The king of War - บทที่ 1011 วาระสุดท้ายของตระกูลซุน
ว่ากันว่า มือสังหารชั้นสูงที่แท้จริงของหงเฉิน ความจริงบรรลุถึงแดนเทพแล้ว แต่ว่าตระกูลคิงเฉา กลับไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาสักคน
หลายปีมานี้ เขายังไม่เคยได้ยินว่า ตอนที่มือสังหารหงเฉินปฏิบัติภารกิจ จะล้มเหลวติดต่อกันถึงสองครั้ง
ประเด็นสำคัญคือ สองครั้งต่อเนื่องนั้น มือสังหารของหงเฉินล้วนตายอยู่ในมือของหยางเฉิน
“วันนี้เป็นนักฆ่าของหงเฉินติดต่อฉันมาเอง ให้ฉันคิดวิธีหลอกหยางเฉินเข้าไปในที่อับจน จากนั้นฉันเลยจงใจให้ความร่วมมือกับฉินชาง จับตัวพ่อตาของหยางเฉินเข้ามาแล้ว เพียงแต่นึกไม่ถึงว่า ดันพาตัวลูกสาวของหยางเฉินมาด้วยกันด้วย”
ซุนจื้อเจียวหน้าตายิ้มแย้ม “แต่ว่าเป็นแบบนี้ก็ดี มีลูกสาวของหยางเฉินอยู่ หยางเฉินคงไม่มีทางทำอะไรได้แน่ เผชิญหน้ากับนักฆ่าของหงเฉิน เขามีเพียงตายสถานเดียว”
“ป้าบ!”
ใครจะรู้ว่าทันทีที่ซุนจื้อเจียวเพิ่งพูดจบ บนหน้าก็โดนเฉาจื้อตบมาทีหนึ่ง
“นังแพศยา เธอพูดอะไร? เธอให้ฉินชางหลอกพ่อตากับลูกสาวของหยางเฉินมาที่หลบภัยใต้ดินของตระกูลซุน?”
เฉาจื้อดวงตาแดงก่ำ สอบถามด้วยเสียงโมโห ในสายตาเต็มไปด้วยแรงอาฆาตรุนแรง
“คุณชายเฉา!”
ทันใดนั้นซุนจื้อเจียวกลัวแล้วเหมือนกัน พูดจาแบบสั่นเครือ “คุณชายเฉาคะ ฉันทำแบบนี้ ก็เพื่อคุณด้วยนะคะ!”
“เพื่อฉัน? เธออยากให้ฉันตายรึไง?”
เฉาจื้อพูดอย่างโกรธเคือง “เธอทำแบบนี้ หยางเฉินตายแล้วก็จบไป แต่ถ้าเกิดเขารอดมาได้ ต้องตรวจสอบมาถึงตัวพวกเราแน่”
“ถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่ฉันก็ยากจะหนีความผิดได้!”
ซุนจื้อเจียวทำหน้ายืนยันพูดว่า “คุณชายเฉา คุณวางใจได้เลยค่ะ หยางเฉินต้องไม่รอดแน่!”
“หุบปากไปเลย!”
เฉาจื้อตะโกนมาทีหนึ่ง รีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า
ตอนนี้ ในใจเขาสับสนอย่างมาก หยางเฉินทำให้เขารู้สึกแปลกมากๆ เขามีลางสังหรณ์บางอย่างว่าครั้งนี้หยางเฉินจะสามารถรอดมาได้
ฉินชางเป็นคนตระกูลชั้นนำของเมืองคิงเฉา และเป็นคนของเขาเฉาจื้อด้วย ต่อให้มือสังหารของหงเฉินกับตระกูลเฉาและตระกูลฉินไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ถ้าเกิดหยางเฉินรอดชีวิตได้ ต้องคิดบัญชีแค้นนี้ไว้บนหัวของเขาแน่
“คุณชายเฉา นี่คือคุณจะไปไหนคะ?”
ซุนจื้อเจียวเห็นเฉาจื้อจะไป จึงรีบถามทันที
“ไสหัวไปซะ!”
