The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 81 ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวหรอ
บทที่ 81 ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวหรอ
ดูเหมือนว่าเธอจะตั้งใจเรียนมากขึ้นจากเมื่อก่อนแล้ว และไม่เอาเวลาไปเสียเปล่าเหมือนกับพวกลูกสาวเศรษฐีพวกนั้นอีก
พอใกล้จะจบแล้ว ก็เอาเงินให้ครูในโรงเรียนเพื่อเคลียร์แค่นั้นก็สามารถเอาใบจบได้อย่างง่ายดาย
ผู้หญิงของเขาไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ
“รางวัล?ฉันยังได้รางวัลอยู่หรอ?”ได้ยินคณพศพูดแบบนั้น นาราที่เมื่อกี้ยังนอนอยู่ที่อ้อมกอดของเขาก็รีบเงยหน้าขึ้นมา
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเธอถูกผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าทำให้เซอร์ไพรส์
ก่อนหน้านั้นคณพศบอกว่าถ้าเธอกลับไปเรียน ก็ต้องสอบให้ได้คะแนนดี ไม่อย่างนั้นจะยกเลิกความคิดที่ให้เธอกลับไปเรียนต่อ
หลังจากการสอบปลายภาคในครั้งนี้ เทียบกับเมื่อก่อนแล้วคะแนนของเธอตกลงไปเยอะเลย และเรื่องนี้นาราก็ไม่กล้าบอกให้คณพศรับรู้
พอคิดว่าถ้าคณพศไม่ถาม เธอก็จะใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะยังไงที่บริษัทของคณพศก็ยุ่ง เขาคงจำเรื่องเล็กๆแบบนี้ไม่ได้หรอก
แต่ใครจะไปรู้ ว่าไม่มีอะไรที่จะปิดตาของคณพศได้
แต่ก็ยังดี เขายังพอใจกับคะแนนของเธอ พอรู้ว่ายังมีรางวัลให้ นาราก็ยิ้มอย่างร่าเริง
“แน่นอน” คณพศมีโอกาสที่จะเห็นนารายิ้มเหมือนเด็กขนาดนี้ต่อหน้าของเขาเป็นครั้งแรก
มองเธอที่เป็นแบบนี้ คณพศก็ยื่นมือไปจับตรงคางของเธอ แล้วพูดว่า “มีรางวัลสิ ไหนลองบอกมาสิ ว่าเธออยากได้อะไร ขอแค่ไม่เกินไปอะไรฉันก็สามารถทำให้เธอได้”
พูดจริงๆ อยู่กับนาราตั้งนาน
นอกจากนารามาอยู่ที่บ้านของเขา เขาเลี้ยงเธอ นอกเหนือจากนั้นคณพศยังไม่เคยทำอะไรให้เธอเลยสักครั้ง
ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว ว่าจะให้นาราหยุดอยู่ที่เขาไปตลอด เขาก็ต้องทำให้เธอห่างจากเขาไม่ได้
พอได้ยินคณพศพูดแบบนี้ นาราก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่
ก็ไม่สนใจที่คณพศจับคางของเธอแล้วมองเธออย่างลึกซึ้ง
แค่ตบมือของออกเบาๆแล้วเอียงหัวคิดอะไรสักอย่าง
แล้วพูดว่า “ที่จริงฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยากได้รางวัลอะไร เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ก็ไม่เคยได้รับของรางวัลอะไรเลย”
นาราเป็นเด็กดีและเรียนเก่งตั้งแต่เด็ก ครูในโรงเรียนก็ชอบเธอ จะให้ของรางวัลเล็กๆน้อยๆกับเธอ
แต่ของพวกนั้นถ้าถูกพิมมี่ที่คะแนนไม่ดีเห็น ก็จะเอาไปเผาทิ้งเป็นส่วนใหญ่ จากนั้นเธอก็จะถูกพิมมี่รังแกยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรง
ถึงแม้ว่าบุรินทร์จะรู้ว่าคะแนนของเธอดีแค่ไหน ก็แค่แอบชมเธออย่างแอบๆ
นอกจากหลังจากสอบโอเน็ตทำให้เธอมีมหาลัยที่ดีๆ บุรินทร์ยืนยันที่จะให้เธอไปเรียนต่อมหาลัย แต่บุรินทร์กลับไม่เคยใส่ใจต่อผลการเรียนของเธอเลย
“ต่อไปอะไรก็มีแล้ว เพราะเธอมีฉัน เด็กดี” พอได้ยินนาราพูดแบบนี้ ใจของคณพศก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา
กอดหัวของนาราเข้าไปในอ้อมกอดของตัวเอง
แล้วตบไหล่ของเธอเบาๆ ปลอบเหมือนปลอบเด็กที่เสียใจ “ต่อไปนี้อยู่ข้างกายฉัน ที่คนอื่นเขามีเธอก็จะมี ที่คนอื่นเขาไม่มี เธอก็จะมี”
ผู้หญิงของเขา ทำไมต้องมีชีวิตที่ลำบากด้วยละ
บุรินทร์ไอผู้ชายเจ้าเล่ห์ ไม่เป็นห่วงนาราก็ช่างเถอะ ต่อไปนี้เขา คณพศจะเป็นคนรักและเป็นห่วงนาราเอง
ต่อไปนี้เขาก็จะทำให้คนทั้งบ้านของบุรินทร์รู้ว่า ในไม่ช้านาราก็จะกลายเป็นคนที่พวกเขาเทียบไม่ติด
และยังมีพิมมี่อีก ตอนนี้เธอไม่ใช่ว่าดูถูกไอขยะที่ชื่อว่าวิษณุส์หรอ เขาจะทำให้พวกเขาเป็นคู่รักคู่แค้นกันต่อไป
“ขอบคุณนะคณพศ” ได้ยินคณพศพูดแบบนั้น นาราที่ตาแดงไปหมดก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้
มุดเข้าไปในอ้อมอกของคณพศ ฟังเสียงเต้นของหัวใจที่มีแรงของเขา “ตุบตับ ตุบตับ” ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอรู้สึกว่าทั้งสบายใจและมีความสุข
เธอคิดว่า ตัวเองมาแทนที่พิมมี่ แต่งงานกับคณพศจะไม่ได้อยู่เป็นสุข
โดยเฉพาะหลังจากที่ความลับถูกเปิดเผย แล้วกลัวถูกเอาคืน
ตัวเองอาจจะทิ้งชีวิตไม่พอ ยังเชื่อมโยนไปถึงตระกูลวรชัยลภัสอีกด้วย
แต่ใครจะรู้ว่า คณพศไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่เธอคิดไว้ ยอมไม่เอาเรื่องที่เป็นตัวแทนแต่งงาน แล้วยังดีกับเธอขนาดนี้
บางทีนาราก็ยังสงสัย ที่ตัวเองเจอเป็นคุณชายสามของตระกูลปัญญาพนต์จริงๆหรอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไม่ใช่ฝันใช่ไหม?
