The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่116 เขาเหนือการควบคุม
บทที่116 เขาเหนือการควบคุม
ดังนั้นเธอเลยนั่งลงบนขาของคณพศ ถามเขาด้วยสายตาที่เบิกกว้างและอยากรู้อยากเห็น
แต่กลับคิดในใจว่า “คนน่ารักที่เขากำลังพูดถึงอยู่นั้น ใช่ผู้หญิงที่เขาแอบแนบรูปไว้ในห้องหนังสือหรือเปล่า?”
แค่ได้ยินนาราพูดเท่านั้นเอง คณพศก็หัวเราะออกมาอย่างสดใส
บวกกับการยื่นมือที่เรียวยาวนั้นออกมา แล้วแตะที่ปลายจมูกของเธอ หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูและพูดว่า “แน่นอนว่าเป็นเธอไง ภรรยาของฉัน”
บนโลกใบนี้ ไม่มีใครน่ารักไปกว่าภรรยาของเขาแล้ว
อีกทั้งนาราโดนเขาแตะปลายจมูกอย่างนี้แล้ว ใบหน้าอันเล็กๆก็ไม่อาจต้านทานได้ จึงค่อยๆแดงขึ้น
จากนั้นหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า“ฉันน่ารักตรงไหน? ไม่ใช่คุณชอบบอกว่าฉันโง่หรอ?”
นาราไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมเวลาที่คณพศอยู่ต่อหน้าคนอื่น มักจะเย็นชาอยู่เรื่อยเลย
เว้นแต่ต่อหน้าเธอ เปลี่ยนไปเหมือนไม่ใช่เขาเลย
เธอไม่รู้เลยว่าในใจของคณพศได้ยกให้เธอเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเขาตั้งนานแล้ว ผู้ชายจะแสดงความอ่อนโยนต่อหน้าผู้หญิงที่ตัวเองรักเท่านั้น
“แน่นอนว่าเธอหน่ะโง่ ฉันชอบที่เธอดูโง่ๆอย่างนี้” จากนั้นก็แนบไปพูดข้างๆหูของเธอ “เป็นอย่างนั้นฉันจะได้แกล้งเธออย่าง่ายดาย เธอชอบให้ฉันแกล้งเธอแบบนี้ใช่ไหม?” คณพศชอบนาราเวลาเขิลแบบนี้แทบบ้า
ดังนั้นจึงโอบเอวของเธอเข้ามาใกล้ โน้มศีรษะลง หวังจะจูบเธอ
สำหรับเขาแล้ว นาราก็เหมือนกับของหวานชิ้นหนึ่งแต่เป็นของหวานที่ไม่มีวันเบื่อ ทำให้เขากินแล้วติดมาก
เขาตอนนี้แค่เห็นเธอ ก็มีปฏิกิริยาอย่างว่า อยากพาเธอขึ้นเตียง
ไม่เพียงการกระทำของคณพศเพียงเท่านั้น นาราจนปัญญาแล้วจริงๆ ทำได้เพียงถอยไปข้างหลังเพื่อหลบการจู่โจมของเขา
ปากก็พูดออกไปว่า “คณพศคุณอย่าทำแบบนี้ดีได้ไหม ฉันยังโดนคุณแกล้งไม่พออีกหรอ? ฉันโดนรังแก ทำไมคุณต้องชอบแกล้งฉันแบบนี้?”
