The King of the Battlefield - ตอนที่ 270
บทที่ 270 สงครามเทพปีศาจ (1.1)
ดราก้อนลอร์ดฮันซุง และเมอร์ลิน
การปรากฏตัวของพวกเขาล้วนทรงอิทธิพลในด้านการเป็นตัวแทนของสัญลักษณ์ทางการเคลื่อนไหว พวกเขากำลังช่วยกันรวบรวมผู้คน
เรื่องราวของ ‘พันธมิตรใหญ่ ‘ที่ประกาศอย่างเป็นทางการจากมูราลันได้แพร่กระจายไปไม่ต่างจากการลุกลามของไฟป่า และมันส่งผลให้ผู้คนต่างปรารถนาอย่างท้วมท้นที่จะ ‘โค่นล้มเทพปีศาจ’
กระทั่ง คิมแทฮวาน ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์จรัสแสงก็เป็นหนึ่งในผู้ที่นำกำลังพลเดินทางมาด้วย
“ เป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่จริงๆ”
“ ขนาดคนจากเมืองคุนจาก็ยังมาเข้าร่วมตั้งเยอะเลย”
“ ซออึนแซหัวหน้าผู้บัญชาการเป็นคนกุมอำนาจที่แท้จริงสินะ…พวกเขาบอกว่าแม้แต่เหล่าตระกูลผู้ปกครองของมูราลันก็ยังทำตามคำสั่งของผู้บัญชาการอย่างเงียบๆ ”
“ เธอดูสวยจริงๆว่ามั้ย”
“ ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงแก่ๆคนหนึ่งแหละน่า!”
“ เบาๆหน่อยเธออาจจะได้ยินนะ!”
ทุกคนที่กำลังติดตามคิมแทฮวานพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย
คิมแทฮวานเดินไปที่ด้านหน้าของพวกเขาสำรวจกองกำลังทั้งหมดอยู่พักหนึ่ง
‘จำนวนคร่าวๆสามล้านคน’
3 ล้านคน! และมันเป็นจำนวนของผู้ที่สามารถต่อสู้ได้เท่านั้นยังไม่รวมประเภทอื่น
ผู้คนจำนวนมากพากันเดินขบวนไปที่เนินเขา ไม่เคยมีสถานที่ไหนเคยมีมนุษย์มากขนาดนี้รวมตัวกันมาก่อนในประวัติศาสตร์
‘มันดูง่ายเกินไปราวกับว่ามีใครกำลังจัดการอยู่ ‘
กองกำลังพันธมิตรได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับว่าทุกคนตกอยู่ภายใต้มนต์สะกด
เป็นพลังของเมอร์ลินหรือเปล่า? หรือบางทีอาจเป็นเพราะดราก้อนลอร์ดฮันซุง และมูราลันก็เข้าร่วมด้วย
“ หัวหน้า ผมได้ยินมาว่าไม่ใช่แค่มนุษย์ที่เข้าร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งนี้”
ออกจากภวังค์ความคิดของตน คิมแทฮวานมองไปยังชายที่เดินเข้ามาพูดด้วย
เขาพูดกับชายคนนั้นเบาๆแต่ทว่าชัดเจน
“ ใช่แล้วพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่บอกว่าสงครามครั้งนี้ไม่ใช่แค่สงครามของเรา”
“ ถ้างั้นก็หมายความว่าทุกคนมารวมตัวกันในอาณาเขตของเทพปีศาจ มันจะเป็นกับดักหรือเปล่า? เผ่าพันธุ์ต่างๆที่เพิ่งพบกันครั้งแรกจะร่วมมือกันได้จริงๆเหรอ?”
