The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่197 เธอคือหวานจริงๆ ใช่ไหม
บทที่197 เธอคือหวานจริงๆ ใช่ไหม
นาราปั่นป่วนอยู่ในใจ ทั้งหัวใจของเธอเฝ้ารอที่จะได้พบแม่อย่างกระวนกระวายจนลืมไปว่าตัวเองถูกเคลลี่ลั่วอุ้มอยู่
กลางดึก ทั้งสามคนเดินทางออกจากปราสาทของเคลลี่ลั่ว โดยนั่งรถไปยังที่อยู่ของลีนา
ภายในรถ ในที่สุดเจสซี เฮนรี่ก็ทนความเงียบไม่ไหวแล้วถามขึ้นอีกครั้ง ” ลั่ว ในเมื่อนายรู้ว่ามิสนาราเป็นได้มากที่จะเป็นลูกสาวของเลขาลีนา ทำไมนายถึงเก็บเงียบไม่บอกอะไรเลยล่ะ? ”
เคลลี่ลั่วกลอกตาใส่เจสซีก่อนส่งสายตาให้เขาหุบปากซะ
เมื่อเจอหน้าบึ้งตึงของเคลลี่ลั่ว เจสซีฉลาดพอที่จะไม่ถามอะไรต่อ ยังไงก็ใกล้จะถึงบ้านของเลขาลีนาอยู่แล้ว ความจริงจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า เขาก็ไม่รังเกียจที่จะรอต่อไปอีกสักหน่อย
ไม่นานรถก็หยุดลงหน้าอาคารสไตล์เอเชียหลังหนึ่ง
ที่นี่คือที่พักอาศัยของเลขาของโลเวลล์ เฮนรี่ บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลเรื่องงาน ที่พักของลีนาถึงได้อยู่ใกล้ปราสาทของเจสซีอย่างมาก
เคลลี่ลั่วลงจากรถก่อนแล้วช่วยเปิดประตูรถให้นารา และรอจนเธอลงมา
ส่วนเจสซี เฮนรี่น่ะเหรอ ปกติไม่มีบริการให้หรอก เขาผลักประตูเดินลงมาจากรถเอง แล้วเดินตรงไปกดออดที่ประตู
นาราก้าวพ้นออกมาจากรถก็เห็นเจสซีกดออดไปแล้ว เธอตื่นเต้นจนกำมือแน่น
เธอรู้สึกวุ่นวายใจอย่างมาก ทั้งกลัวว่าลีนาจะเป็นแม่แท้ๆ ของเธอ และก็กลัวว่าจะไม่ใช่ด้วย
” ใครมาคะ? ”
สิ้นเสียงออด ก็มีน้ำเสียงนุ่มนวลดังมาจากในบ้าน จากนั้นก็ตามด้วยเสียงฝีเท้าของรองเท้าแตะ
ประตูเปิดออก หญิงชาวเอเชียร่างสูงเพรียวคนหนึ่งเปิดประตูออกมา เธอสวมเดรสยาวสีเบจ ผมหยักศกเป็นลอนใหญ่ เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าอมทุกข์
ลีนามองเจสซีที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างประหลาดใจ ” คุณชายเจสซี ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงมาที่นี่กะทันหันนักล่ะคะ? ”
” เอ่อ ผมมีเรื่องบางอย่างอยากจะคุยกับคุณน่ะครับ คุณจะไม่เชิญเราเข้าไปนั่งสักหน่อยเหรอครับ? ” เจสซีพูดอย่างสุภาพ
ลีนากอดไหล่อย่างลำบากใจ ” เอ่อ ขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ คุณชายเจสซี ดึกขนาดนี้แล้ว หากมีเรื่องธุระอะไรให้เป็นวันพรุ่งนี้ได้ไหมคะ? ”
เจสซีรู้นิสัยประหลาดที่จะไม่เจอกับผู้ชายตามลำพังของลีนา เขาชี้ไปที่นาราและเคลลี่ลั่วที่ยืนอยู่ข้างรถหรู ” คืออย่างนี้ คุณเลขา เพื่อนของผมสองคนอยากจะพบคุณน่ะครับ ”
ลีนามองตามนิ้วของเจสซี รถของตระกูลเฮนรี่ เมื่อเธอเห็นนาราก็ชะงักนิ่งไปพักหนึ่งก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นซีดขาว
เธอจับประตูแน่นมองไปยังเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างตัวรถ หวาน?
