The King of the Battlefield - ตอนที่ 206
บทที่ 206: ความจริงหรือ…(3)
กีซซ- กีซซ-
พร้อมกับเสียงของโลหะถูกขีดข่วน, เหล่าแมงมุมพ่นใยของพวกมันออกมา
ฟู่วววว!
ทุกสิ่งที่สัมผัสกับเส้นใยต่างถูกหลอมละลาย และนอกจากนั้นพวกมันยังสามารถยิงลำแสงแห่งเปลวเพลิงที่สามารถเผาทำลายทุกอย่างได้ทันที
“ ไอ้มอนสเตอร์บ้าพวกนี้โผล่มาจากไหน?”
“ ทหารรักษาการณ์อยู่ไหนกันหมด? ทำไมปล่อยให้พวกมันเข้ามาได้?!”
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะสับสน ก่อนที่ศัตรูจะบุกมาถึงด้านในของเกรทซิตี้ ปกติแล้วทหารรักษาการณ์จะต้องหยุดหรือแจ้งเตือนเกี่ยวกับผู้บุกรุก แต่เวลานี้กลับไม่มีวี่แววของสัญญาณใดๆทั้งสิ้น
แมงมุมประหลาดที่จู่ๆก็ทำลายกำแพงเมืองและปีนเข้ามาโจมตีผู้คน
พวกมันดูเหมือนจะมีประมาณสัก 500 ตัว
“เวรเอ้ย!”
“ หนีเร็ว!”
มีพลเมืองมากกว่า 100,000 คนที่อาศัยอยู่ในเกรทซิตี้ และในหมู่พวกเขามากกว่าครึ่งสามารถต่อสู้ได้ ทว่าการโจมตีของพวกเขากลับไม่มีผลอะไรกับเหล่าแมงมุม พวกเขาทำอะไรไม่ถูกและไร้ที่พึ่งพา แต่ยังไงก็ตามเกรทซิตี้มีกิลด์ต่างๆที่พึ่งพาได้อยู่มากมาย
หลายกิลด์ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและเข้มแข็งขึ้น หลังจากได้รับความเสียหายใหญ่หลวงจากการปรากฎตัวของปีศาจนภาเมื่อคราวก่อน และเป็นไปตามคาดเพียงใช้เวลาไม่นานกลุ่มคนจำนวนมากที่สวมแจ็คเก็ตเหมือนกันก็ปรากฏตัวขึ้น
“ ทีมจู่โจมระยะไกล เดินหน้า!”
“เดินหน้า!”
กลุ่มที่เคลื่อนไหวได้เร็วที่สุดคือสมาชิกของกิลด์จรัสแสง
หลังจากวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็ออกมารับมือกับความโกลาหลด้วยแจ็คเก็ตสีน้ำเงินที่สลักสัญลักษณ์แห่งแสง ทีมจู่โจมระยะไกลจำนวน 300 คนยืนตั้งแถวเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีอย่างเป็นระเบียบ
“นั่น บาฮามุดห์! กิลด์จรัสแสงมาแล้ว!”
“ ดาวรุ่งอย่างคิมแทฮวานก็มาด้วย!”
คนที่หนีไปไหนไม่ได้ต่างส่งเสียงเชียร์ กิลด์จรัสแสงเป็นหนึ่งในกิลด์ที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเผชิญกับบททดสอบของปีศาจนภา
หัวหน้ากิลด์จรัสแสงบาฮามุดห์ตะโกนขึ้นขณะที่ดึงดาบใหญ่ออกจากด้านหลัง
“ เหล่าหมาป่าแห่งกิลด์จรัสแสง! จงทำลายพวกมันให้สิ้นซาก ”
สมาชิกกิลด์อีก 500 คนที่ถืออาวุธระยะประชิดพุ่งตัวเข้าสู่สมรภูมิอย่างรวดเร็ว
การทำงานเป็นทีมของพวกเขาดีมาก นักรบระยะประชิดเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู ในขณะที่ทีมโจมตีระยะไกลจัดการกับพวกมัน
ทุกการเคลื่อนไหวราบรื่นราวกับว่าพวกเขามีร่างกายเดียวกัน มันดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับการหายใจ คุณสามารถบอกได้ว่าพวกเขาฝึกซ้อมมาหนักแค่ไหนจากฉากนี้
สองปีที่ผ่านมา หลังจากการบททดสอบของปีศาจนภาเกรทซิตี้กถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจนระหว่างคนที่ก้าวหน้าและคนที่ไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และผลลัพธ์ของความคืบหน้าก็แสดงให้เห็นในตอนนี้
“ ช่วยฉันด้วย…!”