เพราะคณพศขัดเธอกลางคัน เพราะฉะนั้นการนวดของนาราก็ดำเนินไปถึงครึ่งแล้วพอทั้งสองคนพูดคุยกันเสร็จ นาราอยากต่อเวลาอีก แต่ว่าคณพศก็บอกว่าเขาหิวแล้ว นาราไม่มีวิธีอื่น ก็ได้แต่ไปตามเขา ไปกินข้าวร้านอาหารข้างล่าง
พอกินข้าวเสร็จ ก็กลับไปที่ห้องนอน นาราก็อยู่อย่างไม่เป็นสุข
ถูกคณพศกอดไว้ แล้วอุ้มไปที่เตียงแล้วทำให้เธอไม่ได้หลับทั้งคืน
ในฝรั่งเศส ผิงผิงเข็นกระเป๋าเดินทางค่อยๆเดินออกมาจากสนามบิน อารมณ์ของเธอหดหู่สุดๆ
ปู่ให้เธอมาฝรั่งเศสแบบนี้เลย เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถขัดใจของปู่ได้ แต่ว่าเธอยังไม่หยุดเรียนเลย
“พอถึงตรงนั้น โรงเรียนได้ติดต่อไว้ให้แล้ว ช่วงวันหยุดนี้ก็ค่อยๆสานสัมพันธ์กับตรัญดีๆ”
นี้เป็นคำพูดก่อนจะมาของปู่ พ่อและแม่มองผิงผิงที่หน้าบึ้ง ก็ไม่พูดอะไร ที่บ้านพิชชา คำพูดของปู่คือที่สุด
เธอไม่เคยแม้แต่จะเคยเจอหน้าแล้วจะให้สานสัมพันธ์ยังไง ครั้งนี้ที่มาฝรั่งเศสเธอหดหู่มาก
เธอลากกระเป๋าเดินทางออกมานอกสนามบิน ยืนอยู่ทางขั้น แล้วมองโลกที่แปลกหน้านี้ ใจของเธอก็เหงาขึ้นมาทันที
เวลานี้เอง ก็มีรถสปอร์ดมาจอดอยู่ตรงหน้า ประตูค่อยๆเปิดออก มีผู้ชายที่ใส่ชุดสูตรเดินลงมา
เขาเดินไปหาผิงผิง “ไม่ทราบว่าเป็นคุณผิงผิงใช่ไหมครับ?ผมชื่อเจส์ครับ ท่านประธานให้ผมมารับคุณ”
ผิงผิงพยักหน้า “รอบกวนด้วยนะ”
“ไม่รอบกวนครับ คุณผิงผิงเชิญขึ้นรถครับ” เจส์เปิดประตูรถอย่างมีมารยาท พอผิงผิงขึ้นรถแล้ว เจส์ก็เอากระเป๋าเดินทางไว้หลังรถ
รถค่อยๆขับห่างออกมาจากสนามบิน เจส์ที่อยู่บนรถเงียบ ผิงผิงยิ่งไม่ต้องพูดถึง เธอเอาแต่มองบรรยากาศข้างนอก
ช่างเถอะ ไหนๆก็มาละ ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่สามารถล้มเธอได้ เพื่อคุณปู่ เธอจะลองเสี่ยงดู
รถน่าจะขับสักหนึ่งชั่วโมง ก็ขับเข้าไปในซอยวิลล่า พอรถไปจอดอยู่หน้าวิลล่าที่หรูหรา เจส์ก็ได้มาเปิดประตูรถ
“คุณผิงผิงครับ ที่นี่เป็นคฤหาสน์มาร็อก ต่อไปนี้คุณอยู่ที่นี่ครับ และก็ไม่ห่างจากโรงเรียนคุณเท่าไหร่”
เจส์เอากระเป๋าลงมา แล้วเปิดประตูวิลล่า ผิงผิงไม่ได้ถามว่าผู้ชายคนนั้นนอนที่ไหน เพราะยังไงที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อคุณปู่ คนนั้นจะนอนที่ไหนไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
แต่เธอก็ยังถามเจส์อย่างเบาๆ “ที่นี่มีแค่ฉันนอนคนเดียวหรอ” คฤหาสน์ที่ใหญ่ขนาดนี้ให้เธออยู่คนเดียว ก็น่ากลัวอยู่นะ เพราะตอนอยู่เมืองแจมใสก็อยู่กับครอบครัวจนชินแล้ว