The king of War - บทที่ 1100 อานุภาพทรงพลัง
นาทีนี้เอง ฉินเต๋อเจิ้งดูประหนึ่งเป็นจ้าวผู้ครองอาณาบริเวณนี้ อานุภาพทรงพลัง
ข้างหลังของเขา เป็นบรรดาสุดยอดผู้แข็งแกร่งตระกูลฉิน
บริเวณโดยรอบ ยังมีแปดยอดผู้แข็งแกร่งแดนราชาที่หยางเฉินนำมา ทั่วทั้งอาณาบริเวณตระกูลฉิน ปกคลุมทั่วไปด้วยอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวของกษัตริย์
“พรึบ!”
ฉับพลันนั้นเอง ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำลูกหลานตระกูลฉิน คุกเข่าข้างเดียวลงไป พูดด้วยเสียงอันดังว่า “ถวายพระพรกษัตริย์ฉิน!”
“ถวายพระพรกษัตริย์ฉิน!”
“ถวายพระพรกษัตริย์ฉิน!”
……
ติดตามมาอย่างทันที เหล่าบรรดาคนในตระกุลฉินทั้งหมด ต่างพากันคุกเข่าข้างเดียวลง ส่งเสียงลั่นออกไป แต่ละคนมีสีหน้าตื้นตันกันเต็มสุด
หยางเฉินยืนอยู่ข้างฉินเต๋อเจิ้ง วางตัวเตรียมพร้อม
ฉินเต๋อเจิ้งตั้งตัวเป็นกษัตริย์ขึ้นมาด้วยตัวเอง แน่นอนว่าเป็นแผนวางของเขาเอง เรื่องแบบนี้ ฉินเต๋อเจิ้งจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้างเป็นแน่ เขาจึงจำเป็นต้องดูแลประกันความปลอดภัยของฉินเต๋อเจิ้ง
อย่างที่เขาพูดไว้ เขามาที่เมืองตระกูลคิงเฉา พวกพันธมิตรตระกูลคิงจะต้องรู้ ฉะนั้นถ้าตระกูลฉินไม่ฉวยโอกาสนี้ประกาศศักดาก้าวขึ้นมา ขืนรอให้หยางเฉินออกจากที่นี่ไป ตระกูลคิงเฉาจะไม่ปล่อยตระกูลฉินเป็นแน่
ก็ไหน ๆ เป็นอย่างนี้แล้ว ทำไมไม่คิดฉวยโอกาสนี้ ให้ฉินเต๋อเจิ้ง สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นคิงเสียเลย?
“บังอาจ!”
ในทันใดนั้น ผู้เฒ่าผมขาวในชุดจีนท่านหนึ่ง ตวาดมาด้วยเสียงเกรี้ยว “ฉินเต๋อเจิ้ง แกกล้าดีถึงขนาดตั้งตัวเป็นกษัตริย์ขึ้นมาเองเลยหรือ?ใครนะเป็นคนให้ความกล้ากับแก?”
“แกทำแบบนี้ จะไม่รู้สึกผิดต่อตระกูลคิงเฉาที่เป็นมิตรของตระกูลฉินหรือ?”
แววตาฉินเต๋อเจิ้งทอประกายวาว มองหน้าผู้เฒ่าในชุดจีนด้วยอานุภาพที่ทรงเดช พูดเสียงเยือก “การใดที่ข้าฉินเต๋อเจิ้งจะทำ ใยต้องชี้แจงให้ตระกูลผังของพวกเจ้าก่อนด้วย?”
“แก!”
