The King of the Battlefield - ตอนที่ 279
บทที่ 279 สงครามเทพปีศาจ (5 Part 2)
‘ฉันคงไม่แพ้หรอกนะ’
ด้วยเสียงไหววูบ มูยองโยกตัวหลบเข้าไปในช่องระหว่างใบมีด อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด มูยองกางปีกออกพร้อมกับถือหอกกาเบรียล
เขาแยกพลังของลูซิเฟอร์และกาเบรียลออกจากกัน ในขณะที่ควงหอกสร้างแรงดันเพื่อผลักใบมีดที่อยู่ใกล้ที่สุดออกไป
2, 4, 8, 16, 32, 64… 128!
เขาเร่งความเร็วขึ้นตามลำดับจนความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณและเมื่อความเร็วไปถึง 128 เท่าเขาก็สามารถหลบหนีจากพายุคมมีดได้ อย่างไรก็ตามอาม่อนเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์ มันร่ายเวทอีกบทหนึ่งไปแล้วตั้งแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“หมอกระเบิด”
อาม่อนใส่เวทมนตร์เข้าไปในอนุภาคของน้ำนับไม่ถ้วนในอากาศ ซึ่งมันมีขนาดเล็กและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ออกซิเจนและไฮโดรเจนถูกแยกออกจากกันอย่างน่าอัศจรรย์แล้วเกิดการระเบิดขึ้น นั่นทำให้มูยองเสียเปรียบทันทีเพราะไม่ว่าเขาจะเร่งความเร็วแค่ไหนหมอกระเบิดก็ไม่มีช่องว่างให้หลบหนี
‘ฉันต้องทำมันให้ได้’
ถึงมูยองจะสามารถถอยได้ แต่เขากลับเดินหน้าต่อไป การเร่งความเร็วไม่ใช่ทักษะที่สามารถใช้ได้นาน ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องจบศึกกับอาม่อนให้เร็วที่สุด และเป้าหมายของมูยองคือการไปให้ถึงตัวมันให้ได้ เขาแค่ต้องการสัมผัสตัวอาม่อนเพื่อก้าวไปยังแผนการขั้นต่อไป
ด้วยเสียงหวีดหวิวหยดน้ำเริ่มหมุนวน ในขณะที่พวกมันดูเหมือนภาพสโลว์โมชั่นสำหรับมูยอง มูยองตัดสินใจคลุมตัวเองด้วยปีกก่อนจะบินฝ่าออกไปสุดกำลัง
เกิดเสียงระเบิดกึกก้องตามติดมูยองไปทุกที่ ปีกสีดำของเขาขาดรุ่งริ่ง ถ้าเป็นบาดแผลธรรมดามูยองสามารถรักษามันได้ด้วย ‘พรเทวะ’ แต่เวทของอาม่อนนั้นแปลกประหลาดมันยึดติดกับร่างกายของมูยองแล้วไปขัดขวางการฟื้นฟูการรักษา
‘มันโจมตีจุดอ่อนที่สุดของฉัน’
มูยองไม่สามารถคาดหวังการฟื้นฟูเหมือนตอนที่สู้กับคริมสันบาร็อค อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาเข้าใกล้อาม่อนแล้ว อาม่อนรู้สึกได้ว่ามูยองกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า แต่ละก้าวของเขาล้วนเกิดขึ้นในพริบตา
ปัง!
หอกน้ำแข็งแทงทะลุขามูยองจนผิดรูป แม้มูยองจะเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้พยายามที่จะดึงมันออก ตรงกันข้ามเขายังคงทะยานไปด้านหน้าเพื่อลดช่องว่างระหว่างศัตรูอีกครั้ง และในที่สุดมูยองก็คว้าไหล่ของอาม่อนเอาไว้ได้ จากนั้นเขาก็ยกเลิกการเร่งความเร็วทันทีแต่นั่นไม่ใช่เพื่อการโจมตี
“ประตูจักเปิดให้แก่ผู้ที่เคาะมัน”
มันคืออาร์คโนว่าหนังสือเรียบเรียงด้วยภาษาแห่งปาฏิหาริย์ และดวงตาของอาม่อนก็ต้องสั่นไหวเมื่อได้ยินบดสวดดังกล่าว
“ เจ้ารู้บทสวดของมันได้ยังไง…?”
ไม่มีใครเชื่อว่ามีเทวทูตและผู้ที่รู้บทสวดในอาร์คโนว่า อาม่อนเองก็เช่นเดียวกันแต่ตอนนี้มันได้ประจักษ์แล้ว
วิ้งงงงง!
