The king of War - บทที่ 1 ส่งตัวเทพสงคราม
บทที่1 ส่งตัวเทพสงคราม
ใกล้มืดค่ำ
ชายแดนเหนือพื้นที่อากาศหนาวจัด
รถจี๊ปสีเขียวทหารคันหนึ่ง วิ่งผ่านท่ามกลางหิมะสีขาว ทำให้หิมะกระจายตัว คนหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านท้าย ขยี้ตาที่เริ่มแดง
ด้านหลังรถจี๊ปมีกลุ่มคนมากมายที่ใส่เสื้อทหารเหมือนกัน มีมากมายจนมองเห็นไม่ทั่วถึงปลายแถวของผู้คน
ตอนนี้ พวกเขาต่างก็ฝ่ามือแนบชิด นิ้วกลางอยู่กลางขมับเท่ากับความสูงคิ้ว ดวงตาเปียกแฉะ และมองรถจี๊ปที่ห่างออกไปเรื่อยๆ
“ส่งตัวเทพสงคราม!”
“ส่งตัวเทพสงคราม!”
……….
ทันใดนั้น ทุกคนตะโกนพร้อมกัน เหมือนกับคลื่นที่กระทบทีละลูก เสียงดังก้องฟ้า
ชายหนุ่มที่ขับรถ มีชื่อว่าหม่าชาว มองดูชายหนุ่มในกระจกมองหลังด้วยดวงตาแดงก่ำและพูดด้วยความฝืนใจ “จอมพลครับ ท่านจะจากไปจริงๆหรอครับ?”
ชายหนุ่มมีชื่อว่าหยางเฉิน เข้าร่วมกองพลทั้งหมด 5 ปีเต็ม และสร้างผลงานที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้
อายุ 27 ปี เป็นจอมพลที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา เฝ้าดูแลพื้นที่ของชายแดนเหนือจิ่วโจว
เมื่อขึ้นเป็นจอมพล ก็ยิ่งมีผลงานนับไม่ถ้วน ฉายานามว่าเทพสงครามผู้ชนะ!
“ชายแดนเหนือในตอนนี้ กลายเป็นเมืองที่มิอาจมีใครสู้ได้แล้ว ยังจะมีใครกล้ามาทำสงครามด้วยอีกงั้นหรอ?”
หยางเฉินพูดจบ ก็เอารูปภาพที่ใส่เสื้อสีขาวพื้นหลังสีแดงออกมา เป็นรูปแต่งงานของใบทะเบียนสมรส
ในรูปคือเขาและหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยสมบูรณ์คนหนึ่ง หญิงสาวดูแล้วอายุประมาณ 20 ต้นๆ ผมยาวๆถูกมัดหางม้าไว้ลวกๆ ดวงตาคม จมูกเป็นสัน ปากอวบอิ่ม มองดูแล้วยังสวยกว่าพวกดาราด้วยซ้ำ
แต่ว่า เธอที่อยู่ในรูป ใบหน้านั้นดูไม่พอใจ
“ฉินซี เธอสบายดีมั้ย?”
หยางเฉินจ้องมองหญิงสาวในรูปแล้วพึมพำเบาๆ
มองดูรูปคู่ที่มีเพียงใบเดียวของพวกเขา มุมปากเขายกยิ้มแสดงออกถึงความสุข ความคิดได้คิดย้อนกลับไปยังอดีต
5 ปีก่อน ฉินซีที่เพิ่งจะขึ้นปีสี่ ได้ก่อตั้งซานเหอกรุ๊ปขึ้นมาเองกับมือ กลายเป็นประธานสาวคนสวยที่ทุกคนในเจียงโจวรู้จัก
ในช่วงเวลาตอนที่ซานเหอกรุ๊ปเติบโตได้ดีที่สุด เธอเจอเข้ากับการลอบทำร้าย ถูกวางยา และเกิดมีความสัมพันธ์กับรปภ.ของซานเหอกรุ๊ป
และรปภ.ที่ “โชคดี” คนนี้ก็คือหยางเฉิน
“สาวสวยอันดับหนึ่งของเจียงโจว มีความสัมพันธ์ข้ามคืนกับรปภ.ของบริษัท!”
หยางเฉินและฉินซียังไม่ทันเดินออกจากโรงแรม ก็กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของเจียงโจวไปแล้ว มีสำนักข่าวมากมายเผยแพร่ข่าว
เพียงไม่นาน บุคคลอันดับต้นของเจียงโจวจนถึงประชาชนทั่วไป ก็รับรู้ว่าคนสวยอันดับหนึ่งของเจียงโจวนอนกับรปภ.ของบริษัท
เพียงคืนเดียว หุ้นของซานเหอกรุ๊ปก็ลดลงอย่างมาก
เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด คนในตระกูลฉินมาหาหยางเฉิน เพื่อให้เขาแต่งเข้าบ้าน
ข่าวที่ทั้งสองคนแต่งงาน ถูกแพร่สะพัด เพียงชั่วครู่ ก็สะเทือนไปทั่วเจียงโจว ส่วนตระกูลฉิน ก็กลายเป็นตัวตลกเพราะเหตุนี้
แต่ว่าหลังแต่งได้ไม่นาน หยางเฉินก็หายตัวไปไม่ลา เพื่อรอว่าสักวันเขาจะเป็นคนที่สามารถเหมาะสมกับฉินซี
5 ปีมานี้ เงาที่สวยงามนั้นโผล่มาในสมองของเขาเสมอ เป็นแรงผลักดันให้เขาเดินหน้าสู่ความสำเร็จ
แต่ว่า ทุกครั้งที่คิดถึงผู้หญิงคนนี้ ในใจของหยางเฉินก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
…………
หลังจากนั้นสามวัน สนามบินนานาชาติเจียงโจว เครื่องบินโบอิง747ค่อยๆลงจอดสู่พื้นดิน
“ในที่สุดก็กลับมาแล้ว!”
หยางเฉินก้าวเท้าเดินลงบันได ก้าวเข้าสู่พื้นดินของเจียงโจว ใบหน้าแสดงออกถึงรอยยิ้มที่ห่างหายไปนาน
“แง้! แม่จ๋า แม่อยู่ไหน?”
หยางเฉินเพิ่งเดินออกจากสนามบิน ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กสาวคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อยู่ๆในใจเขาก็รู้สึกเกร็ง
“จอมพลครับ…..”
หม่าชาวกำลังจะพูด แต่ก็ถูกหยางเฉินตัดบท “ตั้งแต่วินาทีที่ฉันก้าวออกจากชายแดนเหนือ ฉันก็ไม่ใช่จอมพลอีกต่อไป คำเรียกนี้ ห้ามเรียกอีกเด็ดขาด!”
มองดูใบหน้าที่จริงจังของหยางเฉิน หม่าชาวก็ตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้ แล้วก็ลองเรียกว่า “พี่เฉิน?”
เห็นหยางเฉินไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไร เขาถึงได้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เฉินครับ เด็กผู้หญิงคนนั้นหน้าตาคล้ายพี่มากเลย คงไม่ได้เป็นญาติกันหรอกใช่มั้ยครับ?”
หยางเฉินมองไปที่ตัวเด็กสาว แต่สายตาที่มองไปก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายกลับมาได้อีก ความรู้สึกคุ้นเคยพุ่งขึ้นมา
โดยเฉพาะท่าทางที่เด็กสาวร้องไห้ ใจของเขาก็เหมือนจะเจ็บปวดตามไปด้วย
คล้ายว่ารู้สึกเหมือนกัน อยู่ๆเด็กสาวก็หยุดร้องไห้ แล้วมองหยางเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จ้องตากัน ทำให้หยางเฉินเห็นหน้าตาของเด็กสาวได้ชัดเจนขึ้น ความรู้สึกคุ้นเคยนั้นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ใบหน้าเล็กๆที่สวยสมบูรณ์ ผิวพรรณผ่องใสนุ่มนวล ดวงตาโตเป็นประกายวิบวับ ขนตายาวที่มีแต่น้ำตาติดอยู่
เด็กสาวน่าจะอายุประมาณ 4 ขวบ ถึงแม้จะเด็กมาก แต่ก็เป็นสาวน้อยที่สวยงามแล้ว โตแล้วจะต้องเป็นสาวงามมากแน่นอน
“พ่อจ๋า!”
อยู่ๆเด็กน้อยก็ตะโกนขึ้น
หยางเฉินยังไม่ทันรู้สึกตัว เด็กน้อยก็วิ่งเข้ามากอดขาเขาด้วยใบหน้าที่มีความสุข
ผึ่ง!
ในตอนนี้ หยางเฉินรู้สึกสมองขาวโพลน
หม่าชาวที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึง ปากขยับพูดขึ้นว่า “เด็กคนนี้คงไม่ใช่ลูกสาวของพี่เฉินจริงๆหรอกใช่มั้ยครับ?”