ผู้เฒ่าโกรธจัด ได้แต่ชี้หน้า ฉินเต๋อเจิ้งแต่ก็พูดอะไรไม่ออก
ผู้เฒ่าชุดจีนนั้นชื่อผังเต๋อ เป็นหัวหน้าตระกูลผังตระกูลระดับสุดยอดในเมืองเฉา ลูกสาวของเขา ก็ได้แต่งงานให้กับกษัตริย์เฉา
หากว่าตระกูลคิงเฉาล่มสลาย ตระกูลผังก็มีอันตรายแน่นอน
“ในเมื่อจะให้เป็นแบบนี้ แกก็อยู่รอรับไฟโกรธของตระกูลคิงเฉาไปเถิด!”
ผังเต๋อพูดจบ หันตัวกลับเตรียมเดินจากไป
“พิธีราชาภิเษกของข้ายังมาทันเสร็จ ท่านหัวหน้าตระกูลผังจะรีบด่วนจากไปเลยหรือ?”
ฉินเต๋อเจิ้งขมวดคิ้วย่น แววฆ่าเป็นประกายอยู่ในจอตา “ถ้าแกกล้าก้าวออกไปพ้นบ้านตระกูลฉินก้าวเดียว ผลเป็นอย่างไรก็เตรียมรับไว้เอง!”
ประโยคนี้พูดจบ บรรดาหัวหน้าตระกูลเศรษฐีที่คิดออกไปพร้อมผังเต๋อแต่เดิม ชะงักยืนอยู่กับที่ ไม่กล้าขยับก้าว
ผู้ที่อยู่ในบริเวณต่างมาจากบรรดาตระกูลเศรษฐี พวกเขาย่อมไม่ใช่คนโง่ ตระกูลฉินถึงขนาดกล้าสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นตระกูลคิง ย่อมต้องมีการวางแผนไว้แล้วเป็นอย่างรัดกุม
ตามกระแสข่าวที่รู้มา พลังฝีมือของฉินหรูเฟิง เทียบระดับถึงสุดยอดแดนราชา ขนาดนั้นยังตาย แล้วจะเอาอะไรกับแค่พวกเราหัวหน้าเศรษฐี?
ในอณาเขตุเมืองเฉา กษัตริย์เฉามีพลังฝีมือสูงที่สุด แต่ก็แค่เพียงสุดยอดแดนราชา ในตระกูลมหาเศรษฐีอื่น ๆ นอกจากฉินหรูเฟิงตระกูลฉินแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะมีพลังฝีมือถึงขั้นสุดยอดแดนราชา
เวลานี้ สุดยอดฝีมือแดนราชาฉินหรูเฟิงถูกสังหาร ยังไม่พอให้เป็นคำตอบของปัญหาที่เกิดหรือ?
แต่ละหัวหน้าตระกูลเศรษฐี ล้วนต่างใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้จะทำอย่างไรให้ถูก
หลังจากที่ผางเต๋อได้ยินฉินเต๋อเจิ้งพูดแล้ว ก้าวที่จะเดินก็ต้องชะงักหยุด สีหน้าดูไม่ได้อย่างบอกไม่ถูก หันหน้ากลับอย่างฉับพลัน จ้องเขม็งใส่ ฉินเต๋อเจิ้ง “แกข่มขู่ข้าหรือ?”
“ข่มขู่?”
ฉินเต๋อเจิ้งแค่นหัวเราะเยือก “แกยังคิดว่า ข้าในขณะนี้ ยังต้องใช้วิธีการข่มขู่มาใช้กับแกหรือ?”
