The king of War - บทที่ 1294 ฉันเป็นใครเหรอ
และในตอนนั้นเอง กษัตริย์ไป๋ก็ได้เดินเข้ามา จ้องมองกษัตริย์หม่ากับกษัตริย์เซวที่กำลังยืนอึ้งอยู่กับที่ จึงได้ถามไปด้วยความสงสัย
ลู่หยวนทงยังพูดอย่างประจบประแจงว่า “ท่านกษัตริย์ไป๋ ไอ้หมอนี่แหละที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง มันแหละที่กล้าสั่งให้พวกท่านกลิ้งมาหา”
“มันคือเศษสวะที่ถูกหลานสาวของผมช่วยกลับมา พวกคุณห้ามไว้หน้าผมเด็ดขาด ต่อให้ฆ่ามันไป ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลลู่แม้แต่นิดเดียวครับ”
กษัตริย์ไป๋ยิ้มอย่างเรียบเฉย “จริงเหรอ?”
พอมองตามนิ้วชี้ของลู่หยวนทงไป แล้วเขาก็ได้พบกับเงาของใครบางคนที่คุ้นเคย แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าก็เเข็งเกร็งไปทันที ความรู้สึกเย็นอันน่าสะพรึงกลัว ได้แล่นขึ้นมาจากขาอย่างกะทันหัน พุ่งตรงขึ้นมาบนกระหม่อม
“คะ…..คุณหยาง!”
สีหน้าของกษัตริย์ไป๋แทบจะร้องไห้แล้ว ความรู้สึกที่เห็นหยางเฉิน ไม่ต่างอะไรกับเห็นผี
เมื่อกี้ พวกเขาทั้งสามยังพูดอยู่เลยว่านอกจากหยางเฉิน ยังไม่เคยเห็นใครที่อายุไม่ถึงสามสิบ ก็สามารถพัฒนาถึงขั้นแดนราชาขั้นสูงสุดมาก่อนเลย
ตอนแรกยังคิดว่าน่าจะได้เห็นหม่าชาวเป็นคนมีพรสวรรค์คนที่สอง แต่ไม่ว่ายังไงก็นึกไม่ถึงว่า ผู้มีพรสวรรค์ด้านวิถีบู๊คนนี้ จะเป็นหยางเฉิน
“กษัตริย์ไป๋ พวกท่านรีบฆ่ามันเลย ไม่ต้องเห็นแก่ตระกูลลู่ของเรา ไอ้หมอนี่มันนึกว่าตัวเองมีฝีมือ เลยทำอะไรตามใจอยู่ในบ้านตระกูลลู่ของเรา ทำตัวเหิมเกริม ผมรู้สึกหมั่นไส้มันมาตั้งนานแล้วครับ”
ลู่หยวนทงยังไม่เห็นสีหน้าที่หวาดกลัวของกษัตริย์ทั้งสาม จึงยังไม่หยุดให้ร้ายหยางเฉิน
ตอนที่หยางเฉินเห็นหน้าคนทั้งสาม คิ้วก็ขมวดขึ้นมาทันที ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าสามคนที่อยู่ตรงหน้าเหมือนจะเจอหน้ากันมาก่อน
คนอื่นอาจจะไม่ได้ยิน แต่เมื่อกี้หยางเฉินได้ยินอย่างชัดเจน กษัตริย์ไป๋เรียกเขาว่าคุณหยาง
นี่เขาแซ่หยางอย่างนั้นเหรอ?
พอเห็นหยางเฉินมองมาที่ตน แล้วไม่พูดอะไร ทำให้กษัตริย์สามเกิดความกดดันขึ้นในใจอย่างมหาศาล
ตั้งแต่ศึกชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตูครั้งก่อนสิ้นสุดลง หลังจากที่พวกเขาไปเยี่ยนตู ตอนแรกยังตั้งใจที่จะสืบทอดตี้ชุน แต่กลับได้ยินว่า หยางเฉินได้สู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติแล้วไม่แพ้ พวกเขาก็ได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะแก้แค้นหยางเฉินแล้ว
อย่าว่าแต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือธรรมชาติเลย ต่อให้เป็นผู้เเข็งแกร่งที่เพิ่งเข้าสู่แดนเทพก็สามารถทำลายพันธมิตรตระกูลเดอะคิงได้อย่างง่ายดายแล้ว
“ตุบ!”
“ตุบ!”
“ตุบ!”
