The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 7 คิดถึงผู้ชายแล้วเหรอ
ตอนที่ 7 คิดถึงผู้ชายแล้วเหรอ
นาราได้ยินเสียงน้ำ หรือข้างในมีห้องอาบน้ำหรือ
คนพิลึกจริงๆ ในห้องหนังสือมีห้องอาบน้ำเนี่ย พอนึกถึงว่าตัวเองมาเพื่อดูแลเขา ก็เดินไปพร้อมเปิดประตูบานกระจก
เป็นห้องอาบน้ำจริงๆด้วย นารามองไปรอบๆห้องอาบน้ำอบอวลไปด้วยความไอร้อน
เดินผ่านไอร้อนไป นาราก็เห็นชายหนุ่มแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำพร้อมน้ำจากฝักบัวสาดลงบนหัว สายน้ำอันนับไม่ถ้วนสาดลงบนผมดกดำของเขา
ตามหัวไหล่จนถึงแผ่นหลังมีฟองน้ำที่เกาะเต็มตัว ด้านข้างมีวีลแชร์ที่เปียกปอน
วินาทีที่เปิดประตู ชายหนุ่มเงยหัวขึ้น นัยย์ตาสีดำระยิบระยับพร้อมความรู้สึกอันเยือกเย็น
จ้องมองหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างเฉยชา “ใครใช้ให้เธอเข้ามา ออกไป”
เสียงที่ต่ำทุ้มของเขาแฝงไปด้วยความโมโหและเย่อหยิ่ง
นาราเงยหน้ากับดวงตาสีฟ้าเข้มของเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เอิ่ม คือ พวกเขาให้ฉันมาดูแลคุณค่ะ” พูดจบเตรียมจะไปปิดฝักบัว
“ออกไป” เสียงเย็นชาของเขาดังขึ้นท่ามกลางไอร้อนในห้องอาบน้ำอีกครั้ง พร้อมด้วยความโกรธ
ด้วยเสียงที่โกรธเคืองของเขา นารารีบปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องอาบน้ำ
ชายหนุ่มขึ้นจากอ่างอาบน้ำ หยิบชุดคลุมอาบน้ำมาใส่แล้วโดดขึ้นวีลแชร์ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาที
พอนาราได้ยินเสียงที่เขาออกจากน้ำแล้ว ประตูก็เลื่อนออกพอดี วีลแชร์ที่มีชายหนุ่มสวมชุดอาบน้ำนั่งอยู่
เพียงสามวิก็เข็นมาถึงตรงหน้าเธอ บีบคอเธออย่างแรงด้วยท่าทางที่โกรธเหมือนจะฆ่าเธอยังไงอย่างนั้น
นารามองหน้าอันโหดร้ายของชายหนุ่มด้วยความตำใจ เธอจับมือที่แข็งเหมือนเหล็กของเขาไว้
“อย่าค่ะ ฉัน คือพวกเขาให้ฉันเข้ามาดูแลคุณเองนะคะ”
คณพศมองหน้าที่แดงเรือดของเธอ ลมหายใจที่อ่อนลงของเธอ นัยย์ตาสีฟ้าเข้มจ้องมองที่เขา จากนั้นน้ำตาค่อยๆไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
นัยย์ตาสีดำของคณพศ เขาค่อยๆปล่อยมือ วีลแชร์ของเขาสูงมาก นารายืนอยู่ข้างเขาสูงกว่าเขาเพียงนิดเดียวเอง
ทันทีที่เธอถูกปล่อยจากการบีบคอ เธอก็ไออย่างแรง
เพราะไอด้วยความแรง ร่างกายของเธออ่อนตัวแล้วล้มลงหน้าตักของคณพศ เพราะเธอถูกบีบคอจึงทำให้เธอหมดเรี่ยวแรง
ขณะที่ล้มลงไป มือทั้งคู่ของเธอไปแตะโดนระหว่างขาของชายหนุ่ม
เขาหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างแรง “ให้เวลาเธอสามวิ หายตัวไปซะ”
มือทั้งคู่ของนาราวางอยู่ระหว่างขาของเขา รู้สึกถึงความอุ่น เธอรู้สึกมีอะไรผิดปกติก็รีบเอามือออก
แล้วเปลี่ยนไปจับขาของเขา ขาที่อุ่นและแข็งของเขา ทำให้เธอรู้สึกถึงมือที่เต้นตุ๊บตั๊บ นาราตกใจพยายามรีบลุกขึ้น
“อันนี้ โทษฉันไม่ได้นะ ใครใช้ให้คุณบีบคอฉันล่ะ” เธอรีบลุกขึ้นแล้วมองไปที่ดวงตาสีดำของเขา
ชายหนุ่มจับคางของเธอไว้แล้วพูดว่า “ทำไม คิดถึงผู้ชายแล้วเหรอ นี่เพิ่งจะแต่งงานเข้ามาก็รอไม่ได้ซะแล้วหรือ หือ”
ชายหญิงสองคนหน้าใกล้กันมาก ลมหายใจรดใส่กัน นาราเห็นใบหูของชายหนุ่มเริ่มแดง
นัยย์ตาที่โกรธแทนที่ด้วยความรู้สึกที่อึดอัดแทน
เขาดันเธอออก “ไม่ต้องใช้ไม้อะไรมาเล่นกับฉัน รีบออกไป” จากนั้นเข็นวีลล์แชร์ออกจากห้องหนังสือไป
