The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่111 คุยเรื่องกระซิบกระซาบของเรา
บทที่111 คุยเรื่องกระซิบกระซาบของเรา
แขนยาวกอดรัดแน่ที่เอวบางของเธอ แทบจะกลืนกินผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ เขาไม่เคยชอบใครขนาดนี้มาก่อน และท่าทางเขินอายทุกครั้งของผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ เขาอยากจะกดเธอลงไปแล้วฟัดแรงๆ
นาราที่เขินอายอย่างมากในตอนแรก เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ การเต้นของหัวใจ ก็ยิ่งเสียจังหวะ
เพียงแค่พูดอย่างหน้าแดง“เปล่าค่ะ ฉันแค่ไม่ชิน……แค่นั้นเอง ”
ทุกครั้งที่คณพศกอดเธอ มักจะมีทำอะไรที่ไม่ค่อยซื่อตรง เมื่อก่อนเธอเป็นคนตกใจง่าย ตอนนี้เธอชินกับมันแล้ว
ทุกครั้งที่คณพศกอดเธอ ก็ไม่รู้ว่าขึ้นไปอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“เป็นเพราะไม่ชิน?ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันกอดเธอแบบนี้ทุกวัน ไม่ต่ำกว่าสามครั้ง ”ได้ยินนาราพูดอย่างนี้ คณพศก็ยื่นมือออกไปลูบคลำ ที่หน้าผากใสของเธอ
ลูบไป พร้อมกับพูดเสียงต่ำ“นารา เธอต้องเรียนรู้ที่จะชินนะ ”
พูดถึงตรงนี้ คณพศก็ก้มหัวลง แล้วครอบงำเข้าที่ริมฝีปากอมชมพูของเธออย่างอดกลั้นไม่อยู่
เมื่อเห็นท่าทางอย่างนี้ของคณพศ ต้องการที่จะเริ่มอีกครั้ง นาราก็อยากที่จะกระโดดออกหนีตามสัญชาตญาณ
แต่ยังไม่ทันที่เท้าของเธอจะกระดิก ก็ถูกคณพศกอดรัดแน่นเข้าให้แล้ว
หลังจากนั้นริมฝีปากเซ็กซี่ของเขา แล้วหยุดลงที่ระยะห่างสองสามเซน ยิ้มมุมปากอย่างครุ่นคิด หลังจากนั้นพูด“นาราน้อยเธอกล้าหนีเหรอ?กล้ามากนะ!”มองที่ท่าทางหลบซ่อนของเธอ เขาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอีกครั้ง
เขาต้องการเธอขนาดนี้ หรือว่าเธอไม่ต้องการ?ดูแล้วความรักบนโลกใบนี้ นั้นไม่ยุติธรรมอย่างที่คิด สรุปแล้วหลุมความรู้สึกของเขาก็ลึกกว่าเธอ
“ฉัน……ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง เป็นแบบนี้ตลอด มันไม่ดีกับการฟื้นฟูของขาคุณ ”นาราไม่เข้าใจ ขาของคณพศไม่มีความรู้สึก แต่ทำไมความต้องการทางนี้ของเขากลับรุนแรงนัก?
ยิ่งไปกว่านั้นทำไมเธอถึงรู้สึกว่า ทุกครั้งที่อยู่บนเตียง ขาของคณพศถึงได้เหมือนว่ามันมีแรงขึ้นมา
หรือว่าแท้จริงแล้วเธอคิดไปเอง หรือว่าคณพศ มีเรื่องที่กำลังปิดบังเธออยู่จริงกันแน่?
