The king of War - บทที่ 1023 อู่เลี่ยลงมือ
หลังจากเสียงพูดของผู้อาวุโสหลังค่อมจบลง ชั่วขณะนั้นลักษณะพลังที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากบนตัวผู้อาวุโสชุดจีนโบราณ พิณโบราณใต้มือทั้งสองของเขา อยู่ภายใต้ลักษณะพลังยิ่งใหญ่นี้ หักออกไปสองส่วนในชั่วพริบตาเดียว
ผู้อาวุโสเดิมลำตัวค่อมอยู่แล้ว เวลานี้ร่างกายยิ่งโค้งงอหนักกว่าเดิม เหมือนมีเพียงแบบนี้ ถึงสามารถยืนนิ่งอยู่ที่เดิมได้
“ฉินชางลูกชายฉัน ตายแล้ว?”
ในสายตาผู้อาวุโสชุดจีนโบราณเต็มไปด้วยความโกรธเคือง กัดฟันพูดว่า “เมืองเยี่ยนตูเล็กๆ ใครฆ่าเขาได้?”
ผู้อาวุโสชุดจีนโบราณ เป็นผู้นำของตระกูลฉินแห่งเมืองคิงเฉา ฉินหรูเฟิง
หลังจากรับรู้ว่าลูกชายคนสำคัญสุดของตนเองเสียชีวิตอยู่เมืองอื่นแบบกะทันหัน เขาโกรธแค้นอย่างมาก
“เมืองเยี่ยนตู หยางเฉิน!”
ผู้อาวุโสหลังค่อมพูดด้วยเสียงระมัดระวัง “ครั้งนี้มีข่าวแพร่จากเมืองเยี่ยนตูว่ามีคนอยากเป็นคิง คนที่พูดถึงก็คือเขาครับ!”
“ตามข่าวที่มาจากตระกูลคิงเฉา ฉินชางได้ร่วมมือกับนักฆ่าสามคนของหงเฉิน ปรากฏว่าพวกเขาล้วนโดนหยางเฉินฆ่าตายทั้งหมด!”
ผู้อาวุโสหลังค่อมเป็นพ่อบ้านของฉินหรูเฟิง ได้รับความสำคัญจากฉินหรูเฟิงอย่างมาก
เวลานี้หลังได้ยินคำพูดของพ่อบ้านแล้ว ฉินหรูเฟิงสีหน้าอึมครึมถึงขีดสุด ถึงแม้เขาจะโมโหเดือดดาล แต่กลับไม่ได้เสียสติสัมปชัญญะเพราะเหตุนี้
ฉินชางเป็นลูกชายของเขา ความสามารถเก่งมากแค่ไหน เขาย่อมรู้แจ่มชัด
แต่หงเฉินเป็นองค์กรมือสังหารแห่งหนึ่ง เขาย่อมเคยได้ยินมาเช่นกัน เป็นองค์กรมือสังหารแนวหน้านอกเขตแห่งหนึ่ง
ปัจจุบันนี้ แม้แต่มือสังหารสามคนที่หงเฉินส่งออกมา ล้วนโดนหยางเฉินฆ่าทิ้งด้วยตัวคนเดียวอย่างนั้นเหรอ?
ฉินชางเดิมมีความสามารถแดนราชาขั้นกลาง พูดให้ถูกต้อง คือผู้แข็งแกร่งที่อีกครึ่งก้าวจะเข้าสู่แดนราชาขั้นปลาย เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งฆ่ามือสังหารแดนราชาขั้นปลายที่มาโจมตีตระกูลฉินคนหนึ่งแล้ว
แต่ว่าถึงเป็นเช่นนี้ ฉินชางก็โดนฆ่าแล้ว ทั้งยังโดนคนคนเดียวกันกับที่ฆ่ามือสังหารชั้นสูงของหงเฉินสามคนด้วย
นี่ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ หยางเฉินที่พ่อบ้านพูดถึงนั้น อย่างน้อยความสามารถอาจอยู่แดนราชาขั้นปลาย แม้กระทั่งเป็นแดนราชาสูงสุด
ผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดคนหนึ่ง เดิมทีไม่ใช่การมีอยู่ที่ตระกูลฉินสามารถรับมือได้ในตอนนี้
ในเวลานี้ คนใช้ของตระกูลฉินคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้ว ยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้พ่อบ้านแล้ว
หลังจากพ่อบ้านอ่านเอกสาร ชั่วขณะนั้นสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่
“ผู้นำครับ นี่คือสิ่งที่ตระกูลคิงเฉาส่งมาครับ ล้วนเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับหยางเฉิน”
พ่อบ้านรีบเข้ามาทันที ใช้มือทั้งสองยื่นเอกสารให้ฉินหรูเฟิงแล้ว
“ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายที่อายุไม่ถึงยี่สิบแปดปีเต็ม ยังเป็นอัจฉริยะวิถีบู๊คนหนึ่งจริงๆ!”
