The First Order สู่รุ่งอรุณแห่งมวลมนุษย์ / the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 300 พวกเราแค่กำลังเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด
- Home
- The First Order สู่รุ่งอรุณแห่งมวลมนุษย์ / the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์
- ตอนที่ 300 พวกเราแค่กำลังเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด
ตามแผนการของเริ่นเสี่ยวซู่ เขาจะสร้างความโกลาหลในฝั่งของผู้อพยพ จากนั้นพวกเขาก็จะใช้โอกาสนี้หนีกัน
เพราะจะอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่ปลอดภัย เริ่นเสี่ยวซู่วางแผนแล้วว่าพอเริ่มเดินได้จะหนีทันที
พวกเขายังขึ้นเหนือไม่ได้เพราะว่ายังไม่มีสถานะอะไรเลย เส้นทางขึ้นเหนือมีทหารของสมาคมตระกูลหยางเต็มไปหมด พวกเขาเดินทางผ่านจุดตรวจไม่ได้แน่นอน จะไปทางตะวันออกก็ไม่ได้เพราะมีตัวทดลองอยู่ จะไปทางใต้ยิ่งเป็นไปไม่ได้กว่าอีก ทางฝั่งนั้นกลายเป็นสนามรบหลักของสมาคมตระกูลหยาง หลี่ และชิ่ง ไปแล้ว!
หลังจากสมาคมตระกูลหยางและชิ่งฝ่าแนวป้องกันชั้นแรกสำเร็จ พวกเขาก็ร่วมมือกันปิดผนึกทางใต้ ทำให้สมาคมตระกูลหลี่อยู่ในสภาพน่าอดสู
ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่มุ่งหน้าไปทางตะวันตกที่มีเทือกเขาทอดตัวยาวหลายร้อยกิโลเมตร ว่ากันว่าทางนั้นมีคนผ่านไปได้น้อยมาก ทั้งไม่มีใครรู้ว่าในนั้นมีอะไร แต่ว่านี่เป็นทางเดียวที่พวกเริ่นเสี่ยวซู่จะไปได้แล้ว อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็น่าจะพึ่งพลังของเถาหนามเอาตัวรอดได้หลายปีอย่างไม่มีปัญหา
แต่พอมีเสียงระเบิด ทหารของสมาคมตระกูลหยางก็มาถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว กองร้อยเสริมทั้งสองกองเหมือนจะเตรียมแผนรับมือเหตุฉุกเฉินอยู่แล้ว สปอร์ตไลท์รอบค่ายเปิดออกทันที ทหารที่ลาดตระเวนอยู่ในค่ายประกาศกฎอัยการศึกทันควัน
เริ่นเสี่ยวซู่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงประตู มาตรฐานทางทหารของสมาคมตระกูลหยางนั้นดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก ถึงว่าทำไมสามารถชนะสมาคมตระกูลหลี่ในการสู้รบซึ่งหน้าได้
ดูเหมือนว่าสมาคมตระกูลหยางเตรียมพร้อมสำหรับสงครามนี้มานานแล้ว
ตอนนี้เองนายทหารของสมาคมมาถึงจุดที่เกิดการระเบิดแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่สังเกตการณ์เงียบๆ จากรอบนอก ผู้อพยพยืนอยู่ไกลๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ ในค่ายสงบสุขมากมาตลอด ใครจะนึกว่าจู่ๆ ก็เกิดเหตุขึ้นมาได้
แต่ที่เริ่นเสี่ยวซู่แปลกใจหรือคนในที่พักนั่นไม่ได้ตายกันหมด ยังมีคนหนึ่งนอนพะงาบๆ ร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนพื้น!
