The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่131 ฉันคือรักแรกของคณพศ
บทที่131 ฉันคือรักแรกของคณพศ
ผ่านไปอีกสักพัก นาราไม่กล้าจะเหยียบคันเร่ง คณพศตะโกนสั่งเสียงดัง
” นารา เหยียบคันเร่ง! คันเร่ง! ”
นาราเครียดจนหัวใจแทบจะหลุดออกจากอก เธอกลัวงั้นเหรอ?
คณพศมองเธออย่างเหยียดหยาม นาราเบ้ปาก
นารากลอกตา นายกำลังดูถูกกันอยู่งั้นสิ รอให้ฉันขับรถได้ก่อนเถอะ แล้วจะมาโชว์ให้ดูเลย มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว…..
ผ่านไปอีกวัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนผ่อนคลายลงมาก
” นารา เดี๋ยวผมพาไปกินข้าว ”
” โอเค ”
ถึงร้านอาหาร คณพศสั่งสเต็กเนื้อแบบมีเดียมสองที่ ซึ่งนาราชอบที่สุด และเขาไม่ได้สั่งไวน์มาเพราะเธอดื่มไม่ได้
นารามองความช่างสังเกตและเอาใจใส่ของเขา หัวใจก็ถูกกระตุกอีกครั้ง
” คณพศ… ฉันไม่โกรธแล้วล่ะ ยกโทษให้ ” ด้วยซึ้งใจในการกระทำของเขา เขาวางทุกอย่างไว้ แล้วมาเป็นโค้ชสอนให้เธอ แพขนตาของนารากระเพื่อมเบาๆ
คณพศมองนาราอย่างประหลาดใจ โดยมือยังคงหั่นสเต็กเนื้อไม่หยุด
” ที่รัก คุณพูดจริงเหรอ… ” คณพศถามอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
” อืม… ฉันไม่โกหกหรอก ”
ชั่วขณะนั้นคณพศดีใจเหมือนกับเด็กๆ เขาอยากจะกอดนาราหมุนไปหมุนมาสักหลายรอบ แต่ร้านอาหารคนเยอะมาก เขากลัวจะถูกคนมองว่าเป็นคนบ้าซะเปล่าๆ จึงได้แต่อดกลั้นเอาไว้
” ที่รัก ผมสัญญา หลังจากนี้จะไม่โกหกคุณอีก ”
” อื้ม ”
” งั้นคุณ จะย้ายกลับมาได้ไหม? ” หลังออกจากโรงพยาบาลมา นาราก็อยู่กับไลลาตลอด
” อืม…กลับสิ ” เธอคือภรรยาของเขา ไม่กลับแล้วจะไปไหนได้
ตอนกลางคืน
นาราถูกคณพศพากลับมา ถึงหน้าประตู เห็นภาพอันคุ้นเคยตรงหน้า อารมณ์ก็ดีขึ้นมาทันที
เธอสัมผัสข้าวของของตัวเองทีละชิ้น ยาวนานดั่งชั่วชีวิต ตัวเธอไม่กลับมานานมากแล้วจริงๆ ที่นี่ บ้านของตัวเอง
หลังจากนาราเก็บกวาดข้าวของเสร็จแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป
หลังจากชำระล้างร่างกายไปแล้ว นาราออกมาพร้อมผมที่เปียกชุ่ม แต่คณพศที่อยู่ข้างนอกนั้น…แทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป
เขาก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว ถึงตรงหน้าของนารา กลับไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเพียงแค่จูงมือเธอดึงมาเบาๆแล้วพาเธอไปเป่าผมให้แห้ง
เขาให้เธอนั่งบนตักเหมือนอย่างเมื่อก่อน เป่าผมให้เธอ จากนั้นก็พาเธอไปที่เตียง
