The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่194 รู้สึกคุ้นกับคุณมากเลย
บทที่194 รู้สึกคุ้นกับคุณมากเลย
อลิซถูกพี่ชายตำหนิอีกครั้ง สีหน้าซีดเผือดอย่างกะทันหัน เธอย่ำเท้าหมุนตัวคิดจะเดินจากไป แต่เห็นพี่ชายและเคลลี่ลั่วไม่มีทีท่าว่าจะรั้งไม่ให้เธอไปเลย ความจริงแล้วก็ไม่ได้อยากจะไป เลยหันตัวเดินเข้าไปในงานเลี้ยง
เมื่อเห็นอลิซที่เดินกระฟัดกระเฟียดจากไป เจสซี เฮนรี่ก็ส่ายหัวเพราะความเขลาของน้องสาวอีกครั้ง ความไร้มารยาทของเธอในเวลานี้ เป็นความน่าขายหน้าของตระกูลเฮนรี่จริงๆ
” มิสนารา ต้องขออภัยจริงๆ น้องสาวของผมเย่อหยิ่งมากไปแล้ว คุณอย่าไปใส่ใจเลยนะครับ ” เจสซีกล่าวขโทษอีกครั้งอย่างละอายใจ และเสียหน้าเพราะน้องสาวของตัวเอง
นาราส่ายหน้า ” ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะมิสเตอร์เฮนรี่ เธอเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนั้นก็น่ารักมาก ”
เจสซี เฮนรี่รู้ว่านาราพูดไปตามมารยาท แต่ก็ยังชื่นชมการรักษาท่าทีให้สุภาพได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้หญิงที่สุขุมและใจกว้างแบบนี้มีไม่มากนักหรอก
ขณะคิดอย่างนั้น เจสซี เฮนรี่ก็อดมองดวงตาทั้งคู่ของนาราไม่ได้ รู้สึกว่าเธอไม่เพียงงดงามและใบหน้านั้นก็ยังดูคุ้นตาอยู่ไม่น้อย
เมื่อเห็นสีน้ำเงินเข้มในนัยต์คู่สวยของเธอก็ยิ่งประหลาดใจ!
” มิสนาราเป็นคนไทยเหรอครับ? ” แม้จะเห็นดวงตาที่น้ำเงินของนาราและรู้ว่าเธอเป็นลูกครึ่ง แต่เจสซีก็ยังถามอย่างสุภาพ
นาราพยักหน้า ” ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนไทย ”
” แต่นัยต์ตาสีน้ำเงินของคุณบอกผมว่า คุณเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษนะครับ ถ้าฉันเดาไม่ผิด ญาติของเธอต้องมีคนอังกฤษอยู่สักคนแน่ๆ ” เจสซีมองดวงตาของเธอด้วยความสับสน เพราะมีเพียงตระกูลของเขาเท่านั้นที่จะมีนัยต์ตาสีน้ำเงินแบบนี้!
” ไม่รู้ว่าคุณมาจากครอบครัวไหน แต่คงจะสง่างามและมีเกียรติมาก จะสามารถบอกผมหน่อยได้ไหมครับ? ” เจสซียิ่งมองก็ยิ่งคุ้น บางทีเธออาจจะเป็นสมาชิกในตระกูลของเขาที่เขาไม่รู้จักก็ได้
นารายิ้มอย่างอายๆ ” มิสเตอร์เฮนรี่ คุณยกยอเกินไป ฉันเป็นแค่เด็กกำพร้า ไม่ได้มาจากตระกูลไหนหรอกค่ะ แม้แต่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดฉันก็ยังไม่รู้เลย ”
หลังหนีจากความตายมาได้ แม้นาราจะเลือกที่จะผนึกความทรงจำเกี่ยวกับคณพศแต่เรื่องอื่นเกี่ยวกับตัวเองนั้นกลับไม่ได้ลืมไป
เธอถูกบุรินทร์รับกลับไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จะมีตระกูลใหญ่ที่ไหนส่งลูกตัวเองไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากันล่ะ?