ผางเต๋อดูผิวเผินเหมือนไม่มีอะไรจะกลัว แต่ส่วนลึกในใจ กลับเต้นรัวแทบคลั่ง หวาดกลัวไปสุดขีดแล้ว
ถึงยังไงเขาก็เป็นหัวหน้าตระกูลผาง อีกทั้งยังเป็นดองญาติกับตระกูลคิงเฉามานานหลายปี ขณะนี้เหมือนขี่บนหลังเสือ จะหนีก็ไม่ได้ จะอยู่ก็ไม่ใช่
ไม่จากไป นั่นก็เท่ากับยอมรับการสถาปนาตัวเองเป็นคิงของฉินเต๋อเจิ้ง หากจะจากออกไป เขาก็ไม่รู้ ฉินเต๋อเจิ้งจะปล่อยให้เขามีชีวิตออกไปหรือไม่
ตัวผางเต๋อเองก็มีพลังฝีมือในระดับขั้นสุดท้ายแดนราชา แต่ในเวลานี้ เขาอยู่ในบ้านตระกูลฉิน ความรู้สึกได้ถึงกระแสพลังแข็งแกร่งที่ไม่อ่อนไปกว่าเขาอยู่สิบกว่ากระแส
“ข้าก็รู้อยู่นะ ตระกูลผังเกี่ยวข้องเป็นดองกันกับตระกูลคิงเฉา เพราะฉะนั้นท่านคงห่วงว่าตระกูลคิงเฉาจะไม่ปล่อยท่าน”
ฉินเต๋อเจิ้งพลันก็ได้เอ่ยปากขึ้น “แต่ข้าขอบอกเจ้าให้ชัดเจนได้ ถ้าเจ้าคิดกังวลในเรื่องนี้ เจ้าก็จงวางใจได้เลย ตระกูลฉินของข้ากล้าสถาปนาตัวขึ้นเป็นตระกูลคิง ก็ได้มีการวางแนวให้ตระกูลคิงเฉาหายสาบสูญไปอยู่แล้ว”
“เพียงขอแต่ให้เจ้ายินดีสนับสนุนตระกูลฉิน ไม่ว่าตระกูลผังมีความสัมพันธ์กับตระกูลคิงเฉาอย่างไร ให้ตระกูลฉินเราถล่มตระกูลคิงเฉาล่มสลายไปแล้ว ตระกูลฉินก็จะไม่คิดบัญชีกับตระกูลผังแน่นอน”
“นี่เป็นการให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้ก็อยู่ที่เจ้าเลือกที่จะอยู่ หรือจะไป ถ้าเจ้าเลือกที่จะไป ก็เชิญออกไปได้เลย ตระกูลฉินจะไม่มีการขัดขวางเด็ดขาด!”
หลังจากฉินเต๋อเจิ้งกล่าวคำพูดเหล่านี้ออกไปแล้ว ยิ่งทำให้เหล่าตระกูลเศรษฐีที่อยู่ทั่วทั้งบริเวณหวั่นสะท้าน
ส่วนในใจของผังเต๋อก็สั่นสะท้าน คำพูดของฉินเต๋อเจิ้งนี้ ยิ่งทำให้เขายากจะตัดสินใจ
จากไป?
หรือจะอยู่ต่อ?
ในทันทีนั้นฉินเต๋อเจิ้งกวาดสายตามองไปที่เหล่าบรรดาคนในตระกูลเศรษฐีที่มากัน ประกาศก้อง “ที่ข้าพูดให้ผังเต๋อฟังไปนั้น กับพวกท่านทั้งหลายก็มีผลเช่นเดียวกัน”
“ยินดีจะสนับสนุนตระกูลฉินสถาปนาตัวเป็นคิง ก็อยู่ต่อไป ที่ไม่ยินดี ก็ไปได้”
“ทว่า เมื่อออกจากเขตบ้านตระกูลฉินแล้ว ก็ให้ถือว่าเป็นฝ่ายข้างตระกูลคิงเฉา รอให้ตระกูลฉินถล่มตระกูลคิงเฉาล่มสลายไปแล้ว พวกเจ้าก็อย่าได้มาโทษหาว่าข้าโหดร้าย!”
“บัดนี้ ข้าให้เวลาพวกเจ้าห้านาที ภายในห้านาทีนี้ ใช้ปฏิบัติการของพวกเจ้าในการให้คำตอบข้า!”