เขาที่ไม่ได้นั่งรถเข็นอีกแล้ว ได้ทีจึงขึ้นไปบนเตียง กอดเด็กสาวที่เขาคิดถึงจนแทบบ้าเอาไว้แน่น
ซุกหน้าลงที่คอของเธอ สูดดมกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
และไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาครอบครองริมฝีปากของเธอ ดูดดึงอย่างดุร้าย
” ที่รัก ผมคิดถึงคุณแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว…. ”
เขากดนาราไว้กับเตียง เริ่มรุกอย่างเกรี้ยวกราด
เด็กสาวเพิ่งจะตั้งตัวได้เขาก็ตรึงเธอไว้เสียแล้ว สัมผัสของเขาทั้งลึกและดุดัน นาราสูดไอเย็นด้วยความเจ็บ
” ขอโทษนะ ที่รัก ผมรุนแรงไปหน่อย….. ” ตอนนี้เขายังอดใจไว้ได้ ค่ำคืนนี้อีกยาวไกล……
นาราไม่รู้ว่าถูกเขาพาจนถึงจุดสูงสุดนั้นแล้วกี่ครั้ง จนในที่สุดเมื่อพอใจชายหนุ่มจึงอุ้มเธอไปอาบน้ำ หลังจากนั้นก็หลับไป
ชายหนุ่มก้มลงมองคนในอ้อมแขน จูบลงบนใบหน้าเล็กที่เห่อร้อนแล้วหลับตาลงด้วยความพึงพอใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น นารารู้สึกแค่ตัวเองแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีตรงไหนเลยที่ไม่ปวด
มองไปยังตัวการตรงหน้า ยังจะหลับฝันหวานได้อยู่อีก!
” ฉันจะกลับมารนหาเรื่องเจ็บตัวทำไมกันเนี่ย… ” นาราคิดอย่างหดหู่
แต่เมื่อมองชายหนุ่มที่หลับไหลอยู่ตรงหน้าแล้ว ในใจก็พลันสงบนิ่งลง
เธอเป่าขนตาของเขาเบาๆอย่างอดไม่ไหว แต่ไม่คิดว่า การกระทำนั้นจะยั่วโมโหเธอได้อีกครั้ง….
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นก่อนมองมาทางเธอ ” ที่รัก พอใจกับการบริการเมื่อคืนของผมไหมครับ? ”
” ไม่พอใจ! ” นาราพูดออกไปอย่างนั้น ชายหนุ่มแววตาหม่นลง ” ไม่พอใจเหรอ? ได้ ผมจะทำให้คุณพอใจตอนนี้เลย! ”
” อ้ะ ไม่เอานะ คณพศ…. พอใจๆ โอเครึยัง? ”
” สายไปแล้ว ! ” ชายหนุ่มคร่อมร่างเล็กของเธอไว้ใต้ร่างกำยำของเขา ทั้งห้องอบอวลด้วยความหวานฉ่ำ….
จนถึงเมื่อเด็กสาวอ้อนวอนเขาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น จึงได้จบลงพร้อมกับน้ำเสียงพึงใจของชายหนุ่ม
ทั้งสองก็ตัวติดกันไม่ยอมห่างจนถึงตอนเที่ยง
” ที่รัก ไปเรียนขับรถกันนะ ”
” มาเร็ว ขึ้นรถเถอะ ” คณพศเปิดประตูรถให้นาราอย่างเอาใจใส่ เธอหัวเราะก่อนเข้าไปนั่ง
คณพศมองเด็กสาวข้างกายอย่างอ่อนโยน เขายื่นมือไปทัดผมที่หูเธอเบาๆ สัมผัสนุ่มนวลเกินจะเอ่ย ยังไงก็ตามทั้งหมดก็ล้วนอยู่ในสายตาของอีกคน
” บ้าจริง… ทำไมแยกพวกเขาออกจากไม่ได้สักที! ”
