The King of the Battlefield - ตอนที่ 288-289
บทที่ 288-289 : ราชันย์สมรภูมิรบ (1)
บาอัลจ้องไปที่โซโลมอนก่อนจะหันไปทางมูยอง
“ เจ้ามองเห็นร่างจริงของข้า”
รูปลักษณ์ของบาอัลจะเปลี่ยนไปตามผู้ที่เห็น มันจะปรากฏออกมาในรูปแบบที่คนๆนั้นหวาดกลัวมากที่สุด และบาอัลจะใช้ความหวาดกลัวตรงนั้นเข้าไปครอบงําพวกมัน
อย่างไรก็ตาม มูยองไม่ได้รับผลกระทบจากภาพลวงตานี้เนื่องจากเขามีดวงตาที่สามารถมองเห็นความจริงได้ มูยองมองเห็นว่าโซโลมอนและบาอัลเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวกันทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ทว่ามันกลับเป็นเช่นนั้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ เจ้าอยากรู้ไหมล่ะ?”
บาอัลพูดราวกับรู้ว่ามูยองคิดอะไรอยู่ เขาเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยราวกับได้รับชัยชนะ ในทางกลับกันโซโลมอนยังคงนิ่งเงียบเนื่องจากหวาดกลัวบาอัล
“ ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นเทพเจ้าตนเดียวกัน แต่ตอนนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองร่าง”
ขณะที่บาอัลกําลังพูดไม่มีใครสามารถขยับได้ คําพูดของเขามีพลังแตกต่างจากโซโลมอน โซโลมอนสามารถส่งผลกระทบต่อโลกผ่านพลังของเดียโบล แต่บาอัลกลับสามารถครอบงําทุกคนเพียงแค่การปรากฏตัวของเขา
“ เขาต้องการสร้างโลกขึ้นมาใหม่หลังจากทําลายมัน ส่วนข้าต้องการเพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่วิวัฒนาแล้วและสามารถเอาชนะเผ่าพันธุ์อื่นๆได้ พวกเราสองคนล้วนไม่เห็นด้วยกับฝั่งตรงข้าม”
โซโลมอนไม่เชื่อเรื่องการวิวัฒนาการ เขาต้องการทําลายทุกอย่างก่อนจะรวบรวมทุกข้อมูลเพื่อสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ที่สมบูรณ์แบบ
ในทางกลับกัน
บาอัลต้องการรวบรวมเผ่าพันธุ์ทั้งหมดเอาไว้ และให้พวกมันหันกันเองจนเหลือเพียงเผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้น แม้ว่าความคิดของพวกเขาจะคล้ายกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างอย่างชัดเจน
“ ข้าชิงเลเมเกทัลมาจากเจ้านั่น แต่ก็สูญเสียการควบคุมโลกไป”
เลเมเกทัลเป็นหนังสือที่ครอบคลุมทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็น อาร์คโนว่า อาร์คพอลลิน่า และเทพปีศาจทั้งเจตสิบสองตน เรียกได้ว่าบาอัลขโมยทุกสิ่งทุกอย่างจากโซโลมอน
“ ข้ากลับไปที่โลกปีศาจ และย้อนเวลากลับไปด้วยพลังของอาร์คพอลลิน่า นี่คือเหตุผลว่าทําไมความทรงจําของสิ่งมีชีวิตที่เข้ามาในอันเดอร์เวิล์ดจึงแตกต่างกัน”
อาร์คพอลลิน่า ทูตสวรรค์แห่งกาลเวลา… บาอัลเอ่ยชื่อของทูตสวรรค์ที่มูยองครอบครอง นอกจากนี้ความลับอีกอย่างก็ถูกเปิดเผย ตอนนี้มูยองรู้แล้วว่าทําไมคนที่มาถึงอารามสีครามจึงมีความทรงจําในอดีตที่แตกต่างกัน
“ ข้าไม่สามารถใช้อาร์คโนว่าได้เพราะมันเป็นพลังแห่งปาฏิหาริย์ มันเป็นพลังที่มีเพียงผู้ที่เคยสัมผัสกับปาฏิหาริย์เท่านั้นจึงจะสามารถใช้ได้ และนี้คือเหตุผลที่ข้าปล่อยอาร์คพอลลิน่าไป”
บาอัลพูดราวกับว่าคํานวณทุกอย่างไว้ตั้งแต่แรก อาร์คพอลลิน่ามีพลังแห่งกาลเวลาซึ่งเหมือนมีพลังแห่งปาฏิหาริย์ด้วยตัวมันเอง และมีเพียงผู้ที่ได้รับพลังอํานาจแห่งความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ใช้อาร์คโนว่าได้ ซึ่งนั่นเป็นคุณสมบัติขั้นสุดท้ายที่เจ้าแห่งความมืดทุกตนไม่มี
อย่างไรก็ตามบาอัลเริ่มตั้งคําถามบางอย่าง
“ แต่ช่างน่าแปลกใจนัก อาร์คพอลลิน่าที่แทบจะไร้ซึ่งพลังไม่น่าจะย้อนเวลากลับไปได้อีก….”
“ การที่ฉันตามหาอาร์คโนว่าเป็นแผนของแกด้วยหรือเปล่า?”
มูยองที่ไม่อยากเป็นหุ่นเชิดของใครแทรกถามขึ้น ในขณะที่บาอัลตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ สิ่งมีชีวิตที่ครอบครองอาร์คพอลลิน่าจะได้รับความแข็งแกร่งเมื่อเวลาผ่านไป แต่มันยากที่จะหาตัวตนที่เหมาะสม ข้าใช้เวลานับศตวรรษกว่าจะพบเจ้า ด้วยเหตุนี้ เจ้าจึงแข็งแกร่งกว่าใคร ความแข็งแกร่งที่จะนำหน้าผู้อื่นไปอีกหลายสิบปีในเวลาเพียงหนึ่งหรือสองปี”
สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงเพราะมูยองแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตามมูยองมั่นใจว่าไม่ใช่แค่เพราะอาร์คพอลลิน่า เหตุผลที่มูยองแข็งแกร่งขึ้นเป็นเพราะแรงบันดาลใจจากความสิ้นหวังและความตั้งใจของเขาเองด้วย ซึ่งบาอัลเองก็ยอมรับคุณลักษณะเหล่านี้
“เจ้าทําให้ข้าแปลกใจมาก ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะกลายเป็น “ความผิดปกติ” ได้เร็วขนาดนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณเจ้านะ เพราะนั่นทําให้โซโลมอนติดกับและกลับมาที่โลกปีศาจพร้อมกับเดียโบล”
ดวงตาของบาอัลหันกลับไปที่โซโลมอนในขณะที่ร่างของโซโลมอนสั่นเทา ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความสงบในตัวของโซโลมอนราวกับว่าเขายอมจํานนไปแล้วเมื่อบาอัลปรากฏตัว
“ โซโลมอน เจ้าต้องการเป็นกษัตริย์ที่ชาญฉลาดแต่ผลลัพธ์กลับแตกต่างออกไป แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องน่าอายก็ตามแต่เจ้าก็ยังเป็นอีกครึ่งหนึ่งของข้า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง”
“ เจ้ากับข้าแยกกันมานานเกินไปแล้ว และตอนนี้พวกเราสองคนต่างกัน! เจ้าเชื่อจริงๆ หรือว่าจะสามารถใช้พลังทั้งหมดของข้าได้”
โซโลมอนไม่เห็นด้วยกับบาอัล ในขณะที่บาอัลจ้องไปยังมูยองเป็นคําตอบ
“ นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เราเตรียมภาชนะ” นี่ไว้หรอกหรือ? ”
บาอัลเอื้อมมือออกไปที่โซโลมอน มูยองพยายามยกตาบแห่งความโกรธเกรี้ยวขึ้น แต่ปรากฏว่าตัวของเขาแข็งทื่อไปหมด
“ฉันขยับตัวไม่ได้
มูยองขมวดคิ้ว เขาไม่สามารถต้านทานพลังของบาอัลได้แม้ว่าจะได้รับความเป็นเทพที่แท้จริงแล้วก็ตาม ระหว่างมูยองกับบาอัลมีช่องว่างของพลังมากเกินไป
ส่วนสาเหตุที่บาอัลไม่สามารถสัมผัสโซโลมอนก่อนหน้านี้ได้เป็นเพราะ”เทพในจินตนาการ”อย่างเดียโบล ทว่ามูยองได้ทําลายภาพลวงตาดังกล่าวไปแล้วบาอัลจึงสามารถลงมือได้
ด้วยเสียงกรีดร้องดัง ร่างของโซโลมอนที่เริ่มกลายเป็นหมอกควันถูกลากเข้าหา
บาอัล! เจ้า !!”
