The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 76 ผู้หญิงแปลกหน้าในคฤหาสน์
บทที่ 76 ผู้หญิงแปลกหน้าในคฤหาสน์
เขาปลดสายเสื้อในของเธอออก และจูบไปที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ
แล้วก็ดึงมือของเธอที่กุมผ้าปูที่นอนแน่นออกมา แล้วก็ประสานมือเข้ากับมือของเธอ
เขาจูบเธอช้าๆและอ่อนโยน ให้เธอปรับตัวได้ก่อนแล้วค่อยไปต่อ
นารากังวลเพราะว่าเพื่อนทั้งสามคนของเขายังรอเขาอยู่ข้างล่าง
แต่พวกเขากลับมาทำอะไรแบบนี้….
แต่ว่าคุณพศนั้นบ้าคลั่งไปแล้ว รสชาติของเธอทำให้เขาถอนตัวไม่ขึ้น ทนไม่ไหวอีกต่อไป
แต่พอคิดถึงเรื่องมือคืน ที่เขาทำให้นาราต้องเสียใจ
คุณพศก็เลยสามารถกดอารมณ์ของตัวเองไว้ได้ ความใจร้อนของเขากลายเป็นอ่อนโยน นุ่มนวลราวกับน้ำ
คุณพศบอกแล้วว่าครั้งเดียว ก็ต้องครั้งเดียว เขาเป็นคนพูดยังไงทำแบบนั้น
แต่ว่าครั้งเดียวนั้น ทำให้นาราไม่เหลือเรี่ยวแรงเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอจำไม่ได้แล้วว่าเคยบอกว่าจะนวดให้คุณพศ พอจบศึกกับคุณพศ เธอก็เหนื่อยจนหลับไป
“เฮ้อ กว่าฉันจะกลับมาจากฝรั่งเศสได้นี่ไม่ง่ายเลยนะ แต่พี่ใหญ่กับทิ้งฉันไว้ตรงนี้ นั่งจ้องหน้ากับพวกนี้อยู่นั่น เมื่อไหร่ฉันจะเป็นคนสำคัญในสายตาเขาบ้าง?”
พวกเขายังคุยกันได้ไม่กี่คำ คุณพศก็รีบไปหานาราแล้ว
ตรัญที่นั่งรอคุณพศลงมาคุยกับพวกเขาอีก อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
ตอนแรก คุณพศบอกว่าจะแต่งงานกับพิมมี่ ผู้หญิงของวิษณุส์
พวกเขาก็ต่อต้านอย่างแรงกล้า ไม่อยากให้คุณพศละทิ้งความสุขชั่วชีวิตของตัวเองเพราะความเกลียดชัง
แต่ใครจะไปรู้ว่าฟ้าจะเห็นใจ ไม่ได้ส่งผู้หญิงชั้นต่ำอย่างพิมมี่มาให้ แต่ว่ากลับส่งที่มีเสน่ห์มากมายมาให้เขาแทน
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ คุณพศที่เกลียดผู้หญิง แถมไม่ยอมเข้าใกล้ผู้หญิงมาหลายปีจะติดกับดักซะแล้ว
แต่พอได้ยินตรัญบ่นแบบนั้น ยชญ์ที่นั่งอยู่ข้างๆก็หัวเราะออกมา “พศมีหวานใจตัวน้อยอยู่ข้างๆเขาแบบนั้น ถ้ายังจำแกได้อยู่สิแปลก ฉันเสนอให้แกรีบกลับไปหาผู้หญิงที่ถูกใจที่ฝรั่งเศสซักคนเถอะ อย่ามัวนึกถึงแต่พศเลย”
ในบรรดาเพื่อนสนิททั้งสี่คน ที่จริงคนที่สนิทกับพศที่สุดก็คือตรัญ