ชั่วขณะนั้นเอง บริเวณทั่วทั้งตระกูลฉิน เงียบจนสงัด
คนในตระกูลฉินเอง แต่ละคนให้รู้สึกเลือดพล่านขึ้นมา สีหน้าแดงอิ่ม ด้วยความตื่นเต้น ร่างกายก็มีสั่นเทิ้มกันเล็กน้อย
มองกลับไปที่เหล่าบรรดาเศรษฐีคนเมืองเฉา แต่ละคนมีสีหน้าบอกไม่ถูก ทางเลือกแบบนี้ สำหรับพวกเขา มันเป็นโจทก์ของชีวิตเลยทีเดียว
ถ้าแพ้ นั่นก็คือภัยพิบัติของทั้งตระกูล!
ผังเต๋อยืนอยู่ที่เดิม จะจากไปก็ใช่ที่ จะอยู่ต่อก็ไม่ใช่เรื่อง สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน
ฉินเต๋อเจิ้งในขณะนี้ ให้เขารู้สึกลุ่มลึกจนมองไม่ทะลุ
เป็นส่วนหนึ่งของเมืองเฉิน อีกยังเป็นตระกูลอันดับหนึ่งภายใต้ตระกูลคิงเฉา มีหรือจะง่ายในการจะรับมือ?
“หากว่าพวกเราจะจากไป ตระกูลฉินจะไม่ขัดขวางจริงหรือ?”
จู่ ๆ ผังเต๋อก็เอ่ยปากถาม
ในขณะที่พูดออกไปนั้น ก็ได้แสดงชัดถึงการตัดสินใจของเขาแล้ว
ฉินเต๋อเจิ้งยืนเอามือไพล่หลัง ทอดประกายหนาวเย็นออกมาจากนัยน์ตา “หากคิงอย่างข้ามีการคืนคำ แล้วต่อไปจะปกครองเมืองฉินได้ยังไง?”
คำเดียว ที่เป็นคำตอบให้ผังเต๋อ
อู่เลี่ยผู้แข็งแกร่งมือหนึ่งตระกูลฉิน ยืนอยู่ข้างฉินเต๋อเจิ้ง ดูเย็นเยือก สายตามองไปที่ผังเต๋อ เหมือนสายตาที่มองดูคนตาย
ผังเต๋อสะท้านไปทั้งตัว จิตใจให้หวาดกลัวอย่างที่สุด จากทีท่าของอู่เลี่ย เขาได้เห็นกลิ่นอายของการฆ่าจริง ๆ
ตัวเขาเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งตระกูลผัง แต่เพียงแค่สายตาของอู่เลี่ย ยังไม่อาจทานได้ รีบหลบตาออก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องขอขอบคุณ ลาก่อน!”
ผังเต๋อแสดงท่าทีในทางเลือกของตัวเอง พอพูดจบ ก็หันหลังเดินจากไป
คนในตระกูลอื่น ๆ ที่มา ต่างมองไปที่ผังเต๋อ จนผังเต๋อออกพ้นไปจากตระกูลฉิน ก็ไม่เห็นมีใครขัดขวาง
ชัดเจน ตระกูลฉินมีความเป็นจริงที่จะปล่อยพวกเขา
“ยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งนาทีสุดท้าย หากไม่จากไป นั้นก็คือเป็นผู้ที่สนับสนุนตระกูลคิงฉิน รอวันที่ตระกูลคิงเฉาล่มสลาย ก็จะมีพวกเจ้าช่วยข้าในการบริหารดูแลเมืองฉิน!”
ฉินเต๋อเจิ้งกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ เอ่ยพูดเสียงเฉียบ
“บรึม!”
ในช่วงเวลานั้นเอง เสียงดังกึกก้อง ประตูใหญ่ของห้องโถงจัดเลี้ยง ถูกกระแทกกระเด็นออกไป ผู้เฒ่าในชุดกษัตริย์ท่านหนึ่ง ก้าวเดินเข้ามา
ข้างหลังตามมาด้วยสุดยอดฝีมือหลายนาย ทะยานเข้ามาในทันใด