หลังฉินหรูเฟิงอ่านเอกสารเสร็จ บนหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
ข้อมูลบนเอกสารครบถ้วนมาก รวมทั้งทุกอย่างที่หยางเฉินประสบพบเจอมาที่เมืองเยี่ยนตู ล้วนอยู่ในเอกสาร
แต่พวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉินหรูเฟิงสนใจ สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงจุดเดียว นั่นคือความสามารถของหยางเฉิน
“ผู้นำครับ คนนี้ความสามารถแกร่งมาก เป็นคนของตระกูลบู๊โบราณหรือเปล่าครับ?”
พ่อบ้านถามด้วยท่าทางกังวล
ฉินหรูเฟิงไม่ได้ตอบคำถามข้อนี้ แต่ว่าพูดด้วยเสียงเย็นชา “ฉันไม่สนว่ามันเป็นใคร มันกล้าฆ่าลูกชายฉัน งั้นจำเป็นต้องตาย!”
“ไปบอกอู่เลี่ย ให้เขารีบเริ่มออกเดินทาง ไปยังเมืองเยี่ยนตู ฉันอยากได้หัวของหยางเฉิน!”
พอได้ยิน พ่อบ้านทำหน้าตื่นตกใจ อู่เลี่ยเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของตระกูลฉิน ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายโดยแท้จริง ลือกันว่า อู่เลี่ยอีกครึ่งขั้นก็จะเข้าสู่แดนราชาสูงสุดแล้ว
ต่อให้เป็นฉินหรูเฟิง ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่แข่งของอู่เลี่ย
เพราะฉินหรูเฟิงเคยช่วยชีวิตของอู่เลี่ยไว้ ดังนั้นหลายปีมานี้ อู่เลี่ยจึงทำงานเพื่อฉินหรูเฟิงมาโดยตลอด
หลายปีมานี้ เคยแอบทำธุระเพื่อฉินหรูเฟิงมามากมาย
“ผู้นำครับ ถ้าอู่เลี่ยออกไป ท่านจะทำอย่างไรครับ?”
พ่อบ้านทำหน้ากังวลใจถามขึ้น
เพราะการมีอยู่ของอู่เลี่ย ทำให้ศัตรูตระกูลฉินมากมาย ล้วนไม่กล้าบุ่มบ่ามกัน
ถ้าเกิดอู่เลี่ยออกไปจากตระกูลฉิน ใครก็ไม่อาจรับรองได้ว่า จะไม่มีศัตรูบุกมาฆ่าในตระกูลฉิน
ตึง!
คำพูดของพ่อบ้านเพิ่งจบ ลักษณะพลังอันน่าสยองขวัญก็ระเบิดออกมาจากบนตัวของฉินหรูเฟิง
“เพล้งๆๆ!”
เห็นเพียง สิ่งของทุกอย่างที่เป็นกระจกภายในห้อง ชั่วพริบตาเดียวพังทลายแล้ว
พ่อบ้านเบิกดวงตาโตในทันใด หน้าตื่นตระหนกเต็มที่ พูดจาแบบสั่นเครือ “ผู้นำ ท่าน ท่านบุกทะลวงถึงแดนราชาสูงสุดแล้ว?”
ไม่เพียงแค่ตื่นตกใจ ยังมีความตื่นเต้นอีกด้วย
ลักษณะพลังบนตัวฉินหรูเฟิงค่อยๆ เลือนหาย พูดแบบหน้าตาเฉยเมย “ต่อให้อู่เลี่ยไม่อยู่ จะมีใครกล้าเข้ามาตระกูลฉินของฉัน?”
ถึงแม้ไม่ได้ตอบพ่อบ้านว่า เขาจะบุกทะลวงถึงหรือไม่ แต่คำพูดของเขา กลับแจ่มแจ้งอยู่แล้ว ความสามารถของเขาบรรลุถึงแดนราชาสูงสุด
“ครับ ผมจะไปแจ้งให้อู่เลี่ยทราบเดี๋ยวนี้ ให้ไปฆ่าคนที่เมืองเยี่ยนตู!”
พ่อบ้านรีบบอกทันที จากนั้นหมุนตัวออกไป
ปัจจุบันนี้ตระกูลเดอะคิงทั้งห้าแห่งจิ่วโจว กษัตริย์ของตระกูลเดอะคิงแต่ละคน ล้วนมีความสามารถของแดนราชาสูงสุด ปัจจุบันนี้ความสามารถของฉินหรูเฟิง ก็บรรลุถึงแดนราชาสูงสุดแล้ว
ต่อให้เป็นตระกูลเดอะคิง อยากจะแตะต้องตระกูลฉิน ก็ต้องชั่งใจดูหน่อยว่าตระกูลเดอะคิงยอมรับความโกรธของเขาฉินหรูเฟิงไหวหรือไม่
เมืองเยี่ยนตู ยอดเมฆา
เพราะการยืนหยัดของฉินต้าหย่ง หยางเฉินพวกเขาจึงได้เพียงกลับบ้าน
“พี่เขย เป็นเพราะพ่อฉันล่วงเกินคนอื่นตอนอยู่เจียงโจวแล้ว เลยโดนแก้แค้นจริงเหรอ?”