พิมมี่ที่ซ่อนอยู่ในหลืบทึ้งกระเป๋าในมืออย่างรุนแรง แล้วเตะถังขยะที่อยู่ข้างๆ
แผลที่หัวของเธอยังไม่หายดี ผ้าพันแผลก็ยังพันอยู่เลย แม้ว่าคณพศจะยังไม่ได้ลงมือ แต่บาดแผลนี้ก็เพียงพอให้คุณหนูคนนี้เลี้ยงไปได้ครึ่งเดือนล่ะ
ในครึ่งเดือนนี้เธอไม่กล้าจะโผล่หน้าไป ถึงยังไงเธอก็พลาดก่อน ทั้งยังถูกคณพศเขี่ยออก เธอขายหน้ามามากพอแล้ว
ตอนนี้แผลที่หัวก็ดีขึ้นไม่น้อยแล้ว ความจริงเธอริษยานาราแทบอยากจะวิ่งออกไปซะให้ได้
” ทำกับฉันไว้ สักวันฉันจะตอบแทนให้อีกร้อยเท่าพันเท่า! ” พิมมี่จ้องไปยังสองคนที่อยู่ไกลออกไป พูดอย่างร้ายกาจ
วิษณุส์… คงจะถูกพวกเขาปล่อยออกมาแล้วสินะ
ครั้งก่อนวิษณุส์ลักพาตัวนาราเขาถูกตำรวจจับขังไว้ จากนั้นรัมพรก็ประกันตัวออกมา
รัมพรพูดกับคณพศ ” แม้แต่พี่ชายตัวเองก็ยังจะส่งเข้าคุก คุณเป็นคนตระกูลปัญญาพนต์รึเปล่า? ทำไมถึงใจไม้ไส้ระกำแบบนี้! ”
” ถ้าหากผมใจไม้อย่างนั้นจริงผมก็คงตายไปสักหมื่นครั้งแล้ว! ” คณพศเอ่ยอย่างเย็นชา เขาไม่มีญาติพี่น้อง เขารู้!
‘ ตู้ด—— ‘ พิมมี่โทรศัพท์ถึงวิษณุส์ ไม่มีใครรับ
วิษณุส์ บัดซบ กล้าดียังไงถึงไม่รับสายของเธอ ” ได้ ฉันไม่พึ่งพวกแกก็ได้ ฉันคนเดียวก็ทำลายพวกเขาเองได้! ”
‘ วืดวืด…. ‘ มือถือของพิมมี่ดังขึ้น
” วิษณุส์ ในที่สุดคุณก็รับสาย! ” พิมมี่คิดในใจ หยิบมือถือขึ้นมาอย่างรีบเร่ง แต่หมายเลขกลับเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
เป็นใครกัน
พิมมี่ลังเลอยู่นาน จนในที่สุดก็รับสาย
” สวัสดีค่ะ? คุณพิมมี่เหรอคะ? ” เสียงเพราะของหญิงสาวดังมาจากอีกด้าน
” เอ่อ ค่ะ… ใครโทรมาเหรอคะ? ” พิมมี่สมองตื้อไปหมด ผู้หญิงคนนี้รู้จักเธอ?
” ฉันชื่อณัจยาค่ะ คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เป็นแฟนคนแรกของคณพศค่ะ ” น้ำเสียงที่ส่งมาของอีกฝ่ายยังคงไพเราะ
แฟนสาวคนแรกของคณพศ? ณัจยา?
ชั่วขณะนั้นพิมมี่รู้สึกราวกับมองเห็นแสงสว่าง เธอรีบเข้าประจบ
” ที่แท้ก็คุณณัจยานี่เอง ฉันได้ยินชื่อของคุณอยู่ตลอดเลย ไม่นึกว่าวันนี้คุณจะติดต่อฉันมา คุณมีธุระอะไรกับฉันรึเปล่าคะ? ”
เธอยังอยากจะรู้จุดประสงค์ของเธอด้วย ” ถ้าอย่างนั้น พวกเรามาเจอกันไหมคะ? เวลาสถานที่ตามที่คุณสะดวก ” และคำตอบของณัจยาก็ทำให้มีความสุขอย่างมาก
พิมมี่ตอบกลับไปทันที ” ได้ค่ะ คุณณัจยาเชิญ พิมมี่ก็ต้องไปตามนัดอยู่แล้ว ”
” อืม โอเค งั้นคืนนี้สองทุ่มเจอกันที่ร้านกาแฟจูลี่นะคะ ถึงเวลาฉันจะใส่เดรสสีดำรอคุณ ” เมื่อพูดเสร็จก็รีบวางสายไป