เฉาจื้อผลักซุนจื้อเจียวออกทีหนึ่ง จากนั้นออกไปทันที
ตอนนี้เขาคิดแค่ว่าอยากจะรีบออกจากตระกูลซุน ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดหยางเฉินรอดชีวิตเดินออกมาจากที่หลบภัยใต้ดินของตระกูลซุนได้ ต่อให้เขาอยากออกไปแค่ไหน เกรงว่าคงจะยากแล้ว
ทันใดนั้นซุนจื้อเจียวมึนงง ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่า เฉาจื้อจะหวาดกลัวขนาดนี้
ในขณะเดียวกัน หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลซุน ประตูโลหะผสมอันใหญ่โต ทันใดนั้นค่อยๆ เปิดออก
ทันใดนั้น ทุกคนของตระกูลซุน ล้วนประหม่าขึ้นมา พวกเขาอยากรู้มากว่า คนที่เดินออกมา สรุปเป็นใครกัน
ซุนซวี่ในฐานะผู้นำ ยิ่งประหม่าแบบไร้ที่เปรียบ ดวงตาทั้งสองจ้องทางออกไม่กะพริบ ในใจยังมีความกังวลระดับหนึ่ง
ระดับสูงของตระกูลซุนคนอื่นๆ ก็อารมณ์แบบเดียวกัน ไม่มีสักคนหวังว่าคนที่เดินออกมาจะเป็นหยางเฉิน
“ตึง!”
ในที่สุดประตูใหญ่ของที่หลบภัยเปิดออกจนสุด เห็นเพียงภาพคนที่อุ้มเด็กน้อยคนหนึ่ง ในอ้อมอกอุ้มเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งไว้ ด้านข้างยังมีชายวัยกลางคนที่บาดเจ็บไปทั้งตัวคนหนึ่ง
“หยางเฉิน!”
ในที่สุดคนตระกูลซุนมองเห็นใบหน้าของหยางเฉินแล้ว แต่ละคนสีหน้าตื่นตกใจ
ซุนซวี่รู้สึกเพียงแขนขาอ่อนแรงไปหมด เท้าซวนเซ ถอยหลังไปหลายก้าวในชั่วพริบตาเดียว
การปรากฏตัวของหยางเฉิน นั่นอธิบายได้ว่า มือสังหารลึกลับสามคนก่อนหน้านั้น ล้วนตายอยู่ภายในที่หลบภัยแล้ว มิฉะนั้นหยางเฉินพวกเขาจะเดินออกมาได้อย่างไร?
หาฉินต้าหย่งและเสี้ยวเสี้ยวเจอจากที่หลบภัยใต้ดินของตระกูลซุน ตอนนี้หยางเฉินรอดชีวิตเดินออกมาได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่า ต่อจากนี้ไป ตระกูลซุนต้องเผชิญหน้ากับอะไร?
หยางเฉินไม่ได้ใส่ใจสีหน้าของตระกูลซุนทั้งหมดที่เปลี่ยนไป มือหนึ่งอุ้มเสี้ยวเสี้ยวไว้ มือหนึ่งพยุงฉินต้าหย่ง
ฉินต้าหย่งเจ็บหนักมาก ถึงตอนนี้ยังสามารถเดินได้ ก็ต้องใช้ความพยายามสุดกำลัง
“เร็วๆๆ! ทีมแพทย์ของตระกูลซุนล่ะ? รีบออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
หลังจากอึ้งทึ่งช่วงสั้นๆ ซุนซวี่รีบตวาดเสียงดังขึ้นมา
หลังจากเสียงของเขาจบลง สมาชิกทีมแพทย์ตระกูลซุนที่สวมชุดกาวน์สามสี่คนพุ่งออกมาแล้ว
“คุณหยางครับ นี่คือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ที่พวกเราตระกูลทุ่มเงินจ้างมาครับ ให้พวกเขารีบช่วยตรวจดูลูกสาวและพ่อตาของคุณดูดีกว่าครับ!”
ซุนซวี่พุ่งไปตรงหน้าหยางเฉิน พูดจาด้วยท่าทีเคารพนบนอบอย่างยิ่ง
ซุนซวี่ที่เมื่อสักครู่ยังภาวนาให้หยางเฉินตายอยู่ในที่หลบภัย เวลานี้สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ บนหน้ากล้าเผยสีหน้าผิดปกติสักนิดที่ไหน?