แต่เพียงมองไปที่ท่าทางใสซื่อเล็กๆของนารา คณพศก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมาในทันที
แอบคิดอยู่ในใจนาราน้อยของเขา ไร้เดียงสาจริงๆ นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นอีกคน ก็คงดูออกทันที
แต่เขาชอบ ที่นาราไร้เดียงสา ไม่สงสัยในตัวเขา เขาหวังว่าเหตุการณ์แบบนี้ จะไม่เปลี่ยนไป ต่อให้เขาแกล้งเป็นคนพิการมาตลอดก็ตาม
“คุณยิ้มอะไร?คนเขาพูดความจริง ” นาราที่หน้าแดงในตอนแรก เมื่อเห็นคณพศยิ้มแบบนี้ แก้มของเธอก็ยิ่งแดงขึ้นอีกโดยไม่รู้ตัว ราวกับแอปเปิ้ล
ทำให้คนเห็นรู้สึกหมั่นเขี้ยว อยากจะพุ่งเข้าไปกัด
แต่เมื่อคณพศกำลังตอบกลับนารา กำลังที่จะแกล้งนาราน้อยของเขาอีกครั้ง
โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูท ก็ดังขึ้น
เมื่อได้ยินเสียง คณพศก็ต้องยื่นมือเข้าไปอย่างจำใจ ขูดเข้าไปที่จมูกน้อยของนารา
หลังจากนั้นก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา กดรับ แล้วพูดกับคนปลายสาย“ฮัลโหล มีเรื่องอะไร?”
“ประธานครับ เรื่องตะวันออกกลางทางนั้นจัดการเรียบร้อยแล้วครับ วิษณุส์เดินทางกลับมาแล้วครับ ”
“เรื่องราวครั้งนี้ ทำให้วิษณุส์โกรธประธานมาก อย่างนี้แล้วพวกเราต้องเตรียมการไว้ก่อนไหมครับ?”
วิษณุส์ทำเรื่องสาวหาวอยู่ตลอด บวกกับที่ครั้งนี้ที่ถูกคณพศวางกับดัก จึงต้องไปที่ตะวันออกกลางอย่างง่ายดายหนึ่งเดือนเต็ม
การกลับมาครั้งนี้ไม่ง่าย เขาต้องเอาคืนแน่นอน
ดังนั้นคนของคณพศจึงกำลังคิดว่า เรื่องที่วิษณุส์กลับมา ต้องรายงานสักหน่อย
ถ้าหากว่าคนบ้าคนนี้ สร้างเรื่องไร้เหตุผลขึ้นมาอีก ทำให้คณพศได้รับบาดเจ็บขึ้นมา นั้นยุ่งแน่
แต่เมื่อได้ยินคนพูดแบบนี้แล้ว คณพศอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
ไม่ได้สนใจอ้อมกอดของเขา ที่ยังไม่เด็กน้อยถูกเขากอดรัดอยู่ เพียงแค่พูดต่อ“ไม่ต้องเตรียมการอะไรเป็นพิเศษ วิษณุส์ไม่ใช่ศัตรูของฉัน มีคนรอเขามาตกกองไฟอยู่!”ยังมีพิมมี่อยู่ไม่ใช่เหรอ
“บอกพิมมี่ เธอมีเวลาแค่สามวัน เมื่อถึงเวลา ถ้าเธอจัดการเรื่องที่ฉันต้องการไม่สำเร็จ ก็ให้เธอดูเองว่าจะต้องจัดการยังไง”
เขาเคยบอกว่าต้องการให้พิมมี่กับวิษณุส์คู่นี้กัดกันเอง ดูเหมือนว่าศึกนี้ กำลังจะเริ่มแล้ว
“ครับประธาน ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้ ”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดจบ คณพศก็ไม่ลังเล กดดวางสายโทรศัพท์ทันที
แต่เมื่อเขาวางสายไปแล้วสักพัก นารายังคงถูกกอดอยู่ในอ้อมอก เหมือนกับว่าเมื่อกี้นี้ไม่มีสายใดๆโทรเข้ามา ไม่พูดอะไรเลยสักประโยค
“ทำไม?เธอไม่สงสัยเลยเหรอว่าฉันให้พิมมี่ทำอะไร?”ทีแรกคณพศเข้าใจว่า การที่ตัวเองคุยโทรศัพท์กับบอดี้การ์ดต่อหน้าเธอแบบนั้น
นาราคงจะสงสัยมาก ว่าเขากับพิมมี่มีข้อตกลงอะไรระหว่างกัน
ถึงยังเขาก็ดูออกว่านาราน้อยของเขา ถึงแม้ว่าจะปากแข็งมาก บอกว่าต่อจากนี้ไปจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลวรชัยลภัสอีก
แต่ในใจแล้ว หรือว่าจะไม่สนใจคนในตระกูลวรชัยลภัสแล้วแม้แต่นิดเดียวจริงๆ?