นาราลูบคอเบาๆแล้วรีบเดินออกจากห้องหนังสือไป ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก หรือเขารู้แล้วว่าเธอไม่ใช่พี่พิมมี่่ก็เลยทำแบบนี้กับเธอ
เขาไม่ใช่จะแย่งพี่พิมมี่่จากพี่ชายของเขาหรือไง ตามหลักเหตุผลแล้วต้องชอบพี่พิมมี่่ถึงจะแย่งมาสิ แต่ทำไมสิ่งที่เขาทำกับเธอดูเหมือนโกรธเกลียดอะไรปานนั้นเลย
ถ้าเขารู้ว่าเธอเป็นแค่ตัวปลอม เขาจะโกรธมากขึ้นแล้วฆ่าเธอด้วยหรือเปล่านะ
คณพศเข็นวีลแชร์ไปถึงห้องก็ล็อคประตู รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียง ผู้หญิงคนนี้สมควรตายจริงๆ กล้ามาแตะของลับของฉัน
ขณะที่มือเธอจับของเขาอยู่นั้น เขามีความรู้สึก บ้าเอ๊ย เขาไปมีความรู้สึกกับผู้หญิงของวิษณุส์ได้ยังไงกัน
แค่คิดถึงเธอเคยนอนกับวิษณุส์ เขาก็รู้สึกขยะแขยง ที่เขาให้เธอแต่งงานเข้ามาอยู่ที่นี่เพื่อจะล้างแค้น ทำให้วิษณุส์ทนทุกข์ทรมาณ คิดถึงตรงนี้สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
นาราเดินออกจากห้องหนังสือก็เดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนของเธอ แล้วรีบล็อคประตูเช่นกัน จับหัวใจที่กำลังเต้นแรง เธอควรทำยังไงดี
หากรู้ว่าเธอไม่ใช่ตัวจริง เขาจะฆ่าเธอมั้ยนะ
เธอค่อยๆหลับตาลงแล้วล้มลงบนเตียงอย่างหมดหวัง
เธอหลับแบบไม่รู้ตัว พอตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว ได้ยินเสียงเคาะประตู เธอขยี้ตาเบาไปแล้วไปเปิดประตู
ป้าเมย์เห็นเธอยังใส่ชุดเมื่อวานก็รู้สึกตกใจ “คุณนายสาม คุณไม่ได้นอนเหรอคะ”
“นอนแล้วค่ะ” นาราตอบเบาๆ
“ถ้างั้นคุณนายไปทานอาหารเช้าได้แล้วค่ะ” พูดจบมองนาราด้วยความงงงวย
นาราเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินลงไปชั้นล่าง เจอชายหนุ่มนั่งทานข้าวบนโต๊ะด้วยท่าทางที่ดูดี
เธอค่อยๆเดินไป นั่งฝั่งตรงข้ามของเขา “อรุณสวัสดิ์” มองหน้าผู้ชายที่ไร้ความรู้สึก ทำให้ในใจเธอมีความหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา
“นั่งลงกินข้าวเถอะ” คณะพศทำเหมือนเมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
“คุณชายคะ เอิ่ม กินข้าวเสร็จ ให้ฉันทำอะไรบ้างคะ” เธอจะกินๆนอนๆทั้งวันไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อไม่ได้เรียนแล้ว อยู่นี่ก็หาอะไรทำสักหน่อย
ชายหนุ่มที่เฉยชาหยิบผ้ามาเช็ดปาด แล้วพูดว่า “เธออยากทำอะไร อย่าลืมว่าเธอเป็นคุณนายของที่นี่ วางตัวให้ถูกแล้วอยู่นี่ที่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร”
นี่มาแค่วันเดียวก็ทนไม่ได้แล้ว อยากออกจากที่นี่ทำเป็นหาอะไรทำ เขาก็จะรอดูว่าเธอจะทนได้สักกี่น้ำเชียว
คณพศพูดจบก็เข็นวีลแชร์ออกไป ทิ้งไว้เพียงนาราที่มองตามหลังเขาไปงงงวย
ช่างมันเถอะ อย่าไปใส่ใจคนพิการเลย เธอเข้าใจคนนั่งวีลแชร์แบบนี้ นิสัยแปลกก็คงเป็นเรื่องปกติ
เธอเทนมแล้วเริ่มกินอาหาร
กินข้าวเสร็จ นาราเดินออกจากบ้าน เงยหน้ามองทะเลอันไกลโพ้น อากาศสดชื่น เธอเดินมาถึงโขดหินริมทะเล
เธอยืนมองทะเล ผิงผิงกับไลลาจะตามหาเธอมั้ยนะ ยังมีเคนโด้อีก ตอนเธอออกจากมหาวิทยาลัยก็ไม่กล้าบอกพวกเขา กลัวว่าพวกเขารู้ว่าเธอมาแต่งงานคงถูกด่าตายเลย
เคนโด้ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้ ชีวิตของฉันกำหนดเองไม่ได้ ถ้านายมีผู้หญิงที่ดีพร้อมฉันก็จะยินดีกับพวกเธอนะ
เธอนั่งเหม่ออยู่ข้างโขดหินชั่วโมงหนึ่งแล้ว บนระเบียงห้องชั้นสอง สายตาเย็นชาของชายหนุ่มมองไปยังเธอ