The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่442 ไลลาได้พบสิ่งผิดปกติ
ตอนที่442ไลลาได้พบสิ่งผิดปกติ
ทั้งสองคนได้ปรึกษากับเรื่องเสื้อผ้าเด็กแบบไหนน่ารักกว่ากัน ไลลาได้ยินที่ประตูมีเสียงของฝีเท้า คิดว่าคณพศกลับมา หันไปมอง เป็นเด็กผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก
เด็กผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนเด็กที่ธรรมดา แต่การแต่งการของเธอดูคุ้นตามาก โดยเฉพาะแว่นตาดำนั้น ดูโดดเด่นมาก
ไลลาไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร และเธอก็ได้ดึงไปที่คอเสื้อของนารา “นารา เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?”
นานาก็คิดว่าคณพศได้กลับมาก ได้ยินไลลาที่พูดแบบนี้ เธอถึงได้หันไปมอง
“อ่อ เธอชื่อกาก้า เธอเลิกงานแล้วหรอ?” นาราได้ดูเวลาตอนนี้ “ตอนนี้มันเที่ยงวันแล้ว เธอนั่งก่อน ฉันให้สาวรับใช้ไปเตรียมอาหารกลางวันน่ะ”
กาก้าไม่ได้แกร่งใจเลย เธอได้ยิ้มให้ไลลา และนั่งบนโซฟา “พี่นารา คณพศมีประชุมตอนเที่ยงนี้ เขาน่าจะไม่กลับมากินข้าวแล้ว”
“ไม่เป็นไร ให้เขาทำงานไปเถอะ เธอมากินข้าวก็ดีแล้ว” รอยยิ้มที่จริงใจของนารา เธอได้สั่งสาวรับใช้ “รับไปเตรียมหารเที่ยง ทำให้กับคุณกาก้าด้วย”
เคลลี่ลั่วที่ออกไปตั้งแต่เช้า บอกว่าจะไปเดินเล่น ตอนนี้แล้วยังไม่กลับมา นาราเลยไม่ได้ให้สาวรับใช้เตรียมอาหารให้เขา
กาก้ายิ้มและพยักหน้า “ฉันเชื่อฟังดีกว่า เพราะช่วงนี้ฉันมากินข้าวที่บ้านเธอทุกวันเลย ฉันก็เริ่มรู้สึกเกรงใจแล้ว”
“เกรงใจอะไร นี้เป็นบ้านพี่น่ะ เธอมาได้เสมอ” นาราได้ชี้ไปที่ไลลา “นี้เป็นเพื่อนสนิทของฉัน ไลลา นี้เป็นผู้ช่วยของคณพศ กาก้า”
ไลลาได้พยักหน้า และทักทายของกาก้า
แต่กาก้าแค่ยิ้มได้ไลลาตามมารยาท แต่ไม่ได้คุยอะไรกับเธอ เธอได้เอาใจแต่นารา “พี่นารา หลายวันที่ผ่านมา พี่กินอะไรได้มั้ย รู้สึกหิวมากไหม?”
“แน่นอน ลูกในท้องกินเก่งมาก ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันเกือบจะเป็นหมูอยู่แล้ว” นาราลูบไปที่ท้องของตัวเองและหัวเราะ
กาก้าก็ได้ถามต่อ “อ่อ แบบนี้หรอ แล้วพี่นอนหลับมั้ย? หนูเคยได้ยินพี่เขยบอกว่าตอนท้องจะนอนไม่ค่อยหลับ และขาจะเป็นเหน็บชาบ่อยๆ”
“อ่อ? แต่พี่ไม่ค่อยเป็นน่ะ พี่อาจจะกินเยอะไปหน่อย ถึงได้นอนหลับสบาย จนถึงเช้าเลย”
นาราได้หันไปมองที่ไลลา “ไลลา เธอละ? ไม่สบายตัวตรงไหนมั้ย?”
ไลลาได้ส่ายหัว “ฉันไม่เป็นอะไร ฉันปรับตัวได้”
พูดจบ ไลลาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอแค่มองดูนาราและกาก้าคุยกัน
พวกเธอได้คุยกันอยู่สักพัก แล้วสาวรับใช้ถึงได้มาบอกว่าทำอาหารเสร็จแล้ว นาราได้อุ้มท้องและลุกขึ้น แล้วเรียกไลลาและกาก้าไปกินข้าวด้วยกัน
กาก้ารีบไปที่โต๊ะอาหาร และดึงเก้าอี้ออกมาให้นาราอย่างอ่อนโยน ให้นารานั่ง ตัวเองถึงได้ไปนั่ง “พี่นารา เดียวหนูห่อข้าวและกับข้าวไปให้คณพศดีมั้ย?”
นาราส่ายหัว “ไม่เป็นไร ตอนที่เธอเอาไปถึงกับข้าวมันเย็นหมดแล้ว เขาไม่กลับมากินเอง ถ้าเขาอยากกินอะไรก็ให้เขาซื้อกินข้างนอกเอา”
“ก็ดีเหมือนกัน พี่นาราคิดรอบคอบกว่าหนูอีก” กาก้าได้พยักหน้าและพูดออกมา และได้หยิบเนื้อปลาไปใส่ที่จานของนารา “พี่นารากินปลาเยอะๆ น่ะ มันจะดีกันลูกในท้องอ่ะ”
“อืม เธอก็กินน่ะ ไลลา เธอก็นิ่งอยู่ทำไม? กินด้วยกันสิ วันนี้คณพศไม่อยู่ด้วย วันนี้เป็นวันของเรา” นาราที่กินข้าวอย่างสบายใจ อารมณ์ของเธอดีเป็นพิเศษ
ทั้งสามคนได้กินข้าวเที่ยงเสร็จเร็วมาก กาก้าก็ได้ลาทุกคน และยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่จะเอาอาหารไปให้คณพศอีกเลย
ถึงตอนที่กาก้าออกจากบ้านของนาราไป ไลลาถึงถามนาราไปว่า “เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นญาติของคณพศหรือ? ทำไมถึงเข้าออกบ้านของเธอได้สะดวกแบบนี้?”