“ชอบสิ ที่แกล้งก็เพราะรักเธอ ฉันจะแกล้งเธออย่างนี้! ที่รักของฉัน!” พูดเสร็จก็จูบริมฝีปากของเธอ จูบอย่างดูดดื่ม
คณพศรู้ว่า การที่เขามากวนนาราอย่างไม่ลดละทุกวันแบบนี้ เธอต้องรำคาญแน่ๆ
แต่เขาก็ไม่อยากจะร่วงล้ำเธอมากเกินไป จูบเธออยู่เนิ่นนานถึงจะยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
เงยหน้าขึ้นมองนาราอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “คฤหาสน์หลังเก่านั้น ฉันให้คนมาซ่อมแซมใหม่ทั้งหมดแล้ว ถ้าเธอชอบ ผ่านช่วงนี้ไปจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะย้ายไปอยู่ที่นั่นสักพัก”
คฤหาสน์หลังนั้นเขาให้นารา มันเป็นบ้านของพวกเขาสองคน
ถึงแม้ที่นั่นจะเกิดเรื่องราวไม่ดีมาก่อน คณพศรู้ว่านารายังชอบที่นั่นอยู่ เพราะว่าที่นั่นเป็น“บ้าน”ของเธอ
“อืม”เป็นเช่นนั้นจริงๆ นาราได้ยินคณพศพูดอย่างนั้นแล้ว เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
เพียงแค่พยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู จากนั้นความสุขที่เปี่ยมล้นก็ทำให้เธอซบไปในอ้อมกอดของคณพศ
เพียงแค่ได้อยู่กับคณพศ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เธอก็มีความสุข
เขาบอกว่าจะให้บ้านเธอหนึ่งหลัง เขาพูดไว้แล้ว เธอก็เชื่อ
ระยะเวลาที่คณพศกำหนดไว้ให้พิมมี่ เหลือเวลาแค่ครึ่งวันแล้ว
คณพศก็ไม่ได้ร้อนใจที่จะโทรไปเร่งพิมมี่
แค่ชิวๆทำงานอยู่ในห้องทำงานของตัว
แต่ถึงยังไงก็ต้องจัดการกับวิษณุส์และพิมมี่ เขามีสิ่งที่ต้องทำมากพอแล้ว
ถึงแม้ว่าสุดท้ายพิมมี่จะให้ในสิ่งที่เขาต้องการไม่ได้ คณพศเขาก็ต้องจัดการวิษณุส์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ขณะที่คณพศกำลังคิดอยู่นั้น ประตูห้องทำงานของเขาก็โดนเคาะดังขึ้น
เสกข์ยืนอยู่ที่ประตู พูดด้วยความเคารพว่า“ประธานครับ คุณพิมมี่มาถึงแล้ว”
“โอ งั้นหรอ?ให้เธอเข้ามา” ได้ยินเสกข์พูดอย่างนั้น คณพศก็ยกยิ้มออกมา
จากนั้นก็ให้ผู้ช่วยพาพิมมี่ แล้วเข้ามา
เมื่อเทียบกับตอนที่เขาโกรธแล้วทำร้ายพิมมี่ครั้งนั้น ครั้งนี้ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะฉลาดขึ้นเยอะ
ตอนที่เธอเข้ามาในห้องทำงานนั้น ก็ก้มหัวอย่างนอบน้อม ถ้าไม่ใช่คณพศที่รู้สันดานเดิมของเธอแล้วละก็ ก็อาจจะโดนเธอหลอกได้จริงๆ
หลังจากที่เสกข์พาพิมมี่เข้ามานั้น เขาก็ออกไปโดยทันที
ในห้องทำงานก็เหลือเพียงพวกเขาสองคน ในที่สุดพิมมี่ก็เงยหน้าขึ้นมา สบกับสายตาที่ลึกลับคู่นั้น สายตาของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งในฤดูหนาว
รู้สึกว่าตัวเองโดนรังสีอำมหิตจากคณพศ พิมมี่ที่รู้สึกกดดันจนยากที่จะหายใจได้ ถึงกระนั้นถึงจะพูดออกมา“คณพศ สิ่งที่คุณต้องการฉันได้มาแล้ว งั้นนี่ก็เป็นหลักฐาน คุณจะไม่หย่ากับฉันแล้วใช่ไหม?”
ก่อนหน้านี้คณพศไม่ได้พูด ถ้าหากเธอไม่อยากหย่า ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ตอนนี่เธอแสดงความบริสุทธิ์ใจออกมาแล้ว คณพศควรทำตามสัญญาของเขา อย่างนี่ถึงจะถูกต้องไม่ใช่เหรอ?