ผู้หญิงคนหนึ่งล้มลงกับพื้นตะโกนขอความช่วยเหลือ มอนสเตอร์ไม่ได้แยกแยะระหว่างชายหรือหญิง พวกมันจะฆ่ามนุษย์ทุกคนทันทีที่พบเห็น!
แมงมุมหลายตัวที่เห็นเหยื่อของมันพากันวิ่งเข้ามา จากฉากที่พวกมันฉีกเนื้อมนุษย์ออกเป็นชิ้นๆด้วยขาแปดข้างราวกับของเล่น ทำให้มอนสเตอร์พวกนั้นดูน่ากลัวมากขึ้น
และขณะที่แมงมุมกำลังจะฉีกร่างของหญิงสาว ชายคนหนึ่งก็ปรากฏ
ปัง!
ชายคนนั้นพุ่งเข้าชนแมงมุมพร้อมกับเสียงดังสนั่น
เนื่องจากปะทะกับโล่สีเงินขนาดใหญ่รางของแมงมุมจึงปลิวไปไกล
“คุณเป็นไงบ้าง?
“ ขะ ขอบคุณค่ะ…”
“ รีบหนีออกจากที่นี่ก่อน พวกเราทีมหมาป่าจะคอยคุ้มกันให้ ไป!”
ผู้หญิงคนนั้นฝืนยืนขึ้นทั้งๆที่ขาแพลง จากนั้นเหล่าหมาป่าสีฟ้าก็ห้อมล้อมเธอเอาไว้
“ หัวหน้า ผมคิดว่าพวกมันใช้ทักษะคุ้มกันบางอย่างอยู่ “
ชายคนนั้นเรียกแทฮวานให้ดูมอนสเตอร์แมงมุมอีกครั้ง
ข้างหลังเขามีสมาชิกกว่า 100 คนยืนเรียงกันเป็นแถว
‘ทักษะคุ้มกัน’
แทฮวานสังเกตการเคลื่อนไหวของแมงมุม
ดูเหมือนว่ามันจะดูดซับการโจมตีของศัตรู และกำลังฟื้นตัว
‘ทำไมมีแต่พลังของฉันที่ได้ผลกับพวกมัน’
แทฮวานคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
ทักษะพลังที่เขามี โล่แห่งการปัดเป่า มันจะปฏิเสธพลังที่ไม่บริสุทธิ์ นั่นหมายความว่าตัวของมันเองบริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง
แทฮวานมองไปที่สนามรบ
ไม่ใช่ว่าพลังของพวกเขาไม่ได้ผลกับพวกมันเลย
แม้ว่ามันจะไม่มากนัก แต่ประเภททักษะที่เพิ่มพลังขึ้นโดยธรรมชาติก็ส่งผลกระทบต่อพวกมัน!
“ ทุกคนฟัง ปลดอาวุธเวททั้งหมดทิ้งไปซะ!”
“ หัวหน้าคุณหมายความว่ายังไง?”
ปลดอาวุธของพวกเขา? ทั้งทีมช่วยไม่ได้ที่จะสับสน
แทฮวานตะเบ็งเสียงจนทุกคนได้ยินชัดอีกครั้ง
“ หากไม่ใช่พลังโดยตรงจากตัวเอง จะโจมตีพวกมันไม่เข้า!”
แทฮวานค้นพบจุดอ่อนของแมงมุมอย่างรวดเร็ว ถ้าใครจะนับคนที่ทำงานหนักที่สุดในช่วงสองปีที่ผ่านมา แทฮวานต้องอยู่ในรายชื่ออย่างแน่นอน
นี่เป็นเพราะเป้าหมายของเขายอดเยี่ยมเกินไป อย่างไรก็ตามแทฮวานก็ยังไม่พอใจ ม่มีเวลาให้เสียเปล่าหากเขายังอยากตามชายที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในใจของเขา
คนในทีมเปลี่ยนอาวุธเกี่ยวกับเวทมนตร์ทุกชนิดทิ้งไป และถือเพียงดาบ โล่ และหอกซึ่งทำจากโลหะล้วนๆ
กีซซ-!
แมงมุมที่ถูกทำให้ถอยไปก่อนหน้ากลับมาโจมตีแทฮวานอย่างรวดเร็ว
แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แทฮวานเป็นดาวรุ่งซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม ‘ผู้พิทักษ์โล่’ ฉายานี้ได้รับมาเพราะในขณะที่เขายังถือโล่ แม้ว่าความสามารถของฝ่ายตรงข้ามจะสูงกว่าก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้โดยง่าย
ตูม!!
ทว่าในพริบตาแมงมุมเหล่าก็ต้องแตกกระเจิง
‘นั่นใคร?’
แทฮวานขมวดคิ้ว
สองนักสู้ที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นเริ่มโจมตีเหล่าแมงมุมจนหมุนปลิวไปรอบๆ และพวกเขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มหมาป่า เป็นผู้หญิงหนึ่ง และผู้ชายที่มีรูปร่างใหญ่โตหนึ่ง พวกเขาสวมหน้ากากทั้งคู่!
ดูเหมือนพวกเขาจะรับมือกับมอนสเตอร์แมงมุมได้เป็นอย่างดี ร่างของแมงมุมฉีกขาดปลิวกระจายออกเป็นชิ้นๆคล้ายกับถูกพายุพัดโหม
ในขณะการต่อสู้ผู้หญิงสวมหน้ากากก็หันมองไปที่แทฮวาน
เมื่อสายตาของพวกเขาพบกัน ผู้หญิงคนนั้นก็ก้มศีรษะลงก่อนจะกระทืบพื้นส่งตัวเองบินหายขึ้นไปในอากาศ
“เธอเป็นใคร?”
“ จอมยุทธ์สวมหน้ากาก?”
สมาชิกในทีมก็ดูเหมือนจะไม่รู้ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญสวมหน้ากากทั้งสองคน แทฮวานคิดเกี่ยวกับสายตาของหญิงสาวครู่หนึ่ง
“ อย่าละสายตา!”
กีซๆๆ!
ยังมีแมงมุมอีกมากมาย
* * *
ซูจีกัดริมฝีปาก
‘พี่แทฮวาน…’
ใบหน้าที่เธอไม่ได้เห็นมานาน อย่างต่ำก็ไม่น้อยกว่า 5 หรือ 6 ปีหลังเจอกันครั้งสุดท้าย
แต่แทฮวานก็ยังเหมือนกับแทฮวานในความทรงจำของเธอ นอกจากการมีกล้ามเนื้อมากขึ้น และการแสดงออกที่เข้มแข็งขึ้นแล้ว เขาก็ยังคงเป็นแทฮซานคนเดิม
การที่เธอสวมหน้ากากเพราะไม่ต้องการไปรบกวนเขา เธอเลยบังคับให้ราชานักสู้สวมหน้ากากเช่นกัน อีกเหตุผลหนึ่งก็เป็ยเพราะราชานักสู้มีศัตรูจำนวนมากในเกรทซิตี้
“แปดตัว! ซูจีเอ๋ยคนชนะการแข่งขันนี้คงเป็นฉันแล้วล่ะ!”
ราชานักสู้หัวเราะขณะที่เด็ดขาแมงมุมทิ้ง
ซูจีหยิบเหล้าที่พกออกมา เธอยิ้มขณะรินเหล้าออกจากขวดเซรามิก
“ ถ้าอย่างนั้นหนูจะเริ่มละนะ?”
คว้าง!
อากาศผุดขึ้น
อากาศใกล้ๆซูซี่ขยายออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นขณะที่ซูจีเหยียบเท้าพื้นดินด้านล่างก็ทรุดตัวลง
ตูมมมม !
มันเป็นหลักวิชาของทักษะค้อนหมื่นชั่ง
ซูจีหายตัวไปทั้งอย่างนั้น ก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งเหนือศัตรู
ขณะที่ในมือของเธอปรากฏดาบเล่มหนึ่ง ร่างของแมงมุมก็พรุนเป็นรังผึ้ง หลุมจากบาดแผลดังกล่าวดูไปคล้ายกับภาพวาดดอกซากุระบานยิ่งนัก
นั่นเป็น วิชาดาบของตระกูลเฮฟเวนเมด! เมื่อดาบประจำตระกูลเฮฟเวนเมดใช้ประโยชน์จากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของทักษะค้อนหมื่นชั่งที่ช่วยเพิ่มพลังโดยตรงของผู้ใช้ ไม่น่าแปลกใจที่มอนสเตอร์แมงมุมจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเธอได้
“ อืม ผสมทักษะได้พิลึกพิลั่นจริงๆ ”
ราชานักสู้เดาะลิ้นของเขาขณะที่ดูเธอ
เธอยังแสดงทักษะที่ผสมเทคนิคระหว่างประตูเร้นรับกับหลักการเคลื่อนไหวของทักษะบางอย่าง แม้กระทั่งราชานักสู้ก็ไม่สามารถตามความเร็วนี้ได้ อย่างน้อยในแง่ของความเร็วเธออยู่ใน 10 อันดับแรกของมนุษยชาติแน่นอน
ซูจีเหมือนปลาในหนองน้ำ
เธอไล่ตามคะแนนของราชานักสู้ไปทันทีขนาดเริ่มต้นเกมที่ 8 : 0
“ ฉันไม่ควรทำเป็นเล่นอีกต่อไป”
ราชานักสู้ยิ้ม
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า นักเรียนเก่งหนึ่งคนต่างจากนักเรียนเฉลี่ยสิบคนอย่างไร อย่างไรก็ตามในฐานะครูเขาไม่สามารถแพ้ในเกมนี้ได้
ราชานักสู้ใส่ทุกอย่างไม่ยั้ง
ขณะที่สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น กิลด์อื่นๆก็เริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้าๆหลังจากเสร็จสิ้นการเตรียมการ จนดูเหมือนว่ามอนสเตอร์กำลังถูกปราบ
แกรกๆๆ!
