The King of the Battlefield - ตอนที่ 218
บทที่ 218: จ้าวแห่งหนองน้ำ (สิ้นสุด)
(แก้ไข 01/07/2019)
จะว่าไปเหล่าภูตินั้นก็เหมือนคนไร้บ้าน
ไร้บ้านที่ว่าหมายถึงการที่พวกเขาไม่มีโลกเป็นของตัวเองเช่นมนุษย์หรือเผ่าพันธุ์อื่นๆ ดาวเคราะห์ไม่นับว่าเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเขา
ที่ที่เหมาะสมแห่งนั้นต้องไม่ใช่โลกแห่งวัตถุ แต่เป็นโลกแห่งจิตวิญญาณ เช่นเดียวกับวิญญาณพวกเขาต้องการโลกที่เหมาะสมกับตัวเองเพื่อการอยู่รอด ปราศจากโลกที่เหมาะสมพวกภูติทุกตนล้วนมีเวลาจำกัดที่จะมีชีวิตอยู่ก่อนตกตายไป
ดังนั้นเหล่าภูติจึงทำสัญญากับโซโลมอนเพื่อสร้างโลกใบดังกล่าว พวกเขาสร้างการทดสอบและเสียสละสิ่งต่างๆเพื่อที่จะได้รับดินแดนในอุดมคติที่เฝ้ารอคอย และในการทดสอบเหล่าภูติย่อมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน พวกเขาสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้อย่างละเอียด
นั่นคือความสามารถที่วูฮีก็มีเช่นกัน
สมรภูมิไร้จุดจบ เธอได้รับการแจ้งเตือนจากการทดสอบทั้ง 127 ชั้นที่เธอสร้างไว้
<ผู้ใช้ ‘มูยอง’ ผ่านการทดสอบคลื่นที่ 127 ของ สมรภูมิไร้จุดจบแล้ว>
<ไม่มีคลืนลูกต่อไปอีก การทดสอบที่ถูกเคลียร์จะถูกทำลายใน 30 วัน>
บางคนเคลียร์การทดสอบทั้งหมด วูฮีอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างเมื่อเธอเห็นชื่อเขา
‘มูยอง!’
ไม่มีทางที่วูฮีจะลืมชื่อนั้น มันเป็นชื่อที่เธอเฝ้าทวิลหามาเนิ่นนาน
จากทะเลสาบที่อยู่ใต้ปราสาทแห่งหนึ่งวูฮีผุดลุกขึ้น เธอปีนขึ้นบันไดผ่านความมืดมิดอันน่าสิ้นหวังทั้งหลายก่อนจะโผล่ออกไปสู่แสงสว่างด้านบน ที่นี่คือสถานที่ที่วูฮีเรียกว่าบ้าน มันเต็มไปด้วยเหล่ามอนสเตอร์มากมาย ทว่าเธอไม่สนใจ
วูฮีเกิดและเติบโตขึ้นที่นี่ เธอกลับมาหลังจากที่สูญเสียมูยองไปเพื่อฟื้นฟูร่างกายที่ใกล้จะเลือนหาย
“ โอ้วูฮี เจ้าออกมาแล้ว!”
“ท่านแม่!”
จริงๆเหล่าภูมิไม่มีพ่อแม่ และอาจกล่าวได้ว่าธรรมชาติคือพ่อแม่ของพวกเขา ด้วยเวลาที่ผ่านไปพวกเขาจะค่อยๆก่อตัวขึ้นจากจิตวิญญาณของก้อนหิน มอส และพืชขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามวูฮีไม่ลังเลเลยที่จะเรียกภูติตรงหน้าราวกับมารดาของตนเอง
“ ชายคนนั้นกลับมาแล้ว เขาผ่านการทดสอบทั้งหมดของวูฮีด้วย วูฮีต้องไปหาเขา”
“ ทำไมเจ้าถึงไม่พักอยู่ที่นี่อีกสักหน่อย ?”
“ ข้าอยู่ที่นี่เฉยๆไม่ได้ หากจะจัดการกับเดียโบลเขาจำเป็นต้องพึ่งพาวูฮี”
น้ำเสียงของวูฮีเต็มไปด้วยความเด็ดขาด
มันไม่ใช่เรื่องไม่แปลกที่วูฮีจะพูดถึงเดียโบลที่นี่ เพราะที่นี่คือโลกที่แต่เดิมเคยมีตัวตนอย่างเดียโบลอยู่…หลังจากสูญเสียโลกเดิมไป พวกภูติก็อาศัยอยู่ที่นี่นับแต่นั้นมา
ภูติที่วูฮีเรียกว่าแม่ทำสีหน้าเศร้า
“ เห้อ…ถ้าวูฮีไม่อยู่สักคน ที่นี่คงจะเงียบเหงาน่าดู”
“ ให้ท่านพ่อเล่นกับท่านสิ ยังไงวูฮีก็จะออกไป”
“ เอาเถอะๆ หากจะไปจริงก็ไปหาพ่อของเจ้าหน่อย เขามีอะไรจะมอบให้”
“ให้ข้า?”
“ ถูกต้อง เมื่อเจ้าออกจากห้องนี้ให้ไปห้องที่สี่ทางซ้ายมือ ไปพบพ่อของเจ้าก่อนที่จะต้องออกเดินทาง”
“วูฮีจะไป”
หลังจากบอกลาสั้นๆ วูก็ออกจากห้องไป
ณ ชั้นบนสุดของปราสาท สถานที่ที่มอนสเตอร์อันแข็งแกร่งอาศัยอยู่ นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำไมวูฮีถึงไม่กลัวมูยอง
เพราะเธออาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์น่ากลัวมากมายจึงค่อนข้างชินชากับเรื่องดังกล่าว
“ห้องที่หนึ่ง สอง สาม สี่!”
และแล้ววูฮีก็เดินไปถึงห้องที่สี่
ทว่าหลังจากเข้าไปในห้องนั้นแล้ว เธอก็ไม่สามารถขยับตัวได้
“เอ๊ะ? นี่มันอะไรเนี้ย?”
เมื่อเอี้ยวศีรษะไปดูหลังจากรู้สึกผิดปกติ ก็พบว่าจากกำแพงมีกาวเหนียวหนึบติดอยู่ที่ปีกตัวเอง ตามปกติแล้วภูติไม่ใช่สิ่งมีชีวิตซะทีเดียว ดังนั้นผลกระทบทางกายภาพจึงใช้ไม่ได้ผล แต่หากใช้เวทมนตร์ที่อยู่ในไอเท็มก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“โฮ๊ะๆ”
“ชิ!”
วูฮีทำแก้มป่องด้วยความโมโหทันทีที่รู้ว่าใครแกล้งเธอ
“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าจะหนีไปจากข้าได้เหรอ?”
“ท่านแม่! นี่ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ วูฮีต้องรีบไปแล้ว ข้าต้องไปลงโทษเจ้ามอนสเตอร์เกเรอย่างเดียโบล”
วูฮีทำท่าจริงจังมาก
ขนาดผู้ที่ถูกเรียกว่ามารดายังไม่เคยเห็นเธอเป็นเช่นนี้มาก่อน
เธอหุบยิ้มที่ดูขี้เล่น และกลายเป็นขึงขังอย่างช่วยไม่ได้
“ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเดียโบลเป็นตัวที่อันตรายแค่ไหน?”
“ ถึงจะร้ายกาจแค่ไหน ท่านก็เคยเล่าว่ามันเคยพ่ายแพ้ท่านพ่อมาก่อน!”
“ นั่นมันก็นานมากแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงเดียโบลก็เป็นตัวที่อันตรายมาก ถึงจะเป็นแค่ลูกหลานของมันก็อันตรายไม่แพ้กัน”
“ นั่นเป็นคำพูดของแม่รองไม่ใช่เหรอ”
“ ไม่ว่าจะยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่รู้ว่ามูยองทำให้เจ้าตกหลุมรักได้อย่างไร แต่ยังมีผู้ชายอีกมากมายในโลกนี้ให้เจ้าเลือก”
“ เขาเหมือนท่านพ่อ”
“ว่าไงนะ?”
“ เขาทำให้ข้านึกถึงท่านพ่อ แต่เขาดูไว้ใจได้กว่าท่านพ่อซะอีก”
วูฮีไม่เคยพูดเกี่ยวกับมูยองมากจนถึงตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่เพราะมันจะทำให้เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ภูติเป็นสิ่งมีชีวิตขี้เล่นและปกติจะไม่ซีเรียสกับเรื่องอะไร มันเป็นครั้งแรกที่วูฮีจริงจังเช่นนี้
“ ถ้างั้นล่ะก็..รับสิ่งนี้ไป”
“มันคืออะไร?”
ดูเหมือนจะเป็นน้ำหอมขวดเล็กๆที่บรรจุของเหลวอยู่ไม่กี่หยด
“ พวกมันแต่ละหยดจะทำให้ความปรารถนาเป็นจริง แม้ว่าจะมีเวลาจำกัดแต่มันก็อาจช่วยเติมเต็มความฝันเล็กน้อยๆของเจ้าได้ หลังจากนั้นหากหัวใจของพวกเจ้าเป็นดุจเดียวกัน ข้าจะยอมรับความสัมพันธ์นั้น”
เธอสะบัดข้อมือเล็กน้อย จากนั้นประตูเล็กๆก็ถูกสร้างขึ้น ด้วยพลังแห่งราชินีภูติจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะสามารถเปิดประตูสู่อีกโลกหนึ่ง
“ไปเถอะ แต่ยังไงก็ตามจำไว้ว่าไม่มีชายคนใดไว้ใจได้เท่ากับพ่อของเจ้า”
“ นั่นไม่ใช่เรื่องจริง!”
พูดจบวูฮีก็บินตรงไปที่ประตูมิติ
วูฮีรู้ดีว่าราชินีภูติมักจะเปลี่ยนใจได้ง่าย เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ราชินีจะเปลี่ยนความคิดของเธออีกครั้ง และเมื่อวูฮีเดินผ่านประตูออกไปแล้วราชินีภูติก็ถอนหายใจ
“ เดียโบล เจ้าทำลายทุกอย่างเอง เพราะความภาคภูมิใจอันไร้ประโยชน์ของเจ้า…ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้อีกแล้ว”
* * *
ไม่ใช่แค่โอการ์ที่ถูกมูยองช่วยออกมา
อลัน ผู้ที่มีทักษะฝีมืออันยอดเยี่ยม และเปรียบเสมือนตัวแทนของเผ่าเอลฟ์ ก็ถูกช่วยออกมาพร้อมกับโอการ์ด้วย
มูยองเจอเขาในสังเวียนใต้ดิน และด้วยความนับถือจากใจจริงอลันก็ไม่ลังเลที่จะกลายเป็นดาบของมูยอง
แน่นอนว่าเขามีทัศนคติที่ดื้อรั้นเป็นครั้งคราว แต่ทั้งหมดต่างก็มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะของตัวเอง
“ข้าจะไปกับท่านด้วย”
ขณะมูยองเตรียมออกเดินทางอลันก็พูดขึ้น อย่างไรก็ตามมูยองปฏิเสธ
“ นายต้องไปช่วยงานพวกคนแคระทางทิศตะวันตก ไม่ช้าเอนโรธจะพาสมุนของมันบุกมาถึงสถานที่แห่งนี้”
ทุกคนมีบทบาทของตัวเอง
เบซองมินกับทาร์แคนออกจากที่นี่ไปแล้ว พวกเขาล่วงหน้าไปเบี่ยงเบนความสนใจของเอนโรธ
อลันทำสีหน้าผิดหวัง อย่างไรก็ตามมูยองไม่คิดจะพาใครไปที่นั่นด้วย
‘จ้าวแห่งหนองน้ำ’
ชื่อที่เขาเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
เป็นเพราะเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพวกมันเลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมูยองถึงอยากไปด้วยตัวเองเท่านั้น
แม้กระทั่งยามสงคราม ในบรรดาราชาปีศาจ ปีศาจ และมนุษยชาติทั้งหมดไม่เคยมีใครเอ่ยถึงชื่อนี้เลย นั่นหมายความว่าพวกเขาน่าจะเก่งในการซ่อนตัว หรือมีบางสิ่งทำให้พวกเขาสามารถซ่อนตัวได้ พลังที่ยอมให้พวกเขาหลบหนีความสนใจจากทั้งโลก
มูยองอยากรู้เกี่ยวกับตัวตนของพลังนี้ โชคดีที่โอการ์บอกเส้นทางคร่าวๆเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกมันให้มูยองทราบแล้ว
“ข้าเข้าใจแล้ว อีกเรื่องหนึ่งบาทัสบอกว่าเขาจะมาถึงในไม่ช้า ท่านจะให้ข้าบอกอะไรแก่เขาไหม?”