ดูเหมือนว่าพลังของไพ่สามแต้มสี่ใบนี้จะไม่ได้มากมายอะไร เริ่นเสี่ยวซู่ถอนหายใจ แต่เขาไม่กลัวว่าจะมีใครเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับตนเองเพียงแค่เพราะว่ามีผู้โชคดีรอดชีวิตที่อาจจะให้เบาะแสอะไรได้หรอก
การผสมผสานระหว่างประตูเงาและไพ่ระเบิดเกิดเป็นอาวุธระเบิดสุดลับ ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร เขาสามารถระเบิดใส่ใครหรือใส่อะไรก็ได้ตามใจ
ความแม่นยำในการควบคุมประตูเงาในระยะน้อยกว่าหนึ่งเมตรของเริ่นเสี่ยวซู่นั้นไม่มีพลาดเป้าอีกต่อไปแล้ว
นับจากพลังที่เขามีทั้งหมด ผสมร่างแยกเงากับทลายนครสามารถทำให้เขาสู้รบซึ่งหน้าได้ ประตูเงาและไพ่ระเบิดก็ใช้ในการลอบโจมตีระยะไกลและลอบกัดข้างหลังคนได้อีก กล่าวได้ว่าไม่มีข้อด้อยอะไรให้เห็นชัดเลย
นายทหารของสมาคมตระกูลหยางกำลังยืนอยู่ข้างๆ ผู้รอดชีวิตและเอ่ยปากถาม “ทำไมถึงมีระเบิดได้ พวกนายแอบซ่อนอาวุธโดยไม่ให้พวกเรารู้สินะ พูดมา พวกนายเป็นสายลับของศัตรูใช่ไหม”
แรงระเบิดนี้เทียบได้กับระเบิดมือสองลูก ถึงเสียงจะดูไม่เหมือนระเบิดมือ แต่ก็เป็นไปได้ว่าคืออาวุธระเบิดประเภทอื่น
เพราะนี้เป็นช่วงสงคราม ทหารของสมาคมตระกูลจึงเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้เข้ากับสายลับต่างสมาคม ถึงแม้ว่าพวกเขาเองก็ไม่เข้าใจว่ามันระเบิดได้อย่างไรก็เถอะ
ผู้รอดชีวิตตะโกนเอ่ยความบริสุทธิ์ของตัวเอง “ท่านครับ พวกเราไม่ได้เป็นสายลับ ผมกำลังดูพวกเขาเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดอยู่ แต่จู่ๆ ก็มีคนเล่น ‘ระเบิด[1]’ ที่ทำจากไพ่สามแต้มสี่ใบ และมันก็ระเบิดขึ้นมาจริงๆ”
ผู้รอดชีวิตเห็นว่าสีหน้าของนายทหารดูผิดปกติ นายทหารโมโหจนหัวเราะ “นายพูดว่ากำลังดูคนอื่นเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดอยู่แล้วก็มีไพ่สามแต้มสี่ใบลงโต๊ะมาแล้วมันก็ระเบิดจริงๆ งั้นสินะ?”
ผู้รอดชีวิตพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง “ใช่ครับๆๆ! เป็นอย่างงั้นเป๊ะเลย ที่จริงก่อนหน้านี้มีคนเล่นแค่สามคน แต่ไม่รู้ว่าไพ่สามแต้มสี่ใบนั้นมาจากไหน...
“บอกฉันหน่อยสิว่าลงไพ่อะไรกันไปแล้วบ้าง” นายทหารพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ผมจำไมได้…”
“หึ!” นายทหารพูดด้วยสีหน้าอึมครึม “คิดว่าฉันเป็นคนหลอกง่ายงั้นเหรอ ลากตัวไปสอบปากคำตลอดทั้งคืน หาดูสิว่าเขายังมีสายในค่ายอีกหรือเปล่า! ส่วนผู้อพยพคนอื่นๆ พาไปยังจุดที่ทหารลาดตระเวนมองเห็นและสั่งให้วิดพื้นซะ”
เริ่นเสี่ยวซู่ฟังทุกอย่างจากด้านข้าง รู้ดีว่าแม้คำพูดของผู้รอดชีวิตจะฟังดูไร้สาระ แต่เรื่องมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
“พี่” เหยียนลิ่วหยวนพูด “พวกเราเอาไงดี”
“ถ้ายังไม่มีโอกาส ก็รอให้มันมาแล้วกัน ช่วงนี้ก็สำรวจภูมิประเทศรอบๆ ไซต์ก่อสร้างให้ดี” เริ่นเสี่ยวซู่ว่า “ถ้าไปทางนั้นน่าจะมีโอกาสอยู่”
