The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 92 เธอใสหัวออกจากตระกูลวรชัยลภัส
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 92 เธอใสหัวออกจากตระกูลวรชัยลภัส
บทที่ 92 เธอใสหัวออกจากตระกูลวรชัยลภัส
แต่เมื่อได้ยินยชญ์พูดแบบนี้แล้ว คณพศกลับไม่ได้ตอบกับเขากลับตรงๆ แต่ก็พูดอธิบายอย่างช้าๆ : “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เครียร์บัญชี แต่ก็ต้องสั่งสอนเขาซักหน่อย ปล่อยให้เขาอยู่นิ่งๆไปช่วงนึงก่อน”
แต่ถึงแม้ว่าเด่นภูมิกับยชญ์จะเข้าใจความหมายของคณพศ พอได้ยินเขาพูดอย่างนี้แล้ว เด่นภูมิก็ยังคงเป็นห่วง : “คณพศพวกเรารู้ว่าคุณเป็นห่วงคุณท่าน แต่อาชัญจะเอานายตายมากี่รอบแล้ว คุณอาจจะไม่โชคดดีทุกครั้งที่รอดมาได้นะ”
“ดังนั้นฉันคิดว่า คุณไม่ควรมาลังเลต่อไปแล้ว อาชัญคนชั่วคนนี้มีอะไรบ้างที่เขาจะทำไม่ได้” ปล่อยให้เขาอยู่ต่อไป ซักวันจะกลายเป็นภัยแก่ตัวนะ”
ด้วยยความสามารถของคณพศถ้าหากจะลงมือกับอาชัญแล้ว ติดอยู่แค่เขาอยากจะลงมือหรือไม่ลงมือเท่านั้น
ดังนั้นคนที่ยืนมองคณพศโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างยชญ์กับเด่นภูมิก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่พอควร
ทุกครั้งที่เขาต้องทิ้งงานที่ยุโรปกลับมาเพราะคิดว่าจะมาจัดการคนทรามคนนั้นได้ แต่ทุกครั้งกลับไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
เหตุการณ์ครั้งนี้คณพศได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ลุงบีมก็สลบไป ความอันตรายของนารา!
ถ้าไม่ใช่เพราะใยเด็กคนนั้นที่ยังจะกัดฟันสู้ต่อไปละก็ ผลร้ายก็ยากจะคาดถึง
พอได้ฟังเพื่อนสองคนนี้คอยมาเตือนสติ คณพศก็เงียบไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดขึ้นอีก :“ฉันรู้แล้ว ช้าหรือเร็วอาชัญก็จะต้องถูกกำจัด แต่แค่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาเท่านั้นเอง”
พอเห็นว่าผลลัพธ์ที่ออกมาตามเคยยชญ์ก็รโกรธเป็นอย่างมาก คณพศยังคงให้ความสำคัญกับความไมตรี ไม่สามารถวางใจกับคุณปู่ของเขา
เด่นภูมิกับยชญ์ที่ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อก็ทำได้เพียงมองหน้ากันทีนึงแล้วถามต่ออย่างจนใจ :“งั้นนายคิดจะทำอะไรก็ให้พวกเรามาทำเลย”
และตอนนี้ ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนี้
เมื่อเห็นเอกสารที่บุรินทร์ส่งมาให้เธอ พิมมี่ก็โกรธจนแทบจะโดดลงจากเตียง แล้วก็ตะคอกใส่บุรินทร์ :“พ่อ ทำไมเอามันมาให้ฉัน? พ่อทำไมถึงเอามันมาให้ฉัน? ฉันไม่เซ็น ฉันไม่ยอมเซ็นมันเด็ดขาด!”
“ฉันบอกแล้วไงไม่ว่ายังก็ตาม ฉันต่างหากที่เป็นภรรยาของคณพศ ถ้าพ่อจะมาบังคับฉันตอนนี้ ฉันก็จะตายให้พ่อดูเดี๋ยวนี้!”