กลับถึงที่บ้าน ฉินยีถามด้วยหน้าตากังวล
ฉินซีก็มองทางหยางเฉินเช่นกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความกังวลใจ
หยางเฉินพยักหน้าแล้ว “พวกเธอทำใจให้สบายก็พอ เรื่องวุ่นวายแก้ไขแล้ว ต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบวันนี้ขึ้นอีก”
ในใจเขาแอบคิดว่า ฉันเพียงแค่บอกว่าเรื่องวุ่นวายแก้ไขแล้ว นี่ไม่ถือว่าหลอกลวงฉินยีกับฉินซีหรอกกระมัง?
“คนพวกนี้ยังเลวทรามจริงๆ นึกไม่ถึงทำพ่อเจ็บหนักขนาดนี้”
ฉินซีกัดฟันแน่น หน้าตาโมโหเต็มที่
“วางใจได้ค่ะ คุณลุงได้รับบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น เพียงแค่โรงพยาบาลพันแผลมากเกินไป เลยดูขึ้นมาเหมือนว่าบาดเจ็บค่อนข้างหนัก”
ในเวลานี้เอง เสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นทันหัน “อยู่ที่ฉันยังมียาทาบางส่วนที่คุณปู่เหลือไว้ให้ก่อนตาย บวกกับวิชาการแพทย์บางส่วนที่คุณปู่ถ่ายทอดให้ฉัน ไม่เกินครึ่งเดือน ก็ทำให้คุณลุงฉินแข็งแรงกลับบ้านได้แล้วค่ะ”
คนที่พูดจาคือเฝิงเสียวหว่าน จนถึงตอนนี้ ฉินซีและฉินยีเพิ่งมองทางเฝิงเสียวหว่าน
ก่อนหน้านี้ที่โรงพยาบาล พวกเธอมองเห็นเฝิงเสียวหว่านแล้ว เพียงแค่จิตใจของพวกเธออยู่บนตัวของฉินต้าหย่ง ย่อมเพิกเฉยต่อหญิงสาวที่ดูเหมือนอายุยี่สิบต้นๆ คนนี้เป็นธรรมดา
“หยางเฉิน หล่อนคือ?”
ฉินซีมองทางหยางเฉินแล้วถามไป
ฉินยีทำหน้าไม่เป็นมิตร และจ้องหยางเฉินอยู่
หยางฉินรีบอธิบายทันที “หล่อนเชื่อเฝิงเสียวหว่าน คุณปู่ของหล่อนเป็นหมอวิเศษคนหนึ่ง คุณปู่ใหญ่ของหล่อน เคยเป็นหัวหน้าตอนที่ผมอยู่ชายแดนเหนือ”
“หล่อนได้รับการสืบทอดวิชาการแพทย์ของหมอเทวดาเฝิง ในเมื่อหล่อนบอกว่าสามารถทำให้พ่อแข็งแรงกลับบ้านได้ในครึ่งเดือน จะต้องไม่มีปัญหาแน่นอน”
หยางเฉินหลีกเลี่ยงการพูดถึงประเด็นสำคัญเพียงแค่คุยเรื่องอื่นแทน ได้แต่อธิบายฝีมือการแพทย์ของเฝิงเสียวหว่านว่าเก่งกาจมาก แต่กลับไม่รู้ว่าควรอธิบายว่าเขายอมรับเฝิงเสียวหว่านเป็นน้องสาวอย่างไรแล้ว
“หล่อนเพิ่งมาเมืองเยี่ยนตู ยังไม่มีที่ไปชั่วคราว เดิมทีผมคิดจะหาบ้านข้างนอกให้หล่อน แต่นึกถึงว่าหลายวันนี้พ่อไม่มีทางดูแลเสี้ยวเสี้ยวได้ เลยคิดว่าจะให้หล่อนพักอยู่ที่บ้านชั่วคราว ช่วยดูแลเสี้ยวเสี้ยวช่วงหนึ่ง”
หยางเฉินพูดแบบหวาดผวาอยู่บ้าง “รอพ่อแข็งแรงดี ค่อยหาบ้านข้างนอกให้หล่อน”
ฟังคำอธิบายของหยางเฉินแล้ว ฉินซีกลับไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เป็นฉินยี ตอนที่มองทางเฝิงเสียวหว่าน ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฝิงเสียวหว่านอายุน้อยมาก และหน้าตาสวยงามมากด้วย ตอนที่มองทางหยางเฉิน ในสายตาไม่ปกปิดความเลื่อมใสสักนิด
นี่ทำให้ฉินยีรู้สึกถึงวิกฤติอันตรายแทนพี่สาวของตนเอง