เป็นเพราะอาร์คโนว่าหรือไม่ เวทของมันที่ผนึกเอนโรธจึงถูกลบล้างออก
อาม่อนพยายามขัดขืน แต่มูยองก้าวเร็วกว่า แสงสว่างจ้าพุ่งจากดวงตาของมูยองเข้าไปเชื่อมต่อกับอาม่อน
บทสวดนี้สามารถทำให้เข้าไปเปิด ‘จิตวิญญาณ’ ของฝ่ายตรงข้ามได้ โดยแลกกับการสูบพลังของตนเองอย่างไร้ความปราณี
มูยองฝืนตัวเองไม่ให้ล้มลง
‘ฉันเห็นมัน’
มูยองเห็นวิญญาณของอาม่อนแล้ว และตอนนี้มูยองก็เข้าสู่ ‘การต่อสู้’ ที่แท้จริง
‘ศิลปะแห่งความตาย’
เป็นไปได้ไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้วที่จะทำให้ตัวตนผู้ซึ่งเป็นเทพกลายเป็นอันเดธ เนื่องจากเทพคือตัวตนที่สมบูรณ์แบบอันแตกต่างกับอันเดธโดยสิ้นเชิง
ถ้างั้นทำไมมูยองต้องออกไปต่อสู้กับอาม่อน? นั่นก็เพราะมันเกี่ยวข้องกับเงื่อนไข ‘การดับสูญ’ ของมัน
‘เงื่อนไขนั่นคือ ต้องทำให้อาม่อนเข้าไปเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ที่ไม่เข้าใจ’
อาม่อนมีความมั่นใจในตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ และพยายามเข้าใจและแก้ไขปัญหาทุกอย่าง นั่นจึงทำให้มันกลายเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์
อาร์คโนวา?
แม้ว่าจะเรียกว่าบทสวดแห่งปาฏิหาริย์ แต่ก็ยังคงเป็นส่วนขยายของเวทมนตร์ ซึ่งอาม่อนสามารถเข้าใจได้อย่างไรก็ตามหากมันเกิดขึ้นพร้อมกันกับการถูกควบคุมชั่วครู่โดยพลังที่มูยองใช้?
อาม่อนจะเชื่อมต่อกับมูยองอย่างแท้จริงในขณะนั้น และได้ลิ้มรสพลังแห่งความโกลาหลในตัวมูยอง เขาจะสับสนว่ามูยองคือใครกันแน่ และมูยองควบคุมเขาได้อย่างไร!
<‘ศิลปะแห่งความตาย’ แทรกซึมเข้าไปในตัวเทพปีศาจ’อาม่อน’>
<อาม่อนไม่สามารถกลายเป็นอันเดธ>
<อย่างไรก็ตาม “ศิลปะแห่งความตาย” เป็นพลังแห่งการปกครอง มันแทรกซึมเข้าไปในร่างของ ‘อาม่อน’อย่างรวดเร็ว>
<เทพปีศาจ ‘อาม่อน’ กำลังต่อต้านอย่างสุดกำลัง>
มันต้องการเวลาทำงานเพียงหนึ่งในสิบของวินาที และมูยองต้องการควบคุมอาม่อนในช่วงนั้น เป็นการเสี่ยงโชคครั้งสุดท้ายของมูยอง พลังของอาร์คโนว่าคือความหวังเดียวที่เขามีในสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นี้
มันเป็นการต่อสู้ของเจตจำนง และตอนนี้ตาของมูยองเริ่มมีเลือดหลั่งออกมาแล้ว หยาดเลือดไหลออกจากทุกช่องทางที่เขามี จิตวิญญาณของมูยองนั้นอ่อนแอกว่าจิตวิญญาณของเทพปีศาจมาก และอาม่อนในฐานะผู้แสวงหาก็มีจิตวิญญาณที่แน่วแน่มากกว่าเทพปีศาจตนใด
‘เป็นไปไม่ได้งั้นเหรอ?’
มูยองแพ้การต่อสู้แห่งเจตจำนงและเขากัดฟันแน่น เขาไม่สามารถก้าวถอยหลังได้ การที่วิญญาณปะทะกันอันตรายเป็นอย่างมาก จิตวิญญาณของมูยองอาจสลายได้ภายใต้การโจมตีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่วิญญาณของพวกเขาเกือบจะหลอมรวมกัน การแสดงออกของอาม่อนก็เปลี่ยนไป
“วัฏจักรแห่งเวลา….ในร่างของเจ้า!”
อาม่อนดูประหลาดใจยิ่งกว่าตอนที่มูยองใช้อาร์คโนว่าเสียอีก อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดรอยร้าวในจิตวิญญาณของมัน และจิตวิญญาณของมูยองก็ลุกโชนขึ้นเพื่อเอาชนะภายในเสี้ยวเวลานั้นๆ
<คุณประสบความสำเร็จในการควบคุม เทพปีศาจอาม่อน>
<อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถควบคุมเขาได้ทั้งหมด>
<การควบคุมมีผลเป็นเวลา 7 วินาที>
ดวงตาของมันขุ่นมัวไปชั่วขณะ อาม่อนอยู่ภายใต้การควบคุมของมูยองเป็นเวลาเจ็ดวินาที
‘ฉันทำได้แล้ว’
มูยองรีบดำเนินการขั้นต่อไป เจ็ดวินาทีนั้นมากกว่าเวลาที่เขาคาดไว้ด้วยซ้ำ แม้มูยองจะไม่สามารถออกคำสั่งแก่อาม่อนได้ แต่มันเพียงพอแล้วที่จะสลักบางอย่างลงไปในจิตวิญญาณของมัน
“ จงทำเพื่อตัวเองเท่านั้น”
คำพูดของมูยองบอกเป็นนัยว่า อาม่อนเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์ผู้ที่วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้เองทั้งหมด เขาจะไม่เดินตามใคร หวาดกลัวใคร และจะเดินตามทางของตัวเองเท่านั้น
ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น
มูยองปลดล็อคสิ่งที่อาม่อนต้องการโดยที่มันก็ไม่รู้ตัวออกไปนั่นก็เพียงพอแล้ว