ภายใต้ความตื่นตกใจของคนตระกูลลู่ กษัตริย์ไป๋ กษัตริย์เซวและกษัตริย์หม่าก็คุกเข่าลงไปทั้งสองข้าง
“คุณหยาง พวกเราไม่รู้ว่าเป็นคุณ จึงได้ล่วงเกินคุณอย่างไม่ตั้งใจ คุณหยางโปรดเมตตาเราด้วย!”
“คุณหยาง พวกเราผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ ขอแค่คุณสั่งมา พวกเราก็จะไสหัวออกจากหนิงโจวทันทีครับ”
“ไม่เพียงแค่ไสหัวออกจากหนิงโจว พวกเรายังจะกลับไปที่เมืองหลวงของตัวเอง แล้วไม่ก้าวเท้าออกมาอีกตลอดกาล ขอคุณหยางโปรดปล่อยเราไปสักครั้งนะครับ” กษัตริย์แห่งพันธมิตรตระกูลเดอะคิงทั้งสามต่างพากันขอร้องอ้อนวอน ทั้งสมาคมต่างพากันทำหน้าหวาดกลัวทุกคน
ตุบ!
ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนถึงกับช็อก
ลู่หยวนทงที่ก่อนหน้านี้เอาแต่กล่าวโทษหยางเฉิน ตั้งใจจะทำให้กษัตริย์ทั้งสามโมโหแล้วฆ่าหยางเฉินทิ้งซะตอนนี้กลับเบิกตาโต พร้อมกับสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
ลู่ชวนเองก็เบิกตาโต รู้สึกราวกับฝันไป
ในความคิดของเขา ตระกูลเดอะคิงนั้นถือเป็นตระกูลมหาอำนาจที่เป็นดั่งตำนานแล้ว แต่มาตอนนี้ ตระกูลมหาอำนาจที่เป็นดั่งตำนานตรงหน้ากลับคุกเข่าให้กับหยางเฉิน อ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง
ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนก็ถึงกับตาค้างเหมือนกัน ด้วยความตกใจ จึงอ้าปากค้างไว้
พอเห็นการตอบสนองของกษัตริย์ทั้งสาม แววตาของหยางเฉินก็ดูดีใจขึ้นมา อีกฝ่ายรู้จักเขา งั้นก็แสดงว่าอีกเดี๋ยวเขาก็จะได้รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วไม่ใช่เหรอ?
“พวกคุณบอกผมมา ว่าผมเป็นใครกันแน่?”
หยางเฉินจ้องมองไปยังกษัตริย์ทั้งสามที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า แล้วถามด้วยความตื่นเต้น
พอหยางเฉินถามมาอย่างนั้น กษัตริย์ทั้งสามก็ถึงกับตาโต หลังหันมาสบตากันพักหนึ่งถึงได้เข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาและนึกถึงสิ่งที่ลู่หยวนทงเพิ่งบอกกับพวกเขาเมื่อกี้ว่าหยางเฉินสูญเสียความทรงจำไปแล้ว
หรือว่า เขาจะความจำเสื่อมไปแล้วจริงๆ แม้แต่พวกเขา ก็ยังจำไม่ได้?
พอคิดได้อย่างนั้น ทั้งสามก็แสดงแววตาที่ดีใจออกมา
เนื่องจากระหว่างพวกเขานั้นมีความแค้นอันใหญ่หลวง ถ้าหยางเฉินยังจำเรื่องทุกอย่างได้ พวกเขาได้ตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่
ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนก็มองกษัตริย์ทั้งสามด้วยความคาดหวังเหมือนกัน ถึงพวกเธอจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามคนนี้ว่าทำไมถึงต้องคุกเข่าอ้อนวอนหยางเฉิน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว พวกเธออยากรู้มากว่าจริงๆ แล้วหยางเฉินเป็นใคร แต่งงานรึยัง
“คุณหยาง คุณจำพวกเราไม่ได้แล้วเหรอครับ?”
กษัตริย์ไป๋ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
กษัตริย์เซวกับกษัตริย์หม่าก็จ้องมองหยางเฉินด้วยสีหน้าที่คาดหวังเหมือนกัน
หยางเฉินขมวดคิ้ว “ตอบคำถามของมมา!”
กษัตริย์ไป๋ตกใจจนสะดุ้ง จึงรีบพูดไปว่า “ผมพูดครับ ผมพูดเดี๋ยวนี้เลย!”
“คุณหยาง คุณมีชื่อว่าหยางเฉิน หกปีที่แล้ว คุณเป็นแค่นักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่…..”
