่วยนวดขาให้คุณค่ะ”
คณพศเงยหน้าขึ้นมองและยิ้มบาง “คุณภรรยา ถ้าเธอทำแบบนี้ฉันก็จะเอาแต่พึ่งพาเธอ เธอห้ามทิ้งฉันไปนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเธอต้องอยู่เคียงข้างฉัน เข้าใจไหม”
“คุณคณพศ ฉันสัญญากับคุณค่ะว่าจะอยู่กับคุณจนกว่าจะลุกขึ้นยืนได้จะไม่ทิ้งคุณไป” เธอยืนอยู่ข้างเขา มองเขาอย่างแน่วแน่
ชายหนุ่มหน้าหมองคล้ำลง “งั้นถ้าฉันยืนขึ้นได้แล้วเธอก็จะไปงั้นเหรอ”
“……คุณลุกขึ้นยืนได้แล้ว ถ้าคุณต้องการให้ฉันอยู่ข้างๆคุณ ฉันก็จะอยู่และไม่ไป ถ้าคุณไม่ต้องการฉันอีกต่อไป ฉันก็จะไปค่ะ” ในความเป็นจริงเธอไม่ใช่ภรรยาของเขา
“ฟังนะ นารา ฉันต้องการให้เธออยู่ข้างฉันตลอดชีวิต จะไม่อนุญาตให้พูดเรื่องที่จะจากไปเมื่อขาของฉันดีขึ้นอีก ได้ยินไหม” จู่ๆเขาก็ตะเบ็งเสียงเย็น
นาราชะงักไป เห็นเขาโกรธก็ออกห่างจากเขาทันที “คุณคณพศ คุณเข้าใจไหมคะ ตอนนี้ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ เมื่อขาของคุณดีขึ้นแล้วก็ไม่ต้องใช้ฉันอีกต่อไปแล้ว แล้วฉันจะอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” ตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาคลอ ตัวเธอเองก็รู้สึกเจ็บปวดมาก
เพล้ง! ถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะถูกชายหนุ่มกวาดตกลงพื้น ดวงตาของเขามืดครึ้ม ทั้งร่างปกคลุมด้วยความเย็นเยือก “ที่แท้เธอก็สนใจเรื่องกระดาษนั่น ได้ พรุ่งนี้ฉันจะเอากระดาษแผ่นนั้นกลับคืนมา ให้เธอเป็นภรรยาของฉันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
นาราอดกลั้นน้ำตาไม่ได้อีกต่อไป ไหลลงบนใบหน้าขาวซีด ใครอยากได้กระดาษของเขากัน! ตอนนี้เธอขึ้นหลังเสือยากที่จะลงแล้ว! เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตในอนาคตจะเป็นอย่างไร
เธอหันตัวขึ้นไปข้างบน เธอไม่อยากเห็นชายหนุ่มที่โมโหร้ายคนนี้
“คุณภรรยา!” เพิ่งเดินไปถึงบันไดก็ถูกชายหนุ่มเรียกรั้งไว้
“เธอจะไปไหน ถ้าเธอไม่อยากได้กระดาษแผ่นนั้นก็ทำตัวน่ารักหน่อยสิ ฉันเหนื่อยนะ หยุดหาเรื่องเถอะ” คณพศนั่งบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน
เพื่อไม่ให้เธอไป เขาทำเป็นแกล้งให้ตัวเองเป็นคนพิการต่อไป เธอเริ่มงอนอีกแล้ว ไม่น่ารักเลย
“มานั่งนี่ เย็นนี้ฉันมีเรื่องบางอย่างต้องออกไปทำ” เขาเหยียดมือของเขาออกหาเธอ
นาราแทบจะอึดอัดหายใจไม่ออก เธอหันไปเงียบๆแล้วไปนั่งลงข้างเขา เธอไม่รู้ว่าทำไม ช่วงเวลานี้รู้สึกหดหู่ใจมาก
“ฉันไม่ได้หาเรื่องค่ะและก็ไม่ได้สนใจกระดาษแผ่นนั้น คุณยุ่งกับเรื่องของตัวเองไปเถอะ อย่ามาสนฉันเลย” เธอนั่งอยู่ข้างๆเขา นึกไปถึงขาของเขา และพูดออกไปอย่างอดทน
บางทีสักวันที่เขาสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง อารมณ์ก็จะดีขึ้นเอง นั่งรถเข็นมาตั้งนานแล้ว ใครก็มีบุคลิกที่รุนแรงทั้งนั้น
คณพศถอนหายใจเข้าลึก ดึงเธอเข้ามาใกล้ ยกคางขึ้น มองใบหน้าเล็กที่มีแต่ความคับข้องใจ แล้วก้มหน้าลงไปจูบ
เธอมองภาพชายหนุ่มที่เบลอลง หัวใจเต้นผิดจังหวะ เธอไม่สามารถปฏิเสธจูบของเขาในทุกครั้งได้เลย
แม้ว่าจะเป็นตัวแทน แต่เธอก็ไม่สามารถควบคุมหัวใจตัวเองได้
“คุณภรรยา อยู่ข้างๆฉันดีๆ สิ่งที่เธอกังวลฉันจะแก้ไขมันเอง แต่ตั้งแต่นี้ไปฉันขอยืนยันกับเธอ ฉันอนุญาตให้เธอคิดถึงเรื่องการตกหลุมรักฉันนับจากนี้เป็นต้นไป และหลังจากนี้ก็พึ่งพาฉันอย่างเต็มที่ โอเคไหม”
เสียงต่ำของเขาทุ้มน่าดึงดูดอยู่ในหูของนาราเหมือนเกิดระเบิด สมองของเธอว่างเปล่าทันที เขาอยากให้เธอตกหลุมรักเขา
เมื่อตกหลุมรักแล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป เขาจะหย่ากับพิมมี่ ดวงตาของเขาลึกและมั่นคง ไม่เหมือนการโกหก
พูดอีกอย่างคือเขาจะไม่มีการโกหกเธออีก ช่วงหลายวันมานี้เธอเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วว่าเขาเป็นประธานของบริษัทปัญญาพนต์แล้ว ให้เธอค่อยๆก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา