The King of the Battlefield - ตอนที่ 252
บทที่ 252 ตัวตนเหนือธรรมชาติ (2)
คำสั่งของมูยองนั้นเรียบง่าย แต่ความยากลำบากกลับไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับการรวบรวมมนุษยชาติเพื่อต่อต้านเผ่าพันธุ์ปีศาจ จนเบซองมินติ่งคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าจะทำยังไง
‘ดราก้อนลอร์ดคนเดียวจะทำให้มนุษย์ทุกคนรวมตัวกันได้จริงเหรอ?’
ถึงจะมีคนมารวมตัวกันบ้างแต่มันเป็นไปได้ยากที่จะมารวมกันทุกคน ยังไงก็ตามสำหรับเบซองมินแล้วคำสั่งของมูยองถือเป็นที่สิ้นสุด เพราะเขาเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อมูยองมากที่สุด ดังนั้นงานที่เขาสั่งจะต้องเสร็จเรียบร้อยโดยไม่คำนึงถึงวิธีการหรือกลยุทธ์ใดๆ
‘สิ่งแรกที่ควรทำคือ การทำให้ผู้นำแต่ละเมืองกลายเป็นหุ่นเชิด’ นั่นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
ปัญหาคือมันต้องใช้เวลานาน ซึ่งมูยองไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น
เบซองมินยังไม่ทราบว่าจุดยืนของมูยองตอนนี้เปรียบเสมือนชั้นน้ำแข็งบางๆ เพียงก้าวเดียวที่ผิดพลาดทุกอย่างก็พังทลายได้ แน่นอนว่ามูยองย่อมไม่แพ้ เขาชนะได้ตลอดมา และแผนการระดมพลครั้งนี้ก็สำหรับเพื่อชัยชนะนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม…
‘นายท่านมั่นใจกับแผนตัวเองมากเกินไป’
เขายังไม่เคยถอยแม้แต่ก้าวเดียว แน่นอนว่าความเหนื่อยล้าสะสมย่อมมาก มูยองอาจปฎิเสธมัน และอดทนเอาไว้ แต่เบซองมินกำลังเป็นห่วง เพราะแม้แต่กำแพงหนาก็อาจพังทลายลงได้จากรูโหว่เพียงรูเดียวดังนั้นคำตอบที่เบซองมินได้รับก็คือพยายามไม่ให้เกิดรูโหว่นั้นๆขึ้น แม้จะเพียงเล็กน้อยแต่เขาจะต้องช่วยลดความเหนื่อยล้าของมูยองให้จงได้
ความล่าช้าย่อมทำให้มูยองทำงานหนักขึ้น และเมื่อความเหนื่อยล้าสะสมไปเรื่อยๆก็จะกลายเป็นรูโหว่ดังกล่าว จนในที่สุดกำแพงอาจล่มสลาย
‘เราต้องเป็นเสาหลักให้นายท่าน’
เบซองมินไม่มีความทรงจำ
ในอดีตหลังจากถูกกลืนกลินโดยจิตวิยญาณโบราณเขาก็ถูกช่วยเหลือโดยมูยอง ด้วยเหตุนั้นเบซองมินจึงติดตามมูยองอย่างซื่อสัตย์
เขาเป็นอันเดธที่ถูกสร้างโดยมูยองงั้นหรือ?
นั่นดูเหมือนไม่ใช่เหตุผลเดียว เขาคิดว่าแม้ความทรงจำของตนจะสมบูรณ์เขาก็ยังจะติดตามมูยองอยู่ดี
ดังนั้นเบซองมินจึงอยากเป็นเสาหลักให้กับมูยอง แน่นอนว่ามันอาจไม่จำเป็นเพราะมูยองแข็งแกร่งกว่าใครๆที่เบซองมินเคยพบเจอ ยังไงก็ตามเบซองมินก็อยากสนับสนุนเขา
เบซองมินคิดหาวิธีและความเป็นไปได้ที่แน่นอนสำหรับรวบรวมเหล่ามนุษยชาติเข้าด้วยกัน
ปลอมตัวเป็นราชาปีศาจแล้วเข้าโจมตี?
ถ้าเป็นเอนโรธกับโซระมันจะต้องเป็นการจู่โจมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงแน่ๆ อะไรคือสิ่งจำเป็นสำหรับการปลอมตัวและฉากเหตุการณ์ที่เขาต้องสร้าง
‘องค์ประกอบที่คนเหล่านั้นเชื่อถือคืออารามสีครามและเมอร์ลิน’
มนุษย์คิดว่าเมอร์ลินเป็นผู้ช่วยเหลือ มีกระทั่งข่าวลือว่าเมื่อเหล่าปีศาจบุกจู่โจมเมอร์ลินจะปรากฏตัวออกมาเพื่อปกป้องพวกเขา
พอคิดได้ดังนั้นเบซองมินก็เริ่มวาดภาพงแผนการ
อันดับแรก ปีศาจทรงพลังอย่างเอนโรธกับโซระจะต้องเปิดฉากจู่โจมก่อน และในช่วงเวลาวิกฤติจอมเวทย์เมอร์ลินก็ปรากฎตัวออกมาอย่างสง่างามและกำราบสิ่งชั่วร้าย จากนั้นค่อยทำให้ดราก้อนลอร์ดฮันซุงก็กลายเป็นผู้นำของเหล่ามนุษยชาติ
พอมีชิ้นส่วนที่ลงตัวผลกระทบย่อมอยู่นอกเหนือจินตนาการ แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่าเมอร์ลินเป็นตัวจริง เพราะเมอร์ลินตัวจริงไม่สามารถออกจากอารามสีครามได้
‘ต้องมีสักคนรับบทเป็นเมอร์ลิน’
บทบาทนั้น….