อยากคุกเขาอ้อนวอนแทบเท้าหยางเฉินจนใจแทบขาด
ระดับสูงทั้งหมดของตระกูลซุนล้วนตกใจค้างแล้ว แต่พอนึกถึงตำแหน่งของหยางเฉินที่เมืองเยี่ยนตูในปัจจุบันนี้ และยังรอดชีวิตเดินออกมาจากในมือของมือสังหารชั้นสูงสามคน ทุกอย่างนี้ล้วนอธิบายความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของหยางเฉินได้แล้ว
ถึงแม้พวกเขาจะอยากให้หยางเฉินตาย ก็ไม่กล้าพูดออกมา
หยางเฉินมองซุนซวี่แบบเย็นชาแวบหนึ่ง และไม่ได้ขัดขวาง วางลูกสาวไว้บนเปลหามด้านข้าง “ถ้าลูกสาวฉันมีอันเป็นไป ฉันจะถล่มตระกูลซุนของแกพังให้หมด!”
“ครับๆๆ!”
ซุนซวี่ตกใจจนเหงื่อแตกเต็มหน้า รีบตะโกนบอกผู้เชี่ยวชาญของทีมแพทย์ “ยังไม่รีบตรวจดูลูกสาวของคุณหยางอีก”
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนรีบเข้าไปทันที ตรวจอาการให้เสี้ยวเสี้ยวขึ้นมาอย่างละเอียด
ขณะเดียวกัน ยังมีสมาชิกแพทย์พยาบาลสองสามคน เริ่มจัดการบาดแผลให้ฉินต้าหย่ง
ทั่วทั้งตัวฉินต้าหย่งมีแต่บาดแผล เดาว่ากระดูกซี่โครงหักไปหลายท่อน ดูขึ้นมาทั้งตัวแล้วอ่อนแรงอย่างยิ่ง โดยรอบดวงตาบวมนูนขึ้น
ดูขึ้นมา น่าเวทนาจนทนมองไม่ได้
ทีมแพทย์ของตระกูลซุนต่างล้อมเสี้ยวเสี้ยวและฉินต้าหย่งไว้แล้วดำเนินการตรวจและรักษา
หยางเฉินจ้องมองอยู่ด้านข้าง ถ้าไม่ใช่เป็นห่วงเสี้ยวเสี้ยวสลบไปนานเกินจนจะเกิดเรื่องขึ้น เดิมทีเขาคงจะไม่ให้เสี้ยวเสี้ยวรับการตรวจของทีมแพทย์ตระกูลซุน
ไม่นาน ผู้เชี่ยวชาญที่ใส่แว่นตากรอบทองคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้ว มองทางหยางเฉินแล้วบอกว่า “คุณหยางครับ ท่านวางใจได้ครับ ร่างกายลูกสาวของท่านไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพียงแค่ได้รับความตกใจกะทันหันจึงสลบไป ขอเพียงท่านยินยอม ผมสามารถทำให้เธอฟื้นขึ้นมาตอนนี้ได้ครับ”
“งั้นก็ทำให้เธอรีบฟื้นขึ้นมาสิ!”
หยางเฉินตะโกนใส่
เพราะเป็นห่วงเสี้ยวเสี้ยว ถึงให้ทีมแพทย์ตระกูลซุนดำเนินการรักษา นึกไม่ถึงตาแก่คนนี้ยังไม่รีบช่วยให้เสี้ยวเสี้ยวฟื้นขึ้นมา แต่กลับยังมาถามความเห็นของหยางเฉิน
ซุนซวี่ตะโกนอย่างโมโหเช่นกัน “แกแม่งมันโง่เง่าเหรอ? ให้พวกแกรักษาลูกสาวกับพ่อตาของคุณหยาง นั่นคือต้องรักษาพวกเขาให้ดี”
“ครับๆๆ ผมจะทำให้ลูกสาวของคุณหยางฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ครับ”
ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้ว รีบเข้าไปรักษาให้เสี้ยวเสี้ยว
เห็นเพียงหลังจากเขาบิดตรงจุดร่องตรงแนวกลางริมฝีปากบนของเสี้ยวเสี้ยวสักครู่ เสี้ยวเสี้ยวก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นแล้ว
“ฮือ……”
ใครจะรู้ว่าพอเสี้ยวเสี้ยวเพิ่งฟื้นขึ้น ก็ส่งเสียงร้องไห้ดังขึ้นมา
หยางเฉินขยับเท้า รีบปรากฏตัวด้านข้างลูกสาวทันที อุ้มลูกสาวขึ้นมาแล้ว “เสี้ยวเสี้ยวไม่ร้อง ปะป๊าอยู่ที่นี่ไง!”