ผ่านไปสักพัก หยางเฉินถึงจะรู้สึกตัว เขาย่อตัวลง มองดูเด็กสาวที่มองตัวเองด้วยดวงตาเป็นประกาย แล้วก็พูดอย่างอ่อนโยนว่า “สาวน้อย หนูจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่พ่อของหนู!”
“แง้!”
ใครจะรู้ว่าเมื่อหยางเฉินเพิ่งพูดจบ เด็กสาวก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ แล้วก็ร้องไห้และพูดไปด้วยว่า “พ่อจ๋าไม่เอาหนูแล้ว!พ่อจ๋าไม่เอาหนูแล้ว!”
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างก็หันมาดู แล้วก็ต่อว่าหยางเฉิน
เห็นเด็กน้อยร้องไห้อีกครั้ง หยางเฉินรู้สึกเหมือนตัวเองจะใจสลาย ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
เขาที่เป็นถึงจอมพลของชายแดนเหนือ ทำให้คนกลัวนับไม่ถ้วน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกทำอะไรไม่ถูกต่อหน้าเด็กน้อยอายุ 4-5 ขวบ ถ้ามีข่าวลือออกไปคงจะทำให้ผู้คนตกใจไม่น้อย
“สาวน้อย ฉันไม่ใช่พ่อของหนูจริงๆ!”
“แง้…..พ่อจ๋าไม่เอาหนูแล้ว…..”
ทุกครั้งที่หยางเฉินอ้าปากพูด สาวน้อยก็จะร้องไห้หนักกว่าเดิม
หลังจากนั้นห้านาที
ในที่สุดหยางเฉินที่เหงื่อท่วมหัวก็ยอมแพ้ แล้วอุ้มสาวน้อยขึ้นมา
ดวงตาโตที่เต็มไปด้วยน้ำตาของสายน้อยจ้องมองหยางเฉิน ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ มือคู่นั้นจับเสื้อของหยางเฉินไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เหมือนกลัวว่าจะทิ้งตัวเองไว้
“พี่เฉินครับ ในเมื่อสาวน้อยคนนี้ชอบพี่ขนาดนี้ พี่ก็เป็นพ่อให้เธอจริงๆซะเลยสิครับ”
หม่าชาวพูดยิ้มๆ เมื่อเห็นหยางเฉินใช้สายตาคมกริบเหมือนดั่งมีดมองมาที่ตัวเองจึงรีบหุบปากเงียบ
เมื่อไม่มีทางเลือก หยางเฉินก็อุ้มสาวน้อยไปที่สำนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
สาวน้อยก็ร้องไห้อีกครั้ง แต่หยางเฉินก็ใจแข็งพาหม่าชาวจากมา
แต่เมื่อทั้งสองเพิ่งจากไป หญิงสาวผมยาวคนหนึ่งที่ใส่เสื้อทำงานรัดรูปสีดำก็รีบวิ่งไปยังที่สำนักงานรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
“เสี้ยวเสี้ยว!”
เมื่อเธอเห็นสาวน้อยที่กำลังร้องไห้งอแง ก็น้ำตาไหลทันที รีบพุ่งตัวเข้าไปกอดสาวน้อยไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยมืออีก
สำหรับเธอแล้วสาวน้อยก็คือชีวิตของเธอ
ห้าปีก่อนหลังจากที่เธอแต่งงานได้ไม่นาน ก็รู้ตัวว่าท้อง ส่วนผู้ชายคนนั้น อยู่ๆก็หายตัวไป จนคุณแม่บอกกับเธอว่าคนๆนั้นขอเงินจากคุณพ่อไปห้าแสนแล้วก็จากไป
เธอในตอนนั้นรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย แต่เมื่อคิดถึงชีวิตน้อยๆที่อยู่ในท้อง เธอจึงพยายามผ่านมาได้
ห้าปีมานี้ เธอโดนดูถูกมากมาย แม้กระทั่งธุรกิจที่ก่อตั้งเองกับมือ ก็ถูกตระกูลแย่งไปในขณะที่เธอกำลังตั้งท้อง ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นทั้งนั้น
เธอเกลียดคนๆนั้น คนที่จากไปโดยไม่ลา ผู้ชายคนที่หายไปห้าปี
“แม่จ๋า เสี้ยวเสี้ยวเจอคุณพ่อแล้ว!”
สาวน้อยพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย จากนั้นก็เบะปากอยากจะร้องไห้อีกรอบ “แต่ว่า คุณพ่อไม่เอาหนูแล้ว!”
ได้ยินคำพูดของสาวน้อย ร่างกายของหญิงสาวผมยาวกระตุกเหมือนถูกฟ้าผ่า ดวงตาเหม่อลอยในทันที