The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 72 เขาปาปากกาใส่พิมมี่
บทที่ 72 เขาปาปากกาใส่พิมมี่
ถ้าเกิดว่าคุณพศโกรธ เรื่องที่ให้นารามาแต่งงานแทนล่ะก็ เธอก็จะขอโทษ
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอก็จะไม่มีวันยกตำแหน่งภรรยาท่านประธานของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ให้ผู้หญิงที่จิตใจร้ายกาจแบบนาราเด็ดขาด
ลูกนอกสมรสที่ต่ำต้อยอย่างนารา มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาแย่งของของพิมมี่?
ตั้งแต่เล็กจนโต ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่าพิมมี่จิตใจดี ยอมแบ่งข้าวให้เธอกินคำสองคำ
เธอก็คงจะไม่รู้ว่า การหิวแทบตายมันเป็นยังไง!
เพียงแค่การปรากฏตัวของพิมมี่ ก็ทำให้คุณพศโกรธมากแล้ว
แถมตอนนี้ ยัยพิมมี่อะไรนี่ ยังกล้ามาพูดจาไร้มารยาทถึงนาราต่อหน้าเขาอีก
ในตอนนั้นสีหน้าของคุณพศก็มืดมนลงทันที
สายตาที่เย็นชา ราวกับดาบคม จ้องเขม็งไปที่ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนั้นอย่างโกรธแค้น
วินาทีต่อมา คุณพศก็หยิบปากกาบนโต๊ะทำงาน ปาไปที่พิมมี่ที่ยืนโหวกเหวกโวยวายอยู่ตรงนั้น
เพราะว่าวิธีการของคุณพศนั้นพิเศษมา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ปากกายี่ห้อธรรมดาๆ แต่พอปาออกไป ก็เหมือนกับว่าเป็นลูกธนูที่ถูกยิงออกมาจากคันสรไปที่ผู้หญิงคนนั้น
“โอ๊ย!” เสียงร้องด้วยความเจ็บของพิมมี่ตามมา
ปากกาที่คุณพศปาออกไปเมื่อกี้ ไปปักเข้าตรงกลางหน้าอกของเธอ
พิมมี่เจ็บปวดจนหน้าซีด แผลที่หน้าอกก็มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ชุดเดรสสีขาวของเธอบริเวณหน้าอกเต็มไปด้วยเลือด!
พิมมี่ที่โหวกเหวกโวยวายด้วยความโมโหก่อนหน้านี้ช็อคกับการกระทำของคุณพศ เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาหวาดกลัว ตอนนี้ก็ได้รับรู้ถึงความป่าเถื่อนของเขาแล้ว
แล้วการที่วันนี้แต่งตัวมาแบบนี้ นอกจากว่าเขาจะไม่ได้สนใจแล้ว ยังปาปากกาใส่เธออีก!
เธอมองหน้าคุณพศที่นั่งอยู่บนวีลแชร์อย่างหวาดกลัว สีหน้าเขามืดมน ราวกับว่าอยากจะฆ่าคน
ใจเธอสั่นระวัวแล้วก็คิดว่า : ผู้ชายคนนี้จะน่ากลัวเกิดไปแล้ว เมื่อก่อนเธอคิดว่าคนที่ต้องนั่งวีลแชร์มาเก้าปีแบบเขาจะเป็นแค่ผู้ชายอ่อนแอซะอีก
ในเมืองนี้ หรือนับว่าในประเทศนี้ก็ได้ คนที่น่ากลัวที่สุดคือคนที่มีเล่ห์เหลี่ยม ปลิ้นปล้อนแห่งตระกูลปัญญาพนต์ ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนที่ใจดำอำมหิต ไม่เลือกวิธีการอย่างวิษณุส์!
แต่เมื่อเธอได้เห็นคุณพศตอนนี้ถึงจะรู้ว่า คนที่น่ากลัวที่แท้จริง ก็คือผู้ชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์คนนี้แหละ
บุรินทร์ที่ยืนอยู่ข้างๆตรงนั้น ไม่คิดเลยว่า คุณพศที่ไม่ได้แม้แต่ขยับตัว แถมยังอยู่ไกลขนาดนั้น ยังสามารถใช้เพียงแค่ปากกาในการทำร้ายพิมมี่ได้
เพราะฉะนั้นเขาก็ช็อคไปเลยเหมือนกัน ไปแต่มองปากกาที่ปักอยู่ที่หน้าอกของลูกสาวอย่างตะลึง
เขาได้แต่เอ่ยปากขอโทษคุณพศเสียงสั่น “ขอโทษจริงๆครับคุณพศ คุณอย่าโกรธเลยนะครับ พิมมี่เธอไม่รู้เรื่องรู้ราว เธอไม่ได้ตั้งใจ….”
ถ้าเกิดว่าคุณพศต้องการชีวิตของเธอล่ะก็ เขาก็ไม่มีทางทำอะไรได้แล้ว!
คุณพศกับวิษณุส์ไม่เหือนกัน บุรินทร์ไม่เพียงแค่ไม่รู้จักเขาดี
แต่แม้แต่ตอนที่อยู่ต่อหน้าเขา บุรินทร์ก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะว่าออร่าความมีอำนาจของเขา ทำไมให้บุรินทร์รู้สึกเกรงกลัวมาก
แต่ว่า บุรินทร์ยังไม่ทันจะขอโทษขอโพยจบ
คุณพศที่มีสีหน้ามืดมน ก็พูดต่ออย่างเลือดเย็นว่า “เธอไม่รู้เรื่องรู้ราวหรือว่ากำเริบเสิบสานอยู่กันแน่! เรื่องที่ผมเคยพูดกับคุณ คุณก็ทำไม่ได้ ดูเหมือนว่าผมก็ไม่ควรจะเกรงใจพวกคุณอีกต่อไปแล้ว!”
