The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่215เคลลี่ลั่วกอดนาราเหมือนดันกอดสมบัติอันล้ำค่า
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่215เคลลี่ลั่วกอดนาราเหมือนดันกอดสมบัติอันล้ำค่า
ตอนที่215เคลลี่ลั่วกอดนาราเหมือนดันกอดสมบัติอันล้ำค่า
ฟังคำกล่าวหาของอลิซจบแล้ว นาราได้ตอบว่า:“บ้านของเธอ? ฮึฮึ ใครอยากที่จะมา! ฉันแค่ไม่อยากให้พี่ลั่วเสียหน้า ฉันจึงตอบตกลงว่าจะมาเป็นเพื่อนเขาแค่นั้นเอง ครั้งหน้าถึงพวกคุณจะเชิญฉันมาฉันก็จะไม่มาเหยียบบ้านนี้อีกเลย”
“ไม่จริง!” แววตาของอลิซเต็มไปด้วยความโกรธ“ เธอกับแม่ของเธอเป็นคนไร้ยางอาย! เธอหวังสมบัติและฐานะของครอบครัวเฮนรี่ไม่ใช่หรอ? ถ้าเธอไม่มีฐานะในครอบครัวเฮนรี่
เธอคิดว่าเธอจะเหมาะสมกับพี่ลั่วหรอ? ฉันบอกเธอไว้นะ ถ้าฉันยังอยู่เธออย่าหวังที่จะเอาสมบัติไปแม้แต่ชิ้นเดียว!“
“พูดจบหรือยัง?” นาราหันหลังเพื่อที่จะลงบันได“ ฉันไม่อยากเถียงกับคนปัญญาอ่อนอย่างเธอ เดียวไอคิวจะถูกเหยียบย้ำ เจ้าหญิงอันสูงส่งของเฮนรี่ อย่าให้ฉันได้เหยียบย้ำชื่อเสียงของเธอเลย ลาก่อนและ อย่าได้เจอกันอีกเลย!”
“เธอห้ามไปไหนก่อน!”“ อลิซวิ่นไปตรงหน้าของนาราและยื่นมือไปขวางนาราเอาไว้ เธอต้องพูดให้ชัดเจนภายในวันนี้ ว่าเธอจะไปจากพี่ลั่วเมื่อไร?”
นาราขี้เกียจจะสนใจเขา
“หลีกไป!“
อลิซไม่สนใจ เธอได้บีบคอตัวเองอย่างแรง น้ำตาก็ไหลออกมาทันที
เสียงของเธอก็เปลี่ยนเป็นเสียงที่น่าสงสาร
อลิซได้ตะโกนไปทางบันได“ พ่อรีบมาช่วยหนูด้วย น้อง น้องจะตีหนูจนตายแล้ว!“
นาราไม่คิดเลยว่าอลิซจะกลับดำเป็นขาว ปั้นน้ำเป็นตัว
แต่ถ้ามีคนบอกว่าตนเองกำลังจะโดนตีจนตาย ฉันควรจะทำให้เขาสมปรารถนาเหมือนอย่างที่พูดใช่มั้ยละ?
นาราก็เลยไม่รอช้าที่จะตบไปที่ใบหน้าของอลิซอย่างแรง
การจากไปของแม่นารา ทำให้ความแค้นที่มีต่อครอบครัวนี้ไม่มีทางที่จะระบายได้
ขณะตอนนั้นอลิซได้เอาหน้ามารับมือของนารา เธอก็ให้อลิซได้สมปรารถนา
ฝ่ามือของนาราตบไปที่หน้าของอลิซด้วยความแรง เร็วและ แม่น ทำให้หน้าของอลิซบวมแดง
“เธอทำตัวเธอเอง เธอพูดว่าฉันเป็นคนรังแกเธอ
ถ้าฉันไม่ตบเธอฉันก็คงรู้สึกผิดมาก!”