เป็นข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล ความคืบหน้าเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ไม่มีใครรู้ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นในภายหลังหรือไม่
เมอร์ลินได้พูดความจริงหลายประการเกี่ยวกับโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพิสูจน์เรื่องการระดมพลของเทพปีศาจ และความหย่อนยานของมนุษย์ที่จะต่อต้าน ทุกเรื่องผลักดันให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็ว แทนที่จะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน สาเหตุที่ยิ่งใหญ่และการอยู่รอดกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้นหากเทพปีศาจระดมกำลังอย่างแท้จริง พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์คงจบสิ้นแน่หากยังไม่ร่วมมือกัน
“ ถ้าสิ่งที่พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่พูดเป็นความจริงก็มีเวลาไม่มากแล้ว และมันคงไม่ใช่เรื่องหลอกลวงเพราะพระสันตะปาปากับมูราลันเป็นผู้นำสำหรับเรื่องพวกนี้”
มูราลันและสมเด็จพระสันตะปาปาที่ยึดมั่นในคำพูดของพระเจ้าได้ได้ประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาขอการสนับสนุนจากเกรทซิตี้และเขตคุนจา นอกเหนือจากนั้นประกาศอย่างเป็นทางการยังถูกส่งไปยังเมืองเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อรวบรวมผู้คน
หากใครไม่ยอมเข้าร่วมจะกลายเป็นคน”นอกคอก” ในสายตาคนอื่นทันที นั่นทำให้ทุกคนมารวมตัวกันมากมายดั่งแม่น้ำที่ไหลไปบรรจบกันที่ท้องทะเล และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน
กึก!
“หยุด!”
มีสัญญาณมาจากแถวด้านหน้า
“ พวกเรากำลังจะเข้าสู่ดินแดนเทพปีศาจ ขอให้ทุกคนรักษาขบวนทัพเอาไว้ให้ดี อย่าลดการป้องกันลงเป็นอันขาด!”
ดินแดนเทพปีศาจเป็นสถานที่ต้องห้าม ที่ที่ไม่มีใครกล้าก้าวย่างเข้าไป สถานที่ที่เทพปีศาจและเผ่าปีศาจกำลังออกอาละวาด มันยังคงเป็นสถานที่ลึกลับสำหรับมนุษย์ และเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ทุกชนิดอาศัยอยู่
ในอดีตมีการเดินทางเข้ามาที่นี่หลายสิบครั้ง แต่ทุกครั้งก็ต้องประสบกับความล้มเหลว เว้นแต่จะเป็นทีมสำรวจที่มีผู้นำที่แข็งแกร่ง นอกจากนั้นจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไป
“ ให้ตายเถอะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้เราอยู่ในดินแดนเทพปีศาจ”
“ ถ้าฉันตายไปซะก่อน อย่าลืมฝังฉันในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงนะ”
พวกเขาก้าวไปข้างหน้าฝ่าทางเดินที่เต็มไปด้วยอากาศอันหนาทึบ ทุกคนต่างระวังสิ่งรอบข้างโดยไม่มีใครกล้าละทิ้งการป้องกัน เพราะข้อมูลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ของที่นี่มีน้อยมากรวมถึงทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง… เช่นในขณะนี้
ตึง! ตึง! ตึง!
แผ่นดินสั่นสะเทือน
ด้านหลังของฝุ่นคละคลุ้งมีบางอย่างพุ่งเข้าหากองกำลังสำรวจ และไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง จำนวนของพวกมันมีมากกว่าหนึ่งหมื่น!
“ เตรียมตัวสู้!”
“ เตรียมตัวสู้!”
ชิ้ง! ชิ้ง!
ทุกคนต่างเตรียมพร้อมสำหรับอาวุธของตน
“ เป็นการต้อนรับที่ดีจริงๆนะ”
“ ข้างหน้านั่นมัน…ไฟทาร์ใช่ไหม!?”