ไม่เพียงแต่ได้ยินสิ่งที่พิมมี่พูดเท่านั้น คณพศผู้ยังไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่เธอเข้ามา
เขาถึงได้หันมาอย่างเยือกเย็นแล้วพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ สิ่งที่เธอได้มาแล้วมันจริงหรือเปล่า ทำไม ทำไมเธอรีบร้อนที่จะพูดถึงเรื่องเงื่อนไขกับฉันล่ะ?”
เขาจำได้ว่าตอนแรกที่พูดก็คือ ให้พิมมี่แสดงความบริสุทธิ์ใจออกมา เขาจึงจะพิจารณาได้ว่าอาจจะไม่หย่ากับเธอ แต่แค่คิดเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นความคิดนี้ เป็นแผนที่จะถ่วงเวลาก็เท่านั้น
พิมมี่คิดว่า คณพศจะให้เธออยู่ในฐานะภรรยาของเขาตลอดไป เป็นฝันที่ลมๆแล้วๆซะจริง!
ความคิดของคณพศพิมมี่ไม่อาจรู้ได้ แค่เห็นเขาแบบนั้น ก็รู้สึกว่าตัวเองขนลุกไปทั้งตัว
ดังนั้นคนที่หวาดผวาอย่างพิมมี่จึงรีบล้วงไปในกระเป๋า หยิบเครื่องบันทึกเสียงออกมา
จากนั้นก็แสดงสีหน้าที่ดูกังวลอย่างชัดเจน วางเครื่องบันทึกเสียงไว้บนโต๊ะทำงานของคณพศ
มองไปที่คณพศอย่างกล้ำกลืนแล้วพูดว่า “สิ่งที่คุณต้องการอยู่ในนี้หมดแล้ว ฉันฉวยโอกาสตอนที่วิษณุส์เมา จากนั้นก็เกลี้ยกล่อมเขาให้พูดความจริง”
“คุณก็แค่เสนอข่าวให้ทุกคนรู้ วิษณุส์ก็ไม่มีหน้าที่จะอยู่บริษัทตระกูลปัญญาพนต์ได้อีกต่อไปแล้ว!”
สวรรค์รู้ว่าเพื่อพิสูจน์ความจริงใจของเธอ ทุกวันนี้เธอคอยเอาใจวิษณุส์อยู่ เสียงบันทึกเหล่านี้ล้วนเป็นตอนที่พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันวิษณุส์พูดแผนการและทุกอย่างที่เขาจะทำ !
เธอพูดได้แค่ว่าเป็นคำพูดตอนที่วิษณุส์เมา
แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เธอไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับคนขี้ขลาดตาขาวอย่างวิษณุส์อีกแล้ว
แค่ได้ยินสิ่งที่พิมมี่พูด คณพศก็คิดได้ หรี่ตาลงเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนโกหก เธอคิดว่าเขาไม่รู้งั้นเหรอ ? อีกทั้งเธอจัดการกับวิษณุส์ยังไงและเรียกใช้ยังไง?
พลางหยิบเครื่องบันทึกเสียงนั่นมา ดวงตาที่แสดงออกถึงความเย็นชา “เหอะเหอะ ถ้าวิษณุส์รู้เข้า ผู้หญิงที่รักเขามาตั้งหลายปี เพื่อที่จะได้อยู่ข้างๆคณพศ พยายามที่จะใส่ร้ายเขา ไม่รู้ว่าสีหน้าที่เขาแสดงออกมานั้น มันจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ตอนนั้นเขาอยากเห็นการแสดงออกที่ไม่สามารถควบคุมได้ของเขา
แค่คิด คณพศก็ไม่ลังเล กดปุ่มเปิดเครื่องบันทึกเสียง
ได้ยินวิษณุส์ด้วยน้ำเสียงที่ปรารถนา พูดตามอำเภอใจ ด้วยประวัติที่ไม่มีที่มาและวิธีการจัดการของคณพศนั้น พูดถึงตอนสุดท้ายก็ยังมีเสียงอย่างว่าออกมา!
พิมมี่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้ยินแล้วก็กระวนกระวาย เธอจำได้ว่าเธอจัดการไปแล้ว ทำไมฟังแล้วยังชัดเจนขนาดนั้น! หน้าเธอซีดขึ้นมาทันใด