นาราหยิกแขนที่กำลังสั่นอยู่ และมองไปที่อลิซด้วยความเยือกเย็น
“อา” อลิซได้ตะโกนเสียงดัง
อเลิซก็ได้พุ่งเข้าใส่ นารา และกดไปที่คอของเธอ ผลักเธอไปใกล้บันได
“ไปตายเถอะ คนสารเลว !”อลิซได้แสดงหน้าอันน่ากลัวออกมา และผลักนาราให้ตกบันไดอย่างแรง
นาราไม่คิดว่าอลิซจะมีแรงมากขนาดนี้ นาราไม่มีแรงที่จะสู้ สัญชาตญาณของเธอก็ให้เธอจับสิ่งของที่อยู่ใกล้บันไดไว้
แต่เธอก็คว้าลม ไม่มีอะไรที่เธอจับได้เลย
เห็นร่างอันผอมของเธอกลิ้งลงบันได
เธอก็ได้แค่หลับตา
ยังไม่ทันได้รู้สึกเจ็บอย่างที่ตัวเองได้คิดไว้เลย แต่กลับอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่น
เขาลืมตาเห็นแววตาที่ตกใจมากของเคลลี่ลั่ว
“หวาน” เคลลี่ลั่วได้เรียกเธอด้วยความดัง “เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?“
นารานอกจากได้รับความตกใจแล้ว ไม่ได้เป็นไรมาก นาราได้ส่ายหัวแล้วตอบว่า:“ฉันไม่เป็นไร ลั่วขอบคุณค่ะ!”
เคลี่ลั่วได้อุ้มนาราไปนอนที่โชฟา เคลลี่ลั่วในตอนนี้อ่อนโยนมาก
เคลลี่ลั่วได้อุ้มนาราอย่างลึกซึ้งเหมือนดั่งสมบัติที่ล้ำค่า
โลเวลล์และภรรยากำลังอึ้งอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขาได้มองไปที่อลิซที่อยู่หน้าบันได แต่ทั้งสองไม่ทันจะเอ่ยปากพูด ก็ได้ยินเคลลี่ลั่วตะโกนอย่างเสียงดัง
“อลิซ!”
สายตาอันเยือกเย็นของเคลลี่ลั่ว
“เธอหาที่ตายหรอ!”
พูดจบก็เดินขึ้นบันไดที่ละขั้นละขั้น
ระหว่างทุกคนที่กำลังตกตะลึงอยู่ เคลลี่ลั่วได้บีบไปที่คอของอลิซ
“พี่ลั่ว ”
อลิซตกใจจนหายใจไม่ออก ชั่วพริบตาเดียวตัวของอลิซได้ลอยขึ้นมา
และล้มจากหน้าบันไดลงไปข้างล่าง!
“อา !” อลิซได้กลิ้งจากบันไดลงไปข้างล่าง จนกลิ้งไปข้างๆเท้าของโลเวลล์
ริมฝีปากเริ่มมีเลือกไหลออกมานิดหนึ่ง
อลิซได้เงยหน้าที่ข้าวซีด “พ่อ ช่วยหนูด้วย!ขาของหนู”
อลิซก็ได้สลบไป
โลเวลล์ได้ไปอุ้มอลิซขึ้นมา และตะโกนเสียงดังว่า “อลิซ บอดี้การ์ด!”
บอดี้การ์ดได้มายืนอยู่หน้าประตูด้วยความรวดเร็ว
“รีบพาอลิซไปโรงพยาบาล!”
“รับทราบ!”
ในขณะที่อลิซจากไป เคลลี่ลั่วก็ลงจากบันไดอย่างช้าๆ ตรงไปอุ้มนาราและเดินจากไป
ไม่เหลียวตาไปมองโลเวลล์แม้แต่น้อย
โลเวลล์โกรธจนเตะไปยังแจกันที่ประมาณค่าไม่ค่าไม่จนแตก!
“นาราไว้วางใจไม่ได้จริงๆ กลับมาที่บ้านไม่นานก็มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น!”
ภรรยาของท่านเอิร์ลเอะอะโวยวายว่า
“เธอต้องเป็นคนเลวอย่างแน่นอน!