เจสซี เฮนรี่ขมวดคิ้วอย่างงุนงง ” กำพร้า? ไม่ๆ ๆ คุณนารา คุณต้องกำลังอำผมเล่นแน่ๆ คำพูดและมารยาทของคุณ ต้องเป็นกิริยาของตระกูลที่ประวัติยาวนานแน่ๆ ผมแค่อยากรู้จักว่าคุณคือสุดยอดตระกูลไหนก็เท่านั้น ไม่ได้มีความหมายอื่นเลยจริงๆ ”
เจสซีเป็นคนที่หัวรั้นจริงๆ เขากดดันนาราด้วยสายตา
เขาคิดว่านาราไม่อยากจะบอกฐานะที่แท้จริงกับเขา เขาหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือกับเคลลี่ลั่วที่อยู่ข้าง ” ลั่ว พอดีคุณหนูท่านนี้ไม่อยากพูด งั้นรบกวนนายบอกฉันทีได้ไหมล่ะ? ”
เคลลี่ลั่วยักไหล่อย่างจนปัญญา ” ที่หวานของฉันพูดน่ะถูกแล้วล่ะ เธอโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาจริงๆ ภายหลังถึงได้ชายชาวไทยเลี้ยงดู ไม่ได้เป็นคนตระกูลใหญ่อะไร นายคิดมากไปแล้ว ”
เคลลี่ลั่วเดิมทีไม่อยากให้เจสซีรู้เรื่องชีวิตของนารามากนัก ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ เขาอยากจะทะนุถนอมเธอไว้ ไม่ให้เธอทำร้ายตัวเองอีก
” งั้นหรอกเหรอ? ” เจสซีตกตะลึง ” นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ ! ผมไม่อยากจะเชื่อเลย มิสนารา เค้าหน้าของคุณ ผมรู้สึกว่าคุ้นมาก ผมคิดว่าผมจะต้องรู้จักญาติของคุณแน่ๆ! ”
นาราหมดคำพูดกับความดื้อดึงของเจสซี
แต่ที่เขาบอกว่ารู้จักญาติของเธอนั่นจะจริงรึเปล่านะ?
คำพูดของเขาทำให้นาราสั่นไหว
เธอก้าวไปข้างหน้าสองก้าวอย่างประหลาดใจ ถามอย่างไม่อยากเชื่อ ” เป็นแบบนี้จริงเหรอคะ? มิสเตอร์เฮนรี่ คุณรู้จักแม่ของฉันไหมคะ? ”
เดิมทีเจสซีแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่คิดเลยว่าจะได้รับการตอบสนองจากนาราขนาดนี้ ” เอ่อ ผมแค่รู้สึกว่าคุ้นหน้าของคุณมากน่ะครับ ผมต้องเคยพบคนที่หน้าตาเหมือนคุณมากแน่ๆ แต่ว่านึกไม่ออกเลยน่ะครับ ”
” อ๋อ อย่างนั้นเหรอคะ ” นาราก้มหน้าลง โลกใบนี้มีคนหน้าเหมือนตั้งมากมาย เขาคงจะไม่รู้จักแม่กับพ่อของเธอหรอก
เมื่อเห็นนาราที่ดูผิดหวัง เจสซีก็รู้สึกสงสารเธอขึ้นมานิดๆ
” มิสนารา คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ถ้าหากมีโอกาสผมจะช่วยคุณตามหาครอบครัวแน่นอนครับ คุณสวยปานนางฟ้าแบบนี้ ผมคิดว่า คนที่ทิ้งคุณไปก็คงกำลังตามหาคุณอยู่แน่นอนครับ ”
” งั้นเหรอคะ? ” ใบหน้าของนาราปรากฏความสิ้นหวัง ” เพราะเหตุผลอะไรกันนะ ถึงได้ทำให้พวกเขาทิ้งลูกของตัวเองได้ลง? ” เธอเงยหน้าขึ้นมองเคลลี่ลั่ว
ถ้าหากจะตามหาคุณแม่ บางทีลั่วก็คงจะหาเจอแล้ว หรือว่าแม่จะไม่ต้องการเธอแล้ว