มูยองไตร่ตรองครู่หนึ่งแล้วหยิบแผ่นหนังออกมาสองสามผืน
“ เอาของพวกนี้มอบให้เขา หลังจากเห็นวัตถุดิบเขาจะรู้เองว่าต้องสร้างเป็นอะไร”
แผ่นหนังที่ได้รับพรจากดวงจันทร์และได้รับความแข็งแกร่งจากราชันอมตะ!
มูยองกำลังวางแผนที่จะสร้างอุปกรณ์ส่วนที่เหลือให้เสร็จในชุดเซ็ตราชันอมตะ ในการสร้างของแบบนี้เขาต้องการทักษะของบาทัส บาทัสเป็นราชาของคนแคระ และเป็นคนแคระที่มีทักษะดีที่สุด หากอุปกรณ์ถูกสร้างขึ้นด้วยมือของเขา มูยองจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด
“ข้าเข้าใจแล้ว”
ด้วยใบหน้าที่ยังผิดหวังเล็กน้อยอลันเดินหลบไปด้านข้าง
หลังจากตระเตรียมสิ่งของไม่กี่อย่างมูยองก็กางปีกแล้วจากไป
***
ในส่วนที่ลึกที่สุดของป่า
มีผืนน้ำอันแสนลึกดำรงอยู่ ผืนน้ำที่จ้าวแห่งหนองน้ำอาศัยอยู่เบื้องล่าง ในขณะที่เขาเข้าไปในพื้นที่ที่กิ่งก้านของต้นโพธิ์เหยียดถึง หนองน้ำก็กลืนมูยองไปทั้งตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความรู้สึกคลื่นใส้มูยองล้มตัวลง และในไม่ช้าเขาก็โผล่ออกมาพบกับโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
‘ที่นี่คือ… ‘
ภายใต้หนองน้ำ มีสถานที่อื่นอยู่
ในบริเวณโดยรอบมีแต่เศษขยะซึ่งดูเหมือนมันจะถูกดูดเข้ามาติดอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้ว และตอนนี้มูยองกำลังยืนอยู่บนยอดของกองขยะขณะมองไปรอบๆ
บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยภูเขาขนาดใหญ่ ราวกับว่าสถานที่แห่งนี้คงอยู่เป็นเวลานานมากๆแล้ว การเจริญเติบโตของใบไม้ที่หนาแน่นดึงดูดความสนใจของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อมูยองเข้าไปใกล้ๆก็คล้ายจะได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
[ระบุรูปแบบสิ่งมีชีวิต] [ระบุรูปแบบสิ่งมีชีวิต]
[ปล่อยโดรน เริ่มใช้การค้นหา] [ปล่อยโดรน เริ่มใช้การค้นหา]
หึ่งหึ่งหึ่ง!
เมื่อภูเขาขนาดใหญ่เริ่มส่งเสียงพูด สิ่งเล็กๆที่คล้ายแมลงก็บินออกมาจากปากของมัน และส่องแสงไปรอบตัวมูยอง
มูยองขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เนื่องจากมันไม่ได้คุกคามอะไรเขาก็เลยแค่ปล่อยให้พวกมันทำตามใจชอบ อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ปัญหา
‘นั่นคือภาษาบนโลก…’
แค่มูยองลืมเรื่องอดีต แต่ไม่ได้แปลว่าเขาจะลืมเรื่องพื้นฐานเหล่านั้นไปแล้ว ผ่านตัวแสดงสถานะ ทุกภาษาได้รับการแปลโดยอัตโนมัติ และมนุษยชาติทั้งหมดต่างก็ใช้ภาษาที่ใช้ในประเทศของตนเอง
มันน่าแปลกที่สิ่งนี้คือ ‘จ้าวแห่งหนองน้ำ’
‘จ้าวแห่งหนองน้ำน่าจะมีอยู่นานมากแล้วนี่?’
โอการ์เป็นคนบอกเรื่องนี้กับมูยองเอง
พวกมันมีอยู่ก่อนที่ไฟทาร์จะเกิดขึ้นในสถานที่นี้เสียอีก โอการ์กล่าวว่าเคยเห็นพวกมันมานานแล้ว และอีกหลายๆคนก็พากันเรียกพวกมันว่า ‘จ้าวแห่งหนองน้ำ’ หากเป็นเช่นนั้นจ้าวแห่งหนองน้ำมาจากโลกใช่หรือไม่
‘คล้ายกับเรื่องของเอลย่าซีโก้หรือเปล่า?’