สิ้นเสียงสุดท้ายของโซโลมอนบาอัลก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้น
“ เจ้าจะถูกทําให้บริสุทธิ์ภายในภาชนะ” ที่ข้าเตรียมไว้ จากนั้นข้าจะเอาสิ่งที่เหลืออยู่มาใช้ประโยชน์
ร่างของมูยองถูกทําให้ลอยขึ้น จากนั้นบาอัลก็เริ่มฉีดพลังของโซโลมอนเข้าไปในตัวเขา
“การเดินทางอันยาวนานสิ้นสุดลงแล้ว”
หัวสมองของมูยองแทบจะเบิด ในทันทีนั้นเขารู้สึกงุนงงและทําอะไรไม่ถูก
“ทุกอย่างในชีวิตเขาเป็นไปตามแผนของบาอัลงั้นเหรอ?”
มูยองเริ่มตั้งคําถาม เขาไม่สามารถทนได้หากทุกสิ่งที่ทํามาจนถึงทุกวันนี้เป็นสิ่งที่บาอัลตั้งใจสร้างขึ้นมา เขาทุ่มเทวิ่งมาที่นี่โดยไม่หยุดพักและไม่เคยยอมแพ้ก็เพื่อชัยชนะของตนเอง แต่จุดประสงค์การดํารงอยู่ของเขาคือสร้างความผิดปกติและดึงดูดโซโลมอนแค่นั้นเหรอ? มูยองเป็นกับดักที่บาอัลวางไว้เพื่อจุดประสงค์เดียวคือการจับตัวโซโลมอน!
มีเสียงเบาๆดังขึ้นในหัวของมูยอง ตัวตนที่ซ่อนอยู่ในร่างของเขาปรากฏขึ้นในช่วงเวลาที่พลังความเป็นเทพของโซโลมอนกําลังค้นหาจิตวิญญาณของมูยอง
“เจ้าไม่ได้เป็นแค่ภาชนะ และเจ้าเคยสัญญากับข้าว่าจะเอาชนะอุปสรรคและความยากลําบากทั้งหมด ฉะนั้นจงอย่ายอมแพ้”
เสียงของใครกัน? มูยองรู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินมันมาก่อน อย่างไรก็ตามเขาจําไม่ได้ว่าเป็นใคร
“ คิงสเลเยอร์เตรียมปลุกข้าไว้เพื่อเจ้า เขาได้ร่ายเวทย์แห่งกาลเวลาไว้ที่โซโลมอน ทําให้เรายังพอมีเวลาสําหรับบางอย่าง”
ในขณะที่พลังของโซโลมอนผสมเข้ากับมูยอง เวทย์แห่งกาลเวลาที่คิงสเลเยอร์ร่ายใส่โซโลมอนก็ถูกเปิดใช้งาน มันเป็นคําสาปกักขังโซโลมอนผู้ซึ่งสามารถหลบหนีจากข้อจํากัดของเวลา ให้กลับเข้าสู่ความเป็นจริง คําสาปนี้ทําให้ทูตสวรรค์แห่งกาลเวลาอาร์คพอลลิน่าผู้ซึ่งหลับลึกอยู่ในจิตวิญญาณของมูยองตื่นขึ้น
ปีกสีขาวสยายอยู่เหนือศีรษะของมูยอง จากนั้นทูตสวรรค์งดงามกับปีกอันบริสุทธิ์ทั้งแปดข้างก็ปรากฏกายขึ้น
“อาร์คพอลลิน่า!”