ไซต์ก่อสร้างตั้งอยู่ในป่าเขา ถ้าเริ่นเสี่ยวซู่กับเหยียนลิ่วหยวนอยู่กันแค่สองคน พวกเขาคงหนีกันไปเองนานแล้ว แต่ว่ากลุ่มเขามีสมาชิกมากกว่าสามสิบคน ถ้าจะหนีด้วยกัน ขนาดกลุ่มเช่นนี้จะเป็นที่เตะตาเกินไป พวกผู้หญิงกับคนเจ็บอาจจะถูกจับตอนไหนด้วยก็ได้
เหยียนลิ่วหยวนคิดพักหนึ่งแล้วว่า “โอกาสจะหนีผ่านไซต์ก่อสร้างก็น้อยเหมือนกัน ยกเว้นแต่พี่จะฟื้นตัวเต็มที่ สามารถฆ่าล้างใครก็ตามที่ขวางทางเรา”
“เอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้าย” เริ่นเสี่ยวซู่ว่า จากนั้นเขาก็กลับไปนอนในที่พักแสร้งเป็นคนเจ็บต่อ
อืม…จะบอกว่าแสร้งก็ไม่ถูก เพราเขาบาดเจ็บจริงๆ…
ถึงรอบนี้พวกเขาไม่มีโอกาสให้หนี แต่ว่าได้ขุดรากถอนโคนปัญหาก็ถือว่าดีแล้ว อย่างไรเสียผู้อพยพพวกนั้นก็มีสันดานบ้าคลั่ง ทั้งยังมีพฤติกรรมดุร้ายจากการอยู่ในแดนรกร้าง มีโอกาสมากที่พวกเขาจะมาข่มขู่คนรอบตัวเริ่นเสี่ยวซู่
จากนั้นทหารสมาคมตระกูลหยางก็พาตัวผู้รอดชีวิตไปหาผู้บังคับกองร้อยเสริม ผู้รอดชีวิตโพล่งตะโกนว่า “ท่านครับ ผมคิดว่ามันเป็นฝีมือของพวกเหยียนลิ่วหยวน หัวหน้าเรามีปากเสียงกับพวกเขาช่วงหัวค่ำ เขาวางแผนว่าจะฆ่าพวกเขาในไซต์ก่อสร้างพรุ่งนี้ แต่สุดท้ายพวกเขากลับชิงลงมือก่อนสร้างความได้เปรียบ เรื่องมันต้องเป็นแบบนี้แน่”
เริ่นเสี่ยวซู่ที่อยู่ในที่พักตะลึงไปวูบหนึ่ง เจ้านี่ไม่โง่เลยถึงอนุมานข้อเท็จจริงออก อ้อ ไม่ใช่สิ คงเป็นเพราะกลัวหัวหดเลยโทษคนอื่นไปทั่วมากกว่า และเริ่นเสี่ยวซู่กับพรรคพวกก็เป็นผู้ต้องสงสัยหลักในเรื่องนี้จริงๆ
นายทหารสมาคมตระกูลหยางมองไปยังพวกเหยียนลิ่วหยวนอย่างสงสัย แต่พอเขาเห็นหวังฟู่กุ้ยแล้วก็นิ่งงันไป “พวกนายทำจริงๆ หรือเปล่า”
หวังฟู่กุ้ยรีบแสร้งยิ้มและว่า “ท่านครับ เขาพยายามสาดโคลนใส่เราต่างหาก พวกเรายังไม่ได้ออกไปนอกอาคารเลย ถามคนรอบๆ เอาก็ได้ แถมที่พักเราอยู่ห่างจากพวกเขาตั้งเยอะ ถ้าเป็นฝีมือพวกเราจริงๆ พวกเขาต้องเห็นเราไปไหนมาไหนแล้วสิ”
นายทหารกวาดตามองไปรอบๆ แล้วเอ่ย “มีใครเห็นเขาเข้าใกล้จุดที่เกิดระเบิดไหม บอกความจริงมาแล้วฉันจะตกรางวัล ต่อไปไม่ต้องใช้แรงงานหนักอีก!”
แต่ว่าข้อเสนอนี้กลับมีแต่ความเงียบงันตอบกลับมา มีคนพูดว่าเพิ่งเห็นหวังฟู่กุ้ยและคนอื่นๆ ออกมาหลังเกิดระเบิดด้วย
หวังฟู่กุ้ยเป็นคนที่พวกทหารคุ้นหน้า ไม่ว่าจะชืดชาใส่กันแค่ไหน คนรู้จักก็ยังน่าเชื่อถือมากกว่า แถมยังมีคนเป็นพยานให้เขาด้วย ความน่าเชื่อถือของหวังฟู่กุ้ยจึงเพิ่มขึ้นมาก
นายทหารแค่นเสียงใส่ผู้รอดชีวิต “ฉันไม่สนหรอกว่านายจะพ่นคำโกหกมามากน้อยขนาดไหน ฉันมีวิธีนับร้อยพันเค้นความจริงออกจากปาก!”
ผู้รอดชีวิตแทบบ่อน้ำตาแตก ทุกอย่างที่เขาทำคือดูคนอื่นเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดเองนะ!
แต่หลังจากนายทหารพาผู้รอดชีวิตกลับไปแล้ว เขาก็พิจารณาเรื่องนี้อีกหน่อยและสั่งการว่า “จับตาดูหวังฟู่กุ้ยกับกลุ่มเขาไว้ ถ้ามีอะไรผิดสังเกตให้รายงานฉันทันที”
[1] มาจากกติกาในไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดของจีน แต้ม 3-3-3-3 จะหมายถึงระเบิดระดับต่ำสุด กลับกันระเบิดสูงสุดคือ 2-2-2-2