นาราส่ายหัว “ไม่ใช่ เธอเป็นคนที่คณพศจ้างมานะ เธอทำงานเก่งมากเลยน่ะ”
“เป็นแค่ผู้ช่วย ฉันดูอย่างไงก็ไม่เหมือน” ไลลาได้ขมวดคิ้ว “นารา อย่าว่าฉันพูดเยอะเลยน่ะ เธอควรจะระวังตัวไว้บางน่ะ ฉันคิดว่าเธอต้องระวังคนแปลกหน้าบ้างน่ะ”
นาราได้หัวเราะออกมา “ไลลา เธอเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า? กาก้าเธอเป็นคนดีน่ะ เธอก็รู้จักกาก้าแล้ว เธอเข้ากับคนได้ง่ายน่ะ”
ไลลาไม่เห็นด้วยกับนาราเป็นอย่างมาก “นารา เธอเป็นคนที่เชื่อคนง่าย กาก้าคนนี้ไม่ใช่คนดีเหมือนกับที่เธอเห็นน่ะ โดยเฉพาะแววตาของเธอ ในแววตาของเธอไม่ปกติ เธอไม่ใช่คนดีอะไรหรอก เธอก็ดูแลตัวเองดีๆ ละ อย่าเชื่อคนอื่นง่ายเกินไป!”
“ได้จ้า ไลลา อธิบายคิดมากไปหรือเปล่า กาก้าอาจจะดูแปลกหน้าสำหรับเธอ เพราะเธอนังรู้จักเขาไม่นาน รอรู้จักกันนานกว่านี้ เธอก็จะชินไปเอง เธอเป็นคนที่ดีมากเลยน่ะ ยังเคยช่วยชีวิตฉันและคณพศเอาไว้ด้วย ฉันเลยเชื่อใจเธอมาก”
นาราที่พูดแบบนี้แล้วไลลาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ หวังว่าเธอจะคิดมากไปเอง
แต่ไม่รู้เพราะอะไร ตอนที่เธอเห็นกาก้า เธอรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนดีอะไรกรอก
ตอนเย็น เคลลี่ลั่วก็ได้กลับมา เขาบอกว่า ยชญ์ได้โทรกลับมาจากอังกฤษกะทันหัน บอกให้ตัวเขากับไลลารีบกลับไป เพราะองค์หญิงที่เป็นภรรยาเขากำลังงอนเขาอยู่ ตอนนี้เธอไม่กินข้าวมาสองวันแล้ว อยากให้เคลลี่ลั่วและไลลาไปช่วยพูดให้หน่อย
ได้ยินเคลลี่ลั่วพูดถึงยชญ์ นาราก็นึกถึงว่าไม่ได้ข่าวยชญ์มานานแล้ว ก็เลยถามไปว่า “ใช่แล้ว ฉันไม่ได้ข่าวยชญ์นานแล้ว ไม่รู้ว่าเขากับภรรยาเป็นไงบ้าง”
ถึงตอนนี้อันฉีราของเขาได้นึกถึงตอนที่มาอยู่ที่ฮาวาย และใช้มือทุบไปที่ยชญ์ และพาตัวเขาไป
ได้ข่าวว่าพวกเขามีลูกสาวแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเขาต้องดีมากแน่ ไม่งั้นคนอย่างยชญ์จะไม่ยอมตามใจเขาหรอก เขาจะไม่ให้คนอื่นเข้าอิสรภาพของเขาไปหรอก
“พวกขา ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ถึงแม้บางครั้งอาจจะมีทะเลาะกันบ้าง และไม่ยอมกินข้าว แต่ยชญ์จะยอมมาตลอด นี้เขายอมที่จะที่จะขอความช่วยเหนือเลยหรือ ฉันยอมเขาแล้วจริงๆ” ไลลาก็ได้พูดและหัวเราะออกมา
เคลลี่ลั่วก็หัวเราะตาม และลากับนารา “นารา ตอนแรกฉันอยากมาอยู่ที่นี้สักครั้งเดือน แต่ยชญ์อยากให้ฉันรับกลับไป ฉันดูแล้วการท่องเที่ยวครั้งนี้คงต้องจบลงเพียงเท่านี้”
“ฮึ่ม ฉันไม่อยากที่จะกลับไปตอนนี้ ถ้านายจะกลับไปช่วยพูด นายก็ไปคนเดียว ฉันจะอยู่กับนารา” ไลลาที่พึ่งถึงฮาวายเมื่อวานนี้เอง เธอเลยไม่อยาก จะกลับไปเร็วขนาดนี้
เคลลี่ลั่วมองไปที่ไลลาอย่างหมดหนทาง “ก็ได้ งั้นฉันจะไปรีบกลับ อีกสองสามวันฉันจะมารับเธอกลับไป”