แต่ได้ยินคณพศพูดออกมาแบบนี้ นาราอึ้งอยู่สักแปปนึง
แต่หลังจากนั้นก็เหมือนว่าได้ตัดสินใจอะไรสักอย่างไปแล้ว เงยหน้ามองคณพศ สายตามั่นคง“คุณให้พิมมี่ทำอะไร ฉันไม่อยากรู้หรอกค่ะ เพราะนี่ไม่เกี่ยวกับฉัน หลังจากนี้เรื่องราวทั้งหมดของตระกูลวรชัยลภัสไม่เกี่ยวกับฉัน ”
ครั้งนั้นที่บุรินทร์มาหาเธอ คำพูดเหล่านั้นมันมากพอที่ทำให้ตัวเธอเองกับความสัมพันธ์ของตระกูลวรชัยลภัส ตัดขาดกันหมดจด แต่ในใจของเธอมีบุรินทร์อยู่
แต่เธอไม่มีทางให้อภัยได้จริงๆ พ่อที่จับเธอเป็นหมาก
ในเมื่อในสายตาของเขา มีเพียงพิมมี่ลูกสาวเขาคนนั้น อย่างนั้นแล้วเธอนารา เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปเล่นด้วย
“ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วจริง?สักนิดก็ไม่สนใจ?”คิดไม่ถึงเลยว่านาราน้อยของเขา เมื่อตัดสินใจไปแล้ว จะสามารถตัดขาดไม่มีเยื่อใยได้ขนาดนี้
นี่กลับทำให้คณพศรู้สึก ดีใจอย่างมาก
เขาชอบผู้หญิงของตัวเองมาตลอด ที่สามารถเด็ดเดี่ยวไร้ความปรานีได้
แต่ช่วงที่เขาตกหลุมรักนารานั้น ได้ล้มเลิกไปแล้ว ทำให้เด็กตรงหน้าที่หัวใจอ่อนโยนราวกับน้ำ เข้าใกล้ความต้องการของเขา
แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ต้องการให้เธอมาทำเพื่อเขา เปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาไม่หวังให้เธอไม่มีความสุข
และเมื่อเขาเห็นนาราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในตอนนี้ นั้นเป็นเรื่องจริง เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม
นี่ช่างทำให้เขารู้สึกว่า ตัวเองเก็บได้ของมีค่า
เห็นว่าเขาพูดจริงจังแบบนี้แล้ว คณพศเหมือนว่ายังสงสัยเธออยู่
นาราจึงกระดกปากขึ้น ท่าทางไม่พอใจ พูด“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่คุณนะคะ เพราะยังไงซะต่อจากนี้ไปเรื่องราวของ ตระกูลวรชัยลภัส คุณไม่ต้องบอกฉัน ”
“โอเคๆๆ ต่อจากนี้ไปเรื่องของตระกูลเขา ฉันจะไม่พูดต่อหน้าเธอ ”
เมื่อเห็นนาราเหมือนว่าจะไม่พอใจ คณพศก็รีบเสียงดังกลบเธอ
เสียงดังกลบไป พร้อมทั้งกอดเธอไป บังคับวีลแชร์ให้เคลื่อนไปทางห้องนอน ในเวลาเดียวกันก็แนบเข้าที่ข้างหู แล้วพูดกระซิบ“งั้นเราสองคนก็มาคุยกัน เรื่องกระซิบกระซาบของเราเถอะ ”
พูดจบทันใดนั้นคนชายก็โยนเด็กหญิงขึ้นไปบนเตียง แล้วกระโจนขึ้นตาม ทันทีร่างสูงใหญ่ก็ทับอยู่บนร่างของเด็กหญิง……