The king of War - บทที่ 1127 อวดดี
แต่ทว่าความปรารถนาในการสู้รบบนตัวเขา ยังคงพรั่งพรูอย่างบ้าคลั่ง
“เอาอีก!”
หม่าชาวตะโกนอย่างโมโห พุ่งเข้าไปทางหลงเทียนหยู่อีกครั้งหนึ่ง
เห็นได้ชัดว่าหลงเทียนหยู่ก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่ากำลังสู้รบของหม่าชาวจะน่าตกใจเช่นนี้ ทั้งที่เขาได้กินยาสูตรลับของราชวงศ์หลงแล้ว ฝืนบังคับเพิ่มขีดความสามารถวิถีบู๊ขึ้นแล้ว
แต่สิ่งที่นึกไม่ถึงคือ เขายังไม่มีทางโจมตีหม่าชาวให้แพ้ได้ง่ายๆ
“ตึง!”
หลงเทียนหยู่ร้องคำรามทีหนึ่ง กระหน่ำโจมตีลงมา ร่างกายของหม่าชาวโดนโจมตีจนลอยออกไปอีกครั้ง
และเวลานี้ แดนในวิถีบู๊ของเขา ลดลงอย่างรวดเร็ว กระทั่งกลับสู่แดนราชาชั้นต้นแล้ว
แต่ทว่านี่ยังไม่ได้หยุดนิ่ง แดนในวิถีบู๊ของเขา คาดไม่ถึงกำลังลดลงอีก หลายวินาทีต่อมา ลดลงไปถึงแดนราชาสูงสุดแล้ว
ความสามารถหลงเทียนหยู่ไม่ใช่ตกลงถึงแดนราชาสูงสุด แต่ว่าเดิมทีก้าวสู่แดนในวิถีบู๊ของแดนเทพชั้นต้นแล้ว ก็ลดลงมาที่แดนราชาสูงสุด
“องค์ชาย!”
หลงจ้านรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงบนตัวของหลงเทียนหยู่ ชั่วขณะนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปมาก
“องค์ชาย นี่คือทำไมท่านต้องทำแบบนี้ด้วย? เพื่อการต่อสู้ครั้งเดียว ถึงกับต้องใช้วิธีการแบบนี้มาเพิ่มความสามารถของตนเองด้วย พอทำแบบนี้ บางทีทั้งชีวิตนี้ของท่าน แดนในวิถีบู๊จะไม่มีทางพัฒนาสูงขึ้นอีกขั้นนะครับ!”
สีหน้าหลงจ้านดูเสียดายเต็มที่
ด้วยพรสวรรค์ด้านวิถีบู๊ของหลงเทียนหยู่ ถ้าพัฒนาไปอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง ต้องมีสักวัน สามารถอาศัยพรสวรรค์ของตนเอง ก้าวสู่แดนเทพ แม้กระทั่งยังสามารถบรรลุถึงยอดของแดนเทพ
แต่ว่าตอนนี้ หลงเทียนหยู่กลับทำลายอนาคตของตนเองลง เพราะความอวดดีของตนเอง
หม่าชาวที่โดนโจมตีอีกครั้ง ล้มลงบนพื้น ดิ้นรนลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง ความปรารถนาในการต่อสู้บนตัวเขายังคงพรั่งพรู กัดฟันพูดว่า “เอาอีก!”