แต่ในบรรดาทั้งสี่คน ตรัญคือคนที่ซ่อนความรู้สึกได้เก่งที่สุด
คุณพศดูแลเขาเป็นพิเศษมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นเขาจึงพึ่งพาอาศัยคุณพศมาโดยตลอด
พวกเขารู้กันดีว่า ตรัญกับคุณพศไม่ชอบผู้หญิง
เพราะว่าตอนนั้นเขาถูกผู้หญิงหักอกมา ในใจเขาลืมมันไม่ได้ ส่วนคุณพศเพราะว่ารอบตัวมีแต่คนเกลียดชัง จึงไม่มีอารมณ์ไปเสียเวลากับผู้หญิงที่ไหน
เพราะฉะนั้นทั้งสองคนนี้เลยเกลียดผู้หญิง เป็นสัญญาลับที่พวกเขาสัญญากันมาตั้งหลายปี แต่เหมือนว่าตอนนี้จะมีคนนึงที่คิดไม่ซื่อ
พอได้ยินยชญ์พูดดังนั้น ตรัญก็ถลึงตาใส่เขา เขาดูไม่แฮปปี้มาก : “แกคิดว่าพศจะเห็นแฟนดีกว่าเพื่อนเหมือนแกรึไง? แกเคยนับไหมว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างๆแกตอนนี้มีกี่ร้อยคน? ระวังจะเป็นโรคจิตเอานะเพื่อน”
“แก….ทำไมพูดจาเสียดสีแบบนี้ แถมยังด่าว่าฉันโรคจิตอีกงั้นเหรอ? ช่างเหมือนพศซะจริง” พอได้ยินตรัญพูดดังนั้น ยชญ์ก็เถียงไม่ออก เพราะว่าผู้หญิงของเขาก็เยอะจริงๆนั่นแหละ
เขาหันไปมองเด่นภูมิที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆเขา แล้วก็พูดว่า “เด่นภูมิ แกดูพี่ชายแกสิ ดูที่เขามารังแกฉัน”
เด่นภูมิมองหน้าเขาแล้วพูดว่า “แกเป็นแบบนี้ยังจะกลัวคนรังแกอีกเหรอ แล้วที่พี่ฉันพูดมันไม่ถูกตรงไหน? ฉัทายว่าผู้หญิงของแกที่ยุโรปคงจะมีเป็นกองเลยน่ะสิ ยังจะกลัวคนว่าอีกเหรอ?”
คบกันมาตั้งหลายปี ไม่มีใครไม่รู้ว่ายชญ์เป็นคนชอบเด็ดดอกไม้ไปทั่ว!
ยชญ์ขอความช่วยเหลือจากเด่นภูมิ แต่เขากลับตอกย้ำกลับมาซะได้
เขาหันหน้าไปมองพี่ชายตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
แล้วก็พูดต่อช้าๆ “ที่พี่ชายฉันพูดน่ะถูกแล้ว แกน่ะระวังตัวดีๆเถอะ ถ้าไปติดโรคอะไรขึ้นมา ก็อย่ามาพูดว่าเราเป็นเพื่อนกันอีกนะ”
“พวกแก….” ยชญ์ตัวคนเดียว แต่กลับโดนสองพี่น้องคู่นี้รุมซะได้ เขารู้สึกหดหู่จนเกิดบรรยาย
เขาโกรธฟึดฟัดอยู่ซักพัก ก็คิดวิธีตอบโต้ได้
เขาพูดกับตรัญหน้านิ่งๆว่า “ตรัญ ฉันได้ยินมาว่าตอนแรกปู่ของแกได้หาคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กไว้ให้พวกแกแล้วนิ ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องทำตามสัญญารึยังล่ะ? พวกแกพี่น้องใครกันนะเป็นคนโชคร้ายคนนั้น?”