ถึงกษัตริย์ไป๋จะดีใจที่หยางเฉินควมจำเสื่อม แต่ก็ไม่กล้าปิดบังอะไร และไปเล่าทุกอย่างตั้งแต่หยางเฉินเรียนจบเมื่อหกปีก่อนออกมาจนหมด
ส่วนลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนที่ได้รู้ว่าหยางเฉินแต่งงานและมีลูกสาวแล้วหนึ่งคน แววตาของทั้งคู่ก็ดูผิดหวังขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะลู่ฉิงเสว่ที่ใบหน้านองไปด้วยน้ำตา
เธอรู้ตัวตั้งนานแล้วว่า ตัวเองได้หลงรักชายที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานคนนี้ไปแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่า หยางเฉินจะแต่งงานไปแล้ว
ส่วนลู่หยวนทงที่ได้รู้ตัวตนของหยางเฉินก็ได้ทำหน้าสิ้นหวัง
พอนึกถึงเมื่อกี้ที่ตัวเองเพิ่งตวาดใส่หยางเฉิน รวมถึงคำพูดที่ข่มขู่หยางเฉินเหล่านั้น เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“ตุบ!”
ลู่หยวนทงได้คุกเข่าลงไปทันที แล้วพูดด้วยความหวาดกลัวว่า “คุณหยาง ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นประธานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปผมไม่ควรขึ้นเสียงกับคุณแบบนั้น ผมผิดไปแล้ว คุณช่วยเห็นแก่ฉิงเสว่แล้วเมตตาผมสักครั้งนะครับ”
ลู่ชวนก็คุกเข่าลงเหมือนกัน “คุณหยาง พ่อของผมก็อับจนหนทางถึงได้ล่วงเกินคุณ คุณช่วยเมตตาตระกูลลู่สักครั้งนะครับ”
เจ้าบ้านตระกูลจางที่มากับพวกเขา จางโฉง ก็ตกใจสุดขีดไปนานแล้ว
ชายหนุ่มที่ทำให้กษัตริย์ทั้งสามคุกเข่าอ้อนวอนได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าเบื้องหลังของเขามันยิ่งใหญ่แค่ไหน
ในตอนนี้ หยางเฉินไม่มีอารมณ์จะฟังอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากรู้เรื่องทุกอย่างของตัวเองเท่านั้น
เขาจึงชี้ไปที่กษัตริย์ทั้งสาม แล้วพูดไปว่า “นอกจากพวกเขาสามคน คนอื่นช่วยออกไปก่อน!”
“ครับ!”
ลู่หยวนทงรีบตอบรับ แล้วพาคนในตระกูลออกจากวิลล่าไป
ก่อนที่ลู่ฉิงเสว่จะออกไป เธอก็มองหยางเฉินอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกไป
หลังจากที่ทุกคนในตระกูลลู่ออกไปแล้ว ภายในวิลล่าก็เหลือแค่หยางเฉินกับกษัตริย์ทั้งสามแห่งพันธมิตรตระกูลเดอะคิง
ในตอนนี้ กษัตริย์ทั้งสามต่างทำหน้ากดดัน ไม่รู้ว่าการที่หยางเฉินให้พวกเขาอยู่ต่อ ยังมีเรื่องอะไรอีกรึเปล่า
“เมื่อกี้ที่พวกคุณพูดมา ยังมีสิ่งที่ปิดบังอยู่ใช่มั้ย?”
หยางเฉินหรี่ตาแล้วมองไปยังคนทั้งสาม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด ระหว่างผมกับพวกคุณน่าจะมีความแค้นต่อกัน ถ้าพวกคุณยอมเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผมออกมา ความแค้นทั้งหมดระหว่างพวกเรา จะถือว่าหายกัน!”
พอได้ยินอย่างนั้น กษัตริย์ทั้งสามก็ทำหน้าลังเล
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เชื่อใจหยางเฉิน แต่หวาดกลัวหยางเฉินที่ได้ความทรงจำกลับคืนมาแล้วต่างหาก
ถ้าตอนนี้สามารถบ่ายเบี่ยงได้ พวกเขาก็ยังจากไปและกลับไปอยู่ที่เมืองหลวงของตัวเอง แล้วใช้ชีวิตไป
แต่ถ้าบอกทุกอย่างกับหยางเฉินไปตอนนี้ หยางเฉินจะยอมปล่อยพวกเขาไปจริงๆ เหรอ?
ราวกับรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ ความกดดันของวิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวก็เอ่อล้นออกมาจากตัวของหย่างเฉิน เข้าไปปกคลุมทั้งกษัตริย์ทั้งสามในทันที
“ถ้าไม่พูด ผมก็จะฆ่าพวกคุณตอนนี้!”
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าที่ข่มขู่