“ ยักษ์ไฟ? ไฟทาร์ เยี่ยมมาก”
ไฟทาร์อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร
เป็นเรื่องที่ทราบกันดีว่าพื้นที่ใกล้กับที่ซึ่งไฟทาร์อาศัยอยู่ สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆมักจะถูกทำลายลง
เนื่องจากไฟทาร์มีสติปัญญาสูง จึงทำให้พวกมันเป็นศัตรูที่รับมือได้ยากลำบาก
และตอนนี้ ที่นี่มีไฟทาร์จำนวนนับหมื่นตัว
“ เอ่ย หัวหน้า นี่เราจะตายทันทีที่มาถึงหรือเปล่า”
“ อย่าเพิ่งยอมแพ้ มนุษย์แข็งแกร่งอยู่แล้วหากร่วมมือกัน”
คิมแทฮวานสูดลมหายใจเฮือกใหญ่
ถูกต้อง มนุษย์จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อพวกเขารวมตัวกัน ทักษะและกลยุทธ์เฉพาะทางของแต่ละคนจะถูกนำมาใช้ นั่นเป็นความแตกต่างจากเผ่าพันธุ์หรือสัตว์ประหลาดอื่นๆ
และขณะนี้มีกองทหารชั้นยอด 3 ล้านคนมารวมกัน พวกเขาย่อมสามารถเผชิญหน้ากับไฟทาร์จำนวนหนึ่งหมื่นตัวได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าความทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บล้มตายจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ระหว่างที่มนุษย์กำลังตึงเครียด…ไฟทาร์ก็หยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา
พอฝุ่นเริ่มจางลง…ก็พบว่ามีเลือดเปรอะเปื้อนอยู่เต็มร่างกายของพวกมันราวกับว่าเพิ่งมาจากการต่อสู้
“ เมอร์ลิน! ยินดีที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง”
ไฟทาร์ที่อยู่หน้าสุดเรียกชื่อเมอร์ลิน
พอลอยตัวขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับไฟทาร์ เมอร์ลินก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ โอการ์ขออภัยที่ทำให้คุณต้องออกเดินทางมาซะไกล”
“ ฮ่าฮ่า!เรื่องเล็กน้อย แล้วก็ข้าทำความสะอาดเส้นทางที่เจ้าจะต้องเดินผ่านแล้วคงไม่ไม่เป็นปัญหาอะไรหากเจ้าจะเดินทางต่อไป ว่าแต่มีมนุษย์ติดตามมาจำนวนมากทีเดียว!”
โอการ์มองไปที่กลุ่มมนุษย์
ขนาดเฉลี่ยของไฟทาร์อยู่ที่ประมาณ 10 เมตร ฉากที่พวกมันรวมตัวกันเป็นหมื่นเช่นนี้ย่อมไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน
“แล้วใครเป็นตัวแทนของเผ่ามนุษย์?”
โอการ์ที่หัวเราะเสียงดังก้าวไปข้างหน้า
ตุบ!
ดราก้อนลอร์ดฮันซุงกระโดดลงมาจากมังกรแห่งแสงเซลดัลตั้น
เขาสวมหมวกและเกราะนักรบสีทองที่สังเกตได้จากระยะไกล ข้างกายของเขามีมังกรสองตัวอยู่ พวกมันคือมังกรแห่งแสงเซลดัลตั้น กับมังกรปีศาจอากิสะ
“ ผมชื่อฮันซุง”
“ มนุษย์ที่ฝึกมังกรได้ถึงสองตัวงั้นหรือ? ไม่พอยังเป็นมังกรระดับสูงอย่างมังกรแห่งแสงกับมังกรปีศาจอีกด้วย”
พลังเวทย์มนตร์และระดับของมังกรจะถูกจำแนกตามอายุ
มังกรโบราณอยู่ที่จุดสูงสุด นั่นเป็นที่รู้กันว่าพวกมันหายากมากและหนึ่งในนั้นแข็งแกร่งกว่ามังกรธรรมดาประมาณห้าตัว ดังนั้นจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝึกมังกร แต่ฮันซุงงฝึกพวกมันได้ถึงสองตัว
“ผมก็แค่โชคดีเท่านั้น”
“ถ้างั้นมันคงไม่ได้เป็นแค่โชคดีธรรมดา…ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”
ขณะที่ฮันซุงตอบอย่างถ่อมตัว โอการ์ก็แนะนำตัวเองด้วยความภูมิใจ
“ยินดีที่ได้เจอ ข้าคือโอการ์ หัวหน้าเผ่าของเหล่าไฟทาร์”