ท่านเอิร์ลจะให้นางกลับมาไม่ได้นะค่ะ”
เธอก็ได้ตามบอดี้การ์ดไปที่โรงพยาบาล
ส่วนเคลลี่ลั่วก็ได้กลับไปที่ปราสาท
สภาพจิตใจของนาราแย่ถึงขีดสุด
เธอมองไปดูท้องฟ้าที่เหมือนฝนจะตกผ่านหน้าต่าง
“ลั่ว ถ้าฉันไม่กลับไปที่ครอบครัวเฮนรี่
ฉันจะไม่คู่ควรที่จะแต่งงานกับนายใช่มั้ย?ฉันไม่ค่อยชอบครอบครัวนั้นจริงๆ”
นารายืนอยู่ที่ระเบียงมองไปที่ท้องฟ้าอันมืดหมอง
เคลลี่ลั่วเดินไปหานาราและจับมือของเธอไว้อย่างเบาๆ“ ไม่ว่าเธอจะเป็นลูกสาวของใคร ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ครอบครัวไหน เธอก็เป็นคู่หมั้นของฉันเสมอ ถ้าเธอไม่ชอบครอบครัวเฮนรี่ เราจะไม่ไปที่นั่นอีก”
นาราพยักหน้า และบอกว่า:“งานหมั้นของเราเลือนไปก่อนได้มั้ย? ให้เวลาฉันหน่อย”
นารามองไปที่ใบหน้าที่หล่อของเคลี่ลั่วสมองของเธอก็พลุกคิดถึงเหตุการณ์ที่คณพศที่ถูกซ้อมจนกระอักเลือก
คิ้วของเธอได้ถูกบีบจนชิดกัน
“ได้ ฉันรับปาก เลื่อนเวลาก็ได้ หวาน หลายปีที่ผ่านมา เธอยังลืมคณพศไม่ได้อีกหรอ?เขาเป็นคนที่ทำร้ายเธอมากที่สุด! เธอก็ยังคิดถึงเขา?” เคลลี่ลั่วเศร้าสลดใจ
ในขณะนี้เสียงฟ้าร้องได้ดังกึกก้องอย่างไม่ขาดสายและฝนก็ได้โปรยปรายลงมากระทบกับกระจกหน้าต่าง
ฝนตกจริงๆด้วย นาราหลับตาและส่ายหัว ลั่ว
ฉัมไม่ใช่ลืมเขาไม่ได้ แต่ฉัมไม่อยากให้เขาเป็นอะไร เพราะเขาเคยช่วยชีวิตฉันไว้
ในตอนนี้นาราเผชิญกับภัยอันตราย
เขาได้ปกป้องนาราจากอันตรายทั้งพวง ในตอนนั้นคณพศเพรียบเสมือนสวรรค์ของเธอ แต่สุดท้ายแล้วคนที่เจ็บที่สุดก็คือเขา
เคลลี่ลั่วได้กอดร่างที่ผอมของนาราอย่างเบาๆ:” อือ หวาน ฉันเชื่อเธอ เธอจะจัดงานวันไหนก็ตามนั้นเลย ฉันยอมาหลายปีแล้วจะรออีกไม่กี่วันจะเป็นไรไป”
เคลี่ลั่วได้ลูบหัวของเธอด้วยความเอ็นดู
เคลลี่ลั่วรู้ดีว่า ปมในใจจองเธอยังไม่คลี่คลาย
ถึงนาราจะแต่งงานกับเขาแต่อาจจะไม่มีความสุข
เคลี่ลั่วได้เดินหันหลังกลับไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้นารามีพื้นที่ส่วนตัว
นาราอาบน้ำเสร็จก็ไปนอนบนเตียง
และมองไปที่ฝ้าเพดาน ฟังเสียงฝนตกข้างนอก
วันนี้เป็นวันที่ฝนตกหนักอีกแล้ว!
ฝนได้ตกทั้งคืน วันที่สองนาราได้ตื่นตั้งแต่เข้า แต่แท้จริงแล้วเธอยังไม่ได้นอนเลย
ปราสาททุกชะล้างด้วยลมฝนในคืนที่ผ่านมา
เคลี่ลั่วไปจัดการธุระที่บริษัทตั้งแต่เช้า และได้สั่งลูกน้องไว้ว่า ห้ามคนอื่นเข้าใกล้ปราสาท
นารากำลังเปิดประตูเพื่อที่จะไปสูดอากาศข้างนอก
คาดไม่ถึงว่าจะเห็นเสกข์กำลังลงจากรถพร้อมกับใบหน้าอันเย็นชาเดินไปที่นารา
บอดี้การ์ดได้เข้ามาขวางเสกข์เอาไว้
“พวกนายกลับไปได้แล้ว เขาเป็นเพื่อนของฉัน”
เมื่อบอดี้การ์ดเดินกลับไป เสกข์เดินไปหานาราพร้อมกับใบหน้าที่หน้าม่อยคอตก “คุณนายคณพศ”
“ขอร้องอย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันไม่ใช่คุณนายคณพศของนาย” นาราปฏิเสธการเรียกชื่อของเสกขอทันที