หลงเทียนหยู่ก็พยายามลุกขึ้นยืนเหมือนกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาในฐานะหลานชายคนโตของราชวงศ์หลง เคยน่าเวทนาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
เดิมทีครอบครองอนาคตอันงดงามไว้ แต่เพราะไม่พอใจ จึงกลับใช้วิธีลับฝืนเพิ่มแดนในวิถีบู๊มาถึงแดนเทพ
ถ้าเป็นเพียงเช่นนี้ ก็ช่างไปเถอะ ต่อให้แดนในวิถีบู๊ในวันหลังของเขาจะคงที่อยู่แดนเทพชั้นต้นตลอดไป อย่างน้อยก็ยังเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพโดยแท้จริงคนหนึ่ง
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่า ตนเองที่ก้าวสู่แดนเทพเรียบร้อยแล้ว จะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหม่าชาวอีก สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจมากที่สุดคือ แดนในวิถีบู๊ของหม่าชาว มีเพียงแดนราชาขั้นปลาย
เพราะความไม่ยินยอมอันรุนแรงในใจ เขาจึงอาศัยตัวยามาช่วยแล้วฝืนบังคับเพิ่มกำลังต่อสู้ขึ้นอีกครั้ง
ตัวยาที่เขากินเข้าไป เป็นยาที่ราชวงศ์จ่ายเงินไปจำนวนมหาศาล เอามาจากตระกูลบู๊โบราณ
ที่ราชวงศ์หลง ตัวยาประเภทนี้เป็นของกินต้องห้าม นอกจากมีจะมีสักวันหนึ่ง เจอการคุกคามถึงชีวิต ถึงสามารถกินได้
แต่หลังจากกินยาแบบนี้เข้าไป แดนในวิถีบู๊จะลดลง วันหลังหากอยากเพิ่มสูงอีกแค่ไหน ก็แทบจะไม่มีความหวัง
และยังพูดได้ว่า แดนในวิถีบู๊ของเขาตอนนี้ กลับมาที่แดนราชาสูงสุดแล้ว
แต่ว่าสิ่งที่ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนคือ พรสวรรค์วิถีบู๊ของเขาก่อนหน้านี้ยังคงโดดเด่น อนาคตปีนสู่ยอดของแดนเทพ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไม่ได้
แต่ทว่าตอนนี้ พรสวรรค์ด้านวิถีบู๊กลับถูกตัวยาเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องพูดถึงปีนสู่ยอดของแดนเทพเลย แม้แต่ก้าวสู่แดนเทพอีกที เกรงว่าล้วนยากลำบากอย่างมาก
พอนึกถึงตรงนี้ ในใจหลงเทียนหยู่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ ความคิดอาฆาตต่อหม่าชาวยิ่งเข้มข้น
“เป็นเพราะแก!”
หลงเทียนหยู่กัดฟันแน่นพูดว่า “ฉันจะฆ่าแกทิ้ง!”
ครั้งนี้ หลงเทียนหยู่มีความปรารถนาอยากฆ่าหม่าชาวเต็มที่จริงๆ พอขยับเท้า ดำเนินการเข้าจู่โจมหม่าชาวอีกครั้ง
เพียงแต่ เขาในตอนนี้ ทำได้เพียงรักษาความสามารถของแดนราชาสูงสุดไว้
แต่ว่าสถานการณ์ของหม่าชาวไม่ดีเอามากๆ ถึงแม้จะอยู่ในสภาพปลดปล่อยมาโดยตลอด แต่ว่าเมื่อสักครู่ต่อสู้ข้ามแดนมา สำหรับเขามันเปลืองพลังมากที่สุด
หม่าชาวในเวลานี้ ได้เพียงระเบิดความสามารถของแดนราชาสูงสุดออกมา
“ปึงๆๆ!”
ทันใดนั้น ทั้งสองปะทะกันอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นหยางเฉินยักคิ้วขึ้น ในสายตามีความหนาวเหน็บแวบผ่าน
เขาย่อมสัมผัสได้เป็นธรรมดาว่า ความคิดอาฆาตของหลงเทียนหยู่ที่มีต่อหม่าชาวนั้นเข้มข้นมากแค่ไหน ถ้าหากให้หลงเทียนหยู่หาโอกาสได้ เขาจะต้องฆ่าหม่าชาวเป็นแน่
เวลานี้ การใช้พลังของทั้งสองเยอะมาก หากยังคงใช้ต่อไปอีก เกรงว่ารากฐานวิถีบู๊ของหม่าชาว คงได้รับผลกระทบด้วย
นึกถึงตรงนี้ หยางเฉินไม่ได้ลังเลสักนิด หายไปจากที่เดิมในชั่วพริบตาเดียว
“ไสหัวไป!”
ฝ่ามือหยางเฉินร่วงลงที่หน้าอกของหลงเทียนหยู่ เห็นเพียงร่างกายของหลงเทียนหยู่กระเด็นออกไปโดยตรง
ฝ่ามือนี้ เขาไม่ได้ใช้แรงอะไร เหมือนก่อนหน้านี้ที่หลงจ้านโจมตีหม่าชาวมาอย่างนั้น เพียงแค่ใช้แรงอ่อนโยนผลักคนออกไปแล้ว
“พี่เฉิน!”
หม่าชาวมองทางหยางเฉิน แสยะปากยิ้ม “พี่เฉิน ผมไม่ได้ทำให้พี่ขายหน้าหรอกมั้ง?”
หยางเฉินพูดจาแบบอารมณ์เสีย “ต่อให้นายเป็นสวะคนหนึ่ง ก็จะไม่ทำให้ฉันเสียหน้า”
พูดจบ เขาหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมา “รีบกินเข้าไปซะ!”
