The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 63 หรือว่าขาของเขาหายดีแล้วหรือ
บทที่ 63 หรือว่าขาของเขาหายดีแล้วหรือ
ในใจของเข้าร้อนแรงดุจไฟอีกครั้ง นิสัยของเขาโดดเดี่ยว อยู่บนเกาะตั้งนานเขาตั้งใจว่าของของเขาจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเด็ดขาด
การจูบนี้เป็นการลงโทษเธอ
นาราใจเต้นแรงผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงรสชาติที่คุ้นเคยเหมือนตอนที่เธอตกอยู่ในทะเล และให้ออกซิเจนกับเธอ
เธอมองใบหน้าของเขา เขาหลับตาและจูบอย่างบ้าคลั่ง เธอเองก็เรียนแบบเขาจูบเข้าที่ปากของเขา
ร่างของชายค่อยๆคลายลง รีบมองตาของหญิงสาว “ตอนรับจูบอยู่ คุณกำลังคิดเรื่องอื่นหรือ”
“ไม่นะ” หรือว่าเขาอ่านใจคนออก
นาราใช้มือสองข้างจับที่หน้าออกของเขา ใบหน้าแดงก่ำ “คณพศ เมื่อกี้ลุงบีมให้มาเรียกไปทานอาหารเย็น ตอนนี้ก็อธิบายชัดเจนแล้ว เราลงไปทานข้าวเย็นกันเถอะ”
คณพศมองริมฝีปากของเธอ “อืม แต่ว่าที่รัก หลังจากนี้ต้องรักษาระยะห่างกับเคนโด้ เข้าใจไหม คุณถือว่าเป็นคนมีสามีแล้วนะ หืม”
“ฉันรู้แล้ว เขากำลังจะไปอเมริกาแล้ว คุณวางใจเถอะ ฉันตกลงกับคุณแล้วฉันจะต้องทำให้ได้ คุณอย่าโกรธไปเลย” หญิงสาวนั่งที่ตักของเขา
ทันใดนั้นคณพศรู้สึกว่าชีวิตของเขา หากไม่มีเธอ จะเป็นอย่างไร เธอนั่งบนตักของเขาจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
เขาใช้สองมือโอบกอดเอวของเธอ “ที่รัก ผมเชื่อใจคุณ” เขามองนอกหน้าต่างที่ค่อยๆมืดขึ้นมา
เขาควรจะให้เคนโด้กลับไปอเมริกาได้แล้ว อีกอย่างพิมมี่ ครั้งนี้ เขาจะทำให้เธอรู้ว่าการที่คิดเป็นศัตรูกับเขาผลสุดท้ายมันเป็นอย่างไร
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ นาราปล่อยน้ำใส่อ่างแล้วนวดให้คณพศเกือบชั่วโมง
แต่คณพศกลับนั่งทำงาน
ทุกครั้งที่เขาเห็นเธอนวดขาให้เขา เขาอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าไม่ต้องนวดแล้ว ขาของเขาหายดีแล้ว
ทุกครั้งที่คำพูดออกมาถึงคอ เขาก็เก็บมันไว้และไม่พูดออกมา เขากลัวว่าหากเธอรู้ว่าขาของเขาหายดีแล้วเธอจะจากเขาไป
เขาสามารถควบคุมทั้งโลกนี้ไว้ได้ แต่ไม่สามารถควบคุมหัวใจของเธอไว้ได้ อีกทั้งเขาไม่อยากให้เธอเสียใจ
นารายิ้ม “ฉันไม่เหนื่อย ขอแค่ให้คุณยืนขึ้นมาได้ เหนื่อยแค่นี้ไม่เป็นไร”
ในใจของคณพศเจ็บขึ้นมา เขาลูบผมของเธอ มีเหงื่อเม็ดเล็กๆออกมา
“อยากให้ผมยืนขึ้นได้ขนาดนั้นเชียวหรือ”
“ใช่สิ”
“หากผมลุกขึ้นยืนได้แล้ว คุณห้ามไปไหนนะ”
“……”
“ผมจะรีบหย่ากับพิมมี่ และให้คุณเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม”
“……”
“ผมไม่ยอมให้คุณจากไปไหน”
มองมือเล็กขาวเรียวของเธอ เขากุมมือเธอ “ที่รัก ได้ยินไหม” เสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเสียงสูง
นารามองหน้าเขา เธอพยักหน้าเบาๆ
เขาบังคับให้รถวิวแชร์ของเขาอุ้มนาราไปที่ห้องอาบน้ำ นาราใบหน้าแดงขึ้น
“คณพศฉันเดินเองได้ คุณ”
“ผมมองคุณอาบน้ำ ที่รัก”
“……”
รอนาราอาบน้ำเสร็จ ชายหนุ่มก็ขึ้นไปนอนรอบนเตียงแล้ว เขาตบเตียงอีกฝั่ง “ที่รัก ขึ้นมาเร็ว”
นาราเช็ดผมแล้วนั่งลง “คณพศ อีกไม่กี่วันจะสอบแล้ว ฉันจะต้องทบทวนบทเรียน ฉันสามารถไปห้องอ่านหนังสือก่อนได้ไหม”
“ไม่ได้” พูดจบเขาก็จูบเธอ