ซีสสส!
ความคิดเช่นนั้นมีอยู่จนกระทั่งมีแมงมุมอีกจำนวนมากไต่กำแพงขึ้นลงมา
“ มะ มันมีกี่ตัวกันแน่?”
“ กำแพงพังไปกี่ส่วนแล้ว!”
“อ๊า…!”
ราวกับว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เมื่อพวกเขาเกือบจะกำจัดแมงมุม 500 ตัวหมดแมงมุมอีกจำนวนมากก็ไต่กำแพงลงมาไม่ใช่สิ พวกมันเพิ่งทำลายกำแพงก่อนจะไต่ลงมาต่างหาก
ฉากด้านหลังของกำแพงที่เผยออกมาสู่สายตาน่าตกใจอย่างช่วยไม่ได้ และคาดไม่ถึง
แมงมุมยักษ์หลายตัวกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
* * *
มูยองมองภาพที่เกิดขึ้นอย่างยินดี และอดไม่ได้ที่จะชื่นชมพวกเขา
จากความทรงจำเมื่อ 2 ปีก่อน เขาคิดว่าแมงมุม 500 ตัวน่าจะเพียงพอ อย่างไรก็ตาม การต่อต้านของเกรทซิตี้นั้นแข็งแกร่งกว่าที่คิด พวกเขาเรียนรู้วิธีจัดการกับสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
‘เกรทซิตี้เปลี่ยนไปหลังจากเผชิญหน้ากับการทดสอบของปีศาจนภา’
นี่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงของการทดสอบ
นี่คือความหวังของมนุษยชาติ
แค่ไม่ใช้ชีวิตอยู่เฉยๆ แค่นี้พวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าเมื่อสองปีก่อนแล้ว
ต่างจากอดีต ตอนนี้พวกเขาร่วมมือกันโดยไม่แบ่งแยกเพื่อความแข็งแกร่ง แน่นอนว่ามันเกิดจากการเรียนรู้เพราะมีศัตรูร่วมกัน อย่างไรก็ตามบททดสอบจะต้องมีเป็นระยะ เพื่อความสามัคคีที่ยั่งยืน พวกเขาต้องการแรงผลักดันอย่างต่อเนื่อง
‘ทำไมพวกเขาทำสิ่งนี้ไม่ได้ในอดีต’
อดีตก่อนที่มูยองจะย้อนกลับมา
มนุษยชาตินั้นอ่อนแอ ใครจะสงสัยว่าพวกเขาอ่อนแอได้ยังไง
มันเป็นเพราะป่าแห่งความตาย เช่นเดียวกับการยึดติดกับผลประโยชน์ของตระกูลและกิลด์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากการทดสอบของปีศาจนภา พวกคนชั่วช้า และเห็นแก่ตัวส่วนใหญ่เสียชีวิต ไม่ก็ตกอยู่ในสภาพวิกฤติ
ตำแหน่งที่ว่างเหล่านั้นคือโอกาสสำหรับคนหนุ่มสาวที่มีอุดมการณ์ พวกเขากลายเป็นความหวังสำหรับผู้อ่อนแอ นี่คือเหตุผลว่าทำไมปัจจุบันจึงแตกต่างจากอดีต
‘ทุกอย่างตอนนี้เป็นไปได้… พวกเขาสามารถเปลี่ยนได้’
มูยองไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้มากมายเลย
เขาไม่เคยคาดหวังว่าเหล่าผู้คนจะเปลี่ยนแปลงมากนักภายในเวลาแค่สองปี
ดังนั้นมูยองจึงรู้สึกตื่นพอใจเล็กน้อย
มันเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่ความเป็นไปได้ มันเป็นผลลัพธ์
‘ฉันจะกลายเป็นศัตรูกับทุกคน’
ในขณะที่ยืนยันคำตอบตัวเอง มูยองยอมรับบทเป็นวายร้ายโดยไม่ลังเล
ด้วยคำสั่งจากมูยอง จำนวนของเอลย่าซีโก้ก็เริ่มเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นอีก
เข้าสู่การต่อสู้ การต่อสู้ไร้ที่สิ้นสุดเป็นหนทางเดียวที่มีชีวิตอยู่!
“ มีบางคนกำลังเคลื่อนที่มาที่นี่ด้วยความเร็วสูง”
“ พวกเราจะไปกำจัดมันผู้นั้น”
จากนั้นจิ้งจอกเก้าหางห้าตัวที่ช่วยสนับสนุนมูยองก็เริ่มเคลื่อนไหว
มูยองก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้เขาเหมือนกัน
อย่างน้อยในแง่ของเทคนิคการเคลื่อนไหวเร็วก็ถือว่ายอดเยี่ยม มีคนกำจัดมอนสเตอร์ทุกตัวในเส้นทางและกำลังมุ่งหน้ามายังที่ที่มูยองอยู่ บางทีอาจมีบางคนตระหนักได้ว่ามีผู้ควบคุมเอลย่าซีโก้
จิ้งจอกเก้าหางสบัดร่างของพวกเธอก่อนที่จะหายไปโดยใช้ทักษะเช่นสึกุจิ อย่างไรก็ตามมูยองไม่ได้สนใจพวกมันมากนัก ตอนนี้เขามุ่งความสนใจไปที่เกรทซิตี้อย่างเดียว
มีเหตุผลที่เขาหยุดอยู่ใกล้กับเกรทซิตี้ และตอนนี้เขากำลังใช้ลูกปัดจิ้งจอกลูกหนึ่งมองภาพสถานการณ์ในเกรทซิตี้แบบเรียลไทม์อยู่
‘อดีตเปลี่ยนไปแล้ว พวกเราทุกคนเปลี่ยนไป ‘
เหมือนกับที่มูยองมาจากอดีตของเขา แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้สัมผัสประสบการณ์เช่นนั้น แต่พวกเขาก็จะกลายเป็นคนที่แตกต่างจากอดีต
กรร!
จู่ๆซ่งหลางสองตัวก็แยกเขี้ยวฟันของพวกมัน
ดูเหมือนจิ้งจอกเก้าหางไม่สามารถหยุดบุคคลนั้นได้
มีตัวตนหนึ่งกำลังปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ
ในขณะที่เขาหันศีรษะไปก็พบกับหญิงสาวผู้ซึ่งสวมหน้ากากกำลังย่องเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ
“ฆ่า”
กรรร!
ทันทีที่มูยองออกคำสั่ง ซ่งหลางทั้งสองก็พุ่งเข้าหาหญิงสาวทันที
ดูเหมือนว่าร่างกายของหญิงสวมหน้ากากปกคลุมไปด้วยบาดแผลอยู่ก่อนแล้ว ไม่มีทางที่เธอจะยังสบายดี หลังจากฝ่าฝูงมอนสเตอร์และสุนัขจิ้งจอกเก้าหางมา อย่างไรก็ตามหญิงสวมหน้ากากก็ยังสามารถทะลุผ่านการโจมตีของซ่งหลางมาได้
‘น่าตกใจจริงๆ’
มูยองพูดเล็กน้อยขณะที่เผชิญหน้ากับหญิงสาวที่กำลังใกล้เข้ามา
ผู้หญิงคนนั้นถือดาบกระโจนไปข้างหน้าโดยมีเป้าหมายเป็นมูยอง
อย่างไรก็ตามดาบไปไม่ถึงตัวเขา เพราะเมื่อหญิงสาวเห็นใบหน้าของมูยอง เธอก็หยุดชะงักลงทันที
“พ… พี่… .?”
โครม!
หลังจากพูดคำนี้หญิงสาวก็ล้มลงกับพื้น เลือดพวยพุ่งออกมาจากบาดแผลบนร่างกาย
โฮก !!
ซ่งหลางคำรามอย่างกระหายในขณะที่จมเขี้ยวลงบนร่างของเธอ
และก่อนที่มันจะเขมือบเธอไปทั้งตัว มูยองก็รีบยกมือข้างหนึ่งขึ้น