The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่233ลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่
ตอนที่233ลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่
คณพศที่จ้องมองนารา นาราไม่ใช่ไม่รู้ตัว
แต่เธอไม่อยากจะสบตาเขา และขี้เกียจจะสนใจเขาด้วย
คณพศรู้ดีว่านาราเป็นคนที่ขี้งอน คณพศเลยไม่ถือสาอะไร
อย่างไรก็ตาม นารากลับมาก็พอแล้ว
หลายชั่วโมงที่อยู่บนเครื่องบิน เครื่องบินได้ลงจอดอย่างช้าๆ
นาราที่ลงจากเครื่องบิน ตกใจไปชั่วขณะ เธอคิดว่าคณพศจะพาเธอกลับไปที่เมืองธิตกล
แต่ภาพที่เห็นอยู่ข้างหน้ากลับไม่ใช่ เมืองธิตกลที่เธอรู้จัก
“ที่นี่คือที่ไหน นายพาฉันมาที่นี่ทำไม?”นาราได้ถามคณพศ
คณพศมองอย่างจดจ่อ “นารา ที่นี่คือประเทศฝรั่งเศส เธอลืมไปแล้วหรอ?”
นารารู้สึกมึนงง ฝรั่งเศสก็ดี เมืองธิตกลก็เถอะ
ฉันจะทำให้เขารู้ว่าใจที่แตกเป็นเศษแล้วนั้น ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจเป็นเหมือนเดิมได้
ลงจากเครื่องบินแล้ว มีรถส่วนตัวมารับนาราและคณพศไปที่บ้านพักต่างอากาศที่อยู่ติดทะเล
ซอกซอยที่ไม่คุ้นเคย นาราไม่มีความรู้สึกอะไรกับที่นี่เลย
แต่เมื่อรถไปถึงที่บ้านพักของคณพศ ใจของนาราเกิดความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
บ้านพักตากอากาศหลังนี้ เหมือนบ้านของคณพศที่อยู่เมืองธิตกลอย่างไม่มีผิด
ทั้งทิศทางและระยะห่างก็เหมือนกัน
“เธอชอบมั้ย?”คณพศถามเธอด้วยเสียงที่เบา
นาราไม่พูดอะไรสักคำ เธอไม่ชอบเลย ถึงขนาดรู้สึกเกลียดนิดหน่อยด้วยซ้ำ
บ้านนี้เหมือนบ้านของคณพศที่อยู่เมืองธิตกล เธอจึงชอบบ้านหลังนี้ได้ยากมาก
เมืองธิตกลสำหรับเธอมีเพียงความรู้สึกเจ็บปวดและอัปยศ
แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกมา นาราได้เดินตามคณพศไปอย่างแข็งทื่อ
ยิ่งเดินไปใกล้บ้านใจยิ่งรู้สึกหนาวเย็น
เดินเข้าไปที่บ้าน นารารู้สึกคุ้นเคยกับการตกแต่งในบ้านมาก
เธอยอมรับว่าคณพศตั้งใจมาก แต่เธอก็ไม่รู้สึกประทับใจแล้ว
“นารา เธอดู วิวทะเลที่นี่เหมือนกับที่เมืองธิตกลมั้ย?”
คณพศได้รู้สึกกระตือรือร้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
นาราไม่มีความสนใจเลย เธอได้หาที่นั่ง
และนาราได้แสดงจุดยืนของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ที่ฉันยอมกลับมากับนายเพราะไม่อยากให้นายไปทำร้าย พี่ลั่วและคนบริสุทธิ์เหล่านั้น
นายอย่าเข้าใจผิด ระหว่างเราทั้งสองมันจบลงแล้ว ถึงนายจะบังคับให้ฉันอยู่กับนาย
มันก็ไม่ได้ช่วยยื้อฉันไว้เพราะฉันได้ตัดสินใจไปแล้ว”
คณพศได้ยินคำพูดของนารา เหมือนถูกไม้ตีที่หัว
ที่คณพศใช้ทั้งแรงกายและแรงใจทั้งหมดเพื่อที่จะพานารากลับมา
ไม่ใช่ให้นารามาตัดความสัมพันธ์กับเขา
“นารา เธอยังไม่ต้องพูดถึงจุดยืนของตนเอง ฉันเชื่อว่าเธอยังมีใจให้ฉันอยู่
ไม่งั้นเธอก็คงไม่กลับมากับฉัน”
คณพศที่คิดไปเองยังรู้สึกดี ทำให้นาราจะทนไม่ไหวแล้ว
คณพศนาย “เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางมากเกินไป
ทำไมนายไม่เชื่อคำพูดของคนอื่นเขาบ้าง? นายต้องให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งว่า ระหว่างเราทั้งสองมันจบลงแล้ว!”
นาราพูดอย่างเย็นชาแล้วทิ้งไว้เพียงคำพูดเหล่านี้
เธอก็ได้ไล่คณพศออกไป “นายออกไปได้แล้ว ฉันต้องการจะพักผ่อน”
คณพศที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เขาก็ได้ทำตามที่นาราขอแล้วเดินออกไป คณพศได้ยืนขึ้นแล้วใช้มือลูบที่หัวของนารา
“นารา เธอใจเย็นๆนะ ขั้นสองมีเสื้อผ้าของเธอ เธออาบน้ำและพักผ่อนนะ ฉันออกไปสักคู่เดียวกลับมา”
นารานั่งไม่ได้ขยับเหมือนรูปปั้นรูปหนึ่ง
ประตูที่ปิดลง คณพศที่ได้ออกไปแล้ว
นาราลุกขึ้นเดินขึ้นไปชั้นสอง เปิดประตูห้องนอน เห็นเตียงเดี่ยวที่ใหญ่มาก
เธอจำใจเอาหัวมุดไปที่ที่นอนแล้วหลับตา เธอไม่ได้ไปอาบน้ำ
นาราที่รู้สึกเหนื่อยมากเลยนอนหลับไปด้วยความรวดเร็ว
ตอนเธอตื่นมาอีกที คือตอนค่ำแล้ว
นาราก็ได้อาบน้ำแต่งตัวไปเรื่อยเปื่อย เธอได้เปิดตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกชุดหนึ่งมาใส่
เธอได้ไปนั่งที่ข้างหน้าต่างอย่างไม่มีชีวิตชีวา มองไปที่ทะเลที่ไม่มีขอบเขต
เสียงคลื่นทะเลที่กระทบกับฝั่ง ในขณะนี่ นาราได้รู้สึกเหมือนตัวเองได้ยอนเวลากลับไปเมื่อห้าปีก่อน
เธอได้ลูบท้องอันแบนราบของเธอ เคยมีหนึ่งชีวิตที่อยู่ข้างในนี้
แต่เธอได้เสียลูกเธอไปโดยที่ยังไม่รู้เพศของลูกด้วยซ้ำ
นารารู้สึกเหมือนใจได้ถูกคมมีดบาดจนเป็นแผล โธ่….
มองคลื่นที่กระทบกัน เธอรู้สึกตนเองเหมือนดั่งฟองสบู่ที่จะแตกได้ตลอดเวลา
หาทิศทางไม่เจอ มีเพียงความรู้สึกลังเลและไร้หนทาง
“เสียงเปิดประตูดังขึ้น”
ประตูได้เปิดออก เธอคิดว่าเป็นคณพศที่เข้ามา
เธอก็เลยไม่ได้หันไปมอง
สักพัก นาราไม่ได้ยินเสียงของคณพศเลยรู้สึกสงสัย
จึงหันไปมอง
ประตูที่เปิดออก นาราได้มองผ่านซอกประตู มีคนยืนอยู่นอกประตู ไม่ใช่คณพศ
แต่เป็นเด็กที่น่ารักคนหนึ่ง
ดวงตาที่โตของเด็กคนนั้น ได้จ้องมองไปที่นาราอย่างจดจ่อ
ใบหน้าของเด็กของนี้ปรากฏถึงความขาดหวังแต่ก็ยังมีความไม่คุ้นเคยแฝงอยู่
เห็นเด็กคนนี้ที่มีดวงตาดวงโตสีฟ้าเหมือนดังของเธอ
ใจของเธอได้เต้นเร็วและเต้นไม่หยุด
เธอได้ลงมาจากระเบียงหน้าต่าง เดินไปที่ประตูอย่างเบาๆ
นั่งยองๆและจ้องมองไปที่เด็ดที่เหมือนตกมาจากสวรรค์ “น้อง น้องเป็นใครค่ะ”
เด็กคนนั้นที่เห็นนารามา เขาได้ยืนแขนที่อ้วนท้วนของเขา ไปจับที่เสื้อผ้าของนารา
และพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า“ แม่!”
นาราได้ตกตะลึงด้วยคำว่า“ แม่” แล้วหยุดอยู่กับที่
สมองของนาราเหมือนถูกระเบิด
ถ้าลูกที่เธอท้องยังไม่ตาย ก็คงโตประมาณนี้แหละ
นาราใจลอยเหมือนตัวไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว นี้ฉันฝันไปหรอ
หรือฉันคิดถึงลูกจนเกินไป หรือนี้เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา?
นาราก็ได้หยิกตัวเองอย่างแรง รู้สึกเจ็บมาก เลยมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป
เด็กที่อยู่ตรงหน้าเป็นเด็กตัวเป็นๆ
คงไม่ใช่…..
หัวใจเต้นเหมือนดังกองที่กำลังตีอยู่ อาจจะไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ก็ได้
แต่ทำไมเด็กคนนี้มีดวงตาที่เหมือนเธอ? และใบหน้าของเด็ก
ก็เหมือนของคณพศไม่มีผิด
“โอ้พระเจ้า”
เห็นเด็กที่จับคอเสื้อของเธอนั้น เธอตื่นเต้นแล้วอุ้มเด็กขึ้นมา
แล้วถามว่า:“หนูเป็นใคร? พอแม่ของน้องอยู่ไหน?”
เด็กได้โอบคอของนาราไว้แล้วเขาไปใกล้ที่หู ดวงตาดวงโตที่ไม่กะพริบตาเลย
และตอบเบาๆว่า:“ผมชื่อมิรา พอชื่อคณพศ แม่ชื่อนารา พ่อบอกว่าแม่กลับมาแล้ว
ผมรอมาห้าปีแล้ว แม่ถึงกลับมา พี่เป็นแม่ของผมใช่มั้ย? ทำไมแม่ถึงต้องทิ้งหนูไปกว่าห้าปีด้วย!
รู้มั้ยว่าผมคิดถึงแม่มาก!”
สมองนาราในตอนนี้เหมือนถูกระเบิดได้เสียสติไปแล้ว
มิราหรอ?
ถึงนาราจะยังไม่ค่อยเชื่อ แต่มิราที่พูดแบบนี้แล้ว
ตัวเองได้อึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเลย
เด็กที่ผิวขาวน่ารักคนนี้เป็นลูกของเธอจริงๆ!
ลูกของเธอที่ตายที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจและสิ้นหวัง
แต่ลูกของเธอยังไม่ตายหรอ?