หวานของเธอไม่ได้ตายไปห้าปีแล้วหรอกเหรอ?
แล้วเด็กคนนี้คือ?
” ขออภัยด้วยค่ะ คุณชาย มีเรื่องอะไรค่อยพูดกันพรุ่งนี้เถอะค่ะ ” พูดจบ ลีนาก็หันตัวเดินเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูอย่างเร่งรีบ
ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเมื่อการตอบสนองของเจสซีกลับมาประตูก็ถูกปิดอย่างแน่นหนาไปแล้ว
เจสซีกะพริบตาปริบ คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้
นาราที่ยืนอยู่ข้างรถหรูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอยังไม่ทันจะได้ตกตะลึงที่ใบหน้าของลีนากับเธอนั้นคล้ายคลึงกันมาก ประตูก็ถูกปิดลงแล้ว
นาราก้มหน้าลงอย่างสิ้นหวัง ในใจเต็มไปด้วยความหดหู่ท้อแท้ เห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ลีนาคงจะเป็นแม่ของเธอจริงๆ เพียงแต่หล่อนไม่ได้คิดอยากจะรู้จักเธอเลย
ก็คงงั้น เธอถูกทิ้งมาตั้งแต่เด็ก จนวันนี้แล้วจะมารู้จักเธอได้ยังไง
แต่ว่าเธอจะใช่คุณแม่จริงๆ รึเปล่า?
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงบนใบหน้าของนารา หยดที่หนึ่ง สอง สาม…..
หยดน้ำตาใส่เหล่านั้นยิ่งไหลออกมาเร็วขึ้นเรื่อยๆ ราวกับสร้อยลูกปัดแก้วที่ด้ายขาด ร่วงกราวลงบนพื้นและแตกสลาย แตกสลายไปพร้อมกับหัวใจของลั่ว
เขาสาวเท้าก้าวเข้าไปที่บ้านหลังนั้น กดกริ่งรัว แล้วตบประตูอย่างแรง ” ลีนา คุณรีบหนีอะไรงั้นเหรอ ผมตรวจสอบอดีตของคุณมาหมดแล้ว รีบเปิดประตูเถอะ ”
สิ้นเสียงของเคลลี่ลั่ว ประตูที่ปิดสนิทก็เปิดออก
ลีนาเดินออกมาช้าๆ ใบหน้านองด้วยน้ำตา สายตาจับจ้องไปยังนารา
เธอคือหวานจริงๆ ใช่ไหม?