ตระกูลสิริกันต์ต่างเป็นทหารกันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น สองพี่น้องอย่างตรัญกับเด่นภูมิก็ต้องอยู่ในระเบียบวินัยอย่างทหาร ถึงแม้ว่าเรื่องกิจการงานของพวกเขาครอบครัวของเขาจะไม่ยุ่ง แต่ในเรื่องของการแต่งงานนั้น ต้องเชื่อฟังและทำตาม
เพราะว่าพวกเขาสองคนเป็นที่ปกติมาก เลยไม่มีจุดด้อยอะไรให้ยชญ์ล้อได้
จุดอ่อนเพียงข้อเดียวก็คงจะเป็นเรื่องที่ปู่เขาหาคู่หมั้นให้พวกเขาเมื่อห้าปีก่อน
ที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องของตรัญ หลังจากหมั้นได้ไม่กี่เดือน ผู้หญิงคนนั้นก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตอยู่ที่อังกฤษ
ตรัญก็คิดว่าเรื่องนี้มันจะจบแล้ว ยังไงเขาก็ไม่ได้ชอบการคลุมถุงชนซักเท่าไหร่ แต่พอคุณปู่สั่งมาเขาก็จำเป็นต้องตกลง พอดีผู้หญิงคนนั้นเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน เขาก็คิดว่าเรื่องนี้ก็จะจบไป
ไม่คิดเลยว่าสัญญาที่เขาให้ไว้จะยังอยู่ แถมยังให้น้องสาวแต่งงานกับเขาอีก
พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ตรัญก็รู้สึกอึดอัด ก็เลยกลับมาที่เมืองธิตกล
ยชญ์หัวเราะแล้วพูดต่อว่า “ปู่ของพวกแกนี่ก็พูดคำไหนคำนั้นจริงๆเนอะ ครั้งนี้ระหว่างพวกแก ใครกันล่ะที่จะได้แต่งงานกับน้องสาวคนนั้น?”
ตอนแรกตรัญกับเด่นภูมิยังยิ้มหัวเราะอย่างพึงพอใจ แต่พอได้ยินยชญ์พูดดังนั้น สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปทันที
โดยเฉพาะตรัญ ใบหน้าหล่อเหลานั้นขมวดคิ้วแน่นจนเป็นปม
สุดท้ายเด่นภูมิก็ถอนหายใจออกมา ราวกับว่ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นแล้วพูดว่า “คุณปู่บอกแล้วว่า พี่ชายฉันจะต้องแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลวรโช แล้วอีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นก็ไปฝรั่งเศสแล้ว! พี่ชายฉันนี่ช่างโชคดีซะจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า……”
“ปัง!” ตรัญที่กำลังดื่มชาอยู่นั้นกำลังรู้สึกไม่สบายอกสบายใจพอดี
แต่พอได้ยินเด่นภูมิพูดดังนั้น ก็กระแทกแก้วชาลงบนโต๊ะอย่างแร่ง
เขาพูดด้วยสีหน้ามืดมนว่า : “ในเมื่อแกดูเสียดายขนาดนั้น เดี๋ยวฉันไปบอกคุณปู่ให้ ว่าแกอยากแต่งงานกับน้องสาวตระกูลวรโช”
ยังไงเขาก็ไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นหรอก แถมคุณปู่ของเขากับปู่ของตระกูลวรโชยังพากันส่งผู้หญิงคนนั้นไปอยู่ที่คฤหาสน์ของเขาที่ฝรั่งเศสอีก”
ถ้าเกิดว่าเขาไม่กลัวคุณปู่โกรธล่ะก็ เขาคงไล่ผู้หญิงคนนั้นออกมาตั้งนานแล้ว ทำไมต้องแอบหนีข้ามน้ำข้ามทะเลกลับประเทศมาด้วยล่ะ?
นิสัยเด็กๆของตรัญจะทำให้คนที่ใจกล้าอย่างเด่นภูมิกลัวได้ยังไงกันล่ะ
พอเห็นเขาไม่พอใจ เด่นภูมิก็จงใจพูดออกมาว่า “ฉันก็อยากจะไปบอกคุณปู่แบบนั้นเหมือนกัน ว่าให้น้องสาวคนนั้นมาแต่งงานกับฉันแทน แต่ว่าปู่ของเราเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นจะตาย ในเมื่อตอนนั้นเขาตกลงกับปู่ตระกูลวรโชไปแล้วว่าจะให้ลูกสาวเขามาเป็นสะใภ้คนโตของบ้านเรา เพราะฉะนั้นยอมรับในโชคชะตาเถอะเจ้าพี่ชาย”