เอลย่าซีโก้เป็นอาวุธที่สร้างขึ้นเพื่อลบล้างมนุษยชาติบนโลก อย่างไรก็ตามเครื่องจักรที่อยู่ข้างหน้าเขาแตกต่างออกไป
[ระบุหมายเลขผู้ใช้ – 3569947521]
[‘เรือโนอา’ กำลังถูกเปิดผนึก]
ภูเขาแยกออกเป็นสองฝั่ง
ภายในนั้นเต็มไปด้วยเครื่องจักรทุกชนิดที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และมีบางสิ่งที่มูยองจำได้ ด้วยทั้งสองตาเขาสามารถยืนยันได้ว่ามันคือ ‘โลงศพ’ จำนวนนับไม่ถ้วน และสิ่งที่คล้ายกับเมล็ดพันธุ์ จากนั้นภาพโฮโลแกรมของผู้หญิงคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้ามูยอง
[ยินดีต้อนรับ หมายเลข 3569947521 สู่เรือโนอาลำที่สิบเจ็ด เมื่อมนุษย์จากโลกเดินทางมาถึงเรือโนอา มันจะถูกเปิดผนึก เรือโนอาลำนี้มีไว้เพื่อปกป้องมนุษยชาติต่อผู้บุกรุกและหลีกเลี่ยงการตรวจจับของพวกมัน ที่แห่งนี้คือสถานที่ในการรวบรวมความหวังและซ่อนตัวชั่วคราว สิ่งต่างๆใน ‘เรือ’ คือ ‘ชีวิต’ หากคุณเปิดใช้งานระบบ คุณจะสามารถสร้างมนุษยชาติที่ครั้งหนึ่งเคยถูกทำลายขึ้นมาใหม่ เรือโนอามีอาหารเพียงพอสำหรับทุกชีวิตเป็นเวลา 5 ปี]
มูยองรู้สึกเวียนหัวอยู่ครู่หนึ่ง
จ้าวแห่งหนองน้ำ คือเรือโนอางั้นเหรอ?
หลังจากถูกโจมตีโดยเอลย่าซีโก้ ความหวังสุดท้ายของมนุษย์ก็อยู่ที่เรือโนอาก่อนที่พวกเขาจะใช้มันหนีไป อย่างไรก็ตามไม่มีร่องรอยของมนุษย์ในบริเวณโดยรอบ มองในอีกมุมหนึ่งอาจมีเพียงเรือไม่กี่ลำที่ได้ลงจอดที่นี่โดยไม่คาดคิด อย่างไรก็ตามมีบางคำที่ดึงดูดความสนใจของมูยอง
‘มนุษยชาติที่ครั้งหนึ่งเคยถูกทำลาย’
มันน่าแปลกมาก มนุษย์ทุกคนเข้ามาในอันเดอร์เวิลด์ผ่านอารามสีคราม ประโยคที่ว่า ‘มนุษยชาติที่ถูกทำลาย’ ฟังดูไม่ถูกต้อง เพราะมันพูดราวกับว่ามนุษยชาติถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้ก็เอลย่าซีโก้ และตอนนี้ก็เป็นเรือโนอา
‘ทุกสิ่งคงจะเป็นชะตากรรม’
มูยองรู้สึกถึงความสัมพันธ์แปลกๆ มันเหมือนเป็นการบ้านที่มูยองต้องกลับไปคิด การบ้านอันยุ่งเหยิงที่เขาต้องแก้ปัญหาเอง
[ผ่านมาแล้ว 1,139,720 ชั่วโมง กับอีก 56 นาที นับตั้งแต่มีการรุกรานโลก คุณจะเปิดใช้งานระบบหรือไม่?]
ถ้าคำนวนจะพบว่ามันเป็นเวลาประมาณ 130 ปีแล้ว เป็นอีกครั้งที่สิ่งนี้ไม่เข้ากับการไหลของเวลา มูยองขมวดคิ้วคิดหนัก แต่ทว่าไม่มีทางที่เครื่องจักรจะโกหก และไหนจะโซโลมอนที่อาจอยู่เบื้องหลังของปัญหาทั้งหมดเหล่านี้
โซโลมอน เขาเป็นใครกันแน่?
‘ฉันต้องหาคำตอบให้ได้’
เสมือนบอลด้ายที่ยังคงกลิ้งไปเรื่อยๆด้วยความยุ่งเหยิง
และดูเหมือนจะมีเพียงมูยองที่จะสามารถคลี่คลายเส้นด้ายเหล่านั้นได้