เหมือนกับเธอตอนสาวๆ ไม่มีผิด
หรือเธอจะยังไม่ตาย? แต่ตอนนี้เธอจะจำได้เหรอ ฟังคำพูดของเคลลี่ลั่วเหมือนกับว่าเขาจะรู้จักเธออยู่แล้ว
เธอค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้นารา พูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
” ลูก เราไปคุยกันสองต่อสองดีไหม? ”
นาราเหลือบมองเคลลี่ลั่วก่อนก้าวเข้าไปหาลีนาอย่างกล้าหาญ
เธอเดินไปถึงหน้าบ้านที่ไม่คุ้นเคยอย่างช้าๆ พูดเสียงเบา ” ค่ะ ”
นาราเดินเข้าไปพร้อมกับลีนา ประตูปิดลง ปล่อยให้ลั่วและเจสซีรออยู่หน้าประตู
นี่คืออาคารที่พบได้มากในอังกฤษ ภายในตกแต่งเป็นระเบียบดูสะอาดตาและอบอุ่นมาก
ลีนายื่นไปดึงนาราให้นั่งลง มองหน้าเธออย่างละเอียด แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาทันที
” หนูคือหวานจริงๆ เหรอ? ลูกยังไม่ตายใช่ไหม? ” น้ำตาของเธอไหลลงมาไม่หยุด นารามองอย่างเป็นกังวล
ความขุ่นเคืองใจเมื่อครู่ได้หายไป เธอจ้องมองผู้หญิงตรงหน้า หล่อนเหมือนกับเธอมากจริงๆ
” คุณเลขาลีนา ฉันชื่อนารา คุณคือ….. ”
เมื่อลีนาได้ยินเธอพูดว่าเธอชื่อนารา ทันใดนั้นก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างหนัก
นารามองผู้หญิงที่ร้องไห้จนหน้าดำหน้าแดงตรงหน้าอย่างไม่รู้จะจัดการยังไง แล้วเธอก็ปวดตื้อขึ้นมาที่จมูก อยากจะร้องไห้เหมือนกัน
ผ่านไปพักใหญ่ ลีนาเช็ดน้ำตาแล้วมองไปที่นาราอีกครั้ง ” ขอโทษนะหวาน เป็นเพราะแม่ไม่ดีเอง แม่ส่งลูกไปที่ประเทศไทย แม่แค่อยากให้ลูกมีชีวิตที่มีความสุข ลืมที่แห่งนี้ไปให้หมด แต่กลับมอบชีวิตแบบนี้ให้กับลูก เป็นความผิดของแม่เอง ”
นารากำมืออย่างอึดอัด เดิมทีเธออยากจะถามว่าจริงๆ แล้วลีนาคือแม่ของตัวเองรึเปล่า แต่มันก็ติดอยู่ที่ปาก เธอพูดอะไรไม่ออกเลย เมื่อเห็นหล่อนร้องไห้หนักแบบนั้น ไม่ถามก็รู้ หล่อนคือแม่ของเธอ
ขณะนั้นเองเธอก็ยากจะซ่อนหัวใจตัวเอง จมูกพลันปวดตื้อขึ้นมา
และแล้วน้ำตาของนาราก็ร่วงหล่นลงมา เธอถามด้วยเสียงสั่นเครือ ” เพราะอะไร ถึงต้องส่งหนูไปล่ะคะ? บุรินทร์ใช่พ่อของหนูไหมคะ? ”
หากนี่คือแม่ของเธอ งั้นบุรินทร์ก็คงไม่ใช่พ่อของเธอ เพราะพวกเขาต่างก็เป็นคนไทย แต่เธอเป็นลูกผสมไทย-อังกฤษ
ลีนามองนาราอย่างปวดร้าว ” ถ้าหากให้พูด ก็เพื่อปกป้องลูก ลูกจะเชื่อไหม? ” เธอไม่ได้กลับไปยังเรื่องของบุรินทร์
นาราร้องไห้อย่างเงียบๆ แล้วส่ายหน้า เธอไม่เข้าใจ เพราะอะไรถึงต้องส่งเธอไปกันแน่?
ฮ่าฮ่า ทอดทิ้งลูกเรียกว่าปกป้องงั้นเหรอ? ใครจะไปยอมรับกัน?
” ใช่ ความจริงนี้เป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ แต่ว่า ถ้าหากลูกฟังเรื่องราวของแม่จบ ลูกจะเข้าใจ ที่ส่งลูกไปนั้น แม่ต้องจำใจแค่ไหน ไม่อาจทำอะไรได้เลย ” ลีนาพูดจบก็เริ่มเล่าเรื่องราวในเวลานั้นของตัวเอง
ความจริง ในตอนนั้นลีนาเป็นนักเรียนต่างชาติที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอยู่ที่อังกฤษ เพื่อค่าเล่าเรียนจึงเป็นล่ามส่วนตัวให้กับเอิร์ลท่านหนึ่ง