เธอพิมมี่ที่เพื่อจะเป็นภรรยาของทายาทหนึ่งเดียวของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ตอนยังเด็กมากๆ ก็ตั้งใจทำเป็นเข้าใกล้กับอาชัญ ถึงกระทั้งยังไม่ทันอายุ 17 ปี ก็เสียพรหมจรรย์ให้กับเขาไปแล้ว
ที่เธอทำมาเยอะขนาดนี้ก็เพื่อสักวันอาชัญจะแต่งงานกับเธอ และสิ่งที่เธอต้องการ แต่คาดไม่ถึงว่าทุกอย่างที่กำลังไปได้สวยกลับมาพังสลายไปหมด
อาชัญคนนี้มันช่างไร้น้ำยา ก็แค่คนพิการคนหนึ่งทำไมถึงสู้ไม่ได้ เสียแรงที่เธออุส่าห์เสียความเป็นสาวและอะไรหลายอย่างให้เขาไป
แต่ก็ยังดีเธอยังเป็นคุณนายประธานที่ถูกตามกฎหมายของคุณนายของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ก็ถือว่าสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว ไม่เสียแรงที่เธอพยายามมาตลอด
แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้ คุณพ่ออันเป็นที่รักของเธอกลับมาบังคับให้เธอเซ็นเอกสารในมือ ซึ่งเป็นใบหย่า แน่นอนว่าพิมมี่ไม่เซ็นแน่ๆ ก็เลยโวยวายเสียงดังแบบนี้
“ไม่ยอมก็ต้องยอม ตอนนี้ช่วยอะไรเธอไม่ได้!ฉันบอกอะไรไว้นะ คณพศคนนี้ตระกูลวรชัยลภัสของเราจะแหยมกับเขาไม่ได้ ถ้าเธอรู้ตัวดีก็รีบเซ็นซะ ไม่งั้นละก็บ้านตระกูลวรชัยลภัสของเรา แม้กระทั้งบริษัทก็ต้องพัวพันเพราะเธอด้วย”
คณพศก็ได้ยื่นคำขาดกับเขามาตั้งนานแล้ว ที่เขายังไม่ได้ทำก็คงเป็นเพราะ เห็นแก่หน้าของนารา แต่เขมินทร์กับพิมมี่กลับโง่ที่คิดว่าคณพศไม่แข็งมใจที่จะลงมือกับกับพิมมี่
พวกเธอก็ไม่คิดสักบ้างเลยว่า สองพี่น้องตระกูลปัญญาพนต์เกลียดกันจนอยากจะฆ่ากันตายแล้วและพิมมี่ก็เป็นผู้หญิงของอาชัญ คณพศจะไปสนใจเธอได้ยังไงกัน?
คาดไม่ถึงตัวเองใช้ความตายมาขู่แล้ว บุรินทร์ยังต้องบีบบังคับเธอต่อไปแบบนี้
พอเห็นว่าพ่อของตัวเองที่ไร้ความเมตตาอย่างนี้ พิมมี่ก็ร้องไห้ออกมาได้หยุดยั้ง
พลางร้องไห้พลางพูดไป : “พ่อ พ่อกลัวอะไรในตัวคณพศกัน? หรือเป็นเพราะใจข้างในของพ่อสุดท้ายก็ยังลำเอียงให้กับนารายัยลูกนอกสมรสคนนั้นเหรอ?”
“พ่อคิดว่าแค่เพียงนาราได้นั่งตำแหน่งคุณนายของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์อย่างเต็มตัว อนาคตของฉันจะเป็นยังไงก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“หนูเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อกับแม่นะ ทำไมฉันถึงไม่ดีเท่าลูกสาวต่ำที่คุณไปได้กับหญิงอื่นกันละ? ”
ตั้งเล็กจนโตเธอพิมมี่ก็ถูกดูแลอย่างกับเจ้าหญิง
ในเมืองนี้จะมีสาวไฮโซคนไหนกันที่จะเด่นดังกว่าพิมมี่? แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าพอถึงจุดสำคัญแล้ว เธอกลับถูกนารายัยตัวดีที่สมควรตายสกัดเอาไว้ได้ เธอจะอดกลั้นความกล้ำกลืนไว้ได้ยังไง?