บาอัลตะโกนขึ้นเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้
“ บาอัล ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะเป็นไปตามความประสงค์ของเจ้า”
“ แล้วยังไงล่ะ? ตอนนี้เจ้าจะทําอะไรได้? ภาชนะอยู่ในมือของข้าแล้ว บทบาทของเจ้าก็จบสิ้นแล้วเช่นกัน!”
“ มูยองไม่ใช่แค่ภาชนะ เขาคือบางคนที่ยังสูงส่งกว่าเจ้าเสียอีก เขาแค่ต้องเข้าใจอะไรให้มากกว่านี้
อาร์คพอลลิน่าประสานมือของเธอเข้าด้วยกัน ในขณะที่บาอัลยังคงจ้องมองอยู่
“เกิดอะไรขึ้น! นางแพศยาเจ้าทํา…!”
ในขณะนั้นเอง ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง เวลาของบาอัลและมูยองก็หยุดลง แสงทั้งหมดสลายไปจากปีกของอาร์คพอลลิน่าก่อนที่เธอจะร่วงหล่น ด้วยความแข็งแกร่งที่เธอมีเหลืออยู่ทําให้สามารถหยุดเวลาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่นั่นก็เป็นโอกาสเดียวของพวกเขาจริงๆ
“เจ้าต้องการชนะไม่ใช่หรือ? ดังนั้นได้โปรดเอาชนะอย่างที่เจ้าเคยทํามาตลอด”
อาร์คพอลลิน่าเชื่อว่ามูยองจะดูดซับพลังความเป็นเทพของโซโลมอนได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ถูกกลืนกิน อัศวินแห่งความรุ่งโรจน์ใช้ทุกสิ่งที่เขามีเพื่อโอกาสนี้ ดังนั้นเธอจึงเชื่อเช่นเดียวกัน
ทันใดนั้น มูยอง บาอัล และโซโลมอนก็หายตัวไป
“เกิดอะไรขึ้น?
เกรโมรีตกใจไม่ต่างกับปีศาจและเทพปีศาจตนอื่นๆ อย่างไรก็ตามสงครามครั้งนี้ไม่ได้จบลงเพราะพวกเขาทั้งสามหายตัวไป
“ มูยองจะต้องกลับมาอีก เพราะเจ้านั่นไม่มีวันตายหรอก”
ทาร์แคนเดินเข้ามาก่อนพร้อมกับดาบในมือของเขา เขารู้ว่าการสู้รบจะต้องเกิดขึ้นอีกอย่างรวดเร็วในขณะนี้ คริมสันบาร็อค อาชานรกและยูนิคอร์น อันเดธ รวมถึงพวกจิ้งจอกเก้าหางและปีศาจภายใต้คําสั่งของเกรโมรี่ก็รวมตัวอยู่ด้วยกันด้วย
ศัตรูมีจํานวนมากกว่าแต่เกรโมรีก็ไม่ได้อยู่เพียงลําพัง
“ อาม่อน ?”
” อย่าคิดว่าข้าจะเหมือนพวกเจ้า ข้าแค่ไม่อยากตกเป็นเครื่องมือให้กับโซโลมอนหรือบาอัลอีกแล้ว”
อาม่อนมารวมอยู่กับฝั่งข้างเกรโมรี่ เขาเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเพราะมูยอง มูยองทําให้เขาหลุดพ้นจากพันธนาการและตอนนี้อาม่อนเป็นหนึ่งเดียวกับเวทมนตร์อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงเป็นฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ํา เพราะไม่มีใครจาฝ่ายพันธมิตรมาเข้าร่วมกับเกรโมรี่อีกแล้ว ตอนนี้มีทหารเพียงสามหมื่นนายรวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาของอาม่อนที่สามารถร่วมสู้เคียงข้างเกรโมรีได้ ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมีกําลังพลมากกว่าหลายสิบเท่า
“ อาม่อน! นี่เจ้าทรยศเรางั้นหรือ?”