หม่าชาวไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบกินทันที นั่งขัดสมาธิบนพื้น เริ่มปรับสภาพร่างกายของตนเอง
ส่วนหลงเทียนหยู่ หลังโดนหยางเฉินใช้แรงอ่อนโยนโจมตีจนถอยหลัง ก็โมโหเดือดดาล แต่ยังรู้สถานการณ์ของตนเองชัดเจนดี อยากต่อสู้อีกนั้น เดิมทีเป็นไปไม่ได้
“หยางเฉิน แกรอฉันเอาไว้นะ เรื่องวันนี้ยังไม่ถือว่าสิ้นสุด ฉันจะมาหาแกอีก!”
หลงเทียนหยู่กัดฟันแน่นแล้วพูดขึ้น พอเสียงพูดจบลง จึงตะโกนว่า “ไป!”
หลงจ้านมองหยางเฉินอย่างล้ำลึกแวบหนึ่ง จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หมุนตัวออกไป
ไม่นาน คนของราชวงศ์หลงล้วนจากไปกันหมด เหลือเพียงหยางเฉินกับหม่าชาว ยังมีคนของตระกูลหลงแห่งเยี่ยนตูด้วย
ตระกูลหลง ในห้องปฐมพยาบาลห้องหนึ่ง หม่าชาวนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ด้านข้างยังมีแพทย์หลายคน กำลังตรวจร่างกายทั้งหมดให้เขา
“สภาพร่างกายของคุณหม่าดีมากครับ เพียงแต่สิ้นเปลืองพลังมากเกินไป ได้รับบาดเจ็บภายนอกบางส่วน บำรุงรักษาไม่กี่วัน ก็ไม่มีอะไรมากแล้วครับ”
ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสที่สวมชุดกาวน์สีขาวคนหนึ่งเดินเข้ามา เอ่ยปากพูดขึ้น
“ผมบอกแล้วว่าตัวเองไม่เป็นไร พี่เฉินยังต้องให้ผมตรวจอาการให้ได้”
หม่าชาวลุกขึ้นมาจากเตียงคนไข้แล้ว หัวเราะฮาๆ บอกไป
หยางเฉินหรี่ดวงตาขึ้นมา “ดูแล้ว นายยังสู้ได้อีกสักตา? ถ้าไม่อย่างนั้นฉันหาผู้แข็งแกร่งแดนเทพอีกสักคน ให้นายฝึกซ้อมหน่อย? แบบนี้ก็ดีเลย ฉันคงความสามารถไว้ที่แดนราชาขั้นปลาย ฝึกเป็นเพื่อนนายสักหน่อย?”
“หา? ฮาๆ อากาศวันนี้ไม่เลวจริงๆ!”
หม่าชาวมองทางหลังคา หัวเราะเสียงดังพูดขึ้น
หลงเถิงที่อยู่ด้านข้าง มองตาค้างแล้ว
แต่นี่อธิบายได้ว่า หม่าชาวไม่เป็นอะไรจริงๆ ก่อนหน้านี้เขากังวลมาก กลัวหม่าชาวจะได้รับบาดเจ็บหนัก แล้วจะกระทบถึงรากฐานวิถีบู๊ของเขา
ถ้าเป็นแบบนี้จริง หยางเฉินคงไม่ปล่อยราชวงศ์หลงไปแน่
“คุณหยาง ก่อนหน้านี้ล่วงเกินไปมาก หวังว่าคุณจะเป็นคนมีเมตตาต่อผู้น้อย อย่าได้ถือโทษโกรธผมเลยนะครับ”
หลงเถิงทำท่าทางจริงจังบอกขึ้นทันใด
ก่อนหน้านี้ เขากังวลว่าความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉินและราชวงศ์จะเลวร้ายกว่าเดิม ดังนั้นจึงขอร้องหยางเฉินอยู่หลายครั้ง อยากให้หยางเฉินออกหน้าห้ามปรามการปะทะระหว่างหม่าชาวและหลงเทียนหยู่
ไม่ว่าอย่างไร เพื่อสามารถกลับไปยังราชวงศ์หลงได้ เขาถึงได้มีความกังวลพวกนี้
หยางเฉินมองหลงเถิงอย่างเรียบนิ่งแวบหนึ่ง “ฉันหยางเฉินทำเรื่องอะไร มีขอบเขตของตัวเอง ถ้ามีครั้งต่อไปอีกล่ะก็ ฉันจะไม่ให้อภัยนายแล้ว!”
พอได้ยินดังนั้น หลงเถิงดีใจยกใหญ่ ประโยคนี้ของหยางเฉินแสดงว่า จะไม่ถือสาหาความตนเอง จึงรีบพูดรับประกันว่า “คุณหยางวางใจได้ครับ ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้วครับ!”
หยางเฉินพยักหน้า และไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับหลงเถิง