The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่235เขาชื่อมิราslow
ตอนที่235เขาชื่อมิราslow
นาราได้ส่ายหัวนารา สุดท้ายแล้วพิมมี่และณัจยาจะเป็นอย่างไร เธอขี้เกียจที่จะไปถาม
คณพศคิดว่าตนเองได้ช่วยนาราจัดการกับคนพวกนั้น แต่เขายังไม่เข้าใจเลยว่า
คนที่ทำร้ายเธอมากที่สุดก็คือคณพศ
“เราไม่ควรจะมาเถียงกันต่อหน้าลูก” นาราก็ได้ขอว่า
“คณพศ นายออกไปก่อนได้มั้ย? ฉันอยากจะอยู่กับมิราตามลำพัง”
มิราก็ได้นั่งนิ่งๆอยู่ในอ้อมกอดนารา นาราที่เป็นแม่ของมิรา
มิราได้เห็นแม่ของตนเองผ่านวีดีโอและรูปจากพ่อ
แต่นั้นเป็นเพียงแค่ภาพที่เยือกเย็น เทียบไม่ได้กับแม่ที่เป็นตัวจริงที่จับต้องได้ในตอนนี้
ตัวของแม่มีกลิ่นที่หอม ตัวที่นุ่ม นี้เป็นกลิ่นอายของความเป็นแม่
เรื่องที่นาราและคณพศกำลังเถียงกันอยู่มิราก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง
มิราเคลิบเคลิ้มกับกลิ่นที่หอมของแม่
คณพศเห็นว่าการเจรจากับนาราไม่ค่อยราบรื่น
คณพศรู้ตัวว่าต้องทำตัวอย่างไรในสถานการณ์แบบ เขาก็ได้ลุกขึ้น แล้วบอกว่า “ฉันไปดูว่าอาหารมื้อค่ำทำเสร็จหรือยัง”
พูดจบ เขาก็เดินออกไป และปิดประตูเบาๆ
ประตูได้ปิดหลง นาราถึงรู้สึกถึงความปลอดภัย
ไม่รู้เพราะอะไร ถ้ามีคณพศอยู่ด้วยเธอจะรู้สึกไม่ปลอดภัย
เป็นไปได้ว่า ชีวิตเมื่อห้าปีก่อนที่เธอใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในคุก
ทำให้เธอลืมความทรงจำนี้ได้ยาก
นารารู้อยู่แก่ใจว่า ใจของเธอนั้นขับไล่คณพศตลอดเวลา
เมื่อเขาได้จากไปแล้ว เธอถึงจะไม่รู้สึกตึงเครียด
นาราได้อุ้มมิราขึ้นมา ไม่รู้สึกว่ามิราที่อายุ5ขวบจะหนักเกินไปเลย
หลายปีที่ผ่านมา เธอคิดว่าลูกของเธอตายไปแล้ว แต่ตอนนี้ได้เจอลูกอีกครั้ง รู้สึกเหมือนหลายๆอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป
ห้าปี ไม่ยาวและไม่สั้น แต่สิ่งที่เธอเสียไปคือ ช่วงเวลาที่จะเห็นมิราเติบโต
นาราดีใจจนพูดไม่ออก และไปเอาตุ๊กตาที่อยู่บนหัวนอนมาเล่นกับมิรา
ถามมิราว่า ชอบตัวนี้มั้ย? แม่ให้หนูนะเอามั้ย?
“หนูชอบครับ คุณแม่” มิราได้ตอบอย่างนุ่มนวล
หน้าของเธอได้มีรอยจูบที่หวานๆรอยหนึ่ง ทำให้ใจของนาราถึงกับละลาย
แต่นาราไม่ได้สังเกตเห็น มิราที่อายุ5ขวบไม่ได้สนใจเล่นกับตุ๊กตาเลย
แต่มิราไม่อยากให้แม่เสียใจ มิราจึงทำเหมือนชอบตุ๊กตา เพราะมิรารักแม่มาก
เวลาที่แม่ลูกได้อยู่ด้วยกันผ่านไปเร็วมาก รู้สึกตัวอีกทีก็คือยามค่ำคืนแล้ว
คณพศไม่ได้ให้คนรับใช้มาเรียกนาราและมิราไปกินข้าว
แต่เขาได้มาเคราะประตูด้วยตนเอง “นาราที่รักของฉันและมิราลูกรัก มากินข้าวได้แล้ว!”
เขาไม่ใช่ผู้บริหารบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ที่หยิ่งผยองและลึกลับอีกต่อไป
แต่เขากลายเป็นคนที่เหมือนเด็ก ตลก เพราะเขาได้เจอสมบัติที่เขาตามหาแล้ว
เสียงเรียกของเขามันฟ้องว่าเขาได้มีการเตรียมการล่วงหน้า
ไม่ว่านาราจะอยากที่จะขับไล่เขาอย่างไร แต่ตอนนี้นาราก็ได้มาอยู่ที่ที่ใกล้ที่สุดกับเขาแล้ว
นี้มันเพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรอ?
นาราที่อยู่ในบ้านแสดงใบหน้าที่ไม่พอใจ มิราจรู้สึกถึงความผิดปกติของแม่
มิราเลยถามว่า” แม่ พ่อเรียกเราไปกินข้าว แม่ไม่ชอบพ่อหรอ?”
“อา! ไม่เลย ไปเถอะ เราไปกินข้าวกันเถอะ” นาราไม่อยากเอาอารมณ์ด้านลบไปให้กับลูก
นี้เป็นเรื่องระหว่างเธอและคณพศ เธอไม่อยากให้ลูกของเธอจดจำในสิ่งที่ไม่ดี
นาราที่จับมือของมิรา และเดินไปเปิดประตู ภาพที่เห็นคือ
คณพศที่ชุดสูทมือข้างหนึ่งอยู่ในกระเป๋า ยืนเอียงอยู่ข้างประตู
คณพศที่เห็นนาราและลูกได้มาแล้ว ดีใจและทักทายว่า
“นาราและมิราของฉัน ฉันรอพวกเธอมานานเลยนะ”
“เราลงไปกันเถอะ” นาราไม่อยากจะพูดมาก จับมือของมิราลงบันไดทันที
มิราได้มองไปที่พ่อของตนเองและกะพริบตา
คณพศได้ยกไหล่ขึ้นและทำท่าทางแบบอะไรอย่างไรก็ได้
และตามลงไป
บนโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารจีน อาหารที่พร้อมทั้งสีกลิ่นรสชาติ
หลอกล่อนาราทำให้อยากที่จะกินอาหารเหล่านี้
“พร้อมแล้ว ก็เริ่มกินได้เลย”
เห็นคณพศพ่อลูกสองคนที่กำลังรอคำพูดจากเธออยู่นั้น
นาราได้พูดและเตรียมที่จะใช้ตะเกียบคีบอาหารให้มิรา เตรียมที่จะป้อนข้าวมิรา
“ขอบคุณครับแม่ แต่พอเคยบอกว่าไม่ควรที่จะพึ่งผู้ใหญ่มากเกินไปหนูควรที่จะกินข้าวเอง”
มิราได้พูดอย่างจริงจัง มิราที่ได้เอาเรื่องของพ่อมาฟ้องแม่ ก็ได้รู้สึกได้ใจเล็กน้อย
ละครในทีวีที่มีครอบครัวสามพ่อแม่ลูก เขาก็แสดงแบบนี้
นาราได้ขยี้หัวของมิรา และบอกว่าพ่อพูดถูก
“แต่ถ้าแม่อยากที่จะป้อนข้าวลูก ทำไงดีละ?”