” ไม่หรอกครับ มิสนารา คุณสวยน่ารักขนาดนี้ แม่ของคุณจะต้องจำใจมากแน่ๆ ” เจสซีตบไหล่เธอเบาๆ
เคลลี่ลั่วที่อยู่ข้างๆ มองปฏิสัมพันธ์ของนารากับเจสซี ในใจราวกับมีพายุปั่นป่วน
เขารีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ถือโอกาสทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกับเจสซี เขาไม่ยอมทำเฉยกับความสนใจในตัวนาราในสายตาของเจสซีหรอก
ฮึ ถึงจะเป็นเจสซี เขาก็ไม่อยากให้มารู้เกี่ยวกับฐานะของนาราหรอก
ความจริงหลายปีมานี้ เขาตรวจสอบตัวตนของนาราไปตั้งนานแล้ว แต่เพราะเธอสูญเสียความทรงจำตอนลงตกไปในทะเล เขาจึงไม่อยากให้เธอรู้เรื่องในอดีต
แต่ก็ดี ยังไงแบบนี้เขาก็จะเก็บเธอเอาไว้ได้ เขาจะดูแลเธออย่างดี ทำให้เธอได้เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก
” ที่รัก งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว ไปกันเถอะ พวกเรายังต้องไปต้อนรับแขกคนอื่นๆ นะ ” พูดจบ เคลลี่ลั่วก็โอบไหล่นาราเดินเข้าไปในฝูงชน เขาพยักหน้าให้กับเจสซีเล็กน้อย ให้ทำตัวตามสบาย
เจสซีมองไปทางนาราที่ถูกเคลลี่ลั่วพาเดินไป เหลือบมองสัมผัสที่หายไป ผู้หญิงที่เยี่ยมยอดขนาดนั้นถูกหมอนั่นฉกไปก่อนซะแล้ว ชีวิตดีซะจริงนะ!
แต่ว่า ความสัมพันธ์ชายหญิงก็ใช่ว่าจะต้องเป็นความรักเสมอไปนี่นา เขายังมีโอกาสเป็นเพื่อนกับคุณนาราไม่ใช่เหรอ?
คิดอย่างนั้น เจสซีก็เดินตามเข้าไปในฝูงชน ถือโอกาสนั้นคิดเรื่องในหัวของตัวเองไปด้วย ว่าเคยเจอคนที่หน้าตาคล้ายกับคุณนาราที่ไหน
ดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นไปในอากาศ งานฉลองที่เคลลี่ลั่วตั้งใจจัดขึ้นมาเพื่อนาราเริ่มต้นขึ้นแล้ว
แขกผู้ร่วมงานในยามค่ำคืนแสดงความยินดีกับนาราอย่างจริงใจและปรบมือให้อย่างอบอุ่น ทุกคนล้วนชื่นชมรูปร่างหน้าตาของนาราเป็นเสียงเดียว
นารานั้นไม่เก่งเรื่องการเข้าสังคม เธอเหมือนเป็นแค่นกน้อย สงบเสงี่ยมอยู่ข้างหลังของเคลลี่ลั่ว คอยส่งยิ้มและเอ่ยขอบคุณให้กับทุกคน
เดินครบรอบไปแล้ว เท้าของนาราก็ระบมไปหมด ยากที่ดูแลขุนนางทั้งหลายในงานเลี้ยงได้ นารารู้สึกว่าเท้าของตัวเองใกล้จะพังอยู่รอมร่อ
เคลลี่ลั่วสังเกตเห็นว่านาราเดินช้าลงเรื่อยๆ เขาเอียงหัวเล็กน้อยถาม ” ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า? ”
” อืม ” นาราพยักหน้า พูดเสียงเบา ” ส้นสูงกัดน่ะ ฉันเดินไปเหมือนข้อเท้าใกล้จะพังอยู่แล้ว ”
ไม่ทันจะสิ้นเสียงเธอ เคลลี่ลั่วก็อุ้มเธอขึ้นมาก่อนเดินตรงไปยังปราสาท