บาร์บาโทสเทพปีศาจตนที่แปดรู้สึกโกรธจนเขาสั่น ในขณะที่อาม่อนส่ายหัวอย่างเป็นชา
“ ข้าไม่เคยให้คํามั่นสัญญาว่าจะภักดีต่อบาอัลตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาก็แค่ใช้ความกลัวของเรากุมอํานาจ”
เทพปีศาจทั้งหมดต่างกัมหัวให้บาอัลเพื่อลดความหวาดกลัวที่มี อาม่อนเองก็ไม่ต่างกัน แต่มันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาจะไม่ถูกครอบงําจากความหวาดกลัว
“ เจ้าเชื่อจริงๆหรือว่าบาอัลทําสิ่งที่ถูกต้อง เราไม่ใช่แมลงที่เขาสามารถจับใส่ลงไปในโถเพื่อให้นห้ำหั่นกันเองเช่นนั้น”
เทพปีศาจทั้งหมดรู้ว่าบาอัลต้องการอะไรจึงไม่มีใครเข้ามาแทรกแซงในสงครามครั้งนี้ พวกเขาเพียงได้รับคําสั่งให้กําจัดเผ่าพันธุ์ทั้งหมดและฝั่งตรงข้าม เพราะพวกเขารู้ว่าบาอัลจะเลือกเพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่รอดเท่านั้นเมื่อเขากลับมา
“ อาม่อน มีเพียงบาอัลเท่านั้นที่สามารถปกป้องเราจากทุกสิ่ง เราจะไม่เสียทุกสิ่งไปอย่างเปล่าประโยชน์อีกต่อไป เราจะไม่ปล่อยให้ชีวิตของเราตกต่ําอีกแล้ว”
แน่นอนว่าอาม่อนเข้าใจความคิดของพวกเขา พวกเขารู้สึกหมดหนทางจากศัตรูที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นทําลายบ้านของพวกเขา และทําให้มีผู้เสียชีวิตจํานวนมาก พวกเขาไม่ต้องการเจอเหตุการณ์เช่นนั้นอีกจึงค้นหาผู้ที่สามารถปกป้องตนเองได้ ทั้งสองฝ่ายมีความคิดที่แตกต่างกันเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
อาม่อนส่ายหัวเบาๆเพราะรู้ดีว่าคําพูดของตนคงไปไม่ถึงพวกเขา บาร์บาโทสพูดอีกครั้ง
“ เราจะกลับไปที่โลก กลับไปที่บ้านของพวกเรา! เพราะฉะนั้นเราจะกําจัดทุกสิ่งที่ขวางทาง เราจะบดขยี้และแย่งชิงทุกอย่างมาแล้วอย่ามาโทษว่าเราไร้ความปราณี”
“ ข้าไม่โทษเจ้าหรอก เพราะหากทุกคนปกติดีคงไม่สามารถอยู่รอดที่นี่ได้”
อาม่อนยอมรับความปรารถนาและความคิดของพวกเขาเหมือนที่เกรโมรี่ทํา เขาไม่สามารถประณามพวกที่ใช้เส้นทางแตกต่างจากตน และเห็นได้ชัดว่ามีเพียงฝ่ายที่ได้รับชัยชนะเท่านั้นที่จะอยู่รอด ทุกฝ่ายต่างเตรียมพร้อมที่จะโจมตีในขณะที่คริมสันบาร็อคส่งเสียงคํารามก้อง
ไม่มีใครล่วงรู้ว่าผู้ใดจะกลับมา ไม่ว่าจะเป็นบาอัล โซโลมอน หรือมูยอง ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดต่างถูกแผดเผาด้วยไฟปรารถนาและอุดมคติของตนเอง