นี้เขาและเธอหายกันตั้งหลายวัน เขาจะปล่อยเธอไปอ่านหนังสือได้อย่างไร
จูบของเขาร้อนแรง
ตอนที่เขาไปฝรั่งเศสทุกวันจะคิดถึงแต่เธอ เขากลับสงสัยว่าตัวเองหลงพิษของผู้หญิงคนนี้อยู่รึเปล่า
ในตอนที่เขารู้ว่าเธอได้รับอันตรายนั้น เขาทิ้งทุกอย่าง เปิดเผยฐานะและไปช่วยชีวิตของเขา
ในเวลานี้เขาแค่อยากจะครอบครองหญิงสาวคนนี้อย่างรุนแรง
ตลอดทั้งคืน เขาไม่ปล่อยเธอไปไหนเลย
ในเช้ารุ่ง ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวที่หลับอยู่ไปทำความสะอาด
เขาวางเธอลงที่เตียง มองดูเธอที่หลับอยู่ ในใจก็อ่อนลงดุจน้ำ
เขาหลับตาและหลับลง
วันที่สองตอนเช้านาราลืมตาขึ้นมารู้สึกเจ็บปวดทั้งตัวเธออยากจะลุกขึ้นมาแต่ก็ลุกไม่ได้
ป้าอ้ายเปิดประตูเข้ามาแล้วยิ้ม “คุณนายค่ะ วันนี้คุณชายบอกว่าคุณไม่ต้องไปเรียนหรอก คุณนอนพักเถอะ หรือว่าจะทานอาหารก่อนแล้วนานพักก็ได้”
ไม่ไปเรียนอีกแล้ว แล้วเธอจะสอบได้ยังไง
เธอค่อยๆลุกขึ้นแล้วไปอาบน้ำ ในกระจกปรากฏรอยที่ใบหน้า
ตรงหน้าออกก็มีรอบจูบ นั้นทำให้เธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
เขามีอะไรกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังพูดข้างหของเธอจนเธอรู้สึกสั่นเมื่อได้ยิน!
เขาเหมือนคนไม่ได้เป็นอัมพาต
เขายังอุ้มเธอไม่ห้องน้ำทั้งๆที่ไม่ได้นั่งวิวแชร์
ตอนนั้นแม้เธอจะหลับอยู่แต่เธอก็รู้สึกว่าเขาอุ้มเธอไปที่ห้องอาบน้ำ
เธอตกใจตรงหน้ากระจก ทุกครั้งที่เธอนวดขาให้เขาเธอจะรู้สึกว่า ชีพจรขาของเขายังเต้นอยู่
แต่ขาของเขาเหมือนคนที่ไม่มีความรู้สึกตรงขา หรือว่าเขาหายเป็นปกติแล้ว
แล้วทำไมเขาต้องโกหกเธอ
ทันใดนั้นเธอนึกถึงคำที่เขาพูด “ต่อให้ผมลุกเดินได้ คุณก็ห้ามจากผมไปไหน เข้าใจไหม”
เขาคงไม่แกล้งหรอกมั้ง
นาราอาบน้ำเสร็จก็เดินลงบันได มองเห็นอาหารเช้าบนโต๊ะ เธอนั่งลงและค่อยๆทาน
“ป้าอ้าย ขาคุณคณพศดีแล้วหรอ”
ป้าอ้ายก้มหน้าแล้วพูด “คุณชายเป็นคนดี ขาของเขาต้องดีขึ้นแน่นอน คุณนาย คุณอย่ารีบร้อนนะ คุณชายต้องยืนขึ้นได้อย่างแน่นอน”
นาราก้มหน้ากินข้าว ไม่พูดอะไร
ประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์นั่งอยู่ที่ห้องพักเสกข์พาบุรินทร์เข้ามา
“ท่านประธาน คุณบุรินทร์มาแล้วครับ”
บุรินทร์ยืนห่างจากคณพศสามเมตร “ประธานคณพศ คุณให้ผมมาพบมีเรื่องอะไรรึเปล่า”
พอเขาตื่นขึ้นมาก็โดนเลขาของคณพศเอารถมารับถึงที่ เสกข์บอกว่าคณพศมีเรื่องจะคุยกับเขา
เขาพอจะเดาออกว่าเพราะเรื่องเลิกกับพิมมี่ แต่เขาก็ไม่คิดอะไรมากแม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นพ่อตาของเขา แต่เขาก็รู้ว่าคณพศตอนนี้ยังไม่ยอมรับเขา
ดังนั้นตลอดทางที่เขามาก็นึกถึงเรื่องหย่ากับพิมมี่ ตระกูลวรชัยลภัสก็แค่มีฐานะผู้ถือหุ้น
“คุณบุรินทร์ วันนี้ผมเชิญคุณมาเพราะอยากคุยเรื่องนี้” คณพศค่อยๆเงยหน้าขึ้น รถวิวแชร์ขับมาที่กลางห้อง
ยกมือขึ้นเชื้อเชิญบุรินทร์นั่งลง
บุรินทร์ค่อยๆนั่งลง แล้วมองชายที่นั่งบนรถวิวแชร์ “คุณคณพศหากมีธุระอะไรจะสั่งพูดมาเลยก็ได้ คุณและผมเราไม่ใช่คนนอก” พูดเสร็จก็ยิ้ม
คณพศรอให้เลขาจัดน้ำชาให้เสร็จเขาจึงพูดว่า “คุณบุรินทร์เองก็รู้ดีว่าวันก่อนลูกสาวของคุณ พิมมี่ให้คนมาลักพาตัวภรรยาของผม”
“อะไรนะ”
พิมมี่ลักพาตัวนารา จะเป็นไปได้ยังไง