เป็นถึงประธานกรรมการแท้ๆ แต่แม้แต่ลูกสาวของตัวเองยังดูแลไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถจริงๆ แล้วยิ่งดูท่าทางอ่อนแอของเขาตอนนี้ มองไม่เห็นจริงๆว่าความเป็นพ่อคนอยู่ตรงไหน!
ตอนแรกเพราะเห็นแก่นารา เขาเลยไม่อยากจะทำอะไรบุรินทร์ แต่ใครใช้ให้เขาไร้ความสามารถ จนทำให้ผู้หญิงของคุณพศต้องโดนกลั่นแกล้งกันล่ะ?
คุณพศโมโหมากที่พิมมี่ด่านาราออกมาแบบนั้น
ในอีกด้านนึงพิมมี่มองปากกาที่หน้าอกของตัวเอง และเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด เธอช็อคจนตัวสั่นไปหมด
เธอยื่นมือไปจับมือของบุรินทร์ ร้องไห้ครวญคราง “พ่อ พ่อ ทำไงดี? หนูจะตายแล้วใช่ไหม? หนูยังไม่อยากตาย หนูยังไม่อยากตายนะพ่อ….”
บุรินทร์ที่จิตใจว้าวุ่นอยู่แล้ว ยิ่งได้ยินพิมมี่ร้องไห้แบบนั้น เขายิ่งทำอะไรไม่ถูก
เขาปลอบขวัญพิมมี่ พลางมองดูสีหน้าของคุณพศด้วย
แล้วก็พูดออกมาว่า “ผม….ขอโทษนะครับคุณพศ ขอโทษจริงๆ….”
ในตอนนี้นั้น บุรินทร์ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
ก็เลยได้แต่พยายามขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะกลัวว่าคุณพศจะโมโหขึ้นมาแล้วอยากจะเอาชีวิตของพิมมี่
เพราะฉะนั้นพวกเขาก็ไม่ได้หนีออกมาทันที ได้แต่ขอร้องให้คุณพศปล่อยพวกเขาไป
มองดูปากกาแท่งนั้นที่แทงเข้าไปค่อนข้างลึก ถ้าไม่รีบไปโรงพยาบาลล่ะก็ เลือดพิมมี่ต้องไหลไม่หยุดแน่!
คำขอโทษจากบุรินทร์นั้นไม่ได้ทำให้คุณพศพอใจเท่าไหร่
เขาพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง ปลดเนกไทออก แล้วก็พูดออกมาช้าๆว่า “ผมไม่ค่อยทำร้ายผู้หญิงซักเท่าไหร่หรอกนะ แต่ถ้าเกิดว่ามารังแกภรรยาผมเมื่อไหร่ ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน”
“เรื่องวันนี้ ถือว่าเป็นการเตือนครั้งที่สอง ถ้าเกิดว่ามีครั้งที่สามล่ะก็ อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน! ไสหัวออกไป!”
ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะพิมมี่เอาแต่ยืดเยื้อ ไม่ยอมทำเรื่องหย่าซักที
ระหว่างเขากับนารา ก็คงจะไม่มีเรื่องเข้าใจผิดกันมากมายขนาดนี้
ยิ่งตอนที่นาราพยายามตีตัวห่างจากเขาเพราะเรื่องพิมมี่ ที่เป็นภรรยาตามกฎหมายของเขา ยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นทุกข์
เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่รับประกันว่า ถ้าเกิดว่าพิมมี่ยังไม่ยอมหย่าล่ะก็ เขาจะเอาชีวิตของผู้หญิงโลภมากไม่รู้จักพอคนนี้รึเปล่า
ฟังจากคำพูดของคุณพศแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นแก่นารา จึงยอมปล่อยพวกเขาไป
บุรินทร์รีบรนพยักหน้าตกลง แล้วตอบว่า “ครับ คุณพศ เรื่องที่คุณบอกให้ผมทำ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด ขอโทษจริงๆครับ ถ้ายังงั้นพวกเราขอตัวไปก่อน ขอโทษจริงๆนะครับ”
พอพูดจบ เขาก็ค่อยๆพยุงพิมมี่เดินถอยหลังออกไป
พิมมี่ยังยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นไม่หยุด ช็อคจนตัวสั่นไปหมด ก็ถูกบุรินทร์ลากตัวออกจากห้องทำงานของคุณพศไป
หลังจากสองพ่อลูกออกจากห้องไปแล้ว คุณพศก็ไม่เสียเวลาอีกต่อป รีบตรงไปที่ห้องประชุมทันที พิมมี่จะไปหรือไม่ไปโรงพยาบาล เขาก็ไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียว
เพราะว่าตอนเช้าคุณพศบอกกับนาราแล้วว่าวันนี้จะทำงานแค่ครึ่งวันเท่านั้น ตอนบ่ายจะกลับไปให้เธอนวดให้
ดังนั้นพอถึงเวลาอาหารกลางวัน คุณพศก็รีบให้ลุงบีมไปส่งที่คฤหาสน์เจหงส์
“พี่สะใภ้ พี่นั่งอ่านหนังสืออยู่อีกแล้วเหรอ?” ณ ห้องโถงของคฤหาสน์ ยชญ์ยิ้มแย้มพร้อมทักทายนาราเรื่องที่เธอชอบอ่านหนังสือ