“โธ่”มิราได้ถอนหายใจ“ ถ้าแม่อยากจะหคีบอาการให้หนู
ก็หคีบเถอะ เพราะแม่เป็นคนที่ผมรักมากที่สุด”
นารากับมิราหยอกล้อกันอย่างมีความสุข
นารามองมิราด้วยความรักที่เมตตา
นาราได้พูดออกมาว่า
“ขอบคุณนะคณพศที่นาย สอนลูกได้ดีมาก”
คณพศได้รู้สึกถูกชมแต่คณพศก็ดีใจไม่ออก
คณพศรีบคีบอาหารให้นารา และยิ้มอย่างเอาใจใส่ แล้วบอกว่า“ นี้เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ
ลูกของเราเชื่อฟังมาก”
เห็นคณพศที่คีบอาหารให้เธอ เธอได้ลังเลสักคู่ สุดท้ายก็ไม่ได้กินอาหารที่คณพศคีบให้
ความคิดของเธอได้แยกเป็นสองความคิด เธอได้เอาอาหารที่คณพศคีบให้เธอวางไว้ข้างๆ
ไม่ไปแตะมัน
“เธอทำไมไม่กิน? เธอชอบเมนูนี้ไม่ใช่หรอ? ”คณพก็เลยสงสัย
หรือห้าปีผ่านไป รสชาติที่เธอชอบเปลี่ยนไป
“ไม่ใช่ ”นาราตอบแบบไม่มีความรู้สึก
คณพศได้คิดทบทวนอยู่สักพัก และได้รู้ความคิดของนารา
เลยจะแกล้งนารา คณพศได้คีบอาหารให้นาราจนเต็มถ้วย
นาราไม่รู้จะทำอย่างไร เธอไม่คิดเลยว่าคณพศจะเป็นคนที่มีนิสัยที่เป็นเด็กแบบนี้
“นาราเธอต้องปรับสภาพตัวให้เข้ากับที่นี่นะ เพราะที่นี่คือบ้านของเรา
ฉันฝากมิราไว้กับเธอด้วยนะ” คณพศตั้งใจมองไปที่นารา หวังว่าเธอจะยอมรับ
นาราที่อยากจะส่ายหัวและปฏิเสธ แต่เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของมิรา
คำพูดที่เธอจะพูดออกมา กลับพูดไม่ออก
“แม่ แม่ไม่ไปไหนได้มั้ย? อยู่กับเราที่นี่ได้มั้ย? ได้มั้ย แม่ ?”
มิราที่มีแต่คำขอร้อง
มองไปที่มิรา ถ้าจะปฏิเสธเธอก็ไม่อาจที่จะพูดออกมาได้
เธอได้ลังเลและพูดอย่างติดๆขัดๆว่า“ ไม่ใช้ไม่ได้
แต่แม่มีเรื่องที่จะต้องไปจัดการที่ประเทศอังกฤษนิดหน่อย”
“จริงหรอ?“ มิราดีใจจนกระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้
“แม่แค่ไปทำธุระ ไม่ได้จะทิ้งหนูไป แบบนี้ดีมากเลย!”
ตาของนาราได้กะพริบๆ ไม่สามารถเผชิญหน้ากับความใส่บริสุทธิ์ของมิรา
เธอรู้สึกใจของเธอเหมือนมีเลือดหยดออกมา
ในใจที่ยิ่งรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของกษาปณ์ที่ทำให้เธอกับลูกของเธอต้องพลัดพรากจากกัน
ตัวเองควรที่จะมีความสุข แต่เธอกลับต้องใช้ชีวิตอย่างยุ่งเหยิงและสับสน เหมือนดั่งผีดิบที่ไม่ชีวิต
แต่ตอนนี้ที่เธอได้เจอกับลูกอีกครั้ง ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าลูกแล้ว
คณพศก็ได้ดีใจตามเคย เขารู้ว่าถ้าใช้ลูกมาเป็นข้ออ้าง
เขามั่นใจมากว่านาราจะกลับมาหาเขา