โชคดีมากที่มีคนๆหนึ่งเหมาะสมกับบทบาทดังกล่าว นั่นคือ ออสการ์ลูกศิษย์ของเมอร์ลิน และเขาอยู่ในอาณาเขตของมูยอง
“ใคร ผมงั้นเหรอ?”
ออสการ์ทำหน้าซีด
ปลอมตัวเป็นเมอร์ลิน!
แน่นอนว่าเขาเคยเรียนเวทมนตร์จริงๆจากเมอร์ลิน แต่เขาก็แอบหนีออกมาซะก่อนเพราะความน่าเบื่อ
ถึงทักษะของเขาพัฒนาขึ้นอย่างมากขณะอยู่ในอาณาเขต แต่การแสดงเป็นเมอร์ลินก็ทำให้เขาลำบากใจอยู่ดี
แต่ออสการ์ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะเอลเดอร์ลิชอย่างเบซองมินแทบไม่ต่างจากนักฆ่าแห่งความตาย ในความเป็นจริงมีคนกลัวเบซองมินมากกว่ามูยองเสียอีก
เขาเป็นประเภทชื่นชอบผลงานที่สมบูรณ์แบบ การทำงานอย่างรวดเร็ว และหากจำเป็นต้องบดขยี้ใครก็ต้องทำ แม้มูยองจะเป็นผู้ปกครองอาณาเขตแห่งนี้ แต่คนที่ควบคุมเหล่าผู้คนคือเบซองมิน
“นายเป็นคนเดียวที่รู้จักตัวตนของเมอร์ลิน ฉันจะคอยช่วยเหลือนายเอง ไม่ต้องกังวลเกินเหตุหรอก
“นั่นมัน…คือการโกหกต่อมนุษยชาติเลยใช่ไหม? ผมจะทำงานสำคัญแบบนี้ได้จริงๆเหรอ?”
“มีแค่นายคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้”
เป็นการกดดันอย่างสุภาพ ปฏิเสธงั้นเหรอ? ไม่มีทางจะทำแบบนั้นได้
‘บ้าเอ้ย’
เหตุผลที่ออสการ์หนีจากเมอร์ลินมาก็เพราะว่าการเรียนมันน่าเบื่อ การใช้ชีวิตอย่างอิสระเป็นอะไรที่ออสการ์ต้องการ ยังไงก็ตามหลังจากได้พบกับมูยองในโลกปีศาจความฝันของเขาก็เหมือนพังทลายลง
“ถ้านายทำสำเร็จ ฉันมอบอำนาจพลังบางอย่างให้”
“จริง จริงเหรอ!”
“นายท่านให้สิทธิ์ทุกอย่างกับฉันแล้ว รวมถึงการจัดสรรตำแหน่งต่างๆด้วย”
ดวงตาของออสการ์โตขึ้น
อาณาเขตของมูยองเติบโตขึ้นทุกวัน จำนวนประชากรเดิมที่มีแค่หนึ่งล้านตอนนี้เกือบแตะสองล้านคนแล้วมีเผ่าพันธุ์ต่างๆเข้ามาที่นี่อย่างต่อเนื่อง แม้แต่พวกออร์คก็พยายามอย่างมากที่จะเข้ามายังที่แห่งนี้ และทุกคนต่างอยากได้รับสิทธิพิเศษ
พวกเขาสามารถใช้ชีวิตเยี่ยงราชา หากมีอำนาจการจัดการในอาณาเขต ไม่ว่าจะเป็นเงินตราหรือภรรยาต่างเผ่าที่ไม่จำหัดว่าจะมีได้กี่คน
‘ชีวิตที่ยิ่งใหญ่กับภรรยาสาวเผ่าเอลฟ์สักสามคน’
มันคือความฝันของออสการ์ แค่จินตนาการจิตใจของเขาก็เตลิดไปไกลแล้ว ยังไงก็ตามหลอกลวงคนทั้งโลกก็ดูเสี่ยงมาก
“ไม่ว่านายต้องการตำแหน่งไหนฉันจะพยายามมอบมันให้ ไม่เว้นแม้แต่ตำแหน่งพ่อมดกิตติมศักดิ์”
ตำแหน่งพ่อมดกิตติมศักดิ์