พิมมี่ตั้งแต่เล็กก็เป็นแบบนี้ที่ชอบด่าคนไปทั่ว เป็นเหมือนกับเขมินทร์แม่ของเธอไม่มีผิด
พอเห็นพิมมี่ที่เป็นแบบนี้แล้ว บุรินทร์ก็โกรธจนในอกร้อนรุ่มเป็นฟืนเป็นไฟจนจะเผาไปทั้งอก
เงียบไปครู่หนึ่งแล้วก็เดินมาข้างหน้าอย่างร้อนรน แล้วเหวียงมือตบหน้าของพิมมี่ไปแรงๆ หนึ่งทีจากนั้นก็ตะคอกให้เธอ :“ฉันจะบอกอะไรเอาไว้ให้นะ ถ้าเธอไม่ยอมเซ็นใบหย่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอก็ออกไปจากบ้านตระกูลวรชัยลภัส”
“ฉันไม่อย่าจะสนใจเธอแล้ว ถ้าเธอเก่งนักก็ไปสู้กับคณพศเอง ฉันไม่อยากให้บริษัทฉันพังทลายเพราะเธอหรอก” นิ่งไปแปบหนึ่ง บุรินทร์ก็มองหน้าลูกสาวที่ถูกตบไปอย่างนิ่งเฉย “เธอจะต้องการตำแหน่งภรรยาท่านประธานปลอมๆ หรือว่าชีวิตของเธอเอง? เลือกเอาเองละกัน!”
มองดูคุณพ่อที่พูดดีมาตลอด ไม่คิดว่าจะลงไม้ลงมือกับเธอ พิมมี่ที่ถูกตบหน้าก็ได้เอามือมากุมหน้าเอาไว้ด้วยความตกใจอย่างมา แล้วก็ต้องหน้าบุรินทร์ด้วยความผิดคาด แล้วจึงพูด “พ่อ พ่อมาตบหนูแล้วยังไล่หนูออกจากบ้าน? ถึงฉันจะตายก็จะไม่ยอมที่จะหย่ากับคณพศ”
เขมินทร์ที่ออกไปเพราะสอบถามอาการของพิมมี่กลับมา ยังไม่ทันถึงห้องก็ได้ยินเสียงพิมมี่ตะคอกคำเหล่านี้ เธอจึงรีบร้อนวิ่งพุ่งเข้ามาในห้อง มองเห็นสองพ่อลูกที่กำลังทะเลาะกัน เธอวิ่งมาถึงข้างเตียงของพิมมี่ด้วยความตกใจ ก็ได้พูดปลอบ :“พิมมี่อย่างพึ่งเสียใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? วางใจเถอะ แม่อยู่นี้แล้ว แม่จะช่วยลูกเอง”
“แม่” พอเห็นว่าเขมินทร์กลับมา พิมมี่ก็ร้องดังขึ้นทันที จากนั้นก็ฟ้อง : “พ่อบังคับให้หนูเซ็นใบหย่า ไม่อยากให้หนูเป็นคุณนายบริษัทตระกูลปัญญาพนต์”
“ยังบอกอีกว่าถ้าไม่เซ็นก็จะไล่ออกจากบ้าน แม่ หนูไม่ยอม ใบหย่านี้ไม่ว่ายังไงหนูก็จะไม่เซ็นเด็ดขาด!”
ถ้าเธอไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เธอก็จะขัดขวางคนอื่นไม่ไห้ได้มันเหมือนกัน อีกอย่างถ้าเธอไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะได้มัน
“อะไรนะ?” คาดไม่ถึงว่าตัวเองแค่ออกไปแปบหนึ่ง บุรินทร์สมควรตายคนนี้กลับเข้ามาที่ห้องคนไข้เพื่อที่จะมาตอกย้ำลูกสาวของเธอ ดังนั้นพอได้ยินพิมมี่พูดแล้ว สีหน้าของเขมินทร์ก